บทที่ 1187 เทพจักรพรรดิอัคคี-เซียวเหยียน!

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1187 เทพจักรพรรดิอัคคี-เซียวเหยียน!

เสียงหัวเราะเกียจคร้านดังออกมาจากความว่างเปล่า

ขณะที่เปลวเพลิงพวยพุ่งออกมาปกคลุมสุสานจักรพรรดิฟ้า

อุณหภูมิที่น่าสะพรึงกลัวเผาไหม้รัศมีปีศาจที่อยู่ภายในอย่างรวดเร็ว มังกรปีศาจทุกตัวที่แม้แต่จอมยุทธ์ตี้จื้อจุนยังปวดหัวในการจัดการก็ต่างส่งเสียงร้องโหยหวนขณะถูกเผาเป็นเถ้าธุลี

การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันทำให้ทุกคนตกตะลึง ก่อนที่พวกเขาจะเงยหน้าขึ้นมองไปที่ความว่างเปล่าที่ถูกฉีกออกจากกันพร้อมกับเปลวไฟที่พวยพุ่งออกมา ช่างดูงดงามตระการตาและเป็นภัยคุกคามยิ่งนัก

ร่างเงาหนึ่งเยื้องย่างออกมาจากทะเลเพลิงอย่างช้าๆ มิติยังสั่นสะเทือนจากฝีเท้าราวกับว่าไม่อาจทนรับการมาถึงของเขา

เขาเป็นชายร่างสูงโปร่งสวมชุดดำ เผยรอยยิ้มขี้เกียจบนใบหน้า ทั่วร่างถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟงดงาม ฉายภาพเขาราวกับเทพอัคคีที่ทรงพลังจนไม่อาจบรรยายได้

ก่อนที่เขาจะปรากฏตัวพื้นที่ทั้งหมดกำลังสั่นสะเทือนด้วยรัศมีปีศาจ แต่เมื่อเขาเผยตัวออกมาทุกคนก็รู้สึกได้ว่ารัศมีปีศาจกำลังสลายไปอย่างรวดเร็ว

ทุกคนมองไปที่ชายฉกรรจ์ผู้นั้นด้วยความตกใจ เขาเป็นใครกันถึงสามารถระงับการดำรงอยู่ที่น่ากลัวอย่างราชันปีศาจได้?

ต้องรู้ว่าราชันปีศาจนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน ในเวลานั้นแม้แต่จักรพรรดิฟ้ายังต้องสละชีวิตลง ดังนั้นคนคนนี้จะต้องอยู่ในอันดับต้นๆ แม้แต่ในหมู่ระดับนักรบราชันปีศาจด้วยกัน ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะเพิ่งหลุดออกมาจากผนึก แต่กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนธรรมดาก็ยังต้องหวาดกลัว

ทว่าชายคนนี้สามารถสกัดกระบวนท่าของราชันปีศาจได้ ซึ่งก็หมายความว่าเขาจะต้องเป็นยอดยุทธ์ไม่ธรรมดาในมหาพันภพแน่นอน

“เขาคือ…”

จอมยุทธ์หลายคนมองที่ชายที่มีเปลวเพลิงล้อมรอบตัวด้วยความตกใจ เมื่อความคิดตกตะกอนประกายแสงก็วูบไหว ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ขะ…เขาคือเทพจักรพรรดิอัคคีแห่งแคว้นหวู่จิ้งฮั่ว!”

ในที่สุดก็มีบางคนจดจำชายผู้นี้ได้ ต่างอุทานด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเคารพยำเกรง

“เทพจักรพรรดิอัคคี?!”

คลื่นความปั่นป่วนกวนตัวไปทั่ว ทุกคนตะลึง ใครๆ ก็รู้ว่าเทพจักรพรรดิอัคคีเป็นตำนานมีชีวิต หนึ่งในยอดยุทธ์แห่งมหาพันภพ!

นอกจากนี้แคว้นหวู่จิ้งฮั่วที่เขาสถาปนายังขึ้นเป็นขุมกำลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในมหาพันภพภายในเวลาไม่กี่ร้อยปี ซึ่งไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเผ่าโบราณเลยสักนิด

ในมหาพันภพมีเพียงเทพจักรพรรดิสงครามแห่งแคว้นหวูและจอมยุทธ์อีกไม่กี่คนที่สามารถเทียบเคียงกับเทพจักรพรรดิอัคคีได้!

แม้จอมยุทธ์ที่นี่ล้วนแต่กุมอำนาจในทวีปเทียนหลัว แต่ก็ไม่มีอะไรเลยเมื่อเทียบกับแคว้นหวู่จิ้งฮั่ว

ด้วยความแข็งแกร่งและรากฐานของแคว้นหวู่จิ้งฮั่ว ต่อให้เทพจักรพรรดิอัคคีไม่เคลื่อนไหวเองก็สามารถเอาชนะขั้วอำนาจทั้งหมดในทวีปเทียนหลัวได้

จอมยุทธ์ในตำนานเช่นนี้ปกติไม่อาจเจอตัวได้เลย ต่อให้พวกเขาขอเข้าพบก็ไม่มีประตูให้เข้า แต่ตอนนี้เขากลับปรากฏตัวต่อหน้า นี่ไม่ทำให้ผู้คนตะลึงพรึงเพริดได้อย่างไร

มิหนำซ้ำยังปรากฏตัวในช่วงเวลาวิกฤตที่สุดเช่นนี้

ขณะที่ทุกคนตกตะลึง มู่เฉินก็มองไปที่ร่างเงานั้นด้วยความตกใจ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเทพจักรพรรดิอัคคีในตำนานจะมาที่นี่ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้

“เขาคือเทพจักรพรรดิอัคคีเหรอ?”

มู่เฉินพึมพำกับตัวเองขณะที่มองชายฉกรรจ์ในชุดดำ อีกฝ่ายดูขี้เกียจแต่กลับมีรัศมีที่ทำให้ผู้อื่นเคารพยำเกรง ความกดขี่สุดพรรณนาทำให้มิติยุบตัว ราวกับว่าต่อให้สวรรค์จะถล่ม เขาก็สามารถพลิกสถานการณ์ได้ด้วยตัวคนเดียว

นั่นคือความแข็งแกร่งที่แท้จริง

ยอดยุทธ์แท้จริงควรเป็นแบบเขา!

ที่ด้านหลังมู่เฉิน เมื่อเซียวเซียวเห็นร่างเงานั้น นางก็เบ้ปากอย่างไม่ชอบใจ ทว่าร่างกายซึ่งเกร็งเครียดก็ได้คลายตัวลง

“กรี๊ด นั่นคือท่านพ่อของพี่เซียวเซียว เทพจักรพรรดิอัคคีเหรอ? ว้าว ในที่สุดข้าก็ได้เห็นตัวจริงแล้ว!” หลินจิ้งจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง

เซียวเซียวจือปากอย่างหมั่นไส้ “ใช่สิ พ่อจอมเก๊กที่ชอบโผล่หัวมาในช่วงเวลาสำคัญเสมอ เดี๋ยวกลับไปข้าจะต้องฟ้องซะหน่อยแล้ว!”

“อะแฮ่ม…ลูกสาวที่รัก เจ้าชักไม่มีเหตุผลแล้ว ข้าไม่ได้ตั้งใจมาสายนะ มันต้องใช้เวลาเพื่อหาตำแหน่งมิตินี้!” จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้น มิติเบื้องหน้าหญิงสาวสามคนบิดเบือนก่อนที่เทพจักรพรรดิอัคคีจะปรากฏตัว ทว่าตอนนี้เขายักไหล่ไม่สนใจศักดิ์ศรีแห่งการเป็นยอดยุทธ์เอาเสียเลย

เซียวเซียวส่งเสียงขึ้นจมูกเมินหน้าหนี

เทพจักรพรรดิอัคคีลูบหัวนาง ก่อนจะทักทายจิ่วโยวและหลินจิ้ง ท่าทางอ่อนโยนนั้นทำให้เอาหญิงสาวสองคนอึ้งไปเลยทีเดียว

“ข้าจัดการเรื่องนี้ก่อน ครั้งนี้พวกเจ้าเล่นเอาซะใหญ่เลย”

เทพจักรพรรดิอัคคียิ้มก่อนที่จะหันเดินไปหามู่เฉิน เขามองพลางตบไหล่มู่เฉินด้วยรอยยิ้ม “เจ้าทำดีมาก เจ้าหนูสมกับเป็นลูกผู้ชาย”

มู่เฉินไม่คิดว่าจอมยุทธ์ทรงอิทธิพลเช่นนี้จะพูดกับเขาโดยไม่ถือตัว ทำเอาเขาทำตัวไม่ถูกจนต้องเกาหัวแกรกกราก “ไม่ว่าอย่างไรจะให้ตายหลังผู้หญิงก็ไม่ได้หรอกขอรับ”

เมื่อเทพจักรพรรดิอัคคีได้ยินคำพูดของมู่เฉิน เขาก็จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความชื่นชมพลางพยักหน้า “แต่ข้าต้องขอขอบคุณสำหรับช่วยเหลือเซียวเซียว ข้าจะจดจำบุญคุณนี้ไว้”

ก่อนที่มู่เฉินจะทันได้ตอบ เขาก็ยิ้มพูดว่า “เอาล่ะ จากนี้ให้ข้ารับมือกับสถานการณ์นี้เอง”

มู่เฉินพยักหน้าถอยฉากหลบไปทันที การเผชิญหน้าในระดับนี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาสามารถมีส่วนร่วมได้ด้วยขุมพลังในปัจจุบัน

ขณะที่มู่เฉินถอย เทพจักรพรรดิอัคคีก็ก้าวออกมา แรงกดดันที่มองเห็นได้ปกคลุมไปทั่วภูมิภาคนี้

การมาถึงของเทพจักรพรรดิอัคี ทำให้สีหน้าเย้ยหยันของนักรบราชันปีศาจจางหายไปอย่างสิ้นเชิงแทนที่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

ชัดว่าเขารู้สึกได้ถึงอันตรายที่เล็ดลอดออกมาจากอีกฝ่ายซึ่งน่าตกตะลึงนัก ชายคนนี้ให้ความรู้สึกคุกคามยิ่งกว่าจักรพรรดิฟ้าเสียอีก

เขารู้สึกไม่เชื่อในหัวใจ ไม่คิดว่าปัจจุบันจะมีจอมยุทธ์เช่นนี้ในมหาพันภพและนี่ไม่ใช่ข่าวดีสำหรับจักรวรรดิปีศาจต่างมิติเลย

“ไม่คิดเลยว่ามหาพันภพในตอนนั้นที่ต้องสูญเสียยอดยุทธ์ส่วนใหญ่ถึงจะอยู่รอดได้ ตอนนี้กลับมีคนอย่างเจ้าปรากฏ ช่างน่าเสียดายจริงๆ” ราชันปีศาจเอ่ยขึ้น ถ้าคนที่มาวันนี้เป็นเพียงจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนธรรมดา เขาก็มั่นใจว่าจะหนีรอดไปได้ แต่ตอนนี้เขาไม่มีความมั่นใจเนื่องจากไม่ได้อยู่ในจุดสูงสุดของสภาพพร้อมรบ

เทพจักรพรรดิอัคคียิ้ม “ไม่รู้ว่าในหมู่นักรบราชันปีศาจเทียน-เฉวียน-โยวแกอยู่ระดับไหน”

นี่คือการจำแนกระดับของราชันในเผ่าปีศาจซึ่งคนธรรมดาในมหาพันภพไม่รู้

“ไม่คิดว่าแกจะรู้ข้อมูลเผ่าปีศาจต่างมิติมากพอสมควร” ราชันปีศาจแปลกใจไปเช่นกัน

เทพจักรพรรดิอัคคีสะบัดนิ้วทั้งสิบ เปลวไฟวูบไหวที่ปลายนิ้ว “ปีที่ผ่านๆ มานักรบราชันปีศาจไม่น้อยกว่าสิบคนที่ตายด้วยน้ำมือข้า แล้วข้าจะไม่รู้ได้ยังไง?”

คำพูดนี่ทำให้ทุกคนตกตะลึงพลางมองเขาด้วยความเคารพ ต้องรู้ว่านักรบราชันปีศาจทุกคนมีพลังเทียบเท่าจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุน มิหนำซ้ำยังมีไม่น้อยกว่าสิบคนที่ตายด้วยน้ำมือของเทพจักรพรรดิอัคคี? ความสำเร็จนี้น่ากลัวแค่ไหนกัน

ราชันปีศาจหดม่านตาลง ขณะนี้เขารู้ว่าชายเบื้องหน้าเป็นศัตรูตัวฉกาจของเผ่าปีศาจต่างมิติ อันตรายยิ่งกว่าจักรพรรดิฟ้า

เขาหายใจเข้าลึกๆ ดวงตาเปลี่ยนเป็นดำมืด “ข้าคือจอมปีศาจทุนเทียน”

สายตาเทพจักรพรรดิอัคคีวูบไหว จากนั้นก็ถอนหายใจ “อา ที่แท้ก็เป็นนักรบราชันปีศาจระดับเทียนสินะ มิน่าล่ะถึงสามารถสู้กับจักรพรรดิฟ้าได้”

แม้แต่ในหมู่นักรบราชันปีศาจ ระดับเทียนก็ถือเป็นสุดยอด

“แกล่ะเป็นใคร?” จอมปีศาจทุนเทียนพูดด้วยเสียงดุดันพร้อมกับรัศมีปีศาจเชี่ยวกรากพลุ่งพล่านฉีกขาดมิติ พลังอันน่ากลัวแผ่ขยายออกไป

เทพจักรพรรดิอัคคียกมือขึ้น เปลวไฟงดงามควบแน่นเป็นรูปดอกบัวในมือ

เขาส่งยิ้มให้จอมปีศาจทุนเทียน ก่อนที่เสียงเรียบเฉยจะดังก้องไปทั่วฟ้าดิน

“เทพจักรพรรดิอัคคี—เซียวเหยียน”