อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 940 หล่อหลอมวิญญาณ
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์หัวเราะฟ่อๆ

สามปีผ่านไป ได้พบนายหญิงอีกครั้ง มันอดกลั้นความปีติดีใจไว้ไม่อยู่

ลำตัวงูบิด มันคิดจะแอบอิงไปที่อ้อมแขนออดอ้อนกู้ชูหน่วนอีกครั้ง

กู้ชูหน่วนรักษาระยะห่างกับมัน “เจ้ายังไม่ได้บอกข้า เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าความจำเสื่อม? อีกอย่าง ก่อนหน้านี้ข้าเคยสูญเสียความทรงจำด้วยหรือ?”

“แน่นอนอยู่แล้วล่ะ ครั้งก่อนนายหญิงเคยความจำเสื่อมไปครั้งหนึ่ง และครั้งนี้ก็สูญเสียความทรงจำไปอย่างสมบูรณ์มากกว่าครั้งที่แล้วซะอีก”

ครั้งก่อนอย่างน้อยก็ไม่ได้เปลี่ยนร่าง

ครั้งนี้แม้แต่ร่างกายก็เปลี่ยนไปแล้ว

“เช่นนั้นก่อนหน้านี้ข้าเป็นคนยังไง? เป็นเหมือนที่พวกเขาพูดว่า ขี้ขลาดอ่อนแอ ความรู้วิทยายุทธก็ไม่มี เป็นคนไร้ประโยชน์ตั้งแต่กำเนิดจริงๆหรือ?”

กู้ชูหน่วนไม่เชื่อว่านางจะเป็นคนเช่นนั้น

หากว่าเป็น เช่นนั้นความทรงจำที่เกี่ยวกับการหลอมยารวมทั้งประสิทธิภาพของสมุนไพรปรุงยาในสมองของนางจะมาได้ยังไง?

ความรู้ความเชี่ยวชาญในการหลอมยาของนางทั้งหมด กลัวว่าคงจะเก่งกาจซะยิ่งกว่าตระกูลไป๋หลี่เป็นอย่างมากเชียวล่ะ

“นายหญิงห้าวหาญจิตใจละเอียดอ่อน มีครบทั้งความรู้ความสามารถ เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ฉลาดและมีวิสัยทัศน์ลำดับแรกๆของโลก นายหญิงเป็นเจ้านายที่ดีที่สุดในโลก”

“เอ่อ…..แล้วทำไมพวกเขาถึงพูดแบบนั้นล่ะ?”

“นั่นก็เพราะว่าดวงตาของพวกเขาถูกอึบดบังไว้”

“…….”

งูเก้าหัวตัวนี้ดูซื่อๆ แต่กลับพูดจาหนักแน่น

“แล้วเจ้าล่ะ ทำไมเจ้าถึงได้กลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงของข้า? เพราะข้าสยบเจ้าได้หรือ?”

“ไม่ใช่ เป็นเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ที่ยินยอมพร้อมใจติดตามท่าน ตอนเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ยังเล็ก ท่านช่วยข้าไว้”

“แล้วตัวตนของข้า คือคุณหนูสามของจวนมู่จริงหรือ?”

ครั้งนี้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ไม่ได้ตอบนาง แต่ขดตัวอยู่ข้างเท้าของนางอย่างว่านอนสอนง่าย

มันหัวเราะฟ่อฟ่อ “เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์รู้เพียงแค่ ท่านก็คือนายหญิงของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ตลอดไป”

ความน่ารักอ่อนโยนของมันทำให้กู้ชูหน่วนคลายความระมัดระวังในใจลงช้าๆ จับมันขึ้นมาวางไว้ในมือด้วยตัวเอง

ลำตัวของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เปลี่ยนไปอีกครั้ง หัวทั้งเก้ากลายเป็นหัวเดียวในพริบตา ลำตัวก็เล็กเรียวเท่าตะเกียบ ขดตัวเป็นก้อนบนข้อมือของนางแล้วหลับไปอย่างสบายๆ

การกระทำของมันคล่องแคล่ว ราวกับว่าก่อนหน้านี้มันก็มักจะนอนแบบนี้อยู่บ่อยๆ

กู้ชูหน่วนยิ้มแล้ว นางจิ้มลำตัวของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ ยิ้มแล้วกล่าว “อยากให้ข้าพาเจ้าไปด้วยก็ได้ แต่เจ้าต้องคิดวิธี เอาสิ่งของในหอสมบัติออกไปให้ข้า”

“ใส่ไว้ในแหวนมิติก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ”

“ข้าคิดว่าเจ้าจะคิดไม่ถึง ที่สำคัญก็คือหาแหวนมิติไม่พบ”

“ด้านหน้าเลี้ยวขวาไปห้าร้อยเมตร แล้วตรงไปอีกสามร้อยเมตร เลี้ยวซ้ายสี่ร้อยเมตร เลี้ยวขวาห้าร้อยเมตร จะไปถึงห้องลับห้องหนึ่ง แล้วค่อยหาออก……อ้า…..”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์รู้สึกเจ็บหัวในทันที กลับเห็นว่ากู้ชูหน่วนตีหัวของมันอย่างไม่เกรงใจ กล่าวด้วยสีหน้าบึ้งตึง

“ข้าเป็นเจ้านาย ไม่ใช่ทาสของเจ้าสักหน่อย นำทางไปเองสิ”

“ไม่ได้เจอกันมาสามปี ทำไมนายหญิงถึงได้โหดร้ายกว่าเมื่อก่อนอีกนะ”

“จะนำทางไปหรือไม่”

“นำทางก็นำทางสิ แต่ว่าให้รางวัลได้หรือไม่”

“เจ้าอยากได้รางวัลอะไร?”

“หมูย่างร้อยตัว”

“ร้อยตัว? เจ้าตัวเล็กแค่นี้ เจ้าไม่กลัวว่าจะกินจนจุกตายหรือไง”

“จุกไม่ตายหรอก เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กินเก่งมาก แม้ว่าตระกูลไป๋หลี่จะทำหมูย่างอร่อย แต่กลับเทียบไม่ได้กับหนึ่งในร้อยของนายหญิง เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์อยากกินที่นายหญิงย่าง”

มันพูดพลาง ก็แลบลิ้นออกมาเลียด้วยความตะกละตะกลาม และไม่รู้ว่ามันอยากจะได้หมูย่างมานานแค่ไหนแล้ว

“หนึ่งร้อยตัวมากเกินไปแล้ว ถ้าเจ้าช่วยข้าหาแหวนมิติ ขนสิ่งของในนี้ออกไปได้ ข้าจะย่างให้เจ้ากินหนึ่งตัว”

“ห้ะ….แค่ตัวเดียวหรือ น้อยเกินไปแล้วนะ”

“รังเกียจว่าน้อยเจ้าจะไม่เอาก็ได้”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์หน้าละห้อยทันที บิดลำตัวอันมีเสน่ห์ของมันไปพลาง บ่นฟ่อๆโอดครวญไปพลาง

สามปีก่อน หลังจากที่ดวงจิตวิญญาณสุดท้ายของนายหญิงลอยออกจากเผ่าหยกไป ก็ล่องลอยไปในโลกอย่างไร้จุดหมาย

ต่อมาถูกคนตั้งใจจับไว้ได้ ปรารถนาที่จะหล่อหลอม

โชคดีที่พลังแห่งจิตวิญญาณของนายหญิงแข็งแกร่งมาก ความแน่วแน่ในจิตใจก็แข็งแกร่งมาก จึงไม่ได้ถูกหล่อหลอมไปโดยสมบูรณ์ เพียงแต่วิญญาณของนางไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้แล้ว ถูกคนหล่อหลอมจนแทบจะจำไม่ได้แล้ว