ตอนที่ 854: การมาถึงของสมาคม
แสงทองรอบ ๆ นูบิสส่องสว่างสุกใสและเปล่งรัศมีออกมากว้างไกลเหมือนดวงอาทิตย์ มิติรอบ ๆ สั่นไหวอย่างรุนแรงเนื่องจากพลังที่กว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุดที่ถูกปล่อยออกมาจากร่างของเขา
เจี้ยนเฉินจ้องไปที่นูบิสที่ส่องแสงอย่างสนใจและหัวเราะออกมาอย่างเบา ๆ “นูบิส ดูเหมือนว่าเจ้าจะได้อะไรมาเยอะจากการเก็บตัวฝึกฝนในสองสามปีที่ผ่านมากนี้ ข้ารู้สึกได้ว่าความแข็งแกร่งของเจ้าเหนือกว่าชั้นสวรรค์ที่ 7 ขึ้นไปแล้ว”
แสงรอบ ๆ นูบิสเริ่มที่จะจางไปอย่างช้า ๆ เผยให้เห็นร่างด้านใน บางทีเพราะว่าเขามีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น เสื้อสีทองที่อยู่บนตัวนูบิสยิ่งเปล่งประกายมากกว่าเดิม มันเหมือนเคลือบไปด้วยแสงสีทองจาง ๆ
ใบหน้าของนูบิสเต็มไปด้วยความยินดี เขาเคลื่อนที่ไปได้หลายร้อยเมตรเพียงแค่ก้าวเดียวและมาถึงตรงหน้าเจี้ยนเฉินแล้วเหวี่ยงหมัดไปที่ไหล่ของเจี้ยนเฉิน นูบิสหัวเราะ “เจี้ยนเฉิน ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าแค่การเดินทางเล็ก ๆ ไปที่มหาสมุทรดวงดาว เจ้าจะกลับมาโดยไม่บริสุทธิ์แล้ว จุ๊ จุ๊ ดูเหมือนว่าสิ่งที่เจ้าได้มาจากการเดินทางก็มากเหมือนกัน บอกข้ามาตรง ๆ เจ้ามีอะไรกับนางปีศาจนั่นหรือเปล่า ? “
ในฐานะที่เขาเป็นสัตว์อสูรโบราณ สัมผัสของนูบิสนั้นทรงพลังมากเมื่อเทียบกับมนุษย์ เขาสามารถบอกได้เพียงมองปราดเดียว
เจี้ยนเฉินตั้งใจที่จะหนีคำถามนี้และเขาพูด “นูบิส พวกเราไม่พูดเรื่องนี้ มาพูดถึงเรื่องของเจ้ากันดีกว่า เป็นยังไงบ้าง ? เจ้าต้องก้าวหน้าไปอย่างมากจากการฝึกในสองสามปีที่ผ่านมานี้แน่”
“แน่นอน” นูบิสตื่นเต้น “ข้าได้ดูดซับแกนลับจากเจ้างูแก่นั้นมาได้ 7 ส่วนแล้ว แกนลับนั้นได้มีความเข้าใจในความลึกลับของธรรมชาติของเจ้างูแก่นั้นอยู่ ข้าหลอมรวมกับมันอย่างสมบูรณ์และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นพลังของข้า ในตอนนี้ข้าอยู่ในขั้นสูงสุดของสัตว์อสูรระดับ 7 ในภาษามนุษย์ของเจ้า ข้าเทียบเท่ากับเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 ข้าจะสามารถตัดผ่านไปถึงระดับ 8 ได้ถ้าเจ้าให้เวลาข้ามากกว่านี้และข้าได้ดูดซับแกนลับที่เหลืออยู่จากเจ้างูแก่นั่น”
เมื่อได้ยินดังนั้น เจี้ยนเฉินก็ตกใจอย่างมากแม้ว่าเขาจะเตรียมใจไว้ก่อนหน้านี้แล้ว นูบิสเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองจากชั้นสวรรค์ที่ 3 เป็นชั้นสวรรค์ที่ 9 ในเวลาสั้น ๆ แค่ 4 ปี ความเร็วในการพัฒนานั้นเร็วมากจนแม้แต่เขาก็พูดไม่ออก การพัฒนาของเขาในครั้งนี้น้อยมากนักเมื่อเทียบกับนูบิส
“เจี้ยนเฉิน ข้ารู้สึกได้ว่าเจ้าก็แข็งแกร่งขึ้นมากเช่นกัน ดูเหมือนเจ้าจะได้อะไรมาบ้างจากการเดินทางไปที่มหาสมุทรดวงดาว” นูบิสจ้องไปที่เจี้ยนเฉินและหัวเราะคิกคัก
“เอาล่ะ พวกเราไม่พูดเรื่องนี้กันตอนนี้ดีกว่า นูบิส พวกเราอยู่ที่นี่มาก็นานมากแล้ว คนจากทวีปเทียนหยวนน่าจะขยายขอบเขตการค้นหามาที่มหาสมุทรในไม่ช้า พวกเราควรจะไปจากที่นี่โดยเร็ว ยิ่งพวกเราเข้าไปที่ตั้งของเผ่าพันธุ์ทะเลเร็วมากเท่าไร ก็ยิ่งจะทำให้พวกเราปลอดภัยมากยิ่งขึ้นไปกว่านั้น” เจี้ยนเฉินพูด
“เอาละ พวกเราไปที่เผ่าทะเลกันก่อน ถ้างูแก่ทรงพลังคนอื่นจากทวีปสัตว์เทวะเรียกพวกมันมาจัดการกับข้า ข้า นูบิสผู้ยิ่งใหญ่ จะตกอยู่ในอันตรายเอาได้”
ทันทีที่เขาพูดจบ ใบหน้าของนูบิสก็แข็งทื่อไป แสงในตาของเขาระเบิดออกและเขาก็มองขึ้นไป
มิติตรงที่นูบิสมองเริ่มที่จะบิดเบี้ยวอย่างรุนแรงก่อนที่จะฉีกเปิดออกมา ประตูมิติจู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นและชายชราในชุดธรรมดาก็โผล่ออกมา
ในตอนที่เจี้ยนเฉินเห็นชายชราคนนี้ สายตาของเขาก็ค้างอยู่กับที่ เขาไม่คุ้นกับชายคนนี้นัก เขาคือชายชราที่เขาเห็นครั้งแรกที่กำลังเช็ดโต๊ะอยู่ที่หอคอยพลังเซียนธาตุแสง
ด้านหลังชายชรา ร่างหลายร่างก้าวออกมา มีนักสู้หลายคนในชุดต่าง ๆ รวมกันมีเซียนผู้คุมกฎ 8 คน หลังจากนั้นกลุ่มของเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงในชุดขาวก็ปรากฏตัวขึ้นมา ตอนนี้มีคนรวมกันมากกว่ายี่สิบคนแล้ว ทั้งหมดติดตราสีม่วงที่ส่องแสงอยู่บนหน้าอก พวกเขาเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 และในกลุ่มนี้ก็มีท่านประธานของสมาคมและผู้อาวุโสสูงสุดด้วย
สมาคมตามหาที่อยู่ของเจี้ยนเฉินอย่างยากลำบาก ในการที่จะเอาวัตถุเซียนกลับไปให้สำเร็จ พวกเขามาด้วยกำลังพลทั้งหมดของพวกเขา
“หยางยู่เทียน ในที่สุดข้าก็พบเจ้า” เสียงชราดังขึ้นมาจากในกลุ่ม ชายชราชุดขาวเดินออกมาในตอนนี้ เขาคือท่านประธานของสมาคม
เทียบกับเมื่อสองสามปีก่อน ท่านประธานดูชราขึ้นมาก หน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยย่นและท่าทีของเขานั้นซีดเซียว ในปีที่ผ่านมานี้ เรื่องเกี่ยวกับวัตถุเซียนทำให้เขาได้รับความทรมานอย่างมาก
ท่านประธานมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย ในใจของเขาเต็มไปด้วยความขมขื่น ครั้งหนึ่งเขาเคยรับเจี้ยนเฉินเป็นศิษย์อย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อยหลังจากที่เขาได้เห็นพรสวรรค์ของเจี้ยนเฉิน เขายังวางแผนที่จะเลือกคนที่ประสบความสำเร็จระหว่างเจี้ยนเฉินและหยุนเทียนให้เป็นประธานคนต่อไป
ในวันที่ผ่านมานั้น การกระทำของเจี้ยนเฉินนั้นเยี่ยมมาก เขาเรียนรู้ทักษะต้องห้าม ‘เทพจุติ’ ด้วยพลังของเขาที่เป็นเพียงเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 และเขายังได้สังหารเซียนสวรรค์ไปมากกว่า 30 คนด้วยตัวของเขาเองที่แม่น้ำน้ำหอม มันทำให้เขาตกใจมากในเวลานั้น เขารวบรวมความคิดที่จะให้เจี้ยนเฉินเป็นผู้สืบทอดต่อไปในอนาคตของสมาคม เขายังมองศิษย์อีกคน หยุนเทียน เป็นหมากเพื่อที่จะผลักดันเจี้ยนเฉิน
เขาตั้งความหวังกับเจี้ยนเฉินเอาไว้มาก
อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าเจี้ยนเฉินจะถูกตั้งความหวังไว้สูงจากอีกหนึ่งตัวตนของเขาเช่นกัน ไม่เพียงแค่นั้น เขายังเอาวัตถุเซียนของสมาคมไปอีกซึ่งเกือบทำให้ทั้งสมาคมล่มสลายจนถึงขั้นที่กู่ไม่กลับ นี่ทำให้เขาเจ็บปวดอย่างมาก
ในตอนนี้ เขาได้พบกับลูกศิษย์ที่เขาตั้งความหวังไว้อย่างสูงอีกครั้ง ใจของท่านประธานทั้งรักทั้งเกลียด เขารักในความสามารถที่ยากจะหาผู้ใดเปรียบได้ของเจี้ยนเฉิน แต่เขาเกลียดการกระทำของเจี้ยนเฉิน อีกทั้งเขายังเกือบทำให้สมาคมต้องพังพินาศอีกด้วย
“หยางยู่เทียน เจี้ยนเฉิน เจียงหยางเซียงเทียน ข้าไม่รู้ว่าข้าควรจะเรียกเจ้าว่าอะไรดี” ท่านประธานถอนหายใจเบา ๆ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
“ท่านประธาน มันจะดีที่สุดถ้าท่านเรียกข้าว่าเจี้ยนเฉิน” เจี้ยนเฉินพูด
“เอาหล่ะ ข้าจะเรียกเจ้าว่าเจี้ยนเฉิน วัตถุเซียนอยู่กับเจ้าหรือไม่ ? ” ท่านประธานถาม
หลังจากตรึกตรองเล็กน้อย เจี้ยนเฉินก็ตอบกลับ “ท่านประธาน วัตถุเซียนอยู่กับข้าตอนนี้จริง แต่ข้าไม่สามารถมอบมันให้กับท่านได้ในตอนนี้”
“หยางยู่เทียน วัตถุเซียนเป็นของสมาคม เจ้าพยายามที่จะเอาไปเป็นของตัวเอง สมาคมปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดีในอดีตที่ผ่านมา แล้วเจ้ากลับมาทำแบบนี้ เราปฏิบัติต่อเจ้าดีเกินไปจริง ๆ ! ” ผู้อาวุโสเก้าอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา
“เจี้ยนเฉิน วัตถุเซียนสำคัญมากต่อสมาคม คิดถึงตอนนั้นที่เราปฏิบัติกับเจ้า เจ้าควรจะคืนมันให้แก่เรา” ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว เสียงของเขาเต็มไปด้วยความอ้อนวอน
“ท่านผู้อาวุโสสูงสุด ท่านประธาน มันไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการจะคืนวัตถุเซียนให้แก่พวกท่าน แต่วัตถุเซียนมีจิตวิญญาณและรับข้าเป็นนายของเขาแล้ว”
“อะไรนะ ! ? วัตถุเซียนรับเอาเจ้าเป็นนายอย่างนั้นหรือ ? มันเป็นไปได้ยังไงกัน ? ” ท่านประธานหน้าซีดด้วยความประหลาดใจ เขารู้เรื่องที่ว่ามีวัตถุเซียนมีจิตวิญญาณอยู่
แสงสีทองพุ่งออกมาจากหว่างคิ้วของเจี้ยนเฉินและตกลงที่กลางฝ่ามือของเขา มันคือหอคอยสีทองขนาดเท่าฝ่ามือ
เมื่อพวกเขาเห็นหอคอยสีทอง สายตาของคนในกลุ่มก็เกิดความสงสัย แม้ว่าวัตถุเซียนจะอยู่กับสมาคมมานานหลายปีแล้ว แต่ก็มีคนเพียงไม่มากที่เห็นรูปแบบที่แท้จริงของมัน ไม่มีใครในนี้ที่เคยเห็นมัน แม้แต่ท่านประธานก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
“วัตถุจิตวิญญาณ อธิบายกับท่านประธานด้วยตัวของเจ้าเองเลย” เจี้ยนเฉินพูดกับวัตถุวิญญาณ
วัตถุจิตวิญญาณรับคำของเจี้ยนเฉิน และติดต่อกับท่านประธานทันทีผ่านทางความคิด
ท่าทีของท่านประธานแสดงความนอบน้อมออกมาทันที ในฐานะที่เขาเป็นประธานของสมาคม เขารู้ดีว่าวัตถุจิตวิญญาณคืออะไร มันเทียบเท่ากับเซียนจักรพรรดิ แม้ว่าจะเป็นเพียงแต่ในมิติของวัตถุเซียน แต่มันก็ยังมีพลังที่น่าเกรงขามอยู่
สักพักต่อมา ความนอบน้อมของท่านประธานก็หายไป เขาถอนหายใจไปบนฟ้าและหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอับจนหนทาง หลังจากนั้นสายตาที่เขามองไปทางเจี้ยนเฉินก็ยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีก ประกอบไปด้วยกับความตกใจ
“ท่านผู้อาวุโสสูงสุด ท่านประธาน ข้ารู้ดีว่าวัตถุเซียนสำคัญกับสมาคมมากขนาดไหน ถ้าไม่มีมัน สมาคมจะไม่มีพลังดั้งเดิมอีก แต่ข้าสามารถช่วยพวกท่านแก้ปัญหาเหล่านั้นได้” เจี้ยนเฉินดึงเอาเหรียญสีม่วงออกมาจากแหวนมิติแล้วพูดต่อ “ท่านผู้อาวุโสสูงสุด นี้เป็นเหรียญที่ท่านให้ข้ามาเมื่อนานแล้ว ข้าเก็บพลังดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสงหลายสิบสายเอาไว้ในนี้ มันน่าจะแก้ปัญหาที่สมาคมกำลังเผชิญอยู่ได้”
ในขณะที่พูด เจี้ยนเฉินก็เอาเหรียญสีม่วงออกมา มันหยุดอยู่ตรงหน้าท่านผู้เฒ่าสูงสุดและเขาก็รับมันไว้และสัมผัสถึงมัน ความยินดีผุดขึ้นบนใบหน้าของเขาและเขาพูด “มีพลังงานดั้งเดิมหลายสิบสายอยู่ในนี้จริง ๆ “
เมื่อพูดจบ ความยินดีก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้อาวุโสหลายคนด้วยเช่นกัน
เจี้ยนเฉินพูดต่อ “ข้ารู้ดีว่านี่จะไม่ช่วยอะไรในระยะยาว มันจะมีวันที่พลังดั้งเดิมในนั้นจะถูกดูดซับจนหมด แต่ในอีก 50 ปีข้างหน้า ข้าจะเติมมันใหม่ในเหรียญสีม่วงนั้นอีกครั้ง ระหว่างที่รอนี้ ข้าหวังว่าพวกท่านคงหาวัตถุที่จะสามารถเก็บพลังดั้งเดิมมาเพิ่มได้”
“เจี้ยนเฉิน ในเมื่อวัตถุเซียนได้รับเจ้าไปเป็นนายแล้ว พวกเราควรจะไปซะ สมาคมของข้าจะไม่มากวนใจเจ้าอีก ข้าหวังว่าในเวลาทุก ๆ 50 ปี เจ้าจะทำอย่างที่เจ้าสัญญาและเติมพลังดั้งเดิมให้กับสมาคม” ท่านประธานถอนหายใจ เมื่อวัตถุวิญญาณรับเขาไปเป็นนาย นี่เป็นทางเลือกเดียวของท่านประธาน
ถ้าวัตถุเซียนไม่ทำแบบนั้น พวกเขาจะยังคงยับยั้งการกระทำของเจี้ยนเฉินและค้นทั่วทั้งแหวนมิติของเขาได้ แต่ในตอนนี้ มันเป็นไปไม่ได้แล้ว เมื่อวัตถุเซียนรับเอาเขาไปเป็นนาย พวกเขาก็แค่สังหารเจี้ยนเฉินแล้วนำมันกลับไป แต่พวกเขาก็ไม่มีความกล้าที่จะทำแบบนั้น
นี่เป็นเพราะว่าถ้าพวกเขาสังหารเจี้ยนเฉิน มันก็เท่ากับสมาคมไปทำให้ตระกูลเจียงหยางและอารามจิตพิสุทธิ์ของตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบโกรธ อีกทั้งยังรวมถึงศาลาเทพเจ้าน้ำแข็งซึ่งแม้แต่ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบยังเกรงกลัว