หยวนเฮ่อ เจ้าสำนัก สำนักเฟิงหยวน เพิ่งจะพาคนเข้าไปในค่าย เอียนชิงเฉิงที่อยู่ในคฤหาสน์ทะเลสาบกลับคืนรังเริ่มการโจมตีทันที

การโจมตีที่เกิดจากพลังห้าธาตุ เริ่มขว้างไปที่หัวของหยวนเฮ่อและคนอื่นๆ

หยวนเฮ่อมีพลังบำเพ็ญแดนเทพ สามารถควบคุมพลังฟ้าดินเบื้องต้นได้แล้ว ดังนั้นเทียบกับหม่าฮ่วาหลงคนกลุ่มนั้นที่เข้ามา มันง่ายกว่าเยอะมาก

มองดูการโจมตีที่พัฒนามาจากพลังห้าธาตุ หยวนเฮ่อสีหน้าเคร่งขรึม “เป็นค่ายกลห้าธาตุจริงๆ ด้วย เพียงแต่เหมือนจะไม่ใช่ ดูท่าคนที่ตั้งค่ายแห่งนี้ขึ้น ฉลาดเป็นอย่างมาก!”

“เฉินไต้ซือคนนั้นถูกหอเทียนจีจัดอันดับเป็นที่หนึ่งในรายชื่อเทพ แน่นอนว่าในนั้นมีเหตุผลที่โลกบู๊โบราณของพวกเราไม่เคยเกิดขึ้น แต่ก็พิสูจน์ได้ว่ากำลังของเขานั้นไม่ธรรมดาจริงๆ!”

“อยากจะทำลายค่ายกลนี้ ยังจะต้องศึกษาอย่างดี”

หลังจากสำรวจเสร็จ หยวนเฮ่อไม่ได้ติดพันในสงคราม เขาพาพรรคพวกถอยออกไปทันที

ภายในคฤหาสน์ เอียนชิงเฉิงมองดู หยวนเฮ่อและคนอื่นๆ ที่ถอยออกไปอย่างสวัสดิภาพ ก็สบถอย่างโมโห “จิ้งจอกแก่ตัวนี้ เจ้าเล่ห์จริงๆ เห็นว่าทำลายค่าไม่ได้ ก็หนีไปทันที!”

เฉินซงจื่อกับหลี่ซู่เฟินและคนอื่นๆ ที่หลบมาจากฮ่านหยาง ได้เห็นภาพนี้ หลี่ซู่ฟินถามอย่างเป็นกังวลเล็กน้อย “ค่ายนี้สามารถขวางกั้นเขาไว้ได้ไหม?”

เอียนชิงเฉิงลุกขึ้นยืน โค้งคำนับต่อหลี่ซู่เฟิน ถึงได้เอ่ยปากขึ้น “ประธานหลี่วางใจได้ ค่ายนี้อาจารย์สร้างขึ้นด้วยตัวเอง สามารถขวางกั้นคนชั่วน่าขันพวกนั้นได้สบายมาก!”

“งั้นเฉินโม่จะกลับมาเมื่อไหร่?” หลี่ซู่เฟินเป็นกังวลเล็กน้อย พวกเธอทอดทิ้งแม้แต่เหม่ยหวา กรุ๊ปแล้ว เฉินโม่ก็ยังไม่กลับมา จะเป็นดั่งที่ หม่าฮ่วาหลงพูดไว้จริงๆ หรือเปล่า เฉินโม่เกิดเรื่องขึ้นที่ประเทศต้าเหอ?”

เอียนชิงเฉิงพูด “ประธานหลี่วางใจได้ พละกำลังของอาจารย์เหนือกว่าที่คนเหล่านั้นจะเทียบได้ เขาจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน”

“อืม” หลี่ซู่เฟินพยักหน้า หันหลังเดินกลับไปที่ห้อง “ฉันกลับไปพักผ่อนก่อน ทางนี้ลำบากพวกคุณด้วยนะ”

“ครับ/ค่ะ” เฉินซงจื่อกับเอียนชิงเฉิงและคนอื่นๆ ทำความเคารพ หลี่ซู่เฟินคือคุณแม่ของเฉินโม่ ในเมื่อพวกเขาเคารพเฉินโม่เป็นอาจารย์ แน่นอนว่าจะเสียมารยาทไม่ได้

“ฉันไม่อยู่เป็นเพื่อนประธาน” เวินฉิงพูด

“อืม” เฉินซงจื่อและเอียนชิงเฉิงพยักหน้า

หลังจากที่เวินฉิงเดินออกไป เฉินซงจื่อมองดูเอียนชิงเฉิงและซังซังแล้วถามขึ้น “ค่ายนี้สามารถขวางกั้นพวกเขาได้นานเท่าไหร่? ตอนนี้ประธานไม่อยู่ ท่านพรตเฉินพูดความจริงกับฉัน”

เอียนชิงเฉิงมองดูเฉินซงจื่อ พูดเสียงเข้ม “คนคนนั้นพละกำลังไม่ธรรมดา เกรงว่าถึงระดับแดนเทพแล้ว ฉันไม่เคยเห็นฝีมือของเขา ถึงแม้ระยะเวลาสั้นพวกเขาทำลายค่ายไม่ได้ แต่ถ้าหากเวลานานไป ยากที่จะรับรองว่าพวกเขาคิดหาวิธีอะไรออกมาได้”

เฉินซงจื่อสีหน้าแย่ “พูดแบบนี้พวกเราทำได้เพียงเฝ้ารออาจารย์กลับมาอย่างเร็วที่สุด”

เอียนชิงเฉิงพยักหน้า “พวกเราไร้ประโยชน์จริงๆ ไม่มีเฉินโม่ พวกเราทำอะไรได้ไม่ดีสักอย่าง”

“อย่างท้อแท้ พวกเราฝึกวิชาเวลาน้อยมาก ผ่านไปอีกช่วงหนึ่ง จะต้องช่วยแบ่งเบาอาจารย์ได้อย่างแน่นอน” เฉินซงจื่อพูดปลอบ

“อืม” ในดวงตาของเอียนชิงเฉิงเผยประกายของความแน่วแน่ออกมา ตอนนี้พลังบำเพ็ญของเธอถึงระดับปรมาจารย์แดนมองขวัญแล้ว อีกอย่างบนตัวมีสายเลือดลับหงส์ฟ้า ความเร็วในการฝึกวิชาของเธอรวดเร็วกว่าเฉินซงจื่อ

ตอนนี้เธอห่างจากแดนเทพ ขาดแค่เพียงโอกาสเท่านั้น

หยวนเฮ่อออกจากค่าย หม่าฮ่วาหลงและคนอื่นๆ เข้ามาทันที และถามอย่างเป็นห่วง “เจ้าสำนัก เป็นอย่างไรบ้าง?”

หยวนเฮ่อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นมองไปทาง หม่าฮ่วาหลงพูดขึ้นทันที “ค่ายนี้ไม่ธรรมดา อย่าว่าแต่พวกคุณ ต่อให้เป็นฉันที่สะเพร่าบุกเข้าไป เกรงว่าก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันตรงไหน อยากจะตีแตกค่ายนี้ พวกเราจะต้องพิจารณาตัดสินอย่างรอบคอบ”

“แม้แต่เจ้าสำนักก็ทำอะไรค่ายกลบ้านี่ไม่ได้ หรือว่าพวกเขาจะต้องดูน้ำชีวิตลอยหายไปจากตรงหน้าเช่นนี้เหรอ?” หม่าฮ่วาหลงพูดอย่างผิดหวัง