บทที่ 1865 เส้นทางของเทพ

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1865 เส้นทางของเทพ

 

ถ้ำปีศาจคลั่ง ชั้นที่หก

 

นักวางแผนคุกเข่าลงรักษาผู้อมตะปู่โดยไม่คํานึงถึงอาการบาดเจ็บของตน

 

ผู้อมตะค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นด้วยความมึนงงก่อนจะกล่าวขอบคุณด้วยความยินดี “ข้ารอดแล้ว ท่านผู้นํา ท่านช่วยข้าเอาไว้อีกครั้ง!”

 

จากนั้นเขาก็ถามต่อ “ฟางหยวนอยู่ที่ใด? เดี๋ยว เขาล่าถอยไม่ทันเวลางั้นหรือ?”

 

นักวางแผนเผยรอยยิ้มขมขึ้น “เขายังอยู่ที่ชั้นเจ็ด มันสายไปแล้วสําหรับเขาที่จะหลบหนี”

 

ผู้อมตะปู้ถอนหายใจ “นี่คือชีวิต ผู้ใดจะคิดว่าฟางหยวนผู้ยิ่งใหญ่จะมาจบชีวิตลงที่นี่”

 

แม้ชื่อเสียงของฟางหยวนจะโด่งดังมากแต่ผู้อมตะไม่คิดว่าเขาจะมีโอกาสรอดชีวิต

 

การแสดงออกของนักวางแผนเปลี่ยนเป็นแปลกประหลาดเล็กน้อย “แต่ข้ารู้สึกว่าบางทีฟางหยวนอาจรอดชีวิด แม้เหตุผลจะบอกข้าว่ามันเป็นไปไม่ได้ขณะที่ข้าก็ไม่สามารถอนุมานทางรอดของเขา แต่ข้ายังรู้สึกเช่นนี้”

 

“ท่านผู้นํา ท่านเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา” ผู้อมตะกล่าว

 

“ทุกความรู้สึกของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาจําเป็นต้องถูกต้องเสมอนั้นหรือ?” นักวางแผนสายศีรษะ “บางทีนี่อาจเป็นเพียงความหวังที่ขามีต่อฟางหยวน เขาแข็งแกร่งมาก แม้แต่วังสวรรค์ก็ไม่สามารถจัดการเขา ตัวละครดังกล่าวจะพินาศที่ถปีศาจคลั่งจริงๆงั้นหรือ? เห้อ…บางทีนี่อาจเป็นจุดจบของพวกเราในอนาคตเช่นกัน ดังนั้นข้าจึงรู้สึกเห็นใจเขา”

 

ผู้อมตะปู้เงียบ

 

หลังจากชั่วครู่นักวางแผนก็เปิดปากกล่าวอีกครั้ง “ไปกันเถอะ กลับไปพักผ่อน เมื่อเสียงปีศาจหยุดลง เราจะไปที่ชั้นเจ็ดและค้นหาฟางหยวน”

 

ผู้อมตะปู้พยักหน้า

 

เขายืนขึ้นอย่างยากลําบากและเกือบล้มลง โชคดีที่นักวางแผนช่วยประคองเขาเอาไว้

 

ทั้งสองสนับสนุนกันและค่อยๆเดินจากไปท่ามกลางความมืด

 

แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าในชั้นเจ็ดฟางหยวนยังมีชีวิตอยู่และยังค้นพบสิ่งใหม่

 

“นี่คือพลังงานแห่งเต๋ชนิดใหม่งั้นหรือ?” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

 

เขาค้นพบพลังงานแห่งเต๋ชนิดใหม่

 

ด้วยประสบการณ์และมรดกที่แท้จริงมากมาย มันช่วยขยายวิสัยทัศน์ของเขา

 

เขามั่นใจว่าสิ่งนี้เป็นพลังงานแห่งเต๋าชนิดใหม่ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

 

‘แต่พวกมันมีน้อยเกินไปและกระจัดกระจายเกินไป นั่นทําให้พวกมันไม่โดดเด่น อย่างไรก็ตามเสียงปีศาจทำให้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋เคลื่อนไหว สิ่งนี้ทําให้พลังงานแห่งเดําชนิดใหม่มารวมตัวกันและสามารถสังเกตเห็น’

 

ฟางหยวนสรุป

 

เมื่อเสียงปีศาจดังขึ้น พลังงานแห่งเต๋าชนิดเดียวกันจะเริ่มจับกลุ่มกัน ดังนั้นมันจึงสังเกตเห็นได้ง่ายขึ้น

 

ด้านหน้าของฟางหยวนมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งโลหะบิดไปมาเหมือนอสรพิษสีทองขนาดใหญ่ ด้านซ้ายของเขามีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณที่ใหญ่กว่า พวกมันเหมือนกลุ่มเมฆสีดําขนาดใหญ่ที่พุ่งไปข้างหน้า ติดกับเท้าของฟางหยวนเป็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าชนิดใหม่ที่เคลื่อนที่เหมือนลําธารสายเล็กๆ

 

ฟางหยวนหยุดเคลื่อนไหวและสังเกตมันอย่างระมัดระวัง

 

ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

 

เมื่อพิจารณาพลังงานแห่งเต๋าชนิดใหม่ เขาสังเกตเห็นดาบ เขาได้กลิ่นขวาน เขารู้สึกถึงค้อน เขาได้ยินเสียงลูกธนู

 

ฟางหยวนไตร่ตรอง พลังงานแห่งเต๋ชนิดใหม่มีขอบเขตค่อนข้างกว้าง มันเหมือนอาวุธทุกชนิด หากบางคนสร้างเส้นทางสายนี้ขึ้นในอนาคต มันจะแข็งแกร่งมาก

 

แต่หลังจากไม่นานฟางหยวนก็ส่ายศีรษะ “อย่างไรก็ตามผู้ใดจะรู้ว่าต้องใช้เวลาอีกกี่ชั่วอายุคนก่อนที่เส้นทางสายนี้จะถูกสร้างขึ้น”

 

‘บางทีบางคนที่มีแนวคิดหรือพื้นฐานบนเส้นทางสายนี้อาจได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากหากพวกเขาเห็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ชนิดนี้ หรือบางทีบางคนอาจบ่มเพาะบนเส้นทางสายนี้อยู่แล้วแต่ซ่อนมันไว้’

 

ฟางหยวนไม่รู้สึกเสียดาย

 

นี่เป็นสถานการณ์ทั่วไปของโลกผู้ใช้วิญญาณ

 

ฟางหยวนไม่ต้องการใช้สิ่งนี้เพื่อสร้างเส้นทางสายใหม่

 

เขามีอาวุธเต็มมืออยู่แล้ว นอกจากนี้เขาก็ไม่มีความคิดที่จะทุ่มเทความพยายามกับการสร้างเส้นทางสาย ใหม่ เขาไม่มีเวลาว่างขนาดนั้น

 

ฟางหยวนเดินหน้าต่อไป

 

ระหว่างทาง เขาพบพลังงานแห่งเต่าชนิดใหม่มากมาย

 

พลังงานแห่งเต๋าบางชนิดดูเมื่อนลูกบอลทรงกลมแต่ปลดปล่อยกลิ่นต้นหญ้าออกมา เมื่อฟางหยวนพยายามสูดดม เขารู้สึกเหมือนได้กลิ่นอาหาร

 

เขาคาดเดาว่ามันอาจเป็นพลังงานแห่งเต๋าที่เกี่ยวกับเส้นทางแห่งยา

 

นอกจากนี้ยังมีพลังงานแห่งเดีที่ดูเหมือนพรม บนพื้นผิวของมันปรากฏรูปภูเขาและแม่น้ํา ใบไม่ปลิวไปตามสายลม ฝูงนกบินอยู่บนท้องฟ้า สัตว์ป่าปรากฏตัวขึ้นเป็นครั้งคราว

 

หัวใจของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้นเมื่อเห็นสิ่งนี้ ‘หากข้าเดาไม่ผิด นี่คือพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งภาพวาด’

 

เขาต้องการเก็บร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋เหล่านี้ แต่เสียงปีศาจทําให้เขาไม่สามารถสัมผัสพวกมัน

 

‘หากข้ามคฤหาสน์วิญญาณอมตะรังโจรของตระกูลฟาง ข้าจะสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะขโมยเต่เพื่อขโมยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเหล่านี้หรือไม่?’ ฟางหยวนเกิดแรงบันดาลใจ

 

ฟางหยวนค้นวิญญาณของฟางตี้เฉิงและได้รับข้อมูลมากมายของตระกูลฟางรวมถึงคฤหาสน์วิญญาณอมตะ รังโจรบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมของพวกเขา

 

รังโจรเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ มันเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมซึ่งตระกูลฟางไม่มีความเชี่ยวชาญ เมื่อตระกูลฟางได้รับคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ พวกเขาไม่ได้รับสิ่งที่สมบูรณ์แบบ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถซ่อมแซมและกู้คืนความรุ่งโรจน์ของมัน

 

รังโจรในปัจจุบันมีความสามารถเดียว นั่นคือท่าไม้ตายอมตะขโมยเต๋า

 

แต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่มันขโมยมาจะรวมตัวกันและไม่สามารถใช้งาน

 

สิ่งนี้คล้ายกับสถานการณ์ในถ้ําปีศาจคลั่ง

 

รังโจรสามารถขโมยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋จากภายนอกแต่ไม่สามารถใช้งานพวกมัน นี่คือเหตุผลที่ฟางหยวนไม่มีความคิดที่จะยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้

 

‘แต่สถานการณ์นี้แตกต่างออกไป’

 

‘ข้าสามารถใช้รังโจรเพื่อสร้างทรัพยากรอมตะบนเส้นทางบางสายที่สามารถใช้งานได้’

 

หากแนวคิดของเขาประสบความสําเร็จ เขาจะมีวิธีสร้างทรัพยากรอมตะระดับแปดและระดับเก้าอย่างไม่รู้จบ

 

ทรัพยากรอมตะเหล่านี้ไม่เพียงสามารถใช้ในการหลอมรวมวิญญาณหรือทําธุรกรรม แต่เขายังสามารถใช้มันเพื่อทําความเข้าใจเส้นทางสายนั้นๆ ตัวอย่างเช่นใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋เหล่านี้เพื่อสร้างเส้นทางแห่งภาพวาด เส้นทางแห่งเม็ดยา หรืออื่นๆ ทรัพยากรอมตะเหล่านี้จะเป็นข้อมูลอ้างอิงชั้นยอดสาหรับการสร้างเส้นทางสายใหม่

 

‘แต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่เหมือนกันสามารถรวมตัวกันเมื่อเสียงปีศาจดังขึ้นเท่านั้น’

 

‘ในช่วงเวลานี้การใช้ท่าไม้ตายอมตะมีโอกาสล้มเหลวสูงมากเนื่องจากความโกลาหลของร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า มันอาจล้มเหลวและทําให้ผู้ใช้ได้รับผลกระทบย้อนกลับ’

 

‘รังโจรไม่เหมือนข้า มันไม่ใช่ร่างทารกอมตะ หากมันได้รับผลกระทบย้อนกลับ มันอาจแตกสลาย!’

 

ฟางหยวนสงบจิตใจลง

 

มีปัญหามากมายในการดําเนินการ

 

รากฐานในปัจจุบันของเขาทําให้โลกตกตะลึงแต่มันยังไม่เพียงพอสําหรับเรื่องนี้

 

ฟางหยวนถอนหายใจและปัดความคิดนี้ทิ้งไปชั่วคราว

 

เขาเดินหน้าต่อไป ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็พบพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งความฝัน

 

ถ้ำปีศาจคลั่งมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าทุกประเภทรวมถึงร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งความฝัน

 

ฟางหยวนหยุดและตรวจสอบมันอย่างระมัดระวังก่อนจะพบว่ามันไม่เป็นอันตรายต่อเขา

 

นี่เป็นเพียงร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า มันไม่ใช่อาณาจักรแห่งความฝัน สําหรับร่างทารกอมตะ มันเป็นเพียงทรัพยากรอมตะชนิดหนึ่งเท่านั้น

 

หากมันเป็นอาณาจักรแห่งความฝัน ฟางหยวนต้องหลบเลี่ยงมัน

 

ฟางหยวนเดินหน้าต่อไปโดยไม่มีสิ่งใดสามารถกีดขวาง

 

เสียงปีศาจสร้างปัญหาให้เขาเล็กน้อย โชคดีที่เขาคิดค้นท่าไม้ตายที่สามารถตอบโต้มันไว้แล้ว แม้เสียงปีศาจจะรบกวนเขา แต่ทุกอย่างยังอยู่ในขอบเขตความอดทนของเขา

 

แม้พลังงานแห่งเต๋าที่หลากหลายจะพุ่งชนเขาราวกับคลื่นยักษ์ แต่มันกลับไม่ส่งผลกระทบต่อเขา

 

หากสามปีศาจอมตะเห็นสิ่งนี้ ขากรรไกรของพวกเขาอาจหลุดออกด้วยความตกใจ

 

นี้เป็นสิ่งที่ทําลายสามัญสํานึกของพวกเขาลงอย่างสมบูรณ์

 

ฟางหยวนเดินลึกเข้าไปในถ้ําอย่างต่อเนื่อง

 

เมื่อเขามาถึงทางเข้าของชั้นที่แปด เขาต้องอุทานออกมาเบาๆและหยุดเคลื่อนไหว

เขาเห็นเส้นทางสามสาย

 

หนึ่งเป็นเส้นทางสีทองที่เต็มไปด้วยโชค

 

อีกหนึ่งเป็นเส้นทางที่มืดมิดและเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร

 

และอีกหนึ่งเป็นเส้นทางที่อ่อนโยนเรียบง่าย มันปลดปล่อยกลิ่นอายแห่งคุณธรรมออกมา

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น ‘เส้นทางทั้งสามสายเป็นร่องรอยของผู้อมตะระดับเก่าในอดีต มันเป็นเส้นทางแห่งโชค เส้นทางแห่งจิตวิญญาณ และเส้นทางแห่งปฐพี พวกเขาควรเป็นเทพอมตะตะวันเดือด เทพปีศาจจิตวิญญาณ และเทพอมตะสวรรค์พิภพ!’

 

ผู้อมตะระดับเก้าสามคนนี้เคยมาที่นี่!

 

เสียงปีศาจสามารถกําจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของผู้อมตะเกือบทุกคน

 

แต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าทั้งสามเส้นทางแข็งแกร่งมาก พวกมันสงบนิ่งราวกับไม่ได้รับผลกระทบจากเสียงปีศาจ

 

ฟางหยวนหรี่ตามอง

 

ร่างทารกอมตะทําให้เขาสามารถมาถึงที่นี่ มันเหมือนการโกง

 

แต่ผู้อมตะระดับเก้าแตกต่างออกไป

 

พวกเขาบุกมาที่นี่ด้วยความแข็งแกร่งของตนเอง

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่แปลกใจที่ผู้อมตะระดับเก้หลายคนจะเดินทางมาที่นี่ ในความเป็นจริงเขาคาดเดาไว้แล้ว

 

ท้ายที่สุดเทพปีศาจไร้ขอบเขตก็เป็นตัวตนในยุคดึกดําบรรพ เขาเป็นผู้อมตะระดับเก๋ลําดับที่สามต่อจากเทพอมตะแรกกําเนิดและเทพอมตะกลุ่มดาว

 

ในฐานะจุดสูงสุดของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล เป็นธรรมดาที่ผู้อมตะระดับเก้าจะเดินทางมาตรวจสอบสถานที่ลึกลับแห่งนี้

 

‘แต่เหตุใดมันจึงมีเพียงสามเส้นทาง?’

 

‘เหตุใดพวกเขาจึงทิ้งร่องรอยไว้ที่หน้าทางเข้าชั้นที่แปดเท่านั้น?’

 

ข้อสงสัยมากมายเกิดขึ้นในใจของฟางหยวน แต่เขาไม่หยุดและยังกระโดดเข้าสู่ชั้นที่แปดอย่างรวดเร็ว

 

ความมืดด้านหน้าหายไปขณะที่ฟางหยวนตกลงบนพื้นแข็ง

 

‘มันคือสิ่งใด?’ ฟางหยวนตะลึง

 

ชั้นที่แปดของปีศาจคลั่งแสดงฉากที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขาไปไกลมาก