อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 935 ปะปนเข้าไป
ตระกูลไป๋หลี่เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียง ในนี้มีการสลักคานและภาพวาดตกแต่งหอ มีเสน่ห์ไม่ธรรมดา ตัวบ้านหลังหนึ่งเชื่อมต่อกับอีกหลังหนึ่ง เปรียบได้กับพระราชวัง

แผนผังในนี่ก็ซับซ้อนเป็นอย่างมากเช่นกัน หลายๆที่มีการจัดวางค่ายกลและกลไก

ผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมากู้ชูหน่วนล้วนไม่รู้จัก รู้เพียงแค่ว่าศักยภาพของพวกเขาไม่ได้อ่อนแอ

ไม่ทันรอให้นางได้หาที่พักพิงชั่วคราวก่อนได้ ก็ถูกที่พ่อบ้านจัดแจงให้นางรดน้ำต้นไม้แล้ว

มุมหนึ่งของสวนที่อยู่ห่างออกไป

กู้ชูหน่วนรดน้ำต้นไม้ไปพลาง สังเกตแผนผังของตระกูลไป๋หลี่ไปพลาง เตรียมจะค้นดูตระกูลไป๋หลี่สักรอบ จะได้ไม่เสียทีที่นางได้เข้ามารอบหนึ่ง

ข้างหูได้ยินการสนทนาระหว่างไป๋หลี่เจิ้นกับไป๋หลี่หมิงที่อยู่ในศาลาอยู่รางๆ

“ท่านปู่ ศักยภาพของนางพุ่งสูงขึ้นถึงขั้นที่ห้าแล้วจริงหรือ? นี่จะเกินจริงไปหน่อยหรือไม่ นางเป็นแค่คนไม่เอาไหนผู้หนึ่งนี่ขอรับ”

“หมิงเอ๋อร์ ตอนแรกปู่ก็ไม่เชื่อ แต่เรื่องใดๆก็ล้วนเป็นไปได้ อย่าลืมน้ำค้างแห่งสวรรค์ไปสิ”

หากรู้ว่านางพุ่งทะยานไปถึงชีพจรยุทธ์ขั้นที่ห้า เขาจะต้องจัดเตรียมยอดฝีมือระดับสูงไปลอบสังหารนางเป็นแน่ และจะไม่ใช่คนที่มีศักยภาพพอๆกับนาง

ไป๋หลี่หมิงตบโต๊ะ “ข้าก็รู้อยู่แล้วว่าน้ำค้างแห่งสวรรค์จะต้องถูกนางยักยอกไว้เป็นของตัวเองแน่ ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเย่จิ่งหานถึงได้ปกป้องนาง ข้า ข้ากลืนความโมโหนี้ไม่ลง แค่มู่หน่วนตัวเล็กๆ แค่จวนมู่กระจอกๆเท่านั้น ทำไมถึงทำลายพวกเขาไปเดี๋ยวนั้นไม่ได้”

“ทำลายพวกเขานั้นง่ายดายขอรับ แต่เย่จิ่งหานมีความคิดจะปกป้อง หากว่าทำลายไปแล้ว จะต้องล่วงเกินเขาเป็นแน่ ตอนนี้ตระกูลไป๋หลี่ของพวกเรายังไม่สามารถล่วงเกินเย่จิ่งหานอย่างโจ่งแจ้งได้”

“เย่จิ่งหานเป็นใครกันแน่ ทำไมท่านหัวหน้าตระกูลถึงได้ยำเกรงต่อเขาขนานนั้น?”

“ข้าก็ไม่รู้ คนผู้หนึ่งที่หาข้อมูลฐานะตัวตนใดๆไม่ได้ จะต้องเป็นคนที่ไม่ธรรมดาเป็นแน่”

การเคลื่อนไหวของกู้ชูหน่วนชะงักทันที

เย่จิ่งหาน……

ทำไมถึงได้คุ้นเคยกับชื่อนี้ขนาดนั้น?

นางเคยได้ยินจากที่ไหนใช่หรือไม่?

ซืด…..

รู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน กู้ชูหน่วนแทบจะทำที่ตักน้ำหล่น

สมควรตาย

ทำไมหัวของนางถึงได้เจ็บปวดขนาดนี้?

เพราะจิตวิญญาณดวงนั้นที่พุ่งพรวดเข้ามาตรงระหว่างคิ้วเป็นเหตุหรือ?

ต้องใช่แน่

นางรู้สึกว่าคุ้นเคย น่าจะเป็นเพราะจิตวิญญาณดวงนั้นเป็นเหตุ

“ใคร ใครอยู่ตรงนั้น?”

ไป๋หลี่เจิ้นหูไว ความเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็ได้ยินแล้ว

กู้ชูหน่วนรวบรวมสติสงบจิตใจ เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับทุกสถานการณ์

ข้างหูก็มีเสียงอันแก่ชราเสียงหนึ่งดังขึ้นช้าๆ

“ผู้……ผู้อาวุโส ข้าน้อยเพียงแค่รดน้ำต้นไม้อยู่ตรงนี้…..”

“รดน้ำต้นไม้?”

ไป๋หลี่เจิ้นกวาดตามองซ้ายขวา ในสวนนอกจากทาสชราคนนี้แล้วก็ไม่มีผู้ใดอีก

เขาโบกมือ บอกใบ้ให้เขาถอยไป

ทาสชราพยักหน้าโค้งคำนับ จากไปด้วยการกระทำที่เชื่องช้า

คิดไม่ถึงว่า เขาเพิ่งจะหันหลัง ฝ่ามือหนึ่งของไป๋หลี่เจิ้นก็พุ่งไปทันที ตีเขาจนตายทั้งเป็นไปตรงนั้น

“ท่านปู่ ท่านฆ่าเขาทำไม ผู้เฒ่าเฉินทำงานที่ตระกูลของพวกเรามาห้าหกสิบกว่าปีแล้ว ปากเขาปิดมิดชิดมาโดยตลอด ไม่พูดจามั่วซั่ว”

“คนตายสิถึงจะเปิดปากไม่ได้”

สายตาของกู้ชูหน่วนเย็นชาทันที รวบรวมสติสงบจิตใจต่อ

“อีกไม่กี่วันก็จะเป็นงานประลองการควบคุมสัตว์แล้ว ปู่เกือบจะเกลี้ยกล่อมราชางูมรกตเก้าหัวได้แล้ว ถึงเวลามันจะเป็นสัตว์เลี้ยงของเจ้าเมื่อนั้น มีราชางูเหลือม ผู้ชนะงานประลองการคุมสัตว์จะต้องเป็นของเจ้าแน่นอน