ตอนที่ 765 แลกเปลี่ยนด้วยสิ่งของ

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

วิธีการซื้อขายแลกเปลี่ยนของดินแดนมหาเทพและดินแดนอื่น ๆ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สกุลเงินหลักของที่นี่มิใช่เหรียญทองหรือหินผลึก หากแต่เป็นแก่นหินวิญญาณที่สกัดได้จากเหมืองวิญญาณ เหมืองวิญญาณมีอยู่ในการดูแลของหลายขุมกำลังใหญ่และคนทั่วไปสามารถนำสิ่งของไปแลกแก่นหินวิญญาณได้จากธนาคารหลายแห่ง

หลังจากฉินอวี้โม่มาถึงดินแดนมหาเทพแห่งนี้ นางก็ใช้เวลาอยู่ในเมืองฉินและอำเภอซ่างหยวนเพียงเท่านั้น ก่อนหน้านี้นางก็ไม่มีเวลาไปแลกแก่นหินวิญญาณจากที่ใดจึงเป็นธรรมดาที่นางจะไม่มีเงินทองติดตัว

“เรื่องนี้มิใช่ปัญหา ท่านสามารถนำสิ่งของมีค่ามาแลกเปลี่ยนได้ ท่านลองสำรวจดูก่อนเถอะว่าท่านมีสมบัติใด ๆ ที่มีค่าพอจะแลกเปลี่ยนได้ ตราบใดที่ประเมินแล้วพบว่ามีมูลค่าที่เทียบเท่ากัน มันก็ใช้แลกเปลี่ยนเหล็กนิลหมื่นปีจำนวนสองพันก้อนได้”

ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการของศูนย์การค้าจ้าวสมุทรหรือหลานเผิง พวกเขาต่างก็ไม่เชื่อว่าฉินอวี้โม่จะยากจนไร้เงินทองจริง ๆ เกรงว่าเป็นเพราะนางไม่มีเวลาไปแลกเงินที่ธนาคารมากกว่า นางจึงกล่าวว่าไม่มีเงินเช่นนี้

ทุกคนในดินแดนทราบดีว่าศูนย์การค้าจ้าวสมุทรเป็นธุรกิจของตระกูลหลาน ทว่ามีเพียงน้อยคนเท่านั้นที่จะทราบว่าธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในดินแดนอย่างธนาคารจตุรทิศก็เป็นของตระกูลหลานเช่นกัน

“รอประเดี๋ยว ข้าขอดูก่อน…”

ความคิดของฉินอวี้โม่แล่นอย่างรวดเร็วและตัดสินใจตรวจดูรายการสิ่งของทั้งหมดที่มีในคฤหาสน์เฟิงหัวเพื่อค้นหาสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อนางและสามารถใช้แลกเปลี่ยนได้

“แค่นี้ถือว่าพอรึไม่ ?”

ภายในเวลาเพียงไม่นาน นางก็รวบรวมวัตถุสิ่งของจำนวนมากที่ไม่มีประโยชน์ต่อตนเองและนำพวกมันออกมากองไว้ในห้องนี้

ทันใดนั้น ห้องพิเศษที่ว่างในตอนแรก ทว่าในเวลานี้มันกลับเต็มไปด้วยสิ่งของจำนวนมากที่กองอยู่เต็มครึ่งห้องทันที อาวุธและอุปกรณ์มากมายกองพะเนินสูงบนพื้นอย่างละลานตา ไม่ว่าจะเป็นอาวุธระดับสูงที่ฉินอวี้โม่เคยหลอมไว้ สมุนไพรวิญญาณจำนวนหนึ่งที่นางรวบรวมไว้ เมล็ดต้นโพธิ์หลายเมล็ดที่เสี่ยวโพธิ์สกัดออกมาและสิ่งอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อฉินอวี้โม่เพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย

“นี่มัน…”

บุรุษวัยกลางคนซึ่งเป็นผู้จัดการก็พูดจาตะกุกตะกักไปทันที เขาไม่คาดคิดเลยว่าฉินอวี้โม่จะนำสิ่งของจำนวนมากเช่นนี้ออกมาในคราวเดียว

แม้ด้วยข่าวลือหนาหูว่าสตรีผู้นี้มิใช่สตรีที่ธรรมดา เขาก็คิดไม่ถึงเลยว่าฉินอวี้โม่จะมีสมบัติล้ำค่ามากมายถึงเพียงนี้

อาวุธและอุปกรณ์คุณภาพสูงเกือบหนึ่งร้อยชิ้นนี้สามารถขายได้ในราคาที่สูงลิ่วต่อให้วางขายในศูนย์การค้าก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรวิญญาณระดับสูงที่หายากหรือเมล็ดพันธุ์ของต้นโพธิ์ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งของล้ำค่าอย่างยิ่ง ต่อให้เป็นงานประมูล พวกมันก็มีคุณสมบัติและคุณค่ามากพอที่จะนำออกไปประมูลได้

“ท่านไปปล้นขุมกำลังใหญ่ที่ใดมา ?! มีสมบัติมากมายเหลือเกิน !”

หลานเผิงเองก็ตกตะลึงไม่ต่างกันและคิดไม่ถึงว่าฉินอวี้โม่จะมีสมบัติมากมายเช่นนี้อยู่กับตัว จอมยุทธ์ที่ปรากฏตัวอย่างไร้ที่มาที่ไปและเพิ่งสร้างชื่อได้เพียงไม่นานผู้นี้ไม่เพียงแต่มีความแข็งแกร่งและพรสวรรค์ที่โดดเด่นเท่านั้น ทว่านางยังมีสมบัติล้ำค่าจำนวนมากที่หายากแม้แต่ในดินแดนนี้ ฉินอวี้โม่ผู้นี้มาจากที่ใดกัน ?

“สิ่งของพวกนี้เป็นสิ่งที่ข้าหลอมขึ้นมาเอง หากยังไม่มากพอละก็ ข้ายังมีอีกมาก”

ฉินอวี้โม่ไม่ทราบมูลค่าของสิ่งเหล่านี้ภายในดินแดนมหาเทพ เมื่อเห็นผู้จัดการตรงหน้าชะงักนิ่งไป นางจึงกล่าวเสริมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

“พะ…พอ มันมากพอ…มากพอแล้ว”

ผู้จัดการรีบเรียกสติกลับคืนมาและกล่าวออกไปทันที ทว่าเมื่อกำลังจะกล่าวต่อ เขาก็ไตร่ตรองถึงวาจาเมื่อครู่นี้ของฉินอวี้โม่และตกตะลึงอีกครั้ง

“ท่านบอกว่า…สิ่งของพวกนี้เป็นสิ่งที่ท่านหลอมด้วยตัวเองอย่างนั้นหรือ ?”

หลานเผิงมองฉินอวี้โม่ด้วยแววตาประหลาดใจยิ่งกว่าเดิม พวกเขาไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับนางมากนักและแม้ต้องการสืบข่าวคราวเพิ่มเติมก็ไม่พบเบาะแสใด หากกล่าวว่านางเป็นคนหลอมอุปกรณ์อาวุธระดับสูงเหล่านี้ขึ้นมาเอง นั่นก็หมายความว่านางน่าจะเป็นช่างหลอมที่อยู่ในระดับสูงมาก

ต้องกล่าวเลยว่าอาวุธและอุปกรณ์ที่กองเต็มห้องในตอนนี้ส่วนใหญ่อยู่ในระดับต่ำ ทว่าก็มีส่วนหนึ่งอยู่ในระดับสูงถึงระดับปฐพีด้วยเช่นกัน

(ระดับของอุปกรณ์ในดินแดนมหาเทพ: ระดับต่ำ ระดับกลาง ระดับสูง ระดับปฐพี ระดับสวรรค์ ระดับตำนาน และระดับศักดิ์สิทธิ์)

“พวกมันเป็นสิ่งหลอมที่ไม่น่าภูมิใจเท่าใดนัก”

ฉินอวี้โม่ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าฝีมือการหลอมของตนในตอนนี้อยู่ระดับใด ในดินแดนเทพมายา ช่างหลอมระดับจักรพรรดิถือว่าเป็นจุดสูงสุดและความสามารถในการหลอมของนางก็บรรลุระดับช่างหลอมระดับจักรพรรดิแล้ว หลังจากการพัฒนาที่ผ่านมา คาดว่าความแข็งแกร่งของนางก็น่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

“ของพวกนี้เป็นของที่ไม่น่าภูมิใจอย่างนั้นหรือ…”

ผู้จัดการที่เพิ่งเรียกสติกลับคืนมาต้องตกตะลึงอีกครั้งจนชะงักค้างไปทันที

หากสิ่งของล้ำค่าเหล่านี้เป็นสิ่งที่ ‘ไม่น่าภูมิใจ’ แล้วสินค้าที่พวกเขาขายในศูนย์การค้ามาตลอดเวลาที่ผ่านมาเล่า ? อุปกรณ์ระดับปฐพีเป็นสิ่งที่พบได้ยากอย่างยิ่งในดินแดนมหาเทพและอุปกรณ์ระดับปฐพีชั้นยอดก็ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยชีวิตจอมยุทธ์ในคราวจำเป็นได้ ทว่าในสายตาของฉินอวี้โม่ อุปกรณ์ระดับปฐพีเป็นเพียงสิ่งที่ไม่น่าภูมิใจเท่าใดนัก แท้จริงแล้วฝีมือการหลอมของนางอยู่ในระดับใดกัน ?

“เอาล่ะ เอาล่ะ อย่าเพิ่งทำให้ตกตะลึงกันไปมากกว่านี้เลย ด้วยการที่ท่านมีอายุเพียงเท่านี้ ท่านก็ถือว่าเป็นช่างหลอมที่มากพรสวรรค์ซึ่งมีฝีมือล้ำเลิศจริง ๆ ตราบใดที่ท่านต้องการ ข้าเชื่อว่าชื่อเสียงของท่านจะก้องกังวานไปทั่วทั้งดินแดนมหาเทพอย่างแน่นอน แม้แต่ตระกูลใหญ่เหล่านั้นก็คงจะต้องการเชิญท่านเข้าร่วมกับพวกเขาด้วยความกระตือรือร้นแน่”

หลานเผิงส่ายศีรษะเบา ๆ และกล่าวออกไปตามความจริง ไม่ว่าอยู่ที่ใด ช่างหลอมและผู้หลอมโอสถ รวมถึงผู้ฝึกสัตว์อสูรล้วนได้รับความนิยมชมชอบอยู่เสมอ สำหรับฉินอวี้โม่ที่สามารถหลอมอุปกรณ์ระดับปฐพีจำนวนมากได้อย่างง่ายดาย หากไปเยือนตระกูลหลานของพวกเขา นางก็อาจได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อาวุโสของตระกูลได้ง่าย ๆ ส่วนขุมกำลังอื่น ๆ นั้น ตราบใดที่ทราบถึงฝีมือในการหลอมของนาง เชื่อว่าพวกเขาจะต้องหาทางผูกมิตรและพยายามเข้าหาฉินอวี้โม่อย่างแน่นอน ต่อให้เป็นสมาคมช่างหลอมของดินแดนนี้ หากว่าฉินอวี้โม่เต็มใจเข้าร่วม นางก็จะมีสถานะที่เป็นรองเพียงแค่ประธานสมาคมเท่านั้น

“จริงหรือ ?”

ฉินอวี้โม่ชะงักไปเล็กน้อย เดิมทีนางคิดว่าทุกคนในดินแดนมหาเทพจะทรงพลังเกินเอื้อม ทว่าเมื่อพิจารณาจากปฏิกิริยาของหลานเผิงและผู้จัดการคนนี้ เห็นทีนางคงจะคิดผิดไป ระดับฝีมือในการหลอมอุปกรณ์ในดินแดนนี้คงจะไม่ต่างจากดินแดนเทพมายามากนัก

“ลุงติง สั่งให้คนตีมูลค่าสิ่งของเหล่านี้ทันทีและส่งคนไปเตรียมเหล็กนิลหมื่นปีสองพันก้อนใส่แหวนมิติมาให้กับจอมยุทธ์ฉินอวี้โม่ได้เลย”

หลานเผิงก็หันไปสั่งการกับลุงติงซึ่งเป็นผู้จัดการของที่นี่ทันที

“ขอรับ”

ลุงติงพยักศีรษะรับคำและโบกมือเพื่อเก็บสิ่งของทั้งหมดในห้องลงในแหวนมิติก่อนหันหลังเดินออกจากห้องไป

“ท่านไม่กลัวรึว่าพวกเราจะขโมยของพวกนี้ไปเสียดื้อ ๆ ?”

เมื่อเห็นฉินอวี้โม่นั่งนิ่งด้วยใบหน้าเรียบเฉยและไม่คิดจะคัดค้านสิ่งใด หลานเผิงก็อดเอ่ยถามออกไปไม่ได้

ด้วยสิ่งของล้ำค่าจำนวนมากเช่นนี้ ทว่าฉินอวี้โม่กลับดูเหมือนจะไม่สนใจพวกมันเลยสักนิด นอกจากสิ่งที่พวกเขาเห็นแล้วฉินอวี้โม่ยังมีสมบัติล้ำค่าอีกมากเพียงใดกัน ?

“ข้าเชื่อว่าศูนย์การค้าจ้าวสมุทรมีความน่าเชื่อถือและไว้วางใจได้”

ฉินอวี้โม่ยิ้มและกล่าวตอบอย่างไร้ความกังวล ในฐานะที่เป็นศูนย์การค้าอันดับหนึ่งของดินแดน ฉินอวี้โม่ไม่นึกกังขาในความน่าเชื่อถือของศูนย์การค้าจ้าวสมุทรแม้แต่น้อย ในความจริง สำหรับอุปกรณ์อาวุธเหล่านั้น บางส่วนก็ยังไม่มีค่าพอที่จะนำไปใช้ในงานประมูลด้วยซ้ำ

“ฮ่า ๆ ๆ ท่านจอมยุทธ์เป็นคนตรงไปตรงมาจริง ๆ !”

หลานเผิงหัวเราะชอบใจและมองฉินอวี้โม่ด้วยแววตาชื่นชมมากยิ่งขึ้น

“จะว่าไปแล้ว…ท่านสนใจเข้าร่วมตระกูลหลานของเรารึไม่ ?”

เขากล่าวเชื้อเชิญฉินอวี้โม่อย่างเปิดเผย

แม้ไม่ทราบอย่างแน่ชัดว่านางมาจากที่ใดและมีภูมิหลังที่แท้จริงเป็นอย่างไร หลานเผิงก็รับรู้ว่าสถานการณ์ของฉินอวี้โม่ในตอนนี้ไม่สู้ดีนัก

ตระกูลเฝิงและตระกูลจูจับตาดูนางอย่างใกล้ชิดและจอมยุทธ์จากตระกูลเล็ก ๆ อย่างตระกูลฉื่อไม่มีทางเอาชนะพวกเขาได้แน่ หากได้รับการคุ้มครองจากตระกูลหลาน ตระกูลเฝิงคงไม่กล้าทำอะไรฉินอวี้โม่อย่างแน่นอน

“ไม่ต้องกังวล ท่านไม่จำเป็นต้องทำสิ่งใดเพื่อเข้าร่วมตระกูลหลานของเรา ท่านน่าจะทราบดีว่าตระกูลหลานของเราให้ความสำคัญกับเงินทองและไม่เข้าร่วมสงครามในดินแดน ตราบใดที่ท่านหลอมอุปกรณ์ให้เรานำไปประมูลเป็นครั้งคราว ไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใดก็ไม่มีใครขัดขวาง”

เมื่อเห็นฉินอวี้โม่กำลังจะปฏิเสธ หลานเผิงก็รีบกล่าวต่อทันที

หากมีจอมยุทธ์มากพรสวรรค์เช่นนี้เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลหลาน ในอนาคต มันจะมีส่วนช่วยพวกเขาได้เป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่ได้พูดคุยกันพักหนึ่ง เขาก็รู้สึกถูกชะตากับฉินอวี้โม่มากและต้องการผูกมิตรกันจากใจจริง

“ข้าก็ยินดีมาก เพียงแต่ตอนนี้ยังมิใช่เวลาที่ดีนัก”

วาจาของหลานเผิงทำให้ฉินอวี้โม่มั่นใจได้ว่าบุรุษหนุ่มผู้นี้จะต้องมีสถานะที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เขาน่าจะเป็นทายาทสายตรงของตระกูลหลานและมีสถานะในตระกูลที่สูงมาก จริงอยู่ว่าการเข้าร่วมตระกูลหลานเป็นผลดีกับนางในหลาย ๆ ด้าน ทว่าตอนนี้ยังมิใช่เวลาที่เหมาะสม

เนื่องจากทราบเบาะแสของมารดา ฉินอวี้โม่ก็อยากจะตามหามารดาให้พบเสียก่อนและนางจะต้องผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมสามสำนักและเก้านิกายให้ได้ หากเข้าร่วมเป็นสมาชิกของตระกูลหลานในตอนนี้ มันก็อาจนำพาปัญหาความวุ่นวายมาสู่พวกเขาในอนาคต

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการสนับสนุนของตระกูลหลาน เส้นทางของนางจะราบรื่นมากขึ้นและมันก็เปรียบเสมือนเส้นทางที่โปรยด้วยกลีบกุหลาบ มีเพียงการเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่องเท่านั้นที่จะทำให้นางพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว ฉินอวี้โม่ต้องการทะลวงพลังให้สำเร็จเสียก่อนและเมื่อถึงตอนนั้นความแข็งแกร่งของนางจะเลื่องลือไปทั่วดินแดนอย่างแน่นอน

“เข้าใจแล้ว ทว่าเมื่อใดที่ท่านต้องการ ท่านก็มาหาข้าได้ทุกเมื่อ ตระกูลหลานของเรายินดีต้อนรับท่านเสมอ”

หลานเผิงผิดหวังเล็กน้อย ทว่าเขาก็ไม่พยายามบังคับหรือกดดันอีกฝ่าย เขาทราบดีว่าฉินอวี้โม่คงจะมีแผนการที่เตรียมไว้แล้วจึงไม่กล่าวสิ่งใดให้มากความ

จากนั้นเขาก็หยิบป้ายหยกแผ่นหนึ่งออกมายื่นให้กับฉินอวี้โม่ตรงหน้าพร้อมกล่าว “นี่คือป้ายจ้าวสมุทรของศูนย์การค้าจ้าวสมุทรของเราซึ่งมีทั้งหมดเพียงห้าแผ่นเท่านั้น ด้วยป้ายจ้าวสมุทรนี้ ท่านสามารถนำสินค้ามาประมูลได้โดยที่ไม่เสียค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ เมื่อท่านซื้อสินค้า ท่านก็จะซื้อได้ในราคาพิเศษซึ่งลดไปถึงร้อยละสามสิบและสามารถใช้อำนาจอิทธิพลบางอย่างของตระกูลหลานได้ หากท่านต้องการเข้าร่วมตระกูลของเราเมื่อใด ท่านก็เพียงนำป้ายจ้าวสมุทรนี้ไปแสดงที่ศูนย์การค้าจ้าวสมุทรสาขาใดก็ได้ เมื่อได้รับข่าว ข้าจะรีบหาทางติดต่อท่านโดยเร็วที่สุด”

ป้ายจ้าวสมุทรคือป้ายหยกที่มีความสำคัญอย่างมากต่อตระกูลหลาน มันมีเพียงห้าแผ่นเท่านั้นโดยสองแผ่นอยู่ที่ผู้นำตระกูลหลาน อีกสองแผ่นอยู่ที่ผู้อาวุโสของตระกูลและแผ่นสุดท้ายอยู่ที่หลานเผิงนี่เอง เมื่อใดที่ป้ายจ้าวสมุทรถูกส่งมอบไป มันเป็นเครื่องแสดงว่าตระกูลหลานยอมรับในตัวคนผู้นั้น นับตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้ แผ่นที่ยื่นให้ฉินอวี้โม่ถือเป็นแผ่นแรกที่ตระกูลหลานมอบให้ผู้ใด

“โปรดอย่าปฏิเสธเลย ข้าอยากผูกมิตรกับท่านและข้าเชื่อว่าการที่มอบแผ่นป้ายจ้าวสมุทรให้กับท่าน ตระกูลหลานของเราจะไม่เสียผลประโยชน์อย่างแน่นอน”

เมื่อเห็นฉินอวี้โม่มีท่าทีราวกับกำลังจะปฏิเสธ หลานเผิงก็รีบกล่าวเสริมขึ้นมาทันที

เขาเชื่อมั่นในตัวตนและพรสวรรค์ของฉินอวี้โม่อย่างมาก การมอบของสำคัญเช่นนี้ให้กับนางจะเป็นเรื่องดีต่อตระกูลหลานอย่างแน่นอน

เมื่อชื่อเสียงของนางโด่งดังไปทั่วดินแดน มันก็อาจเป็นการสร้างอิทธิพลและเสริมสร้างบารมีให้กับตระกูลหลานเช่นกัน

“ถ้าเช่นนั้นก็ตกลง ข้าจะไม่ปฏิเสธ”

แม้ฉินอวี้โม่จะไม่ทราบถึงความสำคัญของป้ายจ้าวสมุทรมากนัก นางก็พอจะคาดเดาได้บ้างแล้ว หลังจากรับมันมา นางก็ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนหยิบผลโพธิ์ออกมาจากคฤหาสน์เฟิงหัว

“ข้าขอมอบผลโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์นี้ให้ท่าน ท่านก็ห้ามปฏิเสธเช่นกัน”

นางยังมีผลโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์อยู่กับตัวอีกสามผล ในเมื่ออีกฝ่ายต้องการผูกมิตร นางก็ไม่ควรที่จะเสียมารยาทและต้องตอบแทนน้ำใจอีกฝ่ายเช่นกัน

“ผลโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์ มีของแบบนี้อยู่ในดินแดนจริง ๆ รึนี่ !”

หลานเผิงมีสีหน้าประหลาดใจทันที เขาเคยเห็นผลโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์จากในตำราเท่านั้นและทราบว่าเป็นสิ่งที่หายากอย่างมาก ไม่คิดเลยว่าฉินอวี้โม่จะมีมันอยู่กับตัว

“นายน้อย สินค้าของจอมยุทธ์ฉินอวี้โม่พร้อมแล้วขอรับ”

เสียงของผู้จัดการศูนย์การค้าดังขึ้นแทรกจังหวะของหลานเผิง