เฉินโม่สอบถามทางไปบ้านตระกูลยามาดะมาตลอดทาง ตระกูลยามาดะชื่อเสียงดังมากในประเทศต้าเหอ เฉินโม่จึงได้หาแหล่งพำนักใหญ่ของบ้านซานเถียนพบอย่างสบาย
“ใช่แล้วที่นี่” เฉินโม่ยืนอยู่ตรงตีนเขาภูเขาคอนซาน มองประตูเหล็กบานใหญ่โตของบ้านซานเถียน สีหน้าเรียบเฉย
“ดูท่าว่าบ้านซานเถียนคงวางเครือข่ายกับดักไว้อย่างพร้อมเพรียบ เพื่อรับการมาของฉันไว้ก่อนแล้วสินะ” เฉินโม่พูดเรียบ ๆ คลื่นเสียงส่งออกไปไกลมาก ทั่วทั้งหมู่บ้านได้ยินกันหมด
“เฉินไต้ซือ เรื่องไร้สาระพูดให้น้อยหน่อย คนที่แกจะหานั้นอยู่ข้างในนี่แหละ แน่จริงก็เข้ามาเลย!” ซามูไรในชุดดำนายหนึ่งยืนอยู่บนยอดเขาจำลองในลานบ้าน ตะโกนพูดใส่เฉินโม่
“งั้นผมก็จะขอเข้ามาละ” เฉินโม่ตอบกลับเสียงเรียบ ๆ ค่อย ๆ ก้าวเท้าเดิน ด้วยทีท่าสบายอย่างเรียบร้อยเป็นสง่า
ภายในห้อง ยามาดะ อากียะนั่งอยู่เงียบ ๆ ข้าง ๆ สาวสวยวัยยังรุ่นนางหนึ่ง จัดชงชาด้วยท่าทางคล่องแคล่ว
ที่นั่งตรงข้าม เป็นคนประหลาดที่ถูกชุดสีดำห่อไว้ทั้งตัว
“นินจาขั้นกลางร้อยนาย จะสกัดเขาอยู่ไหม” ยามาดะ อากียะถาม
เสียงแหบแห้งของคนประหลาดชุดดำนั้น “คุณท่านก็มีคำตอบอยู่กับใจแล้ว ทำไมยังต้องมาถามฉัน?”
“เหอ ๆ ทุกเรื่องไม่มีคำว่าใช่แน่ เผื่อว่าเฉินไต้ซือท่านนี้มันประเภทชื่อดีอยู่ข้างนอกแต่ข้างในกลวงหละ?” ยามาดะ อากียะยกแก้วชาขึ้นจิบ พูดยิ้ม ๆ
“ถ้าเขาดีแต่ชื่อ ยามาดะ ทาเคชิกับลูกศิษย์ของยากิว ซังคงไม่ถึงกับต้องตาย”
ได้ยินดังนั้น ยามาดะ อากียะกระแทกวางแก้วชาลง ถลึงตามองคนในชุดดำคนนั้น
“คนในวงการโลกบู๊พวกคุณคุยเล่นกันอย่างนี้หรือ?” ยามาดะ อากียะดูเหมือนจะโกรธ
“มันเป็นเรื่องจริงเท่านั้น” คนคนนั้นไม่มีความรู้สึกหวาดหวั่น พูดเสียงเรียบเฉย
“งั้นก็เช็ดขี้ตาให้ดีไว้คอยดู!” ยามาดะ อากียะยกน้ำชาในจอก กระดกรวดเดียวหมด
เฉินมู่เข้ามาในห้องนับได้เป็นก้าวที่สาม ฝ่ามือสิบข้างโผล่ขึ้นมาจากพื้นในทันใดนั้น แต่ละฝ่ามือต่างมีเชือกที่มีลักษณะพิเศษเส้นหนึ่ง ดูเห็นได้ว่าเหนียวแน่นมาก
ท่ามกลางบรรยากาศแปลกประหลาด ปรากฏเป็นซามูไรขึ้นมาสิบนาย เงื้อมีดดาบโค้งวาววับ ฟันสับลงใส่เฉินโม่โดยรอบ
นินจาขั้นกลาง เทียบเท่ากับนักบู๊แดนในระดับสุดยอดร้อยนาย อีกทั้งมองท่าทีแล้ว ดูเหมือนยังมีการวางค่ายกลไว้
แต่ทว่า ทุกย่างก้าวของเฉินโม่ไม่ได้ถูกขวางเลยแม้แต่น้อย คลื่นพลังทิพย์ที่ไร้วี่แววกระแสหนึ่ง ฉับพลันนั้นม้วนกวาดบริเวณรอบข้างในรัศมีร้อยเมตร
ไม่ว่าบนดิน หรือเหนือขึ้นไปบนฟ้า รวมทั้งเหล่าบรรดานักบู๊ที่ซ่อนตัวอยู่ในที่มืด ถูกกระแทกกระเด็นกระจายออกไป
กระแทกกันครั้งเดียว โดยที่เฉินโม่ไม่ได้ขยับลงมือ ด่านป้องรับด่านแรกของบ้านตระกูลยามาดะ พัง!
ภายในห้อง คนในชุดดำพูดเสียงชืด ๆ ว่า “ด่านป้องรับด่านแรกถูกทลายลงแล้ว”
สีหน้ายามาดะ อากียะดูไม่จืด “ถึงแม้ฉันก็คิดตั้งแต่แรกแล้วว่าด่านป้องรับด่านแรกขวางเขาไม่อยู่ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้”
คนชุดดำพูด “ไม่ทราบคุณซานเถียนกะไว้นานแค่ไหน?”
ยามาดะ อากียะพูดว่า “ครึ่งชั่วโมง”
“แต่เอาเข้าจริงแค่เพียงสองนาที”
“นั่นสิ ห่างกันมากอย่างไม่ธรรมดาเลย” ยามาดะ อากียะถอนหายใจเฮือก
“ไม่ทราบว่าด่านที่สองของคุณซานเถียน เตรียมจัดอะไรไว้หรือ?แล้วคิดว่าจะต้านได้นานเท่าไหร่?” น้ำเสียงของคนชุดดำออกในความหมายเย้ยเยาะ
ยามาดะ อากียะยกแก้วชาขึ้น ดื่มเข้าไปคำหนึ่ง แล้ววางกระแทกลง “รอดูมันไป”
เฉินโม่ได้เดินผ่านข้ามลานโล่งด้านหน้านั้นมาแล้ว กำลังเตรียมก้าวขึ้นสะพานหินทรงโค้ง
ทันใดนั้น นักบู๊ชุดดำที่เห็นแต่ลูกตาสิบนาย ยืนเรียงเป็นสองแถวอยู่อีกฟากของสะพาน มือกำมีดดาบ
เฉินโม่มองไปที่นักบู๊สิบนายนั้น สัมผัสจากพลังปราณจากตัวคนพวกนั้น แต่ละคนต่างก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ายากิวที่เขาฆ่าไปก่อนหน้านี้เลย
ภายในห้อง คนชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงตื่นใจ “นินจาชั้นสูง!คุณซานเถียน ยอดเยี่ยมเลย”
ยามาดะ อากียะแค่นเสียงหัวเราะเบา ๆ “ธรรมดา ถ้าเทียบกับคุณแล้ว ต่อให้ร้อยนินจาชั้นสูงก็คงไม่พอมือ”
กับคำพูดเยินยอของยามาดะ อากียะนี้ คนชุดดำไม่แสดงอาการออกแต่อย่างใด พูดเสียงราบเรียบว่า “แล้วในความคิดของคุณซานเถียนนั้น ด่านที่สองนี้ ควรจะต้านได้นานเท่าไหร่?”
ยามาดะ อากียะคิด ๆ ดู “ซักหนึ่งชั่วโมง”
คนชุดดำหัวเราะเบา ๆ ดูมีความหมายออกจะเยาะเย้ย
“แล้วคุณคิดว่าต้านได้นานเท่าไหร่?” ยามาดะ อากียะย้อนถามกลับอย่างไม่สบอารมณ์
“หนึ่งนาที” คนชุดดำตอบไปอย่างไม่ไยดี
ยามาดะ อากียะหน้างุ้ม ถลึงตาใส่คนชุดดำ “ฮึ!”