เล่มที่ 28 เล่มที่ 28 ตอนที่ 833 บีบบังคับไปสู่ทางตัน

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

สีหน้าของฮั่วอวี้เจียวทำให้แผ่นหลังของฮั่วซืออวี่เย็นวูบ

“อวี้เจียว เรื่องนี้โทษพระชายาได้อย่างไร? ในตอนนั้น หากไม่ใช่เพราะเจ้ายืนกรานต้องการเดิมพันและทำให้พระองค์ลำบากพระทัย หายนะครั้งนั้นจะมาถึงตัวเจ้าได้อย่างไร? ”

แท้จริงแล้ว สาเหตุที่ทำให้นางมาถึงขั้นนี้ ก็เพราะฮั่วอวี้เจียวทำตนเองทั้งนั้น

อย่างไรเสีย นางก็เป็นน้องสาวของเขา ดังนั้นคำพูดของฮั่วซืออวี่จึงยังมีความละอายใจอยู่บ้าง และไม่พูดครึ่งประโยคหลังออกมา

ใบหน้าบูดบึ้งของฮั่วอวี้เจียวปรากฏรอยยิ้มเยาะเย้ย

“เหอะ ท่านพี่ ท่านพ่อพูดถูกแล้ว! เยี่ยโยวเหยาไม่ใช่คนที่ข้าจะคิดเพ้อฝันได้ ทว่าซูจิ่นซีก็ไม่ใช่คนที่ท่านคิดจะแย่งมาได้ ท่านยอมรับเสียเถิด! วันนี้มาถึงขั้นนี้แล้ว ท่านยังพูดแทนซูุจิ่นซีอีก เหอะ อย่าว่าแต่ความซาบซึ้งเลย แม้แต่เรื่องที่ว่าท่านคิดอย่างไรกับนาง นางก็ยังไม่เข้าใจกระมัง? ”

ฮั่วอวี้เจียวพูดจบ แววตาของนางพลันปรากฏความโดดเดี่ยว ทั้งยังหัวเราะเยาะฮั่วซืออวี่ ทว่าคำพูดเช่นนี้ ราวกับนางกำลังพูดให้ตนเองฟังกระมัง?

เกรงว่าตามอุปนิสัยของโยวอ๋อง เวลานี้ เขาคงไม่รู้ด้วยซ้ำกระมังว่านางคือผู้ใด?

เหอะ เหอะ…

เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ ความอ้างว้างในก้นบึ้งของหัวใจยิ่งรุนแรงมากขึ้น

เยี่ยโยวเหยาไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางคือผู้ใด ตลอดหลายปีมานี้ นางครองตนให้บริสุทธิ์ดั่งหยกโดยไม่ถามความต้องการจากเขาเพื่อเหตุใดกัน?

อย่างไรก็ตาม การหมั้นหมายกับเยี่ยเซินทำให้นางรู้สึกพะอืดพะอม วันนี้ท่านพ่อยังต้องการให้นางอภิเษกกับตาเฒ่าตัณหากลับ นางทำใจไม่ได้จริงๆ ให้ตายก็ทำไม่ได้ ขณะที่สามพ่อลูกกำลังโต้เถียงกันอยู่นั้น จู่ๆ ด้านนอกก็มีเสียงขององครักษ์ดังขึ้น

“ท่านแม่ทัพใหญ่ ท่านแม่ทัพ คุณหนู… ”

“มีเรื่องอันใด? ” ฮั่วซืออวี่ถาม

“ด้านนอกประตู… มีคนมาขอพบพวกท่านอยู่ด้านนอกประตูขอรับ”

ขอพบ?

นี่มันกี่ยาม? ใกล้จะยามจื่ออยู่แล้ว ผู้ใดมาเยือนสกุลฮั่ว?

นับตั้งแต่สกุลฮั่วของเขามาถึงแคว้นตงเฉิน ฮ่องเต้ตงเฉินไม่เคยมอบหมายตำแหน่งสำคัญให้ อย่าว่าแต่ดึกดื่นเที่ยงคืนเลย ต่อให้เป็นกลางวันแสกๆ ก็ไม่มีแขกเหรื่อมาเยี่ยมเยือนแม้แต่คนเดียว นกสักตัวยังไม่ยอมมาเฉียดประตูจวนสกุลฮั่วเลยด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าดึกดื่นป่านนี้ยังมีคนมาจวนสกุลฮั่วอีก

มาแก้แค้นหรือ

“ผู้ใด? ” ฮั่วจีถามอย่างระมัดระวัง

“ไม่… ไม่ชัดเจน ข้าน้อยก็ไม่รู้ว่าเป็นผู้ใด เขาสวมหมวกสาน ข้าน้อยมองไม่เห็นใบหน้าของเขาขอรับ! ”

“มาคนเดียวหรือ? ”

“ใช่ขอรับ ท่านแม่ทัพใหญ่”

คนเดียว?

หากเป็นคนจากราชสำนัก ต่อให้มาก็ควรพาบริวารมาด้วย แม้จะมาเยี่ยมเยียนเป็นการส่วนตัวยามค่ำคืนก็ควรส่งเทียบเชิญแสดงตัวตนก่อน

เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับราชสำนัก

อาจมาแก้แค้น…

ฮั่วจีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยเสียงดัง “กลับไป! บอกว่าข้าหลับแล้ว ให้เขามาใหม่วันพรุ่งนี้”

“เอ่อ… ” เมื่อสิ้นเสียงฮั่วจี เสียงทุ้มต่ำขององครักษ์ด้านนอกก็ดังขึ้น “ท่านแม่ทัพ… ไม่… ไม่ทันแล้ว… ”

ท่าทางของฮั่วจี ฮั่วซืออวี่ และฮั่วอวี้เจียวพลันเปลี่ยนไป ทั้งสามวิ่งไปหยิบกระบี่ออกมาจากชั้นวางอาวุธพร้อมกัน ทว่าฮั่วจียังไม่ทันถือกระบี่แน่น ประตูก็ถูกเปิดออกด้วยพลังภายใน คนที่มาสวมหมวกฟางสีดำ สวมเสื้อสีดำ และปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าวพวกเขาทั้งสามด้วยท่าทีเย็นชา

“ฮั่วจี เจ้านี่มัน… พูดด้วยดีๆ ไม่ยอมทำตาม ต้องให้ใช้กำลังบังคับ”

แม้รูปร่างของคนผู้นั้นจะสูงโปร่งและมั่นคง ทว่าเมื่อส่งเสียงออกมา น้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ได้เผยตัวตนของนางว่าเป็นสตรี นอกจากนั้นยังเป็นน้ำเสียงที่ต่อให้ฮั่วจีตาย เขาก็ไม่มีทางไม่รู้จัก

ร่างกายของฮั่วจีสั่นสะท้านอย่างรุนแรง มือจับกระบี่ไม่มั่นคง กระบี่จึงตกลงบนพื้นเสียงดัง ‘ตึง’

“รัช… รัชทายาท… ”

รัชทายาท?

สีหน้าของฮั่วซืออวี่และฮั่วอวี้เจียวเปลี่ยนไปในทันที

รัชทายาทแคว้นตงเฉิน ตงหลิงหวง?

ตอนที่นางไปพบมู่หรงฉีแห่งแคว้นหนานหลีที่ชายแดนหุบเขามรณะ นางตกหน้าผาตายไปแล้วมิใช่หรือ? เหตุใดถึงได้ปรากฏกายอยู่ที่นี่?

เมื่อตงหลิงหวงกลับมาจากหุบเขาหลูเหว่ย ข่าวของนางถูกปกปิดมาตลอด ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดในราชสำนักรู้ว่านางยังมีชีวิตอยู่

สายตาของฮั่วอวี้เจียวขึงขัง นางยกกระบี่ในมือขึ้นและเล็งไปที่คนชุดดำ

“เลิกเสแสร้ง ตงหลิงหวงตายไปแล้ว เจ้าเป็นใคร? ”

‘ปัง! ’

เมื่อสิ้นเสียงของฮั่วอวี้เจียว ชายชุดดำพลันสะบัดแขนเสื้อ และส่งพลังภายในอันรุนแรงไปที่ใบหน้าของฮั่วอวี้เจียวอย่างจัง จนนางล้มกระแทกพื้นและอาเจียนออกมาเป็นเลือด

“ชื่อของข้า เจ้าบังอาจเรียกตรงๆ ได้หรือ? ”

ฮั่วซืออวี่รีบเข้าไปพยุงน้องสาวตนเอง ฮั่วจีหวาดกลัวจนใบหน้าซีดเผือด เขารีบขอโทษคนชุดดำอย่างรวดเร็ว “รัชทายาทโปรดระงับโทสะ บุตรของข้ามีตาหามีแววไม่ บังอาจล่วงเกินรัชทายาท ขอรัชทายาทโปรดให้อภัย รัชทายาทโปรดให้อภัย”

คนชุดดำถอดหมวกฟางคลุมศีรษะออก เผยให้เห็นใบหน้าสง่างามยากจะหาผู้ใดเปรียบ ใบหน้านั้นชัดเจนว่าเป็นองค์รัชทายาทตงเฉิน ตงหลิงหวงอย่างไม่ต้องสงสัย ตงหลิงหวงเดินไปนั่งที่ตำแหน่งด้านบนอย่างไม่รีบร้อน

แม้จะคาดเดาได้จากน้ำเสียงว่าเป็นตงหลิงหวง ทว่าเมื่อเขาได้เห็นกับตาตนเอง ฮั่วจีก็ตกใจไม่น้อย อย่างไรเสีย ทุกคนก็ทราบเพียงว่าตงหลิงหวงตายไปแล้ว… และเวลานี้ หลู่หยางอ๋องกำลังจะขึ้นครองบัลลังก์

ตอนนี้รัชทายาทตงหลิงปรากฏตัวที่เมืองหลวง ทั้งยังปรากฏตัวในจวนสกุลฮั่ว นี่เป็นเรื่องที่สั่นสะเทือนไปทั้งราชสำนักอย่างไม่ต้องสงสัย

ฮั่วจีต้องใช้พละกำลังอย่างมากเพื่อผ่อนคลายความตกใจ และทำให้ท่าทางและน้ำเสียงของเขาดูปกติมากขึ้น จากนั้นจึงทำความเคารพตงหลิงหวงที่นั่งอยู่บนตำแหน่งสูงสุด

“ไม่ทราบว่ารัชทายาทเสด็จมาจวนฮั่วของพวกเราในยามนี้ ทรงมีธุระอันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ? ”

ตงหลิงหวงมีท่าทางสง่าผ่าเผยอย่างมาก แม้จะสวมชุดสีดำในยามค่ำคืน ทว่าไม่อาจปกปิดความสง่างามสูงศักดิ์ของนางได้

นางพูดตรงประเด็น “ฮั่วจี ครั้งนี้ ข้าจะให้โอกาสสกุลฮั่วของเจ้าได้เชิดหน้าชูตา เจ้าต้องการหรือไม่? ”

โอกาสเชิดหน้าชูตาทำงานใหญ่ ตั้งแต่มาที่แคว้นตงเฉิน เขาใฝ่ฝันที่จะได้รับโอกาสเช่นนี้ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีทางทนเจ็บปวดใจให้บุตรสาวของตนอภิเษกกับหลู่หยางอ๋อง

ฮั่วจีตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง สายตาเป็นประกายทันที “ไม่ทราบว่ารัชทายาททรงหมายถึง… ”

ตงหลิงหวงยังคงพูดอย่างตรงไปตรงมาและเน้นย้ำ “ตอนนี้ฝ่าบาทประทับอยู่ที่เมืองหลานโจว ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการของแคว้นตงเฉินของข้า หลู่หยางอ๋องก่อกบฏ ฝ่าบาทจะรบกับเขาไม่ช้าก็เร็ว ทว่าสงครามครั้งนี้… ข้าต้องการให้แม่ทัพใหญ่ฮั่วเสนอตัวรับใช้อยู่ฝั่งข้า

แม่ทัพใหญ่ฮั่วเป็นคนฉลาด เมื่อก่อนเป็นอย่างไรไม่ต้องกล่าวถึง สกุลฮั่วผ่านมรสุมมามากมาย ตอนนี้ท่านเองก็รู้สถานการณ์เป็นอย่างดี โอกาสมาอยู่ตรงหน้าแล้ว จะเลือกอย่างไร แม่ทัพใหญ่ฮั่วต้องพิจารณาให้ดี”

ต้องพูดว่าเมื่อเผชิญหน้ากับโอกาสดังกล่าว ฮั่วจียังลังเลเล็กน้อย

นี่เป็นปัญหาในราชสำนัก สุดท้ายแล้วจะเป็นหลู่หยางอ๋องหรือฮ่องเต้ตงเฉินเป็นฝ่ายชนะนั้น ยังพูดได้ยาก หากยืนผิดฝั่ง สกุลฮั่วมีหวังจบสิ้นแน่

ฮั่วอวี้เจียวและฮั่วซืออวี่รู้ว่า ที่บิดานิ่งเงียบครู่ใหญ่เช่นนี้ ในใจของเขากำลังคิดอันใด

ฮั่วอวี้เจียวเม้มริมฝีปากและพูดว่า “องค์รัชทายาท หม่อมฉันขออภัยที่ต้องพูดตามตรง ตอนนี้แคว้นตงเฉินครึ่งหนึ่งถูกกองทัพหลู่หยางอ๋องยึดครองแล้ว ทั้งเมืองหลวงตกอยู่ภายใต้อำนาจของหลู่หยางอ๋อง ไม่กี่วันเขาจะขึ้นครองบัลลังก์ ผู้ที่มีสายตาเฉียบแหลมย่อมรู้ดีว่าการจะโค่นล้มหลู่หยางอ๋องเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

องค์รัชทายาทเพิ่งเสร็จสิ้นจากการต่อสู้ที่ชายแดน กองทัพอ่อนแอ ชัยภูมิเมืองหลานโจวด้อยกว่ามาก หม่อมฉันต้องการทราบว่ารัชทายาทจะเอาชนะหลู่หยางอ๋องได้อย่างไร พระองค์มาพบสกุลฮั่วของหม่อมฉันในเวลานี้ บีบบังคับให้ท่านพ่อพึ่งพิงพระองค์ นี่เป็นการบีบบังคับสกุลฮั่วของเราไปสู่ทางตันมิใช่หรือ?”