“อย่าท้อแท้ใจ ฉันแค่พูดว่าพิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่ได้พูดว่าทำลายค่ายไม่ได้ พวกคุณสามารถยอมรับกองกำลังของเฉินไต้ซือไว้ก่อน สำหรับค่ายนี้ ฉันคิดหาวิธีก่อน” หยวนเฮ่อพูด

“ครับ งั้นพวกเราไปจัดการกองกำลังเหล่านั้นของเฉินไต้ซือไว้ ตอนนั้นไม่แน่เจ้าสำนักอาจจะคิดหาวิธีตีแตกค่ายได้แล้ว” หม่าฮ่วาหลงยิ้มพูด

“อืม ไปเถอะ!” หยวนเฮ่อพยักหน้า จากนั้นมองไปทางหลิ่วหยวนและคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านข้าง

“พวกคุณก็ตามไปเถอะ ทำตามที่พวกเราคุยกันก่อนหน้านี้ แบ่งกองกำลังของเฉินไต้ซื้อเท่าๆ กัน”

หลิ่วหยวนแอบด่าในใจ “แบ่งเฉลี่ย? สำนักเฟิงหยวนของพวกแกผูกขาดห้าสิบเปอร์เซ็นต์ อีกห้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่เหลือให้พวกเราที่มีกองกำลังเยอะขนาดนี้แบ่งกัน แบ่งมาถึงมือข้ามากสุดก็แค่สิบเปอร์เซ็นต์ แกกล้าพูดออกมาได้ว่าแบ่งเฉลี่ย!”

แต่ด่าก็ส่วนด่า หลิ่วหยวนกลับไม่กล้าเผยความไม่พอใจออกมาสักนิด ไม่เช่นนั้นสิบเปอร์เซ็นต์นั่นก็คงไม่มีส่วนของเขา

“ขอบคุณเจ้าสำนัก งั้นพวกเราขอตัวลาก่อน” หลิ่วหยวนไม่เพียงไม่กล้ากล่าวโทษ แถมยังต้องขอบคุณ หยวนเฮ่อ เพราะว่า หยวนเฮ่อมีอิทธิพลใหญ่

“เจ้าบ้านหลิ่วเกรงใจเกินไปแล้ว เชิญเถอะ!” หยวนเฮ่อไม่อยากพูดกับหลิ่วหยวนมากเกินไป หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าของคนพวกเดียวกัน หยวนเฮ่อไม่มีทางแบ่งกองกำลังอีกห้าสิบเปอร์เซ็นต์ออกไป

หลิ่วหยวนและคนอื่นๆ เริ่มรับกองกำลังเหล่านั้นของเฉินโม่ที่โลกมนุษย์ ฉู่เหวินสง เจี่ยจิ้งอาน เซวียเชียนเหอ ตระกูลไช่ หอการค้าโม่เจีย รวมทั้งสำนักยาเซียน เพียงแค่กองกำลังที่มีความสัมพันธ์กับเฉินโม่ ไม่ปล่อยไปสักราย

กวาดล้างกองกำลังของเฉินโม่จนหมด หลิ่วหยวนและคนอื่นๆ แอบตกตะลึง “กองกำลังของเฉินไต้ซือ มากมายมหาศาลขนาดนี้ ความร่ำรวยนี้เพียงพอที่จะเข้าสิบอันดับแรกของห้าร้อยอันดับแกร่งทั่วโลกได้เลย!”

“ถึงแม้มีเพียงสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ก็เพียงพอที่ตระกูลหลิ่วของฉันจะลงหลักปักฐานที่โลกมนุษย์ได้แล้ว”

หลิ่วหยวนและคนอื่นๆ ปล้นกองกำลังของเฉินโม่ไปทั่ว สมาชิกหน่วยมังกรที่รับผิดชอบสังเกตการณ์ทั่วหล้า รายงานเรื่องนี้กับเจียงเหอซานตั้งแต่ตอนแรกแล้ว

แต่ว่า ตอนนี้เจียงเหอซานกลับไม่ว่าที่จะสนใจเรื่องนี้ เพราะว่าเรื่องที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าอยู่ สำคัญกว่าเรื่องนี้ร้อยเท่า

ผู้นำตระกูลของหกตระกูลมหาอำนาจแห่งหัวเซี่ย จู่ๆ รวมกลุ่มกัน เรียกร้องให้ผู้บังคับบัญชาจะต้องลงโทษเฉินโม่อย่างเฉียบขาด เหตุผลเนื่องจากเฉินโม่ได้ทำลายความสัมพันธ์สองประเทศของหัวเซี่ยกับประเทศต้าเหอ

ไม่เช่นนั้นเกรงว่าจะนำไปสู่สงครามระหว่างสองประเทศ

ถึงแม้ผู้บังคับบัญชากับเจียงเหอซานรับรู้แล้ว ต่อกลอนกับเฉินโม่เกินครึ่งเป็นความคิดของตระกูลหลี่เอง ในเมื่อเขากับเฉินโม่ยังมีสัญญาสามปี

ตอนนี้เห็นเฉินโม่มีอำนาจกะทันหัน สุนัขตระกูลหลี่ร้อนใจก็คาดการณ์ได้

ถ้าหากมีเพียงตระกูลหลี่เพียงตระกูลเดียวที่ออกมาพูดเรื่องนี้ ผู้บังคับบัญชาสามารถควบคุมได้

แต่ว่า ตอนนี้ไม่รู้ว่าตระกูลหลี่ใช้วิธีอะไร ถึงได้ชักชวนห้าตระกูลมหาอำนาจอื่นยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับเขา กำลังที่หกตระกูลมหาอำนาจรวมเข้าด้วยกัน จะมองข้ามไม่ได้ จากเอกสิทธิ์ของพวกเขา หากตัดสินใจทำเรื่องอะไรแล้ว เพียงแค่มีเหตุผลค้ำยัน แม้แต่ผู้บังคับบัญชาก็หมดหนทาง

ในเมื่อบุคคลที่ยืนอยู่เบื้องหลังหกตระกูลมหาอำนาจ ต่อให้ทั้งหัวเซี่ยก็ไม่กล้าล่วงเกิน

อีกอย่างในช่วงแรกที่ก่อตั้งประเทศ เพื่อความมั่นคงและสันติภาพที่ได้มาอย่างยากลำบากของหัวเซี่ย ให้อำนาจกับหกตระกูลมหาอำนาจมากเกินไป

ในห้องประชุมใหญ่ ผู้ที่มีตำแหน่งระดับสูงของหัวเซี่ยรวมตัวกัน

ผู้บังคับบัญชานั่งอยู่ตรงอันดับแรก มองดูใบหน้าที่แน่วแน่ของผู้นำตระกูลหกตระกูลมหาอำนาจ สีหน้าเฉยเมย ทำให้ใครก็ไม่สามารถมองออกว่าในใจของเขากำลังคิดอะไรอยู่

หลี่ตงหยางพูดเสียงเคร่งขรึม “เฉินโม่อาศัยกำลังของตน ไม่ยำเกรงต่อสิ่งใด ไม่สนใจประชากรหัวเซี่ย เขาสังหารเช่นนี้ที่ประเทศต้าเหอ จะต้องก่อให้เกิดสงครามระหว่างสองประเทศแน่นอน ถึงเวลามีแต่จะทำให้ประเทศอเมเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากความขัดแย้งของผู้อื่น!”

“ดังนั้น ฉันแนะนำว่าจะต้องลงโทษเฉินโม่อย่างเฉียบขาด ให้การชี้แจงกับประเทศต้าเหอ หลีกเลี่ยงการเกิดสงคราม”

ผู้นำตระกูลหยางพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย “ฉันเห็นด้วย!”

ผู้นำตระกูลหลิวหรี่ตาพูด “ฉันเห็นด้วย”

ผู้นำตระกูลจ้าวกระแอมเบาๆ พูดอย่างขี้เกียจ “ฉันเห็นด้วย”

ผู้นำตระกูลหกตระกูลมหาอำนาจแสดงท่าทีชัดเจน ถึงแม้นอกจากตระกูลหลี่แล้ว ท่าทางของผู้นำตระกูลที่เหลือเหล่านั้นไม่ค่อยสมัครใจเท่าไหร่ เห็นได้ชัดว่าถูกตระกูลหลี่ใช้วิธีอะไรบางอย่างขู่บังคับ แต่สุดท้ายพวกเขาก็เห็นด้วยกับวิธีของหลี่ตงหยาง