“กระหม่อมมีเรื่องหนึ่ง ต้องการสอบถามองค์รัชทายาท”
“ว่ามา? ”
“กระหม่อมได้ยินมาว่า เมื่อหลายวันก่อน ฉางอันกงจู่จากแคว้นหนานหลีเสด็จมาที่ชายแดนด้วย พระองค์เพิ่งเสด็จกลับมาจากสนามรบ ไม่ทราบว่า… พระองค์ทรงพบกับฉางอันกงจู่หรือไม่? ”
ฮั่วซืออวี่ถามถึงซูจิ่นซี?
ตงหลิงหวงมองไปยังฮั่วซืออวี่ด้วยแววตาที่เข้มขึ้นเล็กน้อย
“พบ”
แววตาแห่งความหวังปรากฏขึ้นในดวงตาของฮั่วซืออวี่ “จริงหรือ แล้วฉางอันกงจู่เป็นอย่างไรบ้าง? นางสบายดีหรือไม่? ”
ตงหลิงหวงไม่ได้ตอบคำถามฮั่วซืออวี่ตรงๆ ทว่านางมองฮั่วซืออวี่อย่างครุ่นคิดครู่หนึ่ง และตอบไปว่า “คุณชายใหญ่ฮั่ว… ดูเหมือนท่านจะเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องซูจิ่นซี ทำไม… ตอนอยู่ในแคว้นจงหนิง พวกเจ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันหรือ? ”
ฮั่วซืออวี่พยายามควบคุมอารมณ์และสีหน้าของเขาให้สงบที่สุด และพยายามทำให้ตนเองดูปกติ
“หากกล่าวถึงความสัมพันธ์ก็นับว่าพอใช้ได้ กระหม่อมถูกคนของแคว้นไหวเจียงวางยาพิษจนเกือบเสียชีวิต กงจู่ได้ช่วยชีวิตกระหม่อมไว้พ่ะย่ะค่ะ”
“มีโยวอ๋องอยู่ข้างกาย ข้าคิดว่า… ซูจิ่นซีคงมีชีวิตที่ดี”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาเป็นประกายของฮั่วซืออวี่พลันหรี่ลงเล็กน้อย เขาเลื่อนหลบสายตาไม่กล้าสบตาตงหลิงหวงโดยตรง
“โอ้! กระหม่อมลืมไปเสียสนิท มีโยวอ๋องอยู่ ฉางอันกงจู่จะต้องปลอดภัยแน่นอน”
ตงหลิงหวงไม่พูดอันใดอีก ก่อนจะกระโดดข้ามกำแพงและจากไป
ฮั่วซืออวี่มีท่าทางตกตะลึงเล็กน้อยและยืนอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่ง
แสงจันทร์คืนนี้สว่างไสว เงาของฮั่วซืออวี่ทอดยาว
ผ่านไปครู่ใหญ่ ร่างกายแข็งทื่อของเขาค่อยๆ หันหลังกลับมาอย่างเชื่องช้า และมองขึ้นไปยังดวงจันทร์ที่สว่างไสวบนท้องฟ้า ใบหน้าของเขาแข็งทื่อ แม้แต่รอยยิ้มเยาะยังดูแข็งกระด้างและเย็นชา
สายลมในฤดูใบไม้ร่วงช่างเย็นสบาย แสงจันทร์ในฤดูใบไม้ร่วงช่างสดใส ใบไม้ที่ร่วงหล่นรวมกันและกระจัดกระจาย ไม่รู้เมื่อใดจะได้พบพาน ค่ำคืนวันนี้ช่างอ้างว้างยิ่งนัก
เมื่อเข้าสู่ประตูแห่งความรัก เขารู้ว่าความรักนั้นทุกข์ระทม ความคิดคะนึงหายิ่งเนิ่นนานยิ่งอาลัยอาวรณ์สุดจะเปรียบ ความคิดคะนึงยิ่งน้อยแต่ไม่มีวันสิ้นสุด หากรู้แต่แรกว่าจะต้องทุกข์ทรมานเช่นนี้ มิสู้อย่าได้พบพานกันเสียดีกว่า
นับตั้งแต่วันนั้น สตรีงดงามผู้นั้นได้ช่วยชีวิตเขาไว้ ตั้งแต่วันนั้น สตรีผู้นั้นได้ปรากฏเข้ามาในชีวิตของเขา ชั่วชีวิตนี้ เขาไม่สามารถมีสตรีอื่นในใจได้อีกต่อไป
ทว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำในชีวิตนี้ ตรงกันข้ามกับรักแท้ที่มีต่อนาง และห่างไกลจากนางมากขึ้นเรื่อยๆ
ฉางอันกงจู่ พระชายา จิ่นซี…
ในชีวิตนี้ ข้ายังสามารถทำอันใดให้เจ้าได้อีก?
……
ในเมืองหลวงแคว้นตงเฉิน เวลานี้เป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดสำหรับตงหลิงหวง ทว่าหลังออกมาจากจวนสกุลฮั่ว ตงหลิงหวงไม่ได้ออกจากเมืองทันที แต่ตรงไปยังสถานที่อีกแห่งหนึ่ง
เรือนหลังจวนหลู่หยางอ๋อง ตงหลิงจวิ้นซื่อจื่อ [1] ปัดจานอาหารและถ้วยชามบนโต๊ะจนร่วงลงมาบนพื้น
ทันใดนั้นก็มีควันจางๆ ลอยขึ้นจากพรม และเกิดเป็นเสียงฟู่ เนื่องจากบางอย่างหลอมละลาย
ผู้ใดที่สายตาเฉียบแหลมย่อมรู้ว่าเกิดอันใดขึ้น อาหารเหล่านั้นมีพิษ
ตงหลิงจวิ้นชี้หน้านางกำนัลตรงหน้าเขาอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น
“เจ้า… พวกเจ้าช่างบางอาจยิ่งนัก กล้าวางยาพิษข้าหรือ? ”
เมื่อเรื่องนี้ถูกเปิดเผย หลายคนต่างตกใจจนหน้าถอดสี ทว่ามีนางกำนัลสูงวัยนางหนึ่งที่มองตงหลิงจวิ้นอย่างไม่เกรงกลัว
“บ่าวต้องขออภัยซื่อจื่อด้วยเพคะ พวกบ่าวทำตามพระประสงค์ของพระสนมน่าหลาน พระสนมน่าหลานทรงรับสั่งว่าคืนนี้พวกเราต้องส่งเสด็จซื่อจื่อ พระสนมต้องการให้พระองค์สิ้นพระชนม์ในคืนนี้ บ่าวไม่กล้าขัดคำสั่งเพคะ
พระองค์อดทนอีกนิดเดียว พวกบ่าวจะทำให้ไวที่สุด จะไม่ทำให้ซื่อจื่อต้องทรมานเพคะ อีกทั้ง… ยังจะทำให้พระศพของพระองค์ครบสมบูรณ์เพคะ”
นางพูดแล้วยกมือขึ้น “เข้ามา! ”
องครักษ์จำนวนหนึ่งเดินเข้ามาควบคุมตงหลิงจวิ้น
แม้ตงหลิงจวิ้นจะมีวรยุทธ์ ทว่าวรยุทธ์ของเขาไม่สูงนัก องครักษ์ที่รูปร่างสูงใหญ่แข็งแกร่งกว่าจึงกดตัวเขาลงกับพื้น เขาไม่มีโอกาสต่อต้านได้เลย
นางกำนัลสูงวัยเดินมาข้างหน้าด้วยสีหน้าโหดร้าย พร้อมกับถ้วยที่มีน้ำสีดำ นางบีบกรามของตงหลิงจวิ้นและต้องการกรอกน้ำยาพิษในชามลงไปในลำคอของเขา
ตงหลิงจวิ้นปิดปากแน่น ปฏิเสธที่จะดื่ม
“ดื่ม ดื่ม ดื่มเข้าไปเดี๋ยวนี้! ”
สีหน้าของนางกำนัลสูงวัยน่ากลัวราวกับปีศาจ เล็บของนางฝังลึกเข้าไปที่กรามของตงหลิงจวิ้นจนมีเลือดซึมออกมา “ซื่อจื่อ อย่าถือโทษว่าพวกบ่าวโหดร้ายเลย ผู้ใดสั่งให้พระองค์ขวางทางพระสนมน่าหลาน! ทารกในพระครรภ์ของพระสนมน่าหลานใกล้จะคลอดแล้ว ขอเพียงพระองค์สิ้นพระชนม์ รอจนท่านอ๋องเสด็จขึ้นครองบัลลังก์ และทารกในพระครรภ์ของพระสนมประสูติออกมาเป็นองค์รัชทายาท ต่อไปพระโอรสก็จะเป็นเจ้าครองแคว้นตงเฉิน ใต้หล้านี้ก็จะเป็นของพระสนมน่าหลานกับองค์รัชทายาท
ซื่อจื่อเป็นคนก็ควรทำให้ถึงที่สุด ส่งพระพุทธเจ้าไปให้ถึงทิศตะวันตก ดื่มยานี้ลงไปเสียเถิด! อย่างไรเสีย… พระชายาทรงสิ้นพระชนม์ไปแล้ว ไม่มีประโยชน์อันใดที่ซื่อจื่อจะอยู่บนโลกนี้เพียงลำพัง”
พระชายาทรงสิ้นพระชนม์ไปแล้ว?
ตงหลิงจวิ้นหน้าถอดสีทันที “บ่าวชั่ว เจ้ากำลังพูดเรื่องอันใด เสด็จแม่ของข้า… เสด็จแม่ของข้าเป็นอย่างไร? ”
ทว่าสิ่งที่ตอบเขาได้คือชามน้ำยาสีดำรสขมใบนี้
สาเหตุที่นางกำนัลผู้นั้นกล่าวถึงพระชายาหลู่หยางอ๋อง ก็เพื่อล่อให้เขาเปิดปากเท่านั้น
ทันทีที่เขาอ้าปาก ถ้วยยาก็ถูกดันเข้ามา น้ำยาไหลลงไปในปากของเขาอย่างรวดเร็ว และไหลเข้าไปในปากของเขา
“ดื่ม ดื่มให้หมด ดื่มให้หมด! ”
ใบหน้าของนางกำนัลสูงวัยบูดบึ้ง
ทว่าน้ำยาไหลลงไปในลำคอของตงหลิงจวิ้นไม่เท่าไร พลังภายในที่แข็งแกร่งก็พุ่งเข้ามา ถ้วยยาในมือถูกผลักออกไปอย่างรวดเร็ว
พวกเขายังไม่ทันเห็นว่าเกิดอันใดขึ้นก็ถูกกระแทกจนล้มลงกับพื้น ข้อมือพลิก ถ้วยยาหกเข้าไปในปากของนางกำนัล
น้ำยาสีดำหกลงไปในลำคอของนางจนหมด
นางต้องการขัดขืน ทว่าไม่มีแรงให้ขัดขืนแม้แต่น้อย
“เจ้า… เจ้าเป็นใคร”
คนที่เหลือมองชายชุดดำสวมหมวกฟางสีดำด้วยความหวาดกลัว
ทว่าคนชุดดำไม่สนใจจะสนทนากับพวกเขา พวกเขายังไม่ทันเห็นว่าคนชุดดำทำอันใด ก็ล้มลงกับพื้นและหมดสติทันที
คนชุดดำรีบเดินเข้าไปหาตงหลิงจวิ้น และช่วยพยุงเขาขึ้นมา
“จวิ้นเอ๋อร์ เป็นอย่างไรบ้าง? ”
เมื่อได้ยินเสียงของคนผู้นั้น ตงหลิงจวิ้นพลันตกตะลึงอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“เสด็จพี่… เสด็จพี่หวง… ”
ตงหลิงหวงถอดเสื้อคลุมออก
“ใช่ จวิ้นเอ๋อร์ ข้าเอง! พี่หวงกลับมาแล้ว! ”
ตงหลิงจวิ้นคว้ามือของตงหลิงหวงเพื่อยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ทั้งมือของนางยังอุ่นอยู่ เขาไม่ได้ตาฝาด จากนั้นดวงตาของเขาก็แดงก่ำ น้ำตาคลอเบ้า
“ท่านพี่หวง เป็นท่านจริงๆ ! จวิ้นเอ๋อร์ไม่ได้ฝันไป เป็นท่านจริงๆ ! ทว่า… พวกเขาทั้งหมดบอกว่าท่านพี่ตายไปแล้ว ท่านพี่ตกหน้าผาหุบเขามรณะและเสียชีวิต จวิ้นเอ๋อร์รู้สึกผิดอยู่นาน และคิดเสมอว่าจวิ้นเอ๋อร์ทำร้ายท่าน หากเสด็จพ่อไม่ขัดขวางจวิ้นเอ๋อร์ ยอมให้จวิ้นเอ๋อร์นำทัพออกไปช่วยท่านในวันนั้น คงไม่เกิดเรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้”
“ไม่เป็นอันใดแล้ว! ” ตงหลิงหวงตบหลังตงหลิงจวิ้นอย่างแผ่วเบาเพื่อปลอบโยน “เรื่องผ่านไปแล้ว พี่หวงไม่เป็นอันใด”
“ไม่เป็นอันใดก็ดี ไม่เป็นอันใดก็ดี! ” ตงหลิงจวิ้นเพิ่งพูดออกมาหนึ่งคำ ทันใดนั้น เขาก็ไอออกมาสองครั้งและกระอักเลือดออกมา
ตงหลิงหวงรีบจับข้อมือของตงหลิงจวิ้น ทันทีที่มือของนางสัมผัส สีหน้าของนางพลันเปลี่ยนไป เห็นได้ชัดว่ายาพิษที่นางกำนัลผู้นั้นบังคับให้ตงหลิงจวิ้นดื่มกำลังออกฤทธิ์ แม้ตงหลิงหวงจะเข้ามาช่วยได้ทันท่วงที ทั้งปริมาณยาที่ดื่มลงไปก็ไม่มากนัก แต่ก็เพียงพอให้มีอันตรายถึงชีวิตได้
……
เชิงอรรถ
[1] ซื่อจื่อ คือ ตำแหน่งที่ใช้เรียกบุตรของอ๋อง