บทที่ 1809 มีแฟนนานแล้ว / บทที่ 1810 หล่อทะลุฟ้า

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1809 มีแฟนนานแล้ว

ในขณะที่เยี่ยหวันหวั่นกำลังจะดื่มเหล้า ทุกคนก็เรียกได้ว่าแสดงความต้องการที่จะอยากรอดชีวิตอย่างแรงกล้าออกมา

“พี่เยี่ย มา วางลงๆ! นี่มันอันตรายเกินไป!” กงซวี่แย่งแก้วเหล้าในมือของเยี่ยหวันหวั่นไปอย่างรวดเร็ว

ลั่วเฉินหยิบขวดเหล้าที่อยู่ด้านข้างเยี่ยหวันหวั่นแล้วขยับออกไปให้ไกล

หานเซี่ยนอวี่ก็ถือน้ำสตรอว์เบอร์รีที่สั่งไว้ล่วงหน้านานแล้วเข้ามา ส่วนเจียงเยียนหรานก็รีบลุกขึ้นเทน้ำสตรอว์เบอร์รีให้เยี่ยหวันหวั่น “หวันหวั่น เธอดื่มน้ำสตรอว์เบอร์รีดีกว่า คั้นสดเลยนะ อร่อยมาก!”

เยี่ยมู่ฝานพยักหน้ารัวๆ “ถูกต้องๆ น้องสาว แกเป็นสาวเป็นแส้ ดื่มเหล้าอะไรกัน ฉันเป็นพี่ชายไม่อนุญาต เธอดื่มน้ำผลไม้ด้วยกันกับเยียนหรานก็พอ เชื่อพี่!”

เป่ยโต่วก็เอ่ย “ใช่ๆๆ! พวกนายพูดถูก!”

เยี่ยหวันหวั่นจ้องน้ำสตรอว์เบอร์รีสีชมพูในมือ อารมณ์ที่เกิดขึ้นยากจะอธิบายในคำเดียว…

สุดท้ายภายใต้การจับตาดูของคนทั้งโต๊ะ เยี่ยหวันหวั่นก็จำต้องใช้น้ำสตรอว์เบอร์รีมาชนแก้วดื่มกับทุกคน

เป่ยโต่วจึงค่อยวางใจลงได้ในที่สุด เขาดึงตัวทุกคนให้ลุกขึ้นยืนอย่างร่าเริง “มาๆๆ ทุกคนดื่มหมดแก้ว! ไม่เมาไม่เลิก!”

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก เมากับผีสิ!

ตลอดทั้งมื้อเย็น เยี่ยหวันหวั่นถูกบังคับกรอกน้ำผลไม้หลากชนิดลงเต็มท้อง

เธอไม่ได้เป็นคนติดเหล้าแต่ในสถานการณ์อย่างนี้ไม่ดื่มเหล้าสักหน่อยมันก็ออกจะน่าเบื่อจริงๆ

ในขณะที่ยันศีรษะอย่างเกียจคร้าน และดื่มน้ำผลไม้ผสมสีประหลาดที่ไม่รู้ว่าคั้นจากผลไม้อะไรที่เจียงเยียนหรานเทมาให้ มือถือของเธอก็พลันมีเสียงข้อความเข้าดังขึ้น

เยี่ยหวันหวั่นไม่แม้แต่จะมองก็จิ้มเปิดมือถือแล้ว

ข้อความที่ส่งมาเป็นข้อความเสียงหนึ่งข้อความ เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งเปิด เสียงของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากในมือถือ ‘หวันหวั่น คืนพรุ่งนี้ว่างไหม’

ผู้ชาย!

เสียงของผู้ชาย!

ชั่วพริบตานั้น บนโต๊ะอาหารที่เดิมทีครื้นเครงก็พลันเงียบลง แทบทุกคนต่างหูผึ่งขึ้นมาทันที ทำเหมือนกำลังดื่มเหล้ากินอาหาร แต่อันที่จริงความสนใจทั้งหมดกลับเพ่งไปยังมือถือของเยี่ยหวันหวั่นแล้ว

“กินข้าวด้วยกันไหม?”

ใบหูรวมไปถึงเส้นผมของฟู่หมิงซีผึ่งขึ้นมาแล้ว สีหน้าของเขาเปี่ยมไปด้วยแววตื่นตัว ถ้าไม่ใช่เพราะชีซิงมองอยู่คงทนไม่ไหวจนตบโต๊ะลุกขึ้นแล้ว

กงซวี่ก็อาศัยที่นั่งที่อยู่ใกล้กับเยี่ยหวันหวั่น แอบมองไปโดยตรง “พี่เยี่ย ใครอ่ะๆ เชี่ย…กู้…กู้เยว่เจ๋อ! เจ้าสวะนั่นถึงกับกล้าล่อลวงพี่!”

ฟู่หมิงซีเอ่ยปากขึ้นทันที “เจ้าสวะนี่ทำไมวิญญาณยังไม่สลายไปอีก พี่เยี่ย ผมจะบอกพี่นะ เจ้าสวะสกปรกพรรค์นี้ควรถูกจับใส่กรงหมูกดน้ำ กลิ้งบนกระดานตะปู! บล็อกเลยเถอะ ยังจะเก็บคนอย่างนี้ไว้ทำไม”

กับเรื่องที่เยี่ยหวันหวั่นเคยหมั้นหมายกับกู้เยว่เจ๋อนี่ ฟู่หมิงซีก็คับแค้นใจพอตัว

ก่อนหน้านี้เหตุที่เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้บล็อกก็เพราะลืมกู้เยว่เจ๋อไปจนสนิทใจแล้ว ส่วนตอนนี้ที่ไม่บล็อกนั้นเป็นเพราะ…

“หึ จะบล็อกทำไม ไม่คิดว่าตอนเบื่อๆ หยิบออกมาไถเล่นก็น่าสนุกดีเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม

อย่างที่คิดไว้ เยี่ยหวันหวั่นพูดคำนี้ เสียงแจ้งเตือนข้อความเสียงใหม่บนมือถือก็ดังขึ้นอีกครั้ง

กู้เยว่เจ๋อส่งมาอีกหนึ่งข้อความ ‘หวันหวั่น เธอเป็นคนฉลาด ต้องรู้นะว่าการแสร้งปล่อยเพื่อจับใช้นานไปก็ไม่มีความหมายแล้ว ฉันไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้นนะ’

จิ๊ คำพูดนี้ไม่ทำให้เธอผิดหวังจริงๆ

กงซวี่ที่อยู่ด้านข้างทนไม่ไหวแล้วจึงหยิบมือถือของเยี่ยหวันหวั่นมากดปุ่มบันทึกข้อความเสียงและตะคอกใส่มือถือ “เชี่ย กู้เยว่เจ๋อ นายแม่งโง่ป่ะ พี่เยี่ยมีแฟนนานแล้วโว้ย!”

——————————————————————–

บทที่ 1810 หล่อทะลุฟ้า

กงซวี่ส่งเสียงหึก่อนที่จะพูดกับมือถือต่อ “สองคนเขารักกันมาก อีกอย่างที่สำคัญก็คือ แฟนของพี่เยี่ยหล่อทะลุฟ้า ผมเส้นเดียวก็ทำให้นายกลายเป็นแค่เศษสวะในเสี้ยววิฯ ได้แล้ว!

ใครจะเป็นจะตายเพื่อนายกัน ใครกันที่รักนายลึกซึ้งไม่เปลี่ยน ใครกันที่แสร้งปล่อยเพื่อจับนาย นายแม่งเป็นดราม่าคิงกลับชาติมาเกิดรึไง นายนี่มันเล่นละครเก่งจริงๆ! คนอัปลักษณ์อย่างนายเนี่ยนะกล้าจีบพี่เยี่ยของฉัน?”

บนโต๊ะ คนอื่นๆ ต่างก็เคยเห็นแฟนหนุ่ม ‘หล่อทะลุฟ้า’ คนนั้นของเยี่ยหวันหวั่นจากปากของกงซวี่มาก่อน ยกเว้นเป่ยโต่ว ชีซิงและฟู่หมิงซี

เมื่อชีซิงได้ยินดังนั้นก็ขมวดหัวคิ้วอย่างยากที่จะสังเกตเห็น พลางหันไปมองเยี่ยหวันหวั่นโดยไม่รู้ตัว

เป่ยโต่วก็หลุดปากพึมพำเบาๆ อย่างตกใจ “พี่เฟิง…มีแฟนที่ประเทศจีน”

ฟู่หมิงซีก็เอ่ยขึ้น “แฟน? แฟนอะไรกัน”

หลังจากกงซวี่ก่นด่ารวดเดียว อีกฝั่งหนึ่ง เมื่อกู้เยว่เจ๋อได้ยินเสียงของกงซวี่จากในข้อความเสียงสีหน้าของเขาก็ทะมึนลงเล็กน้อย

เขาเคยส่งคนไปสอบถามเป็นการส่วนตัว และไม่เจอว่าช่วงนี้เยี่ยหวันหวั่นกำลังคบหาอยู่กับใคร

เขาจึงมองว่าเยี่ยหวันหวั่นแค่กำลังเล่นตัวเท่านั้น

ส่วนศิลปินระดับกงซวี่ ลั่วเฉินข้างกายเธอพวกนั้น แม้กระทั่งฟู่หมิงซี เขาก็ไม่เคยเห็นอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย

ไม่นานข้อความเสียงของกู้เยว่เจ๋อก็ถูกส่งกลับมาอีกครั้ง—

“หึ หวันหวั่น ฉันนึกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาด ควรรู้ว่าต้องเลือกยังไง ดูท่าฉันจะประเมินเธอสูงเกินไปแล้ว ฉันคิดว่าเธอคงจะรู้ดีว่าในเมืองหลวงนี้ไม่มีใครควรค่าให้เธอปฏิเสธฉันแล้ว”

คำพูดที่แปลกประหลาดของกู้เยว่เจ๋อดังขึ้นอีกครั้ง แต่ความสนใจของเป่ยโต่ว ชีซิงและฟู่หมิงซีไม่ได้อยู่ที่ตัวเขาแล้ว

“เก่งนี่พี่เยี่ย พี่ก็มีแฟนที่ประเทศจีนด้วยเหรอ” เป่ยโต่วถามอย่างอดรนทนไม่ไหว

เยี่ยหวันหวั่นตื่นตกใจ

เป่ยโต่วนี่ทำได้ยังไงกันแน่ ทุกครั้งที่พูดจาจะต้องสร้างความคลุมเครือได้ง่ายดายขนาดนั้น

อะไรคือก็มีแฟนอยู่ที่ประเทศจีนด้วย?

หรือว่าเธอมีแฟนอยู่หลายที่งั้นเหรอ

จนปัญญาที่ชีซิงปิดปากฟู่หมิงซีได้แต่กลับปิดปากเป่ยโต่วไม่ได้

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ช่วยเอาคำว่า ‘ก็มีที่ประเทศจีนด้วย’ ออกไปที ขอบคุณ!”

“เฮ้ แฟนที่ประเทศจีนของพี่เยี่ยคือใครเหรอ หล่อขนาดนั้นจริงๆ เหรอ” เป่ยโต่วราวกับม้าป่าที่พยศ ลากตัวกงซวี่มาซักถามอย่างตื่นเต้น

กงซวี่พยักหน้า “ถึงผมจะไม่อยากยอมรับแต่ว่าหล่อมากจริงๆ …”

ฟู่หมิงซีเอ่ย “กงซวี่ นายโอเวอร์เกินไปหน่อยแล้ว!”

……..

อาหารมื้อนี้สุดท้ายก็จบลงที่ทุกคนค่อนแขวะกู้เยว่เจ๋อและซุบซิบถึงแฟนหนุ่มที่ประเทศจีนของเยี่ยหวันหวั่น

หลังจากมื้อเย็นนี้สิ้นสุด ทุกคนก็เดินออกมาจากร้านอาหาร ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน แต่เพิ่งเตรียมจะก้าวขึ้นรถ ก็นึกไม่ถึงว่าจู่ๆ จะมีนักข่าวกลุ่มใหญ่เข้ามาล้อมรอบไว้อย่างแน่นหนา

เฟ่ยหยางหน้าเปลี่ยนสีทันที “เกิดอะไรขึ้น กำหนดการถูกเผยออกไปเหรอ? รีบหนีเร็ว!”

พวกเขาแค่คนคนเดียวก็สร้างความสั่นสะเทือนได้แล้ว นับประสาอะไรกับที่พวกเขามาอยู่รวมกันมากขนาดนี้

จนใจที่มีนักข่าวมากันมากเกินไป อุดทางเข้าร้านอาหารไว้อย่างแน่นหนา พวกของเยี่ยหวันหวั่นจึงออกไปไม่ได้ชั่วคราว

ยังดีที่เป่ยโต่วกับชีซิงสองคนมีฝีมือไม่เลว จึงไม่ปล่อยให้กลุ่มคนเบียดเข้ามาได้

“คุณหนูเยี่ยหวันหวั่น ช่วงนี้บนอินเทอร์เน็ตกำลังลือข่าวฉาวของคุณกับคุณกู้ ไม่ทราบว่าคุณมีอะไรอยากพูดไหมคะ”

“ตอนนั้นคุณน้ำตานองยอมถอนหมั้น มองว่าเป็นความเสียใจชั่วชีวิตมาโดยตลอดหรือเปล่า”

“คุณเปิดเผยชาติกำเนิดของเยี่ยอีอีต่อหน้าทุกคน เพื่อที่จะให้คุณกู้กลับมาสานสัมพันธ์ต่อหรือเปล่า”

คำถามแล้วคำถามเล่าถูกยิงกระหน่ำเข้ามา เยี่ยหวันหวั่นฟังจนอดที่จะแคะหูไม่ได้ รู้สึกว่าหูใกล้จะบอดแล้ว

………………………………………….