บทที่ 2951 เทวาดับสูญ 11 / บทที่ 2952 เทวาดับสูญ 12

ลำนำบุปผาพิษ

บท​ที่​ ​2951​ ​เทวา​ดับสูญ​ ​11

เขา​กล่าวว่า​ ​“​คุณชาย​เชียน​ซื่อ​ ​ท่าน​วู่วาม​เกินไป​แล้ว​!​ ​สกุล​ถู​ซาน​เป็น​เผ่าพันธุ์​บรรพกาล​ ​ลึกลับ​เก่าแก่​ ​เดิมที​เผ่า​นี้​ก็​มี​ลำนำ​โบราณ​บางอย่าง​ที่​สืบทอด​กัน​มา​อยู่​แล้ว​ ​เพียงแต่​ไม่ได้​แพร่งพราย​แก่​โลก​ภายนอก​เท่านั้น​ ​อีกทั้ง​เผ่า​จิ้งจอก​เก้า​หาง​ก็​มี​ความสามารถ​ใน​การ​รู้แจ้ง​โองการ​สวรรค์​ด้วย​ ​ราชินี​ถู​ซาน​สืบทอด​แก่นแท้​แห่ง​สกุล​ถู​ซาน​มา​อย่าง​ลึกล้ำ​ ​ช่ำชอง​สิ่ง​เหล่านี้​ก็​มิน่า​ประหลาดใจ​เลย​ ​นาง​ก็​เป็นห่วง​พระองค์เจ้า​ผู้สร้าง​โลก​เช่นกัน​ ​เมื่อ​ได้​เห็น​นิมิตหมาย​ทั้งหมด​แล้ว​ ​หัวใจ​กระสับกระส่าย​ ​ถึง​ได้​บอกกล่าว​ให้​ทุกคน​ได้​ประเมิน​กัน​อย่างละเอียด​ ​เดิมที​นี่​คือ​เรื่อง​ดี​ ​แต่​ท่าน​กลับ​ลงมือ​ต่อนาง​หนักหนา​เพราะว่า​นาง​พูดความจริง​…​ช่าง​หยาบคาย​เกินไป​แล้ว​!​”

“​มิ​ผิด​ ​ทุกคน​ล้วน​เป็นห่วง​เทพ​ผู้สร้าง​โลก​เหมือนกัน​ ​อีก​อย่าง​เทพ​ผู้สร้าง​โลก​ไหน​เลย​จะ​เกิดเรื่อง​ขึ้น​ได้​เพราะ​คำแช่ง​ชัก​เพียง​ไม่​กี่​คำ​?​ ​คุณชาย​เชียน​ซื่อ​ทำ​เรื่องเล็ก​ให้​เป็นใหญ่​เกินไป​แล้ว​ ​ลงมือ​เช่นนี้​ ​อาจจะ​สูญเสีย​ศักดิ์​ฐานะ​และ​ภาพลักษณ์​ของ​ศิษย์​ผู้สร้าง​โลก​ไป​”

“​ใช่​แล้ว​ ​คุณชาย​เชียน​ซื่อ​วู่วาม​เกินไป​แล้ว​จริงๆ​!​ ​ไม่​คล้าย​ศิษย์​ของ​เทพ​ผู้สร้าง​โลก​เลย​สักนิด​…​”

“​เหอๆ​ ​มุทะลุ​วู่วาม​ถึง​เพียงนี้​ ​ไม่​แปลก​เลย​ที่​เทพ​ผู้สร้าง​โลก​จะ​ไม่​พึงใจ​…​”

“​นี่​ก็​ใช่​ ​พวก​เจ้า​ดู​สิ​ ​หากว่า​เทพ​ผู้สร้าง​โลก​ดับสูญ​ใน​แดน​ต้องห้าม​ของ​ทวยเทพ​จริงๆ​ ​นาง​ก็​น่าจะ​ไป​พบ​คุณชาย​เชียน​ซื่อ​เพื่อ​ส่งมอบ​เรื่อง​กิจการ​ใน​ภายหน้า​ให้​เขา​สิ​ ​แต่​นาง​ไม่ได้​อะไร​กับ​เขา​เลย​นี่​”

“​แน่นอน​ว่า​ต้อง​ไม่​บอก​เขา​ ​พระองค์เจ้า​เดียดฉันท์​เขา​อย่างยิ่ง​แล้ว​ ​ข้า​คิด​ว่า​พระองค์เจ้า​คง​เสียใจ​แล้ว​เป็นแน่​ที่​รับ​เขา​เป็น​ศิษย์​…​”

“​พวก​เจ้า​อย่า​ลืม​สิ​ ​ราชครู​ตี้​ก็​เข้าไป​ด้วย​นะ​ ​ไม่แน่​นะ​พระองค์เจ้า​อาจจะ​ส่งมอบ​ตำแหน่ง​ให้​ราชครู​ตี้​ก็ได้​ ​ถ่ายทอด​มรดก​และ​พลัง​ยุทธ์​ทั้งหมด​ให้​แก่​เขา​…​”

ผู้คน​ที่อยู่​ใน​เหตุการณ์​มี​หลาย​ร้อย​คน​ ​พูด​กัน​อย่าง​เจ้า​คำ​ข้า​คำ

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​นิสัย​หยิ่ง​ทะนง​มาตั​้ง​แต่​เกิด​ ​ก่อน​จะ​ได้​กราบ​อาจารย์​ก็​เคย​ล่วงเกิน​ผู้คน​ไว้​ไม่น้อย​ ​หลัง​กราบ​อาจารย์​แล้ว​ทุกคน​เห็นแก่หน้า​ของ​เทพ​ผู้สร้าง​โลก​ ​นับว่า​ยัง​ให้​ความนับถือ​ต่อ​เขา​อยู่​บ้าง

แต่​ตอนนี้​เทพ​ผู้สร้าง​โลก​เป็น​ตาย​ไม่แน่​ชัด​ ​มี​ความเป็นไปได้​สูง​ที่จะ​ดับขันธ์​ไป​แล้ว​จริงๆ​ ​ทุกคน​ย่อม​ไม่​ไว้หน้า​เขา​อีกต่อไป

เมื่อ​เห็น​เขา​ลงมือทำ​ร้าย​คน​ ​ก็​พากัน​ตำหนิ​วิจารณ์​เขา

ที่​พูดจา​แทงใจ​อย่างไร​ก็​พูด​แทงใจ​ไป​ ​ที่​พูดจา​โจมตี​คน​อย่างไร​ก็​พูด​โจมตี​ไป

ใบหน้า​หล่อเหลา​ของ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​เขียว​คล้ำ​แล้ว​!​ ​มือ​เท้า​ล้วน​สั่นเทา​ไป​หมด

อู​เชียน​เหยี​ยน​ที่อยู่​ข้าง​กาย​เขา​มาโดยตลอด​ ​พอได้​ยิน​วาจา​ก็​โกรธ​เกรี้ยว​ ​“​ทุกท่าน​อย่า​ได้​เอ่ย​เหลวไหล​!​ ​พระองค์เจ้า​เมตตา​คุณชาย​เสมอมา​ ​ถ่ายทอด​วร​ยุท​์​ให้​เขา​มากมาย​นัก​…​ปฏิบัติ​ต่อ​เขา​ใน​ฐานะ​ลูกศิษย์​เสมอมา​ช่วง​ก่อน​ยัง​เสี่ยงอันตราย​พานา​ยน​้อย​เข้าสู่​แดน​มังกร​ประทีป​ ​ล่า​ไข่​มังกร​ประทีป​ใบ​หนึ่ง​มา​ให้​เขา​อยู่​เลย​ ​และ​ถ่ายทอด​วิธีการ​ฟูมฟัก​ให้​เขา​ ​หากว่า​พระองค์เจ้า​ไม่ไยดี​เขา​ ​แล้ว​จะ​เสี่ยงอันตราย​ใหญ่หลวง​เช่นนี้​ไป​ทำไม​เล่า​?​”

“​เหอะ​ๆ​ ​ส่งมอบ​มรดก​ศักดิ์สิทธิ์​ให้​สิ​ถึง​จะ​เป็นความ​เมตตา​อย่างแท้จริง​ที่​อาจารย์​มีต​่อ​ศิษย์​ ​ไข่​มังกร​ประทีป​ใบ​เดียว​จะ​บ่งบอก​อัน​ใด​ได้​?​ ​ไม่แน่​ว่า​ไข่​มังกร​ประทีป​ใบ​นี้​อาจ​เป็น​สิ่ง​ที่​พระองค์เจ้า​โยน​ให้​เขา​ ​เพื่อ​ไล่​เขา​ไปให้พ้น​หน้า​ ​ให้​เขา​มีเรื่อง​ทำ​จะ​ได้​สงบเสงี่ยม​ ​ไม่​ก่อเรื่อง​ขึ้น​มา​อีก​ก็ได้​…​”

….

อันที่จริง​ตี้​เฮ่า​ไม่เข้าใจ​อยู่​บ้าง​ ​ตน​กำลัง​ดู​ชาติก่อน​ของ​ท่าน​แม่​อยู่​ชัดๆ​ ​แต่​ท่าน​แม่​ก็​ดับขันธ์​ไป​แล้ว​ ​ตาม​หลัก​แล้ว​ไม่น่า​จะ​ได้​เห็น​ฉาก​ต่อมา​พวก​นี้​เลย​สิ

กลับ​คาดไม่ถึง​เลย​ว่า​เขา​จะ​ได้รับ​ชม​ทุกอย่าง​ ​ซ้ำ​ยัง​ได้​เห็น​อย่างถ่องแท้​ยิ่ง​!

ที่แท้​วาจา​ก็​สามารถ​ทำร้าย​คน​ได้​ถึงขั้น​ไหน​ ​วันนี้​ในที่สุด​เขา​ก็ได้​ประจักษ์​แล้ว

ใน​ยุค​นี้​ไม่มี​ไซ​เบอร์​บูล​ลี​ ​แต่​เหตุการณ์​นี้​ก็​ไม่​ต่าง​ไป​จาก​ไซ​เบอร์​บูล​ลีสัก​เท่าไหร่​…

นิสัย​ของ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​เดิมที​ก็​สุดโต่ง​อยู่​แล้ว​ ​อีกทั้ง​เนื่องจาก​ไม่​สมหวัง​ใน​รัก​จึง​ค่อนข้าง​น้อยเนื้อต่ำใจ​ใน​ตนเอง​ ​ยาม​นี้​เขา​ได้​ฟัง​วาจา​เหล่านี้​ไป​ใน​ใจ​จะ​รู้สึก​เช่นใด​กัน​เล่า​?

เกรง​ว่า​คง​นึก​สงสัย​ใน​สายใย​ศิษย์​อาจารย์​ที่​กู้​ซีจิ​่ว​มีต​่อ​เขา​แล้ว​ ​และ​สงสัย​ว่า​กู้​ซีจิ​่​วจะ​ดูแคลน​เขา​จริงๆ​…

ตี้​เฮ่า​มอง​ไป​ที่​ประตู​หยก​อย่าง​เป็นกังวล​ ​เขา​ทราบ​ว่า​ตี้ฝู​อี​ที่อยู่​ด้านใน​ประตู​หยก​จับพลัดจับผลู​ฟื้นฟู​พลัง​ยุทธ์​และ​ฐานะ​ของ​เจ้า​แห่ง​ลิขิต​สวรรค์​ได้​แล้ว​ ​เดิมที​นี่​เป็นเรื่อง​ดี

แต่​พอ​เขา​ออกมา​ ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ได้รับ​รู้​ว่า​อาจารย์​ดับสูญ​ไป​แล้ว​ ​อีกทั้ง​ได้​เห็น​ว่า​พลัง​ยุทธ์​ของ​ตี้ฝู​อี​ยกระดับ​ขึ้น​มากมาย​ถึง​เพียงนี้​ ​คาด​ว่า​ต้อง​เกิด​ปัญหา​แน่

————————————————————————————-

บท​ที่​ ​2952​ ​เทวา​ดับสูญ​ ​12

สำหรับ​เขา​แล้ว​ ​นี่​สิ​ถึง​จะ​เป็นการ​โจมตี​ที่​ส่งผล​ถึง​ชีวิต​ที่สุด​…

ความคิด​ของ​ตี้​เฮ่า​เพิ่งจะ​แล่น​มาถึง​ตรงนี้​ ​ก็​มองเห็น​ประตู​หยก​ที่​ปิด​สนิท​มาโดยตลอด​ในที่สุด​ก็​เปิด​ออก​แล้ว​ ​คน​ผู้​หนึ่ง​ปรากฏตัว​ขึ้น​มา​ ​อาภรณ์​ม่วง​พราว​ระยับ​ ​สวมหน้ากาก​ภูตผี​ ​ถึงแม้​จะ​มองไม่เห็น​รูปโฉม​ดั้งเดิม​ของ​เขา​ ​แต่​มอง​จาก​ร่าง​แล้ว​เป็น​ตี้ฝู​อี​อย่าง​มิต​้​อง​สงสัย​เลย

ถึงแม้​ตัว​คน​จะ​ยัง​เป็น​คน​ผู้​นั้น​อยู่​ ​แต่​รัศมี​อำนาจ​บน​กาย​เปลี่ยนไป​อย่าง​สมบูรณ์​แล้ว​!

ลึกลับ​ ​กล้าแกร่ง​ ​มีแสง​รุ้ง​ศักดิ์สิทธิ์​ส่อง​ระยิบระยับ​น้อย​ๆ​ ​อยู่​รอบกาย​เขา​ ​ทันทีที่​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​ ​ราวกับ​ได้​ช่วงชิง​แสงตะวัน​จันทรา​มา​แล้ว

เขา​กลายเป็น​เทพ​แล้ว​!

ฝูงชน​ทึ่ม​ทื่อ​ ​มีบา​งคน​ทนไม่ไหว​ถาม​ออกมา​ประโยค​หนึ่ง​ ​“​เทพ​ผู้สร้าง​โลก​…​พระองค์เจ้า​เล่า​?​”

ไม่มีใคร​เห็น​ว่า​สีหน้า​ของ​ตี้ฝู​อี​ที่อยู่​เบื้องหลัง​หน้ากาก​เป็น​เช่นใด​ ​ได้ยิน​เพียง​น้ำเสียง​เย็น​กระจ่าง​เลื่อย​ลอย​ของ​เขา​ที่​ราวกับ​แว่ว​อยู่​ใน​ฟ้า​ดิน​ ​“​พระองค์เจ้า​ดับขันธ์​แล้ว​…​”

ตี้​เฮ่า​ที่อยู่​ด้านนอก​อด​ไม่ได้​ที่จะ​กุมขมับ

สีหน้า​ของ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ที่อยู่​ใน​ฉาก​ซีด​ขาว​ดุจ​คนตาย​ไป​ทันที​!​ ​ยืน​ตาค้าง​อยู่​ตรงนั้น​จะ​ร้อง​ก็​ร้อง​ไม่​ออก

อู​เชียน​เหยี​ยน​หลั่ง​น้ำตา​อาบ​หน้า​ ​แต่​เมื่อ​เห็น​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ใน​สภาพ​นี้​ก็​ยังคง​สะดุ้งโหยง​ ​นาง​ทนไม่ไหว​จึง​เขย่า​แขน​ของ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ ​“​นาย​น้อย​ ​ท่าน​ร้อง​ออกมา​เถิด​!​ ​ท่าน​ร้อง​ออกมา​เถิด​เจ้าค่ะ​…​”

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ไม่ได้​ร้องไห้​ ​เขา​พลัน​เชิดหน้า​หัวเราะ​เสียงดัง​ก้อง​!​ ​เสียงหัวเราะ​ทลาย​ศิลา​ทะลวง​เมฆา​ ​สั่นสะเทือน​ขุนเขา

เขา​ไม่​พูด​อะไร​ ​แต่​พุ่ง​เข้าไป​ด้านใน​ประตู​หยก​เลย​!

ฝูงชน​หน้า​เปลี่ยนสี

อู​เชียน​เหยี​ยน​หวีดร้อง​ ​“​นาย​น้อย​!​”​ ​พลัน​ทะยาน​กาย​ ​กระโจน​เข้าไป​ใน​ประตู​หยก​อย่าง​ไม่​คำนึงถึง​สิ่งใด​ทั้งนั้น​…

นาง​แตกต่าง​กับ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​กระโจน​เข้าไป​ได้​ทั้ง​ร่าง​แล้ว

แต่​ร่าง​ของ​อู​เชียน​เหยี​ยน​เพิ่งจะ​เข้าใกล้​ประตู​หยก​ ​ทั้ง​ร่าง​ก็​ลุกไหม้​ขึ้น​มา​ ​ยัง​ไม่ทัน​เข้าสู่​ประตู​หยก​ ​ก็​มอดไหม้​กลายเป็น​เถ้า​ธุลี​ปลิว​ว่อน​แล้ว

ถึงแม้​ตี้ฝู​อี​จะ​กลายเป็น​เทพ​แล้ว​ ​แต่​ตัว​เขา​เอง​กลับ​ดู​มึนงง​อยู่​บ้าง​ ​เห็นได้ชัด​ว่าไม่ได้​คาดการณ์​เรื่อง​นี้​ไว้​ ​รอ​จน​เขา​คิด​จะ​ฉุด​ดึง​คน​ทั้งสอง​ออกมา​ ​ก็​ไม่ทัน​กาล​แล้ว

เขา​ตะลึงงัน​ไป​แวบ​หนึ่ง​ ​กำมือ​จน​ข้อนิ​้ว​ขาวโพลน​แล้ว

ช่วย​อู​เชียน​เหยี​ยน​ไว้​ไม่ได้​แล้ว​ ​แต่​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​น่าจะ​ได้​อยู่

เขา​เป็น​ศิษย์​เพียง​คนเดียว​ของ​ซีจิ​่ว​ ​หากว่า​เกิดเหตุ​ขึ้น​มา​ใน​ยาม​นี้​ ​เขา​ก็​จะ​ยิ่ง​ผิด​ต่อนา​ง.​..

เขา​หันหลัง​แล้ว​พุ่ง​ทะยาน​กลับ​เข้าไป​อีกครั้ง

และ​ทันทีที่​เขา​เข้าไป​ได้​ ​ประตู​หยก​ที่​เดิมที​สมควร​จะ​เปิด​อ้า​ต่อไป​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ก็​ปิด​ลง​เสียงดัง​ตึง

ฝูงชน​ตกตะลึง​…

ตี้​เฮ่า​ก็​ตะลึง​เช่นกัน​…

แดน​ต้องห้าม​สำหรับ​ทวยเทพ​หวนคืน​สู่​ความเงียบสงบ​อีกครั้ง​ ​ฝูงชน​ต่าง​เจ้า​มอง​ข้า​ ​ข้าม​อง​เจ้า​ ​ไม่เข้าใจ​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​อีกแล้ว

ทุกคน​ต่าง​ค่อนข้าง​รู้สึก​ผิด​กัน​เป็นธรรมดา​ ​เทพ​ผู้สร้าง​โลก​มีบุญ​คุณ​ต่อ​หก​ภพ​ภูมิ​ ​แต่​นาง​เพิ่งจะ​ดับขันธ์​ไป​ ​พวกเขา​ก็​บีบคั้น​จน​ทำให้​ศิษย์​ของ​นาง​เป็น​ตาย​ไม่แน่​ชัด​ ​ส่วน​สาวใช้​ก็​มอดไหม้​เป็น​เถ้า​ธุลี​ไป​แล้ว

เสียใจ​!​ ​ผู้คน​ที่​เคย​พูดจา​โจมตี​ล้วน​ค่อนข้าง​สำนึก​เสียใจ​แล้ว

แต่​เรื่อง​เกิดขึ้น​มา​แล้ว​ ​ต่อให้​สำนึก​เสียใจ​ไป​ก็​ไม่มี​ประโยชน์​ ​ด้วยเหตุนี้​ทุกคน​จึง​รอคอย​อยู่​นอก​ประตู​ต่อไป

เพียงแต่​ ​ทุกคน​ไม่มี​ความหวัง​แล้ว​ว่า​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​จะ​สามารถ​รอดชีวิต​ออกมา​ได้​ ​ถึงอย่างไร​ปีนั​้น​เขา​เข้าไป​เพียง​ครู่เดียว​ก็​เกือบจะ​โดน​ไฟ​ครอก​จน​เป็น​ตอ​ตะโก​แล้ว

ยาม​นี้​ประตู​ปิด​ลง​แล้ว​ ​เขา​ต้อง​อยู่​ด้านใน​ถึง​หนึ่ง​เดือนเต็ม​ ​และ​จะ​รอดชีวิต​ได้​อย่างไร​?

ความจริง​คือ​ ​พวกเขา​ล้วน​เดา​ผิด​กัน​หมด​!

ผ่าน​ไป​ครึ่ง​เดือน​ประตู​หยก​บาน​นั้น​ก็​เปิด​ออก​แล้ว​ ​ทันทีที่​ประตู​เปิด​ออก​ ​มีแสง​ทอง​พวยพุ่ง​ขึ้น​สู่​ฟากฟ้า​!​ ​กระจัดกระจาย​ไป​ใน​อากาศ

และ​หลังจาก​แสงทอง​สลาย​ไป​ ​คน​ทั้งหมด​ล้วน​มีสี​หน้า​เลื่อนลอย​ ​เนื่องจาก​จู่ๆ​ ​พวกเขา​ก็​พบ​ว่า​ตน​จดจำ​เรื่องราว​เกี่ยวกับ​เทพ​ผู้สร้าง​โลก​ไม่ได้​แล้ว

เพียง​มองเห็น​ว่า​มี​คน​สอง​คน​เดิน​เรียง​กัน​ออกมา​จาก​ประตู​โดย​หนึ่ง​นำหน้า​หนึ่ง​ตามหลัง

สอง​คน​นี้​ผู้​หนึ่ง​สวม​ชุด​ดำ​ดั่ง​รัตติกาล​ ​ผู้​หนึ่ง​สวม​ชุด​ม่วง​ดุจ​แสง​อรุโณทัย​ ​ล้วน​สวมหน้ากาก​ไว้​บน​หน้า​ ​บน​ร่าง​มีแสง​ศักดิ์สิทธิ์​ครอบคลุม

ข้าง​กาย​ชาย​ชุด​ดำ​ยัง​มี​มังกร​ประทีป​น้อย​ตัว​หนึ่ง​บิน​ร่อน​วนเวียน​ไปมา​อย่างกระฉับกระเฉง​อยู่​ด้วย

ทุกคน​ค่อนข้าง​งงงัน​กัน​ไป​ชั่วขณะ​ ​ไม่​ค่อย​เข้าใจ​ว่า​ทำไม​ตน​มา​อยู่​ที่นี่

แต่​เมื่อ​เห็น​สอง​คน​นี้​ก้าว​ออกมา​ ​จู่ๆ​ ​ทุกคน​ก็​คล้าย​จะ​แจ่มแจ้ง​อัน​ใด​ขึ้น​มา​ในทันที