บทที่ 1866 ชั้นที่แปด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1866 ชั้นที่แปด

 

มันเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่

 

หญ้าสีเขียว ท้องฟ้าสีคราม และเมฆสีขาว

 

ท้องฟ้าไม่มีดวงอาทิตย์แต่มันยังสว่างสดใส

 

มีดอกไม้ป่าที่งดงามมากมายกําลังบานสะพรั่ง

 

กลิ่นหอมของดอกไม้ลอยมาตามสายลมและพัดผ่านใบหน้าของฟางหยวน

 

ฟางหยวนตะลึง

 

“นี่คือชั้นที่แปดของปีศาจคลั่งงั้นหรือ?” เขาประหลาดใจ

 

ตามการอนุมานของฟางหยวน ชั้นที่แปดควรเหมือนชั้นที่เจ็ดแต่มีความปั่นป่วนของพลังงานแห่งเต๋ที่รุนแรงกว่าสําหรับชั้นที่เก๊ มันควรเป็นค่ายกลวิญญาณอมตะที่ถูกจัดตั้งขึ้นโดยเทพอมตะแรกกําเนิดซึ่งมีแกนกลางเป็นวิญญาณอมะตระดับเก้าในตํานาน วิญญาณต้นก่าเนิด!

 

แต่หลังจากฟางหยวนเข้าสู่ชั้นที่แปด เขากลับพบโลกใบเล็ก

 

“ข้าเข้ามาในแดนศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ? ฟางหยวนคิด

 

แต่เขาก็ปฏิเสธความคิดนี้อย่างรวดเร็ว

 

หลังจากตรวจสอบสภาพแวดล้อม การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย โลกนี้ดูธรรมดามากมันไม่ใช่แดนศักดิ์สิทธิ์หรือถ้ําสวรรค์ทั่วไปมันเป็นโลกขนาดเล็กและ…อ่อนแอ

 

ขณะที่ฟางหยวนกําลังคิดเรื่องนี้ เขาก็ได้ยินเสียงแตกดังขึ้น

 

น้ําไหลลงมาจากท้องฟ้าอย่างกะทันหัน

 

ฟางหยวนรู้สึกถึงภัยคุกคามจากมัน เขามั่นใจว่าตราบเท่าที่เขาสัมผัสมัน เขาจะตาย แม้เขาจะใช้เกราะหวนคืนเขาก็อาจอยู่ได้ไม่นาน

 

โชคดีที่น้ําตกไหลเร็วมากและไม่ได้เคลื่อนเข้ามาหาเขา

 

“โลกใบนี้กําลังจะพังทลาย!” ฟางหยวนมองไปในระยะไกล

 

น้ําตกกระจายออกไปอย่างต่อเนื่อง โลกใบเล็กราวกับถูกแยกออกเป็นสองส่วนและในไม่ช้ามันก็แยกออกจากกัน

 

ท้องฟ้า เมฆ ทุ่งหญ้า และดอกไม้ถูกน้ําตกกลืนกิน

 

อย่างไรก็ตามไม่มีสิ่งใดอยู่ในน้ําตก มันเหมือนสัตว์ร้ายที่กลืนกินทุกสิ่งเข้าไปด้วยความหิวโหย

 

รูม่านตาของฟางหยวนหดเล็กลง มันเกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ น้ําตาแห่งความว่างเปล่า!”

 

ฟางหยวนเร่งซ่อนตัว

 

เมื่อน้ําตาแห่งความว่างเปล่าใกล้เข้ามา ฟางหยวนไม่หลบ เขากระทั่งพุ่งเข้าไปหามัน

 

แต่มันกลับไม่ทําลายล่างเขา

 

โลกใบเล็กหดเล็กลงเรื่อยๆ

 

ฟางหยวนบินสูงขึ้นไปในน้ําตาแห่งความว่างเปล่าก่อนจะหลุดออกจากขอบโลก

 

นี่คือ? หัวใจของเขาสั่นสะท้านขึ้น

 

เขาเหมือนแมลงตัวน้อยที่บินมาถึงมหาสมุทรอันกว่างหญ่

 

ความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตทําให้ฟางหยวนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้นัยสําคัญ

 

แต่เขาไม่ได้อยู่เพียงลําพัง

 

ที่นี่มีโลกจํานวนนับไม่ถ้วน

 

โลกเหล่านี้เหมือนฟองอากาศหลากหลายสีสัน บางส่วนพึ่งก่อตัวขึ้น บางส่วนกําลังเติบโต และบางส่วนกําลังถูกทําลาย

 

โลกใบเล็กที่ฟางหยวนอยู่ก่อนหน้านี้ถูกทําลายลงอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาสั้นๆมันกลายเป็นเสี้ยวจันทร์สองชั้น

 

ปากของฟางหยวนอ่าค้างเล็กน้อย เขาตกใจมาก

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่เขาตระหนักถึงลักษณะที่แท้จริงของชั้นที่แปด

 

มันเป็นมิติที่ไร้ขอบเขตแต่ท่ามกลางความว่างเปล่าอันมืดมิดกลับมีโลกใบเล็กจํานวนนับไม่ถ้วนถือกําเนิดและแตกดับไป

 

“นี่!! ฟางหยวนพบว่าโลกใบเล็กที่เขาเคยอยู่ก่อนหน้านี้ถูกทําลายล้างไปแล้วและเหลือทิ้งไว้เพียงเส้นด้ายสีขาว

 

มันคือร่องรอยของพลังงานแห่งเต่า!

 

แม้มันจะดูเหมือนเส้นด้ายแต่มันเป็นพลังงานแห่งเต๋ที่ไม่ธรรมดา

 

“มันคือพลังงานแห่งเต๋ชนิดใด?” ฟางหยวนไม่เคยเห็นพลังงานแห่งเต๋เช่นนี้มาก่อน

 

มันเป็นพลังงานแห่งเต๋ที่พิเศษมาก

 

โลกใบเล็กก่อนหน้ามีทั้งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งห้วงมิติ เส้นทางแห่งกาลเวลาเส้นทางแห่งไม้และเส้นทางแห่งเมฆา

 

แต่ตอนนี้มันกลับเหลือเพียงร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ที่ดูเหมือนเส้นด้ายสีขาวโปร่งแสงทิ้งไว้เบื้องหลัง

 

ฟางหยวนสามารถมองเห็นร่องรอยของเส้นทางแห่งห้วงมิติ เส้นทางแห่งกาลเวลา เส้นทางแห่งไม้และเส้นทางแห่งเมฆาจากพลังงานแห่งเต๋เส้นด้าย

 

มันเป็นพลังงานแห่งเต๋ชนิดใด? มันสามารถรวมร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋หลายชนิดเอาไว้งั้นหรือ?ฟางหยวนรู้สึกสับสนก่อนจะได้รับค่าตอบ

 

“ข้าเข้าใจแล้ว นี่คือเส้นทางสวรรค์!”

“มันคือเสวรรค์!”

 

ในชั้นที่เจ็ดฟางหยวนเห็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นเส้นทางแห่งความฝันหรือเส้นทางอื่นๆ แต่มีพลังงานแห่งเต๋สองสายที่ขาดหายไป

 

หนึ่งคือเส้นทางมนุษย์ อีกหนึ่งคือเส้นทางสวรรค์

 

ฟางหยวนเคยเห็นพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางมนุษย์มาแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเคยเห็นพลังงานแห่งเบนเส้นทางสวรรค์

 

“พลังงานแห่งเต๋เส้นทางสายอื่นถูกทําลาย มีเพียงพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์เท่านั้นที่เหลืออยู่นี่หมายถึงสิ่งใด? ฟางหยวนมองไปยังพลังงานแห่งเบนเส้นทางสวรรค์

 

ฟางหยวนเฝ้ามองมันอย่างระมัดระวังโดยไม่พยายามสัมผัส

 

เขาติดตามเส้นด้ายสีขาวไป หลังจากชั่วครู่ การเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดก็เกิดขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่า

 

หลุมด่าปรากฏขึ้นและดูดกลืนพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์เข้าไป

 

หลุมด่าถูกย้อมไปด้วยสีสันที่หลากหลายก่อนที่มันจะระเบิดออก

 

ฟองอากาศสีฟ้าขาวปรากฏขึ้นแทนที่

 

มันค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

 

ฟางหยวนตรวจสอบและลอบตกใจเมื่อพบว่าฟองอากาศสีฟ้าขาวกลายเป็นโลกใบใหม่ มีพื้นดินและท้องฟ้าปรากฏขึ้น ทุกสิ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงตามกฎบางอย่าง

 

หลังจากผ่านไปหลายสิบลมหายใจ โลกใบเล็กก็ขยายใหญ่ขึ้นถึงจุดที่ฟางหยวนสามารถเข้าไป

 

ความเร็วในการเติบโตของมันค่อยๆหยุดลง

 

ฟางหยวนเข้าไปในโลกที่เกิดใหม่ใบนี้

 

มันไม่เหมือนโลกใบเดิมที่เขาเคยเห็นมาก่อนหน้านี้ เมฆลอยอยู่บนท้องฟ้า เกาะลอยอยู่กลางอากาศเถาวัลย์จํานวนนับไม่ถ้วนรัดพันโลกใบนี้เอาไว้ราวกับตาข่าย

 

“มันเป็นพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์ แต่รูปลักษณ์ของโลกใบนี้แตกต่างออกไป” ฟางหยวนรู้สึกถึงบางสิ่งแต่ยังไม่สามารถทําความเข้าใจมันได้อย่างชัดเจน

 

ฟางหยวนมีลางสังหรณ์ที่รุนแรงว่าตราบเท่าที่เขาเข้าใจมัน ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

 

ดังนั้นเขาจึงเฝ้ามองโลกใบนี้ตั้งแต่มันถือกําเนิดจนถูกทําลายล้าง

 

ฟางหยวนหมกมุ่นอยู่กับมันและไม่สามารถปลดปล่อยตนเอง

 

“การทําลายล้างโลกใบเล็กเป็นเพียงเรื่องผิวเผิน แท้จริงแล้วสิ่งนี้ท่าให้เกิดพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์

 

ฟางหยวนสังเกตอย่างระมัดระวังและพบว่าหลังจากการกําเนิดและการทําลายล้างโลกใบเล็กทุกครั้งพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์จะเติบโตขึ้นเล็กน้อย

 

บางครั้งหลุมดําจะดูดกลืนเส้นด้ายสีขาวสามหรือสี่เส้นเข้าไปและให้กําเนิดโลกที่มีรากฐานที่แข็งแกร่งมาก

 

แต่หลังจากมันถูกทําลายล้าง มันกลับเหลือเส้นด้ายสีขาวเพียงหนึ่งหรือสองเส้น

 

“พลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์สามารถสูญหายได้เช่นกัน

 

“บางทีพลังงานแห่งเดีที่ข้าเห็นอาจยังไม่ถึงมาตรฐานของเทพปีศาจไร้ขอบเขต

 

เขาอาจต้องการสร้างพลังงานแห่งเดําบนเส้นทางสวรรค์ที่ตรงตามความคาดหวังของเขา!

 

หากเป็นเช่นนั้น แล้วเขาต้องการสร้างพลังงานแห่งเต๋เช่นไร?

 

จิตใจของฟางหยวนสั่นไหวเมื่อเขารู้สึกว่าเทพปีศาจไร้ขอบเขตสร้างถปีศาจคลั่งขึ้นมาเพื่อไล่ล่าชีวิตนิรันดร์

 

เทพปีศาจไร้ขอบเขตไล่ล่าชีวิตนิรันดร์ แต่เต่สวรรค์ไม่อนุญาณ วิญญาณชะตากรรมกําหนดให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต้องตาย ดวงวิญญาณของพวกเขาต้องเข้าสู่ประตูแห่งชีวิตและความตาย

 

วิญญาณชะตากรรมคือสิ่งใด?

 

โดยพื้นฐานแล้วมันก็คือส่วนหนึ่งของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์

 

“เทพปีศาจไร้ขอบเขตต้องการชีวิตนิรันดร์ แต่เขาไม่สามารถก้าวข้ามเตสวรรค์ เขาตระหนักถึงเรื่องนี้ดังนั้นเขาจึงพยายามค้นคว้าเกี่ยวกับเส้นทางสวรรค์” ฟางหยวนคาดเดา

 

เทพปีศาจไร้ขอบเขตเคยบุกโจมตีวงสวรรค์ แต่เขาไม่ใช่ปีศาจต่างโลก เขาไม่สามารถทําลายวิญญาณชะตากรรม

 

อย่างไรก็ตามเขายังไม่ยอมแพ้ เขาทํางานหนักขึ้นเพื่อก้าวไปข้างหน้า เขาต้องการค้นหาสาเหตุที่เขาไม่สามารถทําลายวิญญาณชะตากรรมและทําความเข้าใจเส้นทางสวรรค์อย่างถ่องแท้

 

ความทะเยอทะยานและวิธีการของเขา กระทั่งฟางหยวนยังรู้สึกชื่นชม

 

“แล้วข้าจะรวบรวมร่องรอยของพลังงานแห่งเดําบนเส้นทางสวรรค์เหล่านี้ได้อย่างไร?” ฟางหยวนพบปัญหา

 

เขาลองหลายวิธีแต่พวกมันล้วนไร้ประโยชน์

 

เขาสังหรณ์ว่ากระทั่งเขาจะนําคฤหาสน์วิญญาณอมตะรังโจรระดับแปดมาที่นี่ มันก็ยังไร้ประโยชน์หลังจากทั้งหมดมันเห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้เกิดจากวิธีการระดับเก้าของเทพปีศาจไร้ขอบเขต

 

“ข้าต้องควบคุมค่ายกลวิญญาณอมตะของเทพปีศาจไร้ขอบเขตโดยตรง ฟางหยวนรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

 

เขาไม่รู้ว่าเขาจะเข้าไปยังชั้นที่เก่าได้อย่างไร

 

เส้นทางของชั้นที่เจ็ดชัดเจนมาก แต่ในชั้นที่แปด ฟางหยวนอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่าไม่มีเบาะแสใดที่นําไปสู่ชั้นที่เก้า

 

ฟางหยวนไม่รู้แม้แต่ทิศทาง เขาทําได้เพียงล่องลอยไปอย่างไร้จุดหมายเท่านั้น

 

“จนถึงตอนนี้ นี่คือโลกที่ใหญ่ที่สุดที่ข้าเคยเห็น แต่ดูเหมือนมันก่าลังจะถูกทาลาย ไปดูข้างในกันเถอะ”ฟางหยวนคิดและเข้าไปในโลกใบนี้

 

“คารวะท่านนักปราชญ์!”

 

โลกใบนี้มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญา

 

“ท่านนักปราชญ์ ท่านมาเพื่อช่วยโลกใบนี้ใช่หรือไม่?”

 

“ท่านนักปราชญ์ โปรดรับข้าเป็นศิษย์ของท่าน!”

 

สิ่งมีชีวิตเหล่านี้มีร่างกายเหมือนเมฆหมอกร่างมนุษย์ พวกเขาก่าลังพูดคุย

 

“นักปราชญ์?” ฟางหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะตระหนักถึงความหมายที่ยิ่งใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง “นั่นหมายความว่ามีนักปราชญ์คนอื่นนอกจากข้า?”

 

“ถูกต้อง นักปราชญ์ผู้หนึ่งสวมชุดคลุมสีเขียวและโพกศีรษะด้วยผ้าสีขาว มีดอกบัวเบ่งบานขึ้นทุกย่างก้าวที่เขาเดินเขาเป็นผู้สร้างสระบัวเขียว

 

“นักปราชญ์อีกคนเดินเท้าเปล่า เขาส่วนชุดสีเหลือง เขาเป็นคนใจดี เขาเป็นผู้สร้างปฐพี่สีเหลือง

 

“ยังมีอีกคนที่ดูดุร้าย เขาทั้งสูงและแข็งแกร่ง ทุกการเคลื่อนไหวของเขาจะได้ยินเสียงคารามของสัตว์ร้ายดังขึ้นเขาเป็นผู้สร้างทุ่งเต่คลั่ง”

 

มนุษย์หมอกเหล่านี้บอกฟางหยวน