อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 939 รู้จักกัน
กู้ชูหน่วนถูกมันกักตัวไว้จนไม่สามารถดิ้นให้หลุดได้ จนแม้แต่ร่างกายก็ลอยขึ้นมาแล้ว

ฟ่อฟ่อ……

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์แลบลิ้นออกมา เลียไปบนหน้าของนางสองสามที

กู้ชูหน่วนสะอิดสะเอียนจนแทบจะอ้วกออกมา

บนใบหน้าของนางมีน้ำลายของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ติดอยู่ด้วย

หัวอันใหญ่โตเก้าหัวอยู่ตรงเบื้องหน้าของนาง ก็เหมือนสัตว์ประหลาดขนาดมหึมาเก้าตัว

นางด่าสาปแช่งออกมาคำหนึ่งอย่างอดไม่ได้ “โอ้โห ที่แท้แกก็เป็นงูที่มีความคิดสกปรกตัวหนึ่งจริงๆ พระเจ้า……”

กู้ชูหน่วนหยิบเข็มออกมา พยายามออกแรงดึงมือข้างหนึ่งให้หลุดออกมาจนได้

เข็มเงินในมือของนางแทงไปที่ดวงตาของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์อย่างไม่เกรงใจ

เหมือนเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์จะรู้ล่วงหน้าแล้วว่านางจะมาไม้นี้ หัวงูแฉลบ หลบออกจากการโจมตีนั้นของกู้ชูหน่วน

ทั้งยังเลียกู้ชูหน่วนอย่างต่อเนื่องไม่หยุด เลียจนทั้งใบหน้าของกู้ชูหน่วนเต็มไปด้วยน้ำลาย

ทั้งยังอิงแอบหัวงูเข้าไปในอ้อมแขนของกู้ชูหน่วน ออดอ้อนอยู่ไม่หยุดอีกด้วย

ทั้งตัวล้วนเป็นน้ำลายของมัน กู้ชูหน่วนทนไม่ไหวอีกต่อไป ยกเท้าขึ้นและเตะไปอย่างรุนแรง

ทันทีนางเตะ

ที่เจ็บไม่ใช่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ แต่เป็นตัวนางเอง

“ข้าเจ็บจะตายแล้ว”

กู้ชูหน่วนสูดหายใจด้วยความตกใจ เจ็บจนขมวดคิ้วอยู่ตลอด

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เห็นดังนั้น จึงรีบปล่อยร่างของนางทันที บิดร่างกายอันใหญ่โตเอียงอยู่ด้านหน้าของกู้ชูหน่วน ราวกับต้องการดูว่ากู้ชูหน่วนเป็นอะไรหรือไม่

หากว่าเป็นเพียงแค่งูตัวเล็กๆก็คงจะดี แต่บังเอิญหัวของมันแทบจะมีขนาดใหญ่เท่ากับกู้ชูหน่วนทั้งคนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นคือมันมีเก้าหัว

กู้ชูหน่วนถอยหลังไปสองสามก้าว หาสถานที่แคบๆเล็กๆมุดเข้าไป พยายามอยู่ห่างจากเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์

ประตูลับของนางเล็กมาก พอฝืนให้นางผ่านไปได้แค่คนเดียวเท่านั้น

กู้ชูหน่วนคิดว่าเจ้างูเก้าหัวตัวใหญ่ขนาดนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็เลื้อยเข้ามาไม่ได้

อีกอย่าง ประตูหินที่นี่ก็แข็งแกร่ง คิดจะฝืนบุกเข้ามาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

ทว่าเรื่องแห่งความเป็นจริงทำให้กู้ชูหน่วนตกใจอย่างคาดไม่ถึง

งูเก้าหัวตัวนั้นเป็นเหมือนเจ้าเสือน้อยจริงๆ ล้วนสามารถเปลี่ยนเป็นตัวเล็กได้

ลำตัวเกือบร้อยเมตรเหลือความยาวเพียงแค่ครึ่งเมตรกว่าในชั่วพริบตา

“โอ้โห ข้าลืมไปได้ยังไงว่า สัตว์อสูรระดับสูงจะสามารถย่อส่วนได้”

กู้ชูหน่วนแฉลบปลายเท้า ใช้ความเร็วที่สุดในการวิ่งหนีออกไป

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ตามอยู่ด้านหลัง ปากก็เปล่งเสียงฟ่อฟ่อฟ่อด้วยความตื่นเต้นอย่างต่อเนื่อง

นางวิ่งเร็ว เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็วิ่งเร็วตาม

นางวิ่งช้า เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็วิ่งช้าตามเช่นกัน

เกิดเป็นฉากคนหนึ่งงูหนึ่งวิ่งไล่กันอยู่ในหอสมบัติตระกูลไป๋หลี่

เวลาผ่านไปเวลาหนึ่งก้านธูป

กู้ชูหน่วนเหนื่อยจนหายใจไม่ทัน

นางค้ำโต๊ะหิน จ้องมองด้วยความโกรธเคืองแล้วกล่าว “เจ้าตามข้ามาตลอด คิดจะทำอะไรกันแน่? ข้าจะบอกเจ้า ข้าเป็นกามโรค หากว่าเจ้าทำอะไรกับข้า เจ้าก็ดีได้ไม่เท่าไหร่หรอก”

“ฟ่อฟ่อ……นายหญิง……ข้าคือเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์…….”

ร่างกายของกู้ชูหน่วนกระตุกทันที

ใคร……

ใครพูดอยู่?

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์…..

ทำไมชื่อนี้ถึงได้คุ้นเคยขนาดนี้นะ?

“ฟ่อฟ่อ……นายหญิง……”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์แอบอิงเข้ามาอีกครั้ง แลบลิ้นออกมาคิดจะเลียกู้ชูหน่วนอีก

กู้ชูหน่วนตีหัวงูของมันกลับไปอย่างไม่เกรงใจ

“สะอิดสะเอียนจะตายอยู่แล้ว เจ้าไม่รู้หรือว่าน้ำลายของงูมีพิษรุนแรง?”

“นายหญิง เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์จะทำใจใช้พิษกับท่านได้ยังไง เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์คิดถึงท่านแทบจะตายอยู่แล้ว”

กู้ชูหน่วนสามารถมั่นใจได้แล้ว

คนที่พูด ก็คืองูที่อยู่ตรงหน้าตัวนี้

ความเลือนรางในสมองของนาง

ไม่มีคนบอกนางว่า สัตว์อสูรจะพูดได้เช่นกันนี่นา

“เดี๋ยวก่อน เจ้าเรียกข้าว่าอะไร? นายหญิง? ข้ารับเจ้าเป็นสัตว์เลี้ยงไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เป็นสัตว์เลี้ยงของท่าน เป็นตลอดไป”

“เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้ อย่ามาใช้ไม้นี้กับข้า ข้าไม่รู้จักเจ้าสักหน่อย”

“ข้าชื่อเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ ตอนนี้ท่านทำความรู้จักข้าใหม่ก็ไม่สาย อย่างไรเสียเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็คุ้นชินกับการสูญเสียความทรงจำของนายหญิงแล้ว”

“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าสูญเสียความทรงจำ?”

หรือว่ามันรู้จักนางจริงๆ?

เป็นสัตว์เลี้ยงของนางจริง?

คิดถึงภาพเมื่อครู่ สมองของกู้ชูหน่วนก็ตื๊อไปหมด

แม้ว่างูตัวนี้จะขดพันตัวนางขึ้นมา แต่…..เหมือนกับว่ามันจะไม่ได้ใช้กำลังใดๆ

หากว่าใช้กำลัง เกรงว่านางคงจะถูกมันรัดจนตายไปนานแล้ว