ภาค 7 ความผันผวนในใต้หล้าเป็นยุคของข้า บทที่ 677 ไม่เหลือทางรอดให้แม้แต่น้อย

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เสียงของเยี่ยนจ้าวเกอยังไม่ทันขาด ก็เห็นกลางอากาศไกลออกไปมีแสงหลายสายสว่างขึ้น

ละอองแสงหลายสายพาดผ่านท้องฟ้า ตัดสลับกัน ก่อเกิดเป็นอาคมวิญญาณขนาดยักษ์อันแล้วอันเล่า จากนั้นก็ประกอบกันเป็นลวดลายค่ายกลที่ลี้ลับซับซ้อน

ค่ายกลยักษ์บดบังท้องฟ้า ตัดขาดบริเวณรอบๆ

ภายใต้การครอบคลุมของค่ายกล น่านน้ำบนแผ่นดินแห่งนี้ที่ทุกคนอยู่เหมือนกับถูกแยกฟ้าดินออกมา เกิดเป็นโลกที่เป็นเอกเทศ

อากาศถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง เบื้องหน้ามีละอองแสงที่พร่าเลือนหลายสายลอยขึ้นมา

พวกเยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกว่าร่างกายเปลี่ยนเป็นหนักอึ้งเหลือประมาณในชั่วพริบตา

เฉิงซงที่หนีไปไกลถูกค่ายกลคุมขัง ได้รับผลกระทบจากค่ายกลเช่นกัน ความเร็วในการเหาะเหินพลันเปลี่ยนเป็นช้าลง จากนั้นร่างก็ค่อยๆ ลอยลงด้านล่างอย่างไม่อาจควบคุม

ไม่ใช่แค่ความรู้สึกที่ร่างแบกของหนักเท่านั้น แต่เหมือนทุกส่วนทั่วทั้งร่างหนักอึ้งขึ้น

กระดูกทุกท่อน กล้ามเนื้อทุกมัด หรือแม้แต่เลือดทุกหยาดหยด ต่างเกาะกันหนาทึบสุดขีด

อย่าว่าแต่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์เช่นเฉิงซงและเยี่ยนจ้าวเกอ แม้แต่เฟิงอวิ๋นเซิงกับอาหู่ที่เป็นจอมยุทธ์ระดับมหาปรมาจารย์ ลมปราณก็รุ่มร้อนและเกาะตัวกันสุดเปรียบปานแล้ว

เลือดหนึ่งหยด ยังหนักยิ่งกว่าปรอท หล่นลงบนหญ้า หญ้ายังลุกไหม้ขึ้นมา

ทว่าในตอนนี้กลับรู้สึกได้เพียงว่า ทุกส่วนบนร่างของตน ต่อให้เป็นเส้นขนที่ซอยอย่างละเอียด ก็ยังหนักเหมือนเข็มนับพัน

ไม่เพียงแต่คนที่อยู่กลางอากาศเท่านั้น ในน้ำทะเลด้านล่าง หินโสโครกและเปลือกแผ่นดินที่อยู่ด้านล่างน้ำทะเล ก็เกิดการบิดเบี้ยวแปลกประหลาดเช่นกัน

แสงสว่างของค่ายกลครอบคลุม ทวีปชินเหอที่เยี่ยนจ้าวเกอต่อสู้กับพวกหนงอวี่ซวนและเฉิงซงอยู่ติดกับเกาะเทียนอิ้น ฟ้าดินและมิติเวลาของแผ่นดินเหนือเกาะราวกับเกิดการถล่ม

พวกผู้อาวุโสชีแห่งหอกระบี่ทะเลเหนือ และจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์อาทิตย์ม่วงจางเชาที่ยังติดอยู่ในการต่อสู้ติดพันบนเกาะเทียนอิ้นพลันเคลื่อนไหวช้าลง มองทิศทางที่ทวีปชินเหออยู่ด้วยความตื่นตระหนก

คนของหอกระบี่ทะเลเหนือกับสำนักความมืดตกใจ ‘สำนักแสงสว่างส่งยอดฝีมือมารุมสังหารเยี่ยนจ้าวเกอกี่คนกันแน่?’

จางเชาตกตะลึงพรึงเพริดเช่นกัน ‘หรือจะมีการดักซุ่มที่เกาะชินเหอ? โจรน้อยแซ่เยี่ยนนั่นจงใจล่อพวกหนงอวี่ซวนกับเฉิงซงไปหรือ? เป็นยอดฝีมือสำนักใดซุ่มโจมตีสำนักแสงสว่างกัน?’

เขาอดเป็นห่วงสภาพของตัวเองไม่ได้ ถ้าหากที่ทวีปชินเหอมีการดักซุ่ม ทางเกาะเทียนอิ้นนี้จะมีรังสีสังหารที่ซ่อนไว้เพื่อรับมือเขาหรือไม่?

ทั้งสองฝ่ายมองหน้ากันเอง กลับเห็นความประหลาดใจและความตกใจของอีกฝ่าย

‘ไม่เกี่ยวกับพวกเขาหรือ?’ ทั้งสองฝ่ายเข้าใจแล้ว แต่สงสัยยิ่งกว่าเดิม

จางเชาเป็นจอมยุทธ์ของโลกแปดพิภพที่ลอยขึ้นมายังโลกซ้อนโลกได้ไม่กี่ปี

หลังจากพวกผู้อาวุโสชีคิดว่าไม่ใช่สำนักแสงสว่าง ก็ครุ่นคิดอย่างละเอียด ต่างพากันตกใจ

‘ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นแนวหลัง มียอดฝีมือระดับสุดยอดของฝ่ายต่อต้านต้าเสวียนค่อนข้างน้อย แต่คิดจะวางค่ายกลที่แข็งแกร่งขนาดนี้ไว้ในพื้นที่ของพรรคเรา กลับไม่ง่ายนัก’

นี่หมายความว่า ถ้าไม่ใช่อีกฝ่ายวางแผนไว้แต่ต้น ก็อาจจะวางค่ายกลชั่วคราวด้วยระยะเวลาสั้นๆ หลังจากย่องเข้ามาใกล้

ค่ายกลที่แข็งแกร่งขนาดนี้ สามารถวางสำเร็จได้ในระยะเวลาสั้นๆ แม้จะเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดง ยังไม่อาจทำได้ จำเป็นต้องมีความสามารถด้านค่ายกลล้ำลึกถึงขีดสุด

การหาคนเช่นนี้ในทะเลหวงเจีย เป็นเรื่องลำบากยากเข็ญยิ่ง

ทันใดนั้น ในห้วงสมองของพวกผู้อาวุโสชีปรากฏชื่อของคนผู้หนึ่งขึ้น

นักพรตสือ

ยอดฝีมือระดับสุดยอดผู้สร้างแผ่นดินอันยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง ที่มายังทะเลหวงเจียพร้อมเสวียนเหวินอ๋อง และผู้วิเศษเซิง

ในขณะเดียวกันก็เป็นปรมาจารย์ด้านค่ายกลระดับสูงสุด ที่เคยปรากฏตัวขึ้นที่ทะเลหวงเจียในหลายปีมานี้

หลังจากราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องสร้างแผ่นดินสำเร็จ สถานการณ์ค่อยๆ มั่นคง เสวียนเหวินอ๋องเสด็จมายังทะเลหวงเจีย กลายเป็นจ้าวผู้ปกครอง นักพรตสือรวมถึงผู้สืบทอดของเขากลับหายตัวไป เหมือนจอมยุทธ์ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของผู้วิเศษเซิง

ก่อนหน้านี้ลูกศิษย์ของผู้วิเศษเซิงได้ออกจากสำนักอีกครั้ง ตอนนี้แม้แต่ลูกศิษย์และหลานศิษย์ของนักพรตสือก็ปรากฏตัวขึ้นเหมือนกันหรือ?

เมื่อรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนทวีปชินเหออย่างกะทันหัน พวกผู้อาวุโสชีจิตใจต่างเย็นเยียบ

ส่วนเฉิงซงที่ตกอยู่ในค่ายกล ขมขื่นยิ่งกว่า

ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องทำตัวเป็นนกขมิ้นอยู่ด้านหลังจริงๆ สำนักแสงสว่างไม่ใช่ว่าไม่คาดคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน

แต่เหตุผลแรกเป็นเพราะคิดไม่ถึงว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะแข็งแกร่งขนาดนี้ หลังจากสู้กันเสร็จ สำนักแสงสว่างของพวกเขาก็สูญเสียทั้งทหารทั้งแม่ทัพ

เหตุผลข้อสอง ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องถึงกับมียอดฝีมือเช่นนี้ปรากฏตัวขึ้น ไม่เหลือทางรอดให้พวกเขาแม้แต่น้อย

การเคลื่อนไหวอย่างเอิกเกริกขนาดนี้บนทวีปชินเหอ ทั้งยังเป็นด้านในอาณาเขตที่หอกระบี่ทะเลเหนืออยู่ ทำให้ยอดฝีมือหอกระบี่ทะเลเหนือที่แข็งแกร่งซึ่งอยู่ใกล้ๆ รู้สึกได้ทันที

ถึงขั้นที่แม้แต่ยอดฝีมือหอกระบี่ทะเลเหนือที่เฝ้าข่ายกระบี่บนเกาะโม๋หลูยังรู้สึกได้

มีคนบุกมาใต้เปลือกตาพวกตน ยังเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผยขนาดนี้ เป็นเหมือนกับการทำลายทวีปชินเหอ ยอดฝีมือหอกระบี่ทะเลเหนือที่ทั้งตกใจทั้งโมโหพุ่งออกจากข่ายกระบี่ รีบมาดูสถานการณ์ทันที

แต่ค่ายกลนั้นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว ภายใต้การคุ้มครองจากพลังแห่งค่ายกล แม้จะเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ข้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้าย หากคิดจะทำลายมัน ก็ไม่ใช่เรื่องที่สำเร็จได้โดยง่าย

ยอดฝีมือจากหอกระบี่ทะเลเหนือระดับสูงสุดต่างไล่ล่าพวกเสวียนมู่อ๋องภายใต้การนำของกู้หง ถึงแม้ยอดฝีมือที่ถูกทิ้งให้เฝ้าแนวหลังจะแข็งแกร่งเหมือนกัน แต่ไม่อาจทำลายค่ายกลได้ในทันที

จางเชาขมวดคิ้ว ‘ค่ายกลที่ใหญ่ถึงขนาดนี้ เล็งที่ใครกัน? ถ้าหากบอกว่าเป็นโจรน้อยแซ่เยี่ยนนั่น เหตุใดถึงได้รับความสำคัญจากราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องถึงเพียงนี้? หรือว่าราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องจะรู้เรื่องตราประทับตะวันแล้ว?’

ด้านในค่ายกลยักษ์ บุรุษวัยกลางคนหน้าเหลืองตอบคนหนึ่งยืนอยู่กลางอากาศ เป็นฉีเหว่ยนั่นเอง

สตรีนางหนึ่งยืนอยู่ด้านข้างเขา เป็นคังฮูหยิน

ยอดฝีมือที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า ขั้นเทวะสำแดงระยะกลางทั้งสองคนลงมือพร้อมกัน เพื่อรับประกันว่าจะไม่มีข้อผิดพลาด

ฉีเหว่ยลงมือด้วยตัวเอง สร้างค่ายกลเอกภพย้อนทวนขึ้น แม้แต่โอกาสในการช่วยเหลือจากบุคคลระดับกุมอำนาจของหอกระบี่ทะเลเหนือที่อยู่ไกลๆ ยังถูดตัดทิ้ง

สายตาอันเย็นชาของเขาก้มมองทุกสรรพสิ่งในค่ายกล กระตุ้นค่ายกลอย่างไม่ปราณีแม้แต่น้อย

ภายใต้แรงกดดันอันน่ากลัว ทุกสิ่งทุกอย่างในเกาะชินเหอ ไม่ว่าจะมีชีวิตหรือไม่ มีร่างกายแข็งแกร่งหรือไม่ ต่างบิดเบี้ยวอย่างแปลกประหลาด จากนั้นก็แตกสลาย สูญเสียรูปทรงเดิมไป

เฉิงซง ผู้อาวุโสสำนักแสงสว่างที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ แม้แต่เสียงยังไม่ทันเปล่งออกมา ในรูขุมขนทั่วทั้งร่างล้วนมีเลือดไหลซึมออกมาแล้ว

แม้ว่าจะเป็นจุดลมปราณที่เหนี่ยวนำและเชื่อมโยงกับดวงดาวที่อยู่บนฟ้าแล้ว แต่นาทีนี้ก็ยังพังทลายอย่างต่อเนื่อง

ผิวหนัง เนื้อเยื่อ เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อแตกร้าวทีละน้อย กระดูกวาววับโผล่พ้นเหนือออกมา ถูกบีบอัดกลายเป็นก้อน

เลือดทั่วทั้งร่างของเขากับจับตัวกันอยู่จุดเดียว กลายเป็นลูกเลือดทรงกลมแปลกประหลาด

ร่างกายของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่ง ภายใต้การทำลายจากพลังแห่งค่ายกล ถูกบิดจนไม่เป็นรูปร่างคน

ร่างเนื้อถูกทำลาย ญาณจริงแท้ไหลออกด้านนอก เฉิงซงพังทลายโดยสมบูรณ์ เลือดเนื้อของเขาถูกบีบกลายเป็นลูกทรงกลมก้อนหนึ่ง ทั้งยังหดเล็กอย่างต่อเนื่อง โดนบีบเค้นแล้วบีบเค้นอีก!

ข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียว ก็คือเยี่ยนจ้าวเกอกับวังฝูงมังกร

แต่นี่เป็นเพราะว่าฉีเหว่ยจงใจผ่อนคลายพลังโจมตีที่ค่ายกลส่งผลต่อพวกเขา

ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น วังฝูงมังกรก็สั่นสะเทือนไม่หยุด ราวกับว่ากับโครงสร้างพร้อมถล่มได้ตลอดเวลา

เยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกรับรู้ได้ถึงแรงกดดันมหาศาลนั้น

อีกฝ่ายไม่ได้ลงมือปราณีแน่

ชายหนุ่มจิตใจเหมือนกับกระจกใส ฉีเหว่ยหลีกเลี่ยงไม่ให้ของวิเศษที่ใช้สำหรับการวางค่ายกลบูชาฟ้าอย่างเครื่องหอมบรรจุฟ้า และดินกำเนิดจักรภพโดนลูกหลงถูกทำลายไปด้วย

เขาวางค่ายกลใหญ่ขนาดนี้ ย่อมไม่ใช่ไม่มีกระบวนท่าตามหลัง

ที่กลางอากาศด้านในค่ายกล กระบี่กระแสน้ำที่เหมือนกับกระแสเวลาสายหนึ่งพุ่งลงมาจากฟากฟ้า