บทที่ 1811 สายตาไม่ได้แย่ขนาดนั้น / บทที่ 1812 ไม่มีทางให้สถานะ

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1811 สายตาไม่ได้แย่ขนาดนั้น

เยี่ยหวันหวั่นที่ถูกกันห่างจากนักข่าวและกำลังเดินไปข้างหน้าพลันหยุดฝีเท้าลง แล้วหันตัวไปมองนักข่าวคนหนึ่งในนั้น

ชั่วพริบตานั้นทั่วทั้งบริเวณก็เงียบกริบลงหนึ่งวินาที

เมื่อนักข่าวคนนั้นเห็นว่าเยี่ยหวันหวั่นมองตัวเองก็เอ่ยถามอย่างตื่นเต้นทันที “ประธานเยี่ย ได้ยินว่ามีเรื่องดีๆ กำลังจะเกิดขึ้นระหว่างคุณกับคุณกู้ ซิงเฉินกรุ๊ปจะร่วมมือกับกู้กรุ๊ปด้วยความสัมพันธ์ระดับนี้หรือเปล่า”

เยี่ยหวันหวั่นกวาดสายตามองนักข่าวทุกคนในนั้นคล้ายกำลังยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “ฉันกับกู้เยว่เจ๋องั้นเหรอ ขอโทษนะ ดูเหมือนว่าพวกคุณจะเข้าใจอะไรผิด”

พวกนักข่าวต่างมองหน้าสบตากัน “เข้าใจผิด?”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยเสียงเรียบ “สายตาฉันไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะ”

ชั่วพริบตาที่สิ้นเสียง นักข่าวทุกคนก็พลันตกตะลึง

เชี่ย!

เยี่ยหวันหวั่นนี่ น้ำเสียงใหญ่โตจริงๆ …

ด้วยอำนาจในเมืองหลวงของตระกูลกู้ รวมถึงบุคลิกและหน้าตาของกู้เยว่เจ๋อ อีกฝ่ายเป็นตัวเลือกสามีที่โด่งดังร่ำรวยและจิตใจดีขนาดไหน ไม่งั้นเยี่ยอีอีก็คงจะไม่เค้นสมองอย่างสุดชีวิตเพื่อแย่งเขาไปจากมือของเยี่ยหวันหวั่นหรอก

ตอนนั้นเพื่อไล่ตามกู้เยว่เจ๋อแล้วเยี่ยหวันหวั่นสร้างเรื่องน่าขำไปมากเท่าไร คนในวงการหลายคนย่อมรู้ดี

“แค่ก คุณหนูเยี่ย คำพูดนี้ของคุณ…” นักข่าวพลันรู้สึกไม่รู้จะพูดอะไรอยู่บ้าง

“ตอนนั้นสายตาฉัน…อืม…อาจจะพิสดารไปสักหน่อยก็จริง…แต่ตอนนี้ฉันมีแฟนแล้ว ขอสหายสื่อทุกท่านอย่าเชื่อถือข่าวลือ” เยี่ยหวันหวั่นตัดบทนักข่าว ก่อนที่จะวางระเบิดลูกใหญ่อีกครั้ง

ว่าไงนะ!

เยี่ยหวันหวั่นมีแฟนแล้ว?

พวกเขานักข่าวขุดตั้งนานก็ไม่เห็นขุดเจอข่าวซุบซิบพวกนี้นะ!

หรือว่าเป็นคนในวงการ!

“คุณหนูเยี่ยหวันหวั่น คุณมีแฟนแล้วเหรอ ไม่ทราบว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เป็นคนในวงการหรือเปล่าครับ”

“หรือว่าจะเป็นคนของจูเสินสือไต้” ถึงขั้นมีคนคาดเดาเช่นนี้

พวกนักข่าวพลันซักถามอย่างตื่นเต้น เมื่อพวกหานเซี่ยนอวี่ และกงซวี่ที่อยู่ด้านข้างเยี่ยหวันหวั่นได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตกใจอยู่บ้าง

เพราะเยี่ยหวันหวั่นเก็บตัวเงียบมาโดยตลอด นึกไม่ถึงว่าครั้งนี้เธอจะประกาศเรื่องความรักไปตรงๆ ในที่สาธารณะ

แต่วิธีการของกู้เยว่เจ๋อชั่วร้ายขนาดนี้ เธอจะประกาศไปแบบนั้นก็ไม่แปลก

เยี่ยมู่ฝานก็ตกใจมาก ความจริงเขานึกมาตลอดว่าน้องสาวเลิกกับเจ้าหน้าขาวนั่นแล้ว

ยังไงเสียในบ้านก็เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ หลังจากที่น้องสาวกลับมาก็ไม่ได้พูดถึงผู้ชายคนนั้นอีก เขากลัวว่าน้องสาวจะปวดใจก็เลยไม่กล้าพูดถึง แต่นึกไม่ถึงว่าจู่ๆ เธอจะเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาเอง

เยี่ยหวันหวั่นตอบไปตรงๆ “ไม่ใช่คนในวงการ เขาทำธุรกิจ พวกคุณก็น่าจะรู้จัก”

ทำธุรกิจ แถมพวกเขายังรู้จัก?

เป็นใครกันแน่นะ!

“หรือว่าเป็นผู้อำนวยการของ YL คนนั้น ก่อนหน้านี้เหมือนเขาจะเปิดเผยว่าเป็นแฟนคลับของเยี่ยไป๋ แถมยังเคยมีข่าวลือฉาวๆ ออกมาช่วงหนึ่งด้วย!”

“ผู้อำนวยการของ YL อายุห้าสิบกว่าแล้วนะ แถมยังเคยแต่งงานแล้วสองครั้ง…”

“คงไม่ใช่ศิลปินในความดูแลของเธอหรอกนะ”

ภายใต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์และซักถามอย่างร้อนแรง เยี่ยหวันหวั่นก็เอ่ยปากอย่างไม่ช้าไม่เร็วว่า “เขาแซ่ซือ ซือเยี่ยหาน”

นักข่าวทุกคนในที่นั้นถึงกับพูดไม่ออก

เยี่ยมู่ฝานตกใจ

กงซวี่สงสัย

ลั่วเฉินนิ่งเงียบ

ฟู่หมิงซีก็นิ่งเงียบ

นอกจากเป่ยโต่วกับชีซิงที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับชื่อซือเยี่ยหานนี้ นักข่าวทุกคนในที่นั้นรวมไปถึงพวกเยี่ยมู่ฝานและหานเซี่ยนอวี่ต่างก็ตะลึงค้างไปแล้ว

เยี่ยมู่ฝานแทบจะกัดลิ้นของตัวเอง จ้องน้องสาวของตัวเองอย่างตกตะลึงและกดเสียงเอ่ยเบาๆ “เชี่ย! หวันหวั่น แก…แกว่าใครนะ คืนนี้แกก็ไม่ได้ดื่มเหล้านี่นา!”

—————————————————————————————

บทที่ 1812 ไม่มีทางให้สถานะ

หลังจากที่พวกนักข่าวตกใจในช่วงสั้นๆ ก็พลันมีเสียงของความวุ่นวายดังขึ้น

นึกไม่ถึงแม้แต่น้อยว่าเยี่ยหวันหวั่นจะพูดชื่อนี้ออกมา!

ชื่อนี้ พวกเขาไม่ใช่แค่รู้จักนะ

แต่เหมือนฟ้าผ่าหูชัดๆ!

กงซวี่ยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น นึกว่าตัวเองหูฝาดไปแล้ว “ซือ…ซือเยี่ยหาน…ไม่…ไม่ใช่ซือจิ่วเหรอ”

เฟ่ยหยางอุทาน “สวรรค์!”

นึกไม่ถึงแม้แต่น้อย เรื่องซุบซิบที่ใหญ่ที่สุดในปีนี้กลับไม่ได้เกิดบนตัวศิลปินคนไหน แต่เป็นเพียงประโยคเดียวจากปากของเยี่ยไป๋

ลั่วเฉินก็มีสีหน้าตื่นตกใจเหมือนกัน ต่อให้ไม่ใช่คนที่สนใจข่าวลือข่าวซุบซิบ ก็ต้องเคยได้ยินชื่อของซือเยี่ยหาน แม้อีกฝ่ายจะไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าสื่อและสาธารณะที่ไหนมาก่อน

ทีแรกหานเซี่ยนอวี่ก็ตกใจ จากนั้นจึงหลุบตาลงครุ่นคิดและเหมือนในที่สุดจะเข้าใจบางอย่างแล้ว…

มิน่าล่ะ…เขามักจะรู้สึกว่ากลิ่นอายของผู้ชายคนนั้น สถานะจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน…

คงเป็นเพราะความตกใจที่เยี่ยหวันหวั่นมอบให้เขามาจะมากเกินไปจริงๆ ถึงขั้นว่าเรื่องนี้แม้จะพอทำให้ทุกคนตกตะลึง แต่หลังจากครุ่นคิดแล้ว เขาก็รู้สึกว่าสมเหตุสมผล

ยิ่งไปกว่านั้น เยี่ยไป๋ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เธอยังมีตำแหน่งเป็นถึงเถ้าแก่ของซิงเฉินกรุ๊ปตำแหน่งนี้ในประเทศจีนเรียกได้ว่าไม่ด้อยไปกว่าตระกูลซือแม้แต่น้อย

กลับเป็นกู้เยว่เจ๋อต่างหากที่มองตัวเองสูงเกินไป เป็นคางคกอยากกินเนื้อหงส์ ไม่รู้จักประมาณตนเอง

ใบหน้าของฟู่หมิงซีก็ปรากฏความรู้สึกวิกฤตเป็นครั้งแรก เขารู้อยู่แล้ว เขารู้อยู่เแล้วเชียว!

ผู้ชายที่ผู้นำถูกใจ จะธรรมดาได้ยังไง!

แต่ไหนแต่ไรทำแต่เรื่องท้าทาย นี่ต่างหากถึงจะเป็นเนื้อแท้ของผู้นำพวกเขา!

นี่…จะทำยังไงดี!

ไม่สิ…ใจเย็น! ใจเย็นๆ! ซือเยี่ยหานเป็นคนจีนนะ!

คนรัฐอิสระห้ามแต่งงานกับคนภายนอกเด็ดขาด ดังนั้นผู้นำก็ได้แค่เล่นกับเขาที่ประเทศจีนเท่านั้น ไม่มีทางให้สถานะเขา! ถูกเผง!

เป่ยโต่วพลันเผยสีหน้ากระจ่างแจ้งออกมา “มิน่าล่ะ หลังจากพี่เฟิงกลับมาก็ให้พวกเราแอบไปสืบร่องรอยของผู้นำตระกูลซือตลอด! นึกไม่เลยว่าจะคบชู้ด้วย!”

ชีซิงขมวดคิ้วเล็กน้อย และถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ ที่เรียกว่ามังกรแกร่งไม่สามารถกดอันธพาลท้องถิ่น อำนาจของตระกูลซือในประเทศจีนนั้นยิ่งใหญ่มาก ซือเยี่ยหานเป็นผู้นำของตระกูลซือ ไม่ใช่คนที่จะยุแหย่ได้ง่ายๆ แน่นอน

เขากลัวว่าผู้นำจะก่อเรื่องอะไรขึ้นอีกจริงๆ อย่างเช่นไม่เลือกวิธีเพื่อไขว่คว้าสิ่งที่ต้องการ…บังคับให้คนอื่นมาเป็นแฟนหนุ่มของตัวเอง…

ถ้าเยี่ยหวันหวั่นรู้ถึงความคิดในเวลานี้ของชีซิงจะต้องพ่นใส่เขาแน่ เธอเป็นคนที่ถูกบังคับต่างหากเข้าใจไหม

แน่นอนว่าประวัติอันดำมืดอย่างนี้เธอไม่มีทางพูดออกมาเด็ดขาด…

ขณะเดียวกัน

ณ คฤหาสน์อันโดดเดี่ยวแห่งหนึ่งในเมืองหลวง

ในที่สุดหลินเชวียก็กลับคืนหน้าตาเดิมของตัวเอง เขากำลังอุ้มโน้ตบุ๊กพลางอ่านข่าวซุบซิบอย่างอารมณ์ดี

บนโซฟาหน้าเตาผิง ชายหนุ่มเอนศีรษะค้ำหน้าผาก ในมือถือหนังสืออยู่เล่มหนึ่ง แต่เห็นชัดได้ว่าความสนใจไม่ได้อยู่บนหนังสือเล่มนั้นเลย

หลินเชวียอ่านไปพลางแสดงความคิดเห็นไปพลาง “จิ๊ๆๆ พี่เก้า พี่ดูผู้หญิงของพี่สิ พอกลับถึงประเทศจีนก็ไม่ได้อยู่นิ่งเลยสักวัน ทั้งวันเอาแต่ก่อเรื่อง…”

“จิ๊ๆๆ ฟู่หมิงซีนี่ไม่ใช่หลานชายของผู้อาวุโสรองคนนั้นของพันธมิตรอู๋เว่ยหรอกเหรอ ดูท่าจะมีแผนการกับยัยตัวประหลาดนะ! พี่เก้าใช้ได้นี่ แบบนี้ยังทนได้!”

“จิ๊ๆๆ กู้เยว่เจ๋อนี่หน้าด้านจริงๆ ยัยตัวประหลาดประกาศตัวตนของตัวเองแล้ว ตอนนี้เป็นถึงเถ้าแก่ใหญ่ของซิงเฉินกรุ๊ป ยังจะถูกใจตระกูลกู้ของเขาอีกเหรอ เขานึกว่ายัยตัวประหลาดยังเป็นสาวน้อยไร้สมองเมื่อตอนนั้นอยู่หรือไง! ไอคิวต่ำจริงๆ เลย! นี่พี่เก้าทนได้เหรอ”

“จิ๊ๆๆ …” หลินเชวียจิ๊ปากต่อ แต่ก็พลันเบิกตากว้าง ไม่รู้ว่าเห็นอะไรเข้า “เฮ้ย! พี่เก้า! พี่รีบดูนี่สิ!”

…………………………..