เมื่อเล้งหวงเปิดใช้ทักษะอาณาเขตสวรรค์เพื่อจำกัดพื้นที่การหนีของหลิงตู้ฉิง เย่ชางคงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและมองไปที่มู่หลงหยานด้วยความกังวล

แต่ในทางกลับกัน มู่หลงหยานกลับยังคงมีสีหน้าที่นิ่งเหมือนเดิมไม่ได้กังวลอะไรเลย

ในเวลาเดียวกัน เล้งหวงทำการเปลี่ยนอาณาเขตสวรรค์ของเขาให้เต็มไปด้วยกฎแห่งแสงอาทิตย์ที่เปล่งแสงอันร้อนแรงเข้าจู่โจมหลิงตู้ฉิงจากทุกทิศทาง

“ถ้าเจ้าทนไม่ไหว เจ้าจะตะโกนยอมแพ้ก็ได้นะ ฮ่าฮ่าฮ่า!” เล้งหวงหัวเราะด้วยความสะใจ

“ก็งั้น ๆ” หลิงตู้ฉิงตอบกลับห้วน ๆ จากนั้นเขาก็โคจรร่างธาตุอัคคี ซึ่งทำให้อาณาเขตสวรรค์ของเล้งหวงที่ร้อนรุนแรงไม่มีผลใด ๆ ต่อเขา

เมื่อเห็นว่าจู่ ๆ ร่างของหลิงตู้ฉิงก็มีเปลวเพลิงลุกท่วม เล้งหวงที่เห็นเช่นนี้ก็รู้สึกตกตะลึง

นั่นมันคืออะไรกัน?

แต่ไม่ว่าสิ่งที่หลิงตู้ฉิงแสดงออกมามันจะคืออะไร ในตอนนี้เขาเหมือนกับขึ้นหลังเสือแล้ว เขาไม่อาจจะถอยได้อีกต่อไป!

“ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะทำอะไรเจ้าไม่ได้!” เล้งหวงตะโกน จากนั้นเขาก็ไม่สะกดระดับการบ่มเพาะของเขาอีกต่อไป เขาใช้ระดับการบ่มเพาะที่อยู่ในระดับเหนือล้ำและโคจรพลังจนสุดตัวใส่เข้าไปในอาณาเขตสวรรค์ เพื่อโจมตีดวงวิญญาณของหลิงตู้ฉิงด้วยกฎแห่งแสงอาทิตย์

หลิงตู้ฉิงมองไปที่เล้งหวงด้วยความสนุกสนาน เนื่องจากเล้งหวงมีวิธีการมากมายที่จะโจมตีเขา แต่เล้งหวงกลับเลือกที่จะโจมตีดวงวิญญาณของเขาแทน ซึ่งต้องรู้ไว้ว่าความแข็งแกร่งของดวงวิญญาณของเขานั้นไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถสร้างความเสียหายให้ได้

“ไม่เลวเลยทีเดียว อย่างน้อย ๆ ความสามารถของเจ้าในตอนนี้ก็ไม่ได้ทำให้บรรพบุรุษของเจ้าขายหน้าเลยแม้แต่น้อย! แต่ต่อให้เจ้าจะมีพรสวรรค์ขนาดไหน เมื่ออยู่ต่อหน้าข้าเจ้าก็เป็นได้แค่เด็กอมมือ!” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ

เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงโบกมือสร้างสิ่งที่เหมือนดวงดาวนับสิบดวงขึ้นมาล้อมรอบกายของเขา จากนั้นดวงดาวที่หลิงตู้ฉิงสร้างก็เริ่มดูดซับพลังแห่งกฎแสงอาทิตย์ของเล้งหวงเข้าไปในพวกมันอย่างบ้าคลั่ง จนพวกมันกลายเป็นเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ดวงเล็ก ๆ นับสิบดวงพร่างพราวอยู่เต็มอาณาเขตสวรรค์ของเล้งหวง

เล้งหวง เมื่อเห็นเช่นนี้ก็ตกตะลึงยิ่งกว่าเดิมว่ามันเกิดอะไรขึ้น?

ทำไมเคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาถึงไม่สามารถทำอะไรหลิงตู้ฉิงได้เลย และดวงดาวเหล่านั้นที่ดูดพลังแห่งกฎของเขาไปเรื่อย ๆ มันคืออะไรกัน?

“สามารถทำให้ข้าใช้วิธีการนี้เพื่อมาต่อกรกับเจ้าได้ นับว่าเจ้านั้นเป็นคนที่มีความสามารถไม่ธรรมดาจริง ๆ” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “เอาแบบนี้ไหม ในเมื่อเจ้ามีความสามารถขนาดนี้ เจ้ามาเป็นคนของข้าจะดีกว่า ข้ารับประกันว่าถ้าเจ้ายอมเป็นคนของข้า ข้าจะทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้จนเจ้าไม่อาจจะจินตนาการได้เลย”

“ไม่ต้องมาหลอกล่อให้ข้าไปเป็นทาสรับใช้ของเจ้าอีกคน!” เล้งหวงตะคอกกลับด้วยความเดือดดาล

“ไม่ใช่ทุกคนที่มีคุณสมบัติพอจะรับใช้ข้าได้หรอกนะ หากข้าชวนเจ้าแบบนี้มันก็หมายความว่าเจ้าเป็นคนที่มีความสามารถมากเหนือกว่าผู้คนทั่วไปจริง ๆ!” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น “แต่ก็เอาเถอะ ถ้าหากข้าไม่สั่งสอนเจ้าสักหน่อย เจ้าคงยังจะไม่เชื่อในคำพูดของข้า ดังนั้นจงรับไปซะ!”..

เมื่อพูดจบ บรรดาดวงดาวของหลิงตู้ฉิงที่มีแต่เพลิงลุกท่วมเพราะดูดซับพลังแห่งกฎแสงอาทิตย์ของเล้งหวงเข้าไปอย่างมหาศาลต่างก็เคลื่อนตัวแยกย้ายกันไปประจำอยู่ทั่วอาณาเขตสวรรค์ของเล้งหวง และจากนั้นพวกมันก็ระเบิดขึ้นพร้อม ๆ กันจนดังสนั่นหวั่นไหว

ด้วยแรงระเบิดอันมหาศาลของเหล่าดวงดาว อาณาเขตของเล้งหวงถึงกับพังทลายลงในทันที ส่งผลให้เล้งหวงกระอักเลือดออกมาคำโต

ส่วนทางด้านของหลิงตู้ฉิงก็ใช้โอกาสนี้พุ่งตัวเข้าไปหาเล้งหวง ด้วยความเร็วที่เล้งหวงไม่อาจจะตั้งตัวได้ทัน

แต่แล้วในขณะที่หลิงตู้ฉิงพุ่งเข้าไปถึงตัวของเล้งหวง ผู้เชี่ยวชาญระดับนภาครามผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของหลิงตู้ฉิง ง้างแขนเตรียมจะออกหมัดอย่างเต็มแรง

ด้วยความรุนแรงของหมัดที่ถูกปล่อยออกมาจากผู้เชี่ยวชาญระดับนภาคราม มันย่อมเป็นสิ่งที่ร่างของหลิงตู้ฉิงตอนนี้ไม่อาจทานทนไหว หากหมัดนี้ปะทะเข้ากับร่างของเขา เขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน

บรรดาผู้คนอื่น ๆ ต่างก็ตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่จู่ ๆ ก็กลับตาลปัตรแบบนี้เช่นกัน ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีใครที่กล้าแทรกแซงการประลองที่อยู่ต่อหน้าสายตาของผู้คนมากมายขนาดนี้

“บังอาจ!” มู่หลงหยานและเย่ชางคงตะโกนขึ้นด้วยความเดือดดาล จากนั้นพวกเขารีบพุ่งตัวเข้าไปหาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาครามที่กำลังจะต่อยหลิงตู้ฉิงทันที

แต่สิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดอีกเรื่องก็คือ มันกลับกลายเป็นว่าหลิงตู้ฉิงเร็วกว่าพวกเขาทุกคน

เมื่อหลิงตู้ฉิงสัมผัสได้ว่า จู่ ๆ ผู้เชี่ยวชาญระดับนภาครามพุ่งเข้ามาจะต่อยเขา เขาก็ใช้วิชาพเนจรไร้จำกัดพุ่งตัวหลบทันที ส่งผลให้หมัดนั้นพลาดไปโดนเล้งหวงเข้าอย่างจัง

ตอนนี้หลิงตู้ฉิงได้เห็นเต็มสองตาแล้วว่าผู้ที่โจมตีเขาไม่ใช่ใครอื่น มันคือ กู่ตงฉิง ผู้ซึ่งเคยรับหน้าที่คุ้มกันหานซ่งหยวนและหยูจิ้งเฉิงไปยังอาณาเขตนภานั่นเอง

หลิงตู้ฉิงยังจำได้ว่าในเวลานั้นคนผู้นี้เคยมีความขัดแย้งกับเขา ซึ่งเขาก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าคนผู้นี้จะกล้าลอบสังหารเขาในเวลานี้ และมันยังมีสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจอีกอย่างก็คือ กลิ่นอายของกู่ตงฉิงในเวลานี้มันแปลกไปจากเดิม

ทางด้านของกู่ตงฉิงเองก็ประหลาดใจเช่นกันที่หลิงตู้ฉิงสามารถรอดพ้นการลอบสังหารของเขาได้ แต่ในเมื่อตอนนี้ทุกอย่างมันดำเนินไปถึงขนาดที่ว่าเขาพลาดฆ่าเล้งหวงตายไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางให้หันหลังกลับอีกต่อไป

แต่น่าเสียดายในขณะที่กู่ตงฉิงกำลังจะจึงพุ่งตัวไล่ตามหลิงตู้ฉิงไปต่อ เย่ชางคงก็พุ่งตัวมาคว้าร่างของเขาไว้ได้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมันทำให้เขาหมดโอกาสในการฆ่าหลิงตู้ฉิงในทันที

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียงพริบตาเดียวเท่านั้น จนมันแทบทำให้ทุกคนตั้งสติไม่ถูก

หลิงตู้ฉิงเอาชนะเล้งหวงได้อย่างง่ายดาย จากนั้นกู่ตงฉิงก็โผล่มาเล่นงานหลิงตู้ฉิง แต่ต่อมากู่ตงฉิงกลับพลาดไปฆ่าเล้งหวงตาย และหลิงตู้ฉิงกลับหนีรอดไปได้ จนสุดท้ายกู่ตงฉิงถูกคร่ากุมตัวไว้โดยเย่ชางคง…

หมิงยู่รีบพุ่งเข้ามาหลอมรวมเข้ากับร่างของหลิงตู้ฉิงทันที และถามขึ้นด้วยน้ำเสียงกังวลว่า “นายท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “อืม ข้าไม่เป็นอะไรหรอก”

ถึงแม้ว่าสถานการณ์เมื่อครู่มันจะดูแล้วน่าตื่นตระหนกในสายตาของคนอื่น แต่สำหรับหลิงตู้ฉิงมันก็เป็นแค่สถานการณ์ที่เขาชาชินเพราะในชีวิตที่แล้วเขาเคยเผชิญกับเหตุการณ์แบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน แถมมีอยู่หลายครั้งที่มันหนักหนากว่านี้อีกเยอะ

มู่หลงหยานในเวลานี้ก็รีบพุ่งเข้ามาอยู่ข้างกายของหลิงตู้ฉิงเพื่อสำรวจว่าเขาเป็นอะไรไหม และเมื่อนางเห็นว่าหลิงตู้ฉิงไม่มีอะไรบุบสลายนางก็รู้สึกโล่งใจ

จากนั้นเมื่อนางแน่ใจแล้วว่าหลิงตู้ฉิงไม่เป็นอะไร นางก็หันไปถามกู่ตงฉิงด้วยสายตาอาฆาต “กู่ตงฉิง นี่เจ้าเป็นบ้าอะไรของเจ้า?”

แน่นอนว่าด้วยความสัมพันธ์ของหลิงตู้ฉิงที่มีต่อสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ต่อให้หลิงตู้ฉิงจะสร้างความบาดหมางต่อพวกเขามากขนาดไหน มันก็ไม่มีใครในสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์กล้าฆ่าหลิงตู้ฉิงแน่นอน

แต่ตอนนี้กู่ตงฉิงกลับกล้าทำซะอย่างนั้น

กู่ตงฉิงตอบกลับด้วยสีหน้าเย้ยหยัน “เดี๋ยวข้าจะแสดงอะไรบางอย่างให้เจ้าดู แล้วเจ้าก็จะได้รู้ว่าทำไมข้าถึงกล้าทำแบบนี้!”