เล่มที่ 28 เล่มที่ 28 ตอนที่ 817 ไม่อนุญาตคือไม่อนุญาต

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

ซูจิ่นซีเม้มริมฝีปากแน่น ไม่พูดอันใด

แววตาเคร่งขรึมลึกซึ้งของเยี่ยโยวเหยา มองไปยังร่องรอยบนลำคอและไหล่ของซูจิ่นซี ดวงตาพลันทอประกายอ่อนโยนเล็กน้อย จากนั้นจึงยื่นมือออกไปโอบไหล่ของซูจิ่นซี บังคับให้นางหันมามองตนเอง

ดวงตาของซูจิ่นซีทอประกายความสดใสเล็กน้อย ทว่านางกลับกัดริมฝีปากแน่น ป้องกันไม่ให้เยี่ยโยวเหยาเห็นความคับข้องใจและความอ่อนแอของตนเอง

“เยี่ยโยวเหยา ความสัมพันธ์ของพวกเราไม่เหมือนก่อนนี้แล้ว แม้ท่านยังเป็นโยวอ๋องที่ใครๆ ได้แต่มองแต่กลับเอื้อมไม่ถึง ทว่าท่านคือสามีของข้า แม้ฐานะของข้าจะด้อยกว่าท่าน ทั้งข้ายังเป็นบุตรสาวของสกุลซูที่ต่ำต้อย ทว่าข้าเป็นภรรยาของท่าน… บางครั้งท่าน… ควรคำนึงถึงความรู้สึกของข้าบ้าง”

ซูจิ่นซีอดกลั้นเป็นอย่างดี ทว่าเยี่ยโยวเหยาจะไม่เห็นความคับข้องใจของนางได้อย่างไร? ดวงตาดำขลับลุ่มลึกจ้องมองซูจิ่นซี

ซูจิ่นซีสบตาเยี่ยโยวเหยา พลางหลับตาทั้งสองข้างลง บังคับน้ำตาให้ไหลกลับไป ขณะที่กำลังหันหน้าหนี ริมฝีปากเย็นเฉียบของเยี่ยโยวเหยาก็ประทับลงมาอีกครั้ง

การจูบครั้งนี้แตกต่างกับการลงโทษที่รุนแรงเมื่อคืนนี้อย่างสิ้นเชิง

มันอ่อนโยนอย่างมาก ทำให้ซูจิ่นซีรู้สึกราวกับกำลังล่องลอยเหนือเมฆ ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใด บางช่วงเวลา หัวใจของนางยังคงรู้สึกเจ็บปวด ทำให้นางรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก

ไม่ว่าเยี่ยโยวเหยาจะปฏิบัติต่อนางอย่างไร ภายในใจของนางมักจะหาข้อแก้ตัวต่างๆ แทนเขาได้เสมอ บ่อยครั้งที่นางไม่อาจผลักไสเขาออกไป บ่อยครั้งที่นางสัมผัสได้ถึงความรักสุดซึ้งที่เขามีต่อนางจากการกระทำของเขา ซึ่งบางครั้งก็รุนแรง บางครั้งก็อ่อนโยน และบ่อยครั้งที่นางสัมผัสได้ถึงหัวใจที่อ่อนโยนของเขา

ทว่าครั้งนี้ ซูจิ่นซีกลับไม่ตอบสนอง

หลังผ่านไปครู่ใหญ่ เยี่ยโยวเหยาก็ปล่อยซูจิ่นซี นิ้วเรียวยาวและทรงพลังลูบไล้ตามเส้นผมมายังใบหูของซูจิ่นซี จากนั้นจึงลูบไล้ไปด้านหลังใบหูของนางอย่างนุ่มนวล ทั้งเขายังเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนมากกว่าที่เคย

“ยังโกรธอยู่หรือ? ”

ซูจิ่นซีกัดริมฝีปาก ดวงตาสดใสและงดงามของนางจ้องไปที่คิ้วของเยี่ยโยวเหยาเป็นเวลานาน

“โยวอ๋อง ข้ามีสิทธิ์โกรธด้วยหรือ? ”

ดวงตาของเยี่ยโยวเหยายังคงลึกซึ้งราวกับสระน้ำเย็นเยือก หลังจากนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็บรรจงจูบหน้าผากของนางอย่างนุ่มนวล “ไม่มี… ทว่าเจ้าสามารถขอได้! ”

ซูจิ่นซีขมวดคิ้วงดงามเล็กน้อย “หากขอร้องแล้ว โยวอ๋องจะทรงอนุญาตหรือ? ”

ซูจิ่นซีจ้องตาเยี่ยโยวเหยาด้วยสีหน้าจริงจัง เยี่ยโยวเหยาไม่หลบเลี่ยงสายตา ทว่าดวงตาลึกซึ้งคู่นั้นไม่เคยอนุญาตให้ผู้อื่นเห็นในสิ่งที่เขาคิด

“ไม่! ”

ซูจิ่นซีกัดริมฝีปากแน่น

จริงๆ เลย… อยากจะกัดหัวใจของเยี่ยโยวเหยา

เมื่อมองใบหน้าที่ทำอันใดไม่ถูก ทว่าดวงตาดำขลับและสว่างไสวนั้นไม่สามารถปิดบังความรักอันลึกซึ้งที่เขามีต่อซูจิ่นซีได้ เยี่ยโยวเหยายกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ราวกับลูกแมวที่กำลังเลียชีสอย่างตะกละตะกลาม ก่อนจะจุมพิตริมฝีปากที่นุ่มนวลของซูจิ่นซี

“จิ่นซี เจ้าไม่ใช่! ”

ซูจิ่นซีไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอย่างไร “หือ? ”

เยี่ยโยวเหยายังคงจุมพิตอย่างอ่อนโยน

“ซูจิ่นซี เจ้าไม่ใช่บุตรสาวผู้ต่ำต้อยของสกุลซู เจ้าเป็นเทพธิดาเผ่าเม้ย เทพเจ้าโบราณ เป็นข้าที่ต่ำต้อยกว่าเจ้า อย่างไรก็ตาม… เจ้าจะเป็นภรรยาของข้าตลอดไป”

ซูจิ่นซีเลิกคิ้วเล็กน้อย หัวใจของนางราวกับถูกบางอย่างทิ่มแทง ทำให้เกิดความรู้สึกสับสนชั่วขณะ

หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ เยี่ยโยวเหยาก็ปล่อยซูจิ่นซี

“ยังโกรธอยู่หรือ? ”

ซูจิ่นซีเม้มริมฝีปาก พลางยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย “เยี่ยโยวเหยา ท่านทำถึงเพียงนี้แล้ว ข้ายังโกรธท่านได้อีกหรือ? ”

เยี่ยโยวเหยายกยิ้มมุมปากแผ่วเบา

“โกรธไม่ได้ก็ไม่ต้องโกรธ ข้าชอบเห็นตอนที่เจ้าไม่โกรธ”

ซูจิ่นซีขมวดคิ้ว นางพูดอันใดไม่ออก

เห็นได้ชัดว่ามันไม่มีปัญหา!

ทว่าเหตุใด คำพูดนี้ฟังดูน่าอึดอัดใจยิ่งนัก?

ทันใดนั้น ซูจิ่นซีก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ นางดีดดิ้นเหมือนปลาดุกและลุกขึ้นนั่งตัวตรงทันที

“เยี่ยโยวเหยา ตอนนี้เป็นเวลาใดแล้ว? ”

เยี่ยโยวเหยาเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง พลางเหลือบมองนาฬิกาทรายบนโต๊ะ

“ยามซวี”

ดูเหมือนซูจิ่นซีกำลังครุ่นคิดอันใดบางอย่าง ใบหน้าของนางแปรเปลี่ยนเป็นความกังวลใจเล็กน้อย นางรีบรวบรวมสมาธิค้นหาในระบบถอนพิษ จากนั้นจึงยื่นมือออกมา บนฝ่ามือพลันปรากฏยาเม็ด

ซูจิ่นซีกำลังจะกลืนมันลงไป ทว่าเยี่ยโยวเหยาจับมือซูจิ่นซีไว้

“ทำอันใด? ”

“ยาคุมกำเนิด! ข้าต้องรับประทานทุกครั้ง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ท่านเห็น”

เยี่ยโยวเหยาขมวดคิ้วเล็กน้อย “จิ่นซี ข้า… ”

เยี่ยโยวเหยายังไม่ทันพูดประโยคหลังจบ ทันใดนั้น เสียงขององครักษ์ก็ดังขึ้นจากด้านนอก

“ท่านอ๋อง พระชายา! ”

ซูจิ่นซีขมวดคิ้วและเหลือบมองเยี่ยโยวเหยา

เยี่ยโยวเหยาไม่พูดสิ่งใด ขณะที่ปล่อยนิ้วมือออกจากฝ่ามือของซูจิ่นซี เขาก็หยิบยาเม็ดจากฝ่ามือของซูจิ่นซีออกมา และดึงผ้าห่มมาห่อตัวของซูจิ่นซี

จากนั้นจึงพูดว่า “มีเรื่องอันใด? ”

“ทูลท่านอ๋อง ทหารแคว้นตงเฉินส่งทูตนำสาสน์มาขอเข้าเฝ้า บอกว่าเป็นสาสน์จากรัชทายาทตงหลิงหวง พวกเขาขอเข้าเฝ้าพระชายา และให้พระชายาเปิดสาสน์นี้ด้วยพระองค์เอง”

ตงหลิงหวงส่งทูตมา ความจริง ซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยาได้คาดการณ์เรื่องนี้ไว้ก่อนแล้ว

ซูจิ่นซีเหลือบมองท่าทีของเยี่ยโยวเหยา เยี่ยโยวเหยาจึงแสดงความเห็น “ดูเหมือนเป็นการขอสงบศึก”

อย่างไรเสีย แคว้นตงเฉินทั้งภายในและภายนอกล้วนมีสถานการณ์วุ่นวายทั้งสองด้าน หากตงหลิงหวงต้องการสร้างเสถียรภาพในแคว้นตงเฉิน สิ่งแรกที่ต้องทำคือเจรจากับแคว้นหนานหลีเพื่อสงบศึกชั่วคราว

ซูจิ่นซีครุ่นคิดครู่หนึ่ง “ให้เขารอก่อน! ”

“พ่ะย่ะค่ะ! ”

เยี่ยโยวเหยายื่นเสื้อผ้ามาให้ซูจิ่นซีเปลี่ยน

ซูจิ่นซีไม่คุ้นชินนัก เมื่อก่อนตอนที่มีลวี่หลีและแม่นมฮวา พวกเขาคอยปรนนิบัติรับใช้นางมาโดยตลอด

ต่อมา เมื่อไม่มีลวี่หลีและแม่นมฮวาอยู่ข้างกาย ซูจิ่นซีต้องแต่งกายด้วยตนเอง นี่เป็นครั้งแรกในแผ่นดินที่ท่านโยวอ๋องผู้สูงศักดิ์คอยรับใช้แต่งตัวให้ ทำให้ซูจิ่นซีรู้สึกปลาบปลื้มใจอย่างมาก

“เยี่ยโยวเหยา ให้ข้าทำเองเถิด! ”

“อย่าขยับ! ” น้ำเสียงของเยี่ยโยวเหยาเคร่งขรึมจริงจัง ไม่อาจปล่อยให้ผู้ใดสงสัยหรือไม่เชื่อฟัง

ซูจิ่นซีรู้จักนิสัยของเยี่ยโยวเหยาดีที่สุด ในสถานการณ์นี้ หากนางยังขัดขืนต่อความตั้งใจของเยี่ยโยวเหยา ผลที่ตามมาคงร้ายแรงเกิดคาดเดา

ซูจิ่นซีจึงทำได้เพียงเชื่อฟังและไม่ขยับตัว ปล่อยให้เยี่ยโยวเหยาสวมเสื้อผ้าให้นางทีละชิ้น

ไม่รู้เพราะเหตุใด วันนี้เยี่ยโยวเหยาทำให้นางรู้สึกแปลกๆ แต่นางไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าเกิดอันใดขึ้น

หลังจากสวมเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย ซูจิ่นซีก็หยิบยาคุมกำเนิดอีกเม็ดออกมาจากระบบถอนพิษ เนื่องจากในระบบถอนพิษของนางมียาชนิดนี้มากมาย และยาเม็ดนั้นถูกเยี่ยโยวเหยาเอาไป นางจึงหยิบเม็ดใหม่มาแทน

ทว่าก่อนที่นางจะกลืนมันลงไปอีกครั้ง เยี่ยโยวเหยาก็กดมือของนางแน่นเพื่อขัดขวาง

“ยานี้ทำร้ายร่างกาย ต่อไปไม่อนุญาตให้ใช้แล้ว”

ซูจิ่นซีขมวดคิ้วแผ่วเบา “ไม่รับประทานได้อย่างไร? หากตั้งครรภ์ขึ้นมาจะทำอย่างไร? ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่พวกเราจะมีบุตร”

“ข้าบอกว่าไม่ก็ไม่สิ”

ชั่วพริบตา ท่าทางของเยี่ยโยวเหยาก็กลับมาเป็นเข้มงวด ราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน

ทว่าท่าทางเช่นนี้ ในสายตาของซูจิ่นซี กลับดูเหมือนเด็กที่เอาแต่ใจ

นางรู้สึกขบขันเล็กน้อย “เยี่ยโยวเหยา ข้ารู้จักความพอดี ข้าควบคุมขนาดยาและคุณสมบัติของยาอย่างเคร่งครัด ท่านไม่ต้องกังวล ไม่มีผลเสียต่อร่างกายแน่นอน”

นางพูดพลางเปลี่ยนเม็ดยาในมือไปที่มืออีกข้าง และกำลังจะโยนเข้าปาก ทว่าสิ่งที่เร็วกว่ามือของนางคือริมฝีปากของเยี่ยโยวเหยา

เขาประทับจูบลงมาด้วยความเร็วที่คาดเดาไม่ได้ ริมฝีปากนั้นกดลงบนริมฝีปากของซูจิ่นซีอย่างแรง กอปรกับแรงผลักและแรงเฉื่อย ร่างของซูจิ่นซีจึงถอยห่างออกไปหลายก้าวอย่างรวดเร็วและล้มลงบนเตียง

เยี่ยโยวเหยากล่าวด้วยเสียงที่มีอำนาจและแข็งแกร่ง “ข้าพูดว่าไม่อนุญาต คือไม่อนุญาต”