เล่มที่ 29 เล่มที่ 29 ตอนที่ 854 รถมาถึงภูเขาจะต้องมีเส้นทาง

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

หลู่หยางอ๋องกดปุ่มเปิดประตูเส้นทางลับ และสั่งให้องครักษ์ข้างหลังรีบก้าวไปข้างหน้า

“ท่านอ๋องโปรดระวัง ข้างในมีกับดัก! ต้องการให้กระหม่อมไปตรวจดูก่อนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? ”

“ไม่ต้อง! ”

ทุกอย่างในจวนหลู่หยางอ๋อง ไม่มีผู้ใดเข้าใจเส้นทางลับแห่งนี้ดีไปกว่าหลู่หยางอ๋องอีกแล้ว

เขาเดินนำเข้าไปตามเส้นทางลับ องครักษ์และองครักษ์เงายอดฝีมือสิบกว่าคนข้างหลังรีบตามเข้าไป แต่ละคนถือกระบี่ ด้วยสีหน้าขึงขัง

เวลานี้ ส่วนลึกภายในเส้นทางลับ

ตงหลิงหวง ตงหลิงจวิ้น และพระชายาหลู่หยางอ๋องกำลังเดินออกไปเส้นทางอื่น พวกเขาเพิ่งเดินได้ครึ่งทาง จู่ๆ ตงหลิงหวงก็มีท่าทางขึงขัง นางรีบบอกให้ตงหลิงจวิ้นกับพระชายาหลู่หยางอ๋องหยุดเดิน

“ท่านพี่ มีอันใดหรือ? ” ตงหลิงจวิ้นถาม

“นิ่งก่อน อย่าเพิ่งขยับ! ” ตงหลิงหวงมีท่าทีจริงจัง

ร่างกายของตงหลิงจวิ้นและพระชายาหลู่หยางอ๋องแข็งทื่อเล็กน้อย พวกเขายืนนิ่งอยู่ที่เดิมตามที่ตงหลิงหวงบอก และไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง

ตงหลิงหวงนั่งหมอบลงกับพื้น นางแนบหูติดกับพื้นและฟังอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ท่าทีเย็นชายิ่งทวีความจริงจังจนน่ากลัวมากขึ้นไปอีก

“มีคนเข้ามา ทั้งยังมีจำนวนมาก หลู่หยางอ๋องคงลงมือแล้ว ทางเส้นนี้เดินไม่ได้ พวกเราต้องหาทางอื่นและรีบออกไปให้เร็วที่สุด”

สีหน้าของพระชายาหลู่หยางอ๋องและตงหลิงจวิ้นพลันซีดเผือด

พระชายาหลู่หยางอ๋องเอ่ยขึ้น “ทำอย่างไรกันดี? ทางเส้นนั้นไม่ต่างจากทางตันเลย! นอกจากนั้น พวกเรายังมีกันแค่สามคน เปิดไม่ออกแน่นอน! ”

เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้ สายตาของพระชายาหลู่หยางอ๋องพลันปรากฏความแน่วแน่ นางคว้ามือของตงหลิงจวิ้นมาวางในมือของตงหลิงหวงอย่างรวดเร็ว “หวงเอ๋อร์ รับปากข้าว่าจะพาจวิ้นเอ๋อร์ออกไปอย่างปลอดภัย หลังจากนี้ฝากจวิ้นเอ๋อร์ให้เจ้าแล้ว ตั้งแต่เล็ก เขาไม่มีพี่น้องหรือสหายสนิท เขามีเพียงเจ้า เจ้าต้องดูแลเขาให้ดีๆ ”

ตงหลิงหวงและตงหลิงจวิ้นรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี โดยเฉพาะตงหลิงจวิ้นที่มีสายใยแม่ลูก ลางสังหรณ์เช่นนี้รุนแรงยิ่งนัก

เขารีบคว้ามือของพระชายาหลู่หยางอ๋อง “เสด็จแม่ ท่านคิดจะทำสิ่งใด? ”

พระชายาหลู่หยางอ๋องไม่ได้ตอบกลับตงหลิงจวิ้น ทว่านางมองไปที่ตงหลิงหวง “ข้าจะออกไปล่อตงหลิงชาง น่าจะยื้อเวลาได้เพียงช่วงสั้นๆ หวงเอ๋อร์ พวกเจ้ารีบออกไปตามเส้นทางที่ข้าบอกให้เร็วที่สุด ไม่ว่าจะใช้วิธีใด เจ้าต้องเปิดประตูหินนั่นแล้วพาจวิ้นเอ๋อร์ออกไปให้ได้”

“ไม่! ”

ตงหลิงจวิ้นตะโกนอย่างดื้อดึง

พระชายาหลู่หยางอ๋องรีบปิดปากตงหลิงจวิ้นพลางส่ายศีรษะอย่างเชื่องช้า นางต้องการพูดอันใดบางอย่าง ทว่าเมื่ออ้าปาก น้ำตาก็ไหลอาบแก้มและสะอึกสะอื้นจนพูดไม่ออก

หากเป็นไปได้ นางก็ไม่อยากทำเช่นนี้ ผู้ใดเล่าไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกหลายปีเพื่อเลี้ยงดูฟูมฟักบุตรของตน ทว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่เอื้อให้นางละโมบเกินควร

ท้ายที่สุด พระชายาหลู่หยางอ๋องก็มองตงหลิงหวงด้วยสายตาอ้อนวอน ทันใดนั้นก็ปล่อยตงหลิงจวิ้นและเดินไปยังทางออกของทางลับอย่างรวดเร็ว

ตงหลิงจวิ้นวิ่งไปกอดร่างของพระชายาหลู่หยางอ๋อง

“ไม่ เสด็จแม่ ลูกไม่อนุญาตให้ทำเช่นนี้ คนที่ไปควรเป็นลูก”

พระชายาหลู่หยางอ๋องปวดใจเกินจะทน ทว่านางต้องกลั้นน้ำตาไว้ “เจ้าไปจะมีประโยชน์อันใด? ”

เห็นได้ชัดว่าหลู่หยางอ๋องมีเจตนาฆ่าตงหลิงจวิ้น หากให้เขาไปก็เท่ากับส่งไปตายเปล่า ไม่มีผลอันใดเลย

“จวิ้นเอ๋อร์ก็ไม่ปล่อยให้เสด็จแม่ไปเช่นกัน ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด! ”

“ปล่อยมือ! ”

“ไม่ปล่อย! ”

ตงหลิงจวิ้นกอดพระชายาหลู่หยางอ๋อง น้ำตารินไหลอาบสองแก้มไม่หยุด ให้ตายก็ไม่ปล่อย

ตงหลิงหวงคว้าแขนของพระชายาหลู่หยางอ๋อง “มีหม่อมฉันอยู่ ยังไม่ถึงกับต้องปล่อยให้คนเอาชีวิตไปทิ้งเปล่า โดยเฉพาะชีวิตของพระชายา”

ตงหลิงจวิ้นมองไปที่ตงหลิงหวงด้วยสีหน้าอ้อนวอน “พี่หวง พี่รีบโน้มน้าวเสด็จแม่เถิด! กว่าจวิ้นเอ๋อร์กับเสด็จแม่จะได้พบกันนั้นไม่ง่าย คราวนี้ไม่ว่าอย่างไร จวิ้นเอ๋อร์จะไม่แยกจากเสด็จแม่อีกแล้ว”

พระชายาหลู่หยางอ๋องรีบกล่าวตำหนิ “จวิ้นเอ๋อร์ หยุดก่อกวน สถานการณ์ตอนนี้รุนแรง พี่หวงของเจ้ากดดันยิ่งนัก”

ตงหลิงหวงพูดขึ้น “หลู่หยางอ๋องผู้เดียวจะทำอันใดข้าได้ พระชายาอย่าได้กังวล ตามข้ากับจวิ้นเอ๋อร์ไปด้วยกัน พวกเราต้องคิดหาวิธีออกไปได้ ส่วนหลู่หยางอ๋อง… รอเขาตามมาทันก่อน รถมาถึงหน้าภูเขาต้องมีทางออกแน่ [1] ”

เมื่อได้ยินคำพูดของตงหลิงหวง ตงหลิงจวิ้นก็ราวกับคว้าฟางช่วยชีวิตเอาไว้ได้ เขาจับมือพระชายาแน่นขึ้น “เสด็จแม่… ”

น้ำตาของพระชายาหลู่หยางอ๋องยังคงไหลรินลงมา นางต้องการพูดอันใดบางอย่าง ทว่าพูดไม่ออก

ตงหลิงหวงเอ่ยขึ้น “ไม่ต้องพูดตอนนี้ พวกเรารีบออกไปกันเถิด! หลู่หยางอ๋องจะตามมาทันในไม่ช้าแล้ว! ”

ตงหลิงหวงพูดพลางหันหลังกลับและเดินนำโดยไม่รีรอ

ตงหลิงจวิ้นกลัวว่าหากตนเองปล่อยมือ พระชายาหลู่หยางอ๋องจะหายไป เขาจึงจับมือนางเอาไว้แน่นและรีบตามตงหลิงหวงไป

แท้จริงแล้ว นอกจากทางออกในห้องบรรทมของพระชายาหลู่หยางอ๋อง ทางลับแห่งนี้ยังมีทางออกอีกทางหนึ่ง นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้ พระชายาหลู่หยางอ๋องได้บอกตงหลิงหวงและตงหลิงจวิ้นไปแล้ว

ทว่าทางออกนี้ใช้เมื่อยามคับขันหรือกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ซึ่งใช้ได้เพียงครั้งเดียว เมื่อเปิดแล้วไม่มีทางหวนกลับ นอกจากนั้นยังอันตรายอย่างมาก และไม่เคยมีการใช้งานมาก่อน พระชายาหลู่หยางอ๋องทราบเพียงตำแหน่งคร่าวๆ ไม่รู้ทางเข้าที่เจาะจง

ตงหลิงหวงและตงหลิงจวิ้นทำตามคำแนะนำของพระชายาหลู่หยางอ๋องอย่างรวดเร็ว โดยการหาตำแหน่งคร่าวๆ ของทางเข้านั้น ทว่าการจะเปิดประตูทางลับเส้นนั้นต้องใช้เวลา

พระชายาหลู่หยางอ๋องเอ่ยขึ้น “ประตูอยู่บนผนังนี้ ทว่ากลไกอยู่ที่ใดนั้น ข้าก็ไม่รู้”

ตงหลิงหวงแสดงท่าทีจริงจัง “พระชายา จวิ้นเอ๋อร์ พวกเรารีบหากันเร็วเข้า! ”

“ตกลง! ”

จากนั้นทั้งสามจึงต้องแข่งกับเวลา และค้นหากลไกบนผนังอย่างละเอียด โดยไม่ปล่อยให้อิฐแม้แต่ก้อนเดียวเล็ดลอดไปได้ ใช้เวลาเพียงชั่วครู่ ทั้งสามคนก็ค้นหาอิฐบนผนังครบทุกก้อนแล้ว ทว่าไม่มีก้อนใดที่กลวงหรือขยับได้

เมื่อเห็นหลู่หยางอ๋องที่อยู่ด้านนอกกำลังใกล้เข้ามา อย่าว่าแต่พระชายาหลู่หยางอ๋องหรือตงหลิงจวิ้นเลย แม้แต่ตงหลิงหวงก็ฝ่ามือชุ่มเหงื่อ

แม้วรยุทธ์ของตงหลิงหวงจะดีพอสมควร ทว่าที่นี่เป็นทางลับ นอกจากนั้นยังไม่แน่ชัดว่าหลู่หยางอ๋องพาคนมาจำนวนเท่าไร สถานที่ป้องกันง่ายโจมตียากเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะพาพระชายาหลู่หยางอ๋องและตงหลิงจวิ้นที่ไม่มีวรยุทธ์ออกไปได้

“เป็นไปได้หรือไม่ว่า… กลไกไม่ได้อยู่บนกำแพง? ”

จู่ๆ ตงหลิงหวงก็ถามขึ้น

พระชายาหลู่หยางอ๋องราวกับคิดอันใดขึ้นมาได้ แววตาของนางปรากฏแสงสว่าง “เป็นไปได้อย่างมาก! ปุ่มเปิดของทางลับปกติหรือทางทั่วไปจะอยู่กับกลไก ทว่าทางลับเส้นนี้ต่างจากทางลับอื่น เพราะมันมีไว้ใช้สำหรับกรณีฉุกเฉินหนีตายของคนในตระกูล และใช้จับพวกศัตรู ปุ่มเปิดคงอยู่ห่างจากตัวกลไกมาก”

ห่างมาก…

สายตาของตงหลิงหวงจับจ้องไปที่ผนังฝั่งตรงข้าม

ปากทางเดินธรรมดาเส้นนั้นยื่นออกมาจากห้องบรรทมของพระชายาหลู่หยางอ๋องพอดี ปากทางมีกิเลนสองตัว ไม่มีอย่างอื่นแล้ว

ทั้งสามคนรีบเดินไปที่กิเลนหินสองตัวนั้นและตรวจสอบตามลำตัวของกิเลนหินและอิฐทุกก้อนที่อยู่รอบๆ ครั้งหนึ่ง

ในที่สุด มือของตงหลิงหวงก็หยุดอยู่ที่หินหลากสีในปากของกิเลนตัวด้านขวา จากการค่อยๆ หยั่งเชิง นางพบว่าหินหลากสีนั้นสามารถขยับได้จริงๆ

ทั้งสามคนมองหน้ากัน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจว่านี่เป็นปุ่มเปิดกลไก

ทว่าเบื้องหลังกลไกนั้นเป็นทางปลอดภัยหรือทางอันตราย พวกเขาไม่มีผู้ใดกล้ารับประกัน ท้ายที่สุด ทางเส้นนี้ก็ไม่เคยมีผู้ใดเดินไป ทั้งตำนานยังบอกว่าอันตรายอย่างมากอีกด้วย

หากกลไกเปิดออก แล้วด้านหลังมีลูกธนูนับหมื่นนับพันจะทำอย่างไร?

พวกเขาจะถูกยิงจนร่างพรุนในพริบตาหรือไม่?

นอกจากนั้น เวลานี้พวกเขาไม่มีเวลาซ่อนตัวแล้ว เพราะจู่ๆ เสียงของหลู่หยางอ๋องและคนอื่นๆ ก็ดังมาจากทางลับที่อยู่ด้านหลังพวกเขา

เสียงนั้นดังชัดเจนมาก เมื่อได้ยินก็รู้ว่าพวกเขาเข้ามาใกล้มากแล้ว

……

เชิงอรรถ

[1] รถมาถึงหน้าภูเขาต้องมีเส้นทาง คำพังเพยของจีน มีความหมายว่า หากลงมือทำอย่างถึงที่สุดย่อมมีวิธีทำให้สำเร็จแน่นอน หรือ ทุกปัญหามีทางออก