บทที่ 1905 ปีศาจอมตะได้รับอิสรภาพ

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1905 ปีศาจอมตะได้รับอิสรภาพ

 

“มีเรื่องยุ่งยากเกิดขึ้น ข้าต้องทําการอนุมาน ตอนนี้ทุกคนสามารถพักผ่อน” ฟางหยวนกล่าว

 

วิญญาณอมตะอาณาเขตเป็นอุปสรรคในใหญ่ สิ่งนี้ทําให้พวกเขาไม่สามารถปรับแต่งค่ายกลวิญญาณอมตะใต้ทะเลได้มากกว่านี้

 

กลุ่มผู้อมตะเริ่มพักผ่อนแต่ไม่หยุดพูดคุย

 

“ในที่สุดเราก็พบอุปสรรค

 

“ข้าเคยคิดว่าชอิงจะสามารถปรับแต่งมันต่อไปอย่างไม่รู้จบสิ้น”

 

“อย่าล้อเล่น นี่เป็นค่ายกลวิญญาณอมตะที่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะสวรรค์พิภพ ชอิงจะปรับแต่งมันได้อย่างไร?”

 

“หากเขาไม่สามารถปรับแต่ง จะเกิดสิ่งใดขึ้นกับภารกิจของเรา?”

 

“ชูอิงเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกล การอนุมานเป็นความเชี่ยวชาญของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา แล้วเขาจะสามารถอนุมานสิ่งใด?”

 

กลุ่มผู้อมตะมีความรู้สึกที่ซับซ้อน

 

ด้านหนึ่ง พวกเขาสามารถถอนหานยใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นฟางหยวนพบอุปสรรค

 

ในทางตรงข้าม ความจริงที่ว่าฟางหยวนพบอุปสรรคหมายความว่าพวกเขาไม่สามารถรับผลประโยชน์

 

พวกเขาต้องการให้ฟางหยวนก้าวข้ามอุปสรรคแต่พวกเขาก็ไม่ต้องการเห็นเขาประสบความสําเร็จอย่างแท้จริง

 

“เอาล่ะ ข้าอนุมานเรียบร้อยแล้ว มาเริ่มกันเถอะ” ฟางหยวนกล่าว

 

“อันใด!?” กลุ่มผู้อมตะตกตะลึง นี่เป็นความเร็วที่น่าเหลือเชื่อเกินไป

 

ฟางหยวนบินออกจากค่ายกลเสริมและลอยอยู่กลางอากาศ “เพื่อก้าวข้ามอุปสรรคนี้ เราต้องปรับเปลี่ยนค่ายกลเสริมเล็กน้อย ทุกคน อย่ากังวล”

 

ด้วยความตั้งใจของเขา ค่ายกลเสริมเคลื่อนที่เข้าใกล้ค่ายกลวิญญาณอมตะใต้ทะเลมากขึ้น

 

ค่ายกลเสริมของเสี่ยวหมิงเฉินถูกวางไว้ติดกับค่ายกลเสริมของเหรินซิ่วผิง พวกมันเชื่อมต่อกันอย่างแน่นหนา

 

ฟางหยวนกล่าวกับคนทั้งสอง “ต่อไป พวกท่านทั้งสองจะเป็นผู้นําของค่ายกลเสริมและสนับสนุนคนอื่นๆ”

 

เหรินซิ่วผิงและเสี่ยวหมิงเฉินพยักหน้า พวกเขาแสดงออกด้วยความรู้สึกซับซ้อนเพราะพวกเขาไม่คาดหวังว่าจะต้องทํางานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเช่นนี้

 

หลังจากปรับเปลี่ยนรูปแบบของค่ายกลเสริม ฟางหยวนกลับเข้าสู่ค่ายกลเสริมของเขาและกระตุ้นให้ท่าไม้ตายอมตะฝนหลอมรวมอีกครั้ง

 

ค่ายกลเสริมท่าให้พลังอานาจของฝนหลอมรวมเปลี่ยนแปลงไป ตอนนี้มันเหมือนเม็ดทรายที่พยายามแทรกซึมเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณอมตะใต้ทะเลทีละเล็กทีละน้อย

 

หลังจากชั่วครู่ฟางหยวนก็ประสบความสําเร็จในการปรับแต่งวิญญาณอมตะอาณาเขต

 

เมื่อผ่านสิ่งกีดขวางชิ้นนี้ กลุ่มผู้อมตะรู้สึกผ่อนคลายลง ขณะเดียวกันพลังอํานาจของฝนหลอมรวมก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ตอนนี้มันเหมือนคลื่นยักษ์ที่พุ่งเข้าโจมตีเป้าหมายอย่างรุนแรง

 

คลื่นความตกใจถาโถมเข้าสู่หัวใจของเฉินกงเจิ้งและคนอื่นๆ

 

“ทรงพลังนัก!”

 

“ชูอิงผู้นี้น่าประทับใจจริงๆ”

 

“มากกว่าครึ่งของค่ายกลวิญญาณอมตะใต้ทะเลเป็นของเขาแล้ว”

 

“ค่ายกลเสริมที่เขาออกแบบลึกซึ้งมาก พวกมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์”

 

ความสามารถของฟางหยวนเหนือความคาดหมายของทุกคน มันทําให้พวกเขาจะรู้สึกประหลาดใจมาก

 

สามวันสองคืนต่อมา ฟางหยวนสามารถปรับแต่งวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพี่ได้อีกสองสามดวง ตอนนี้ค่ายกลวิญญาณอมตะใต้ทะเลหกสิบส่วนอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาแล้ว

 

แต่ส่วนที่เหลืออีกสี่สิบส่วนคือแก่นแท้ของมัน ข้าไม่สามารถปรับแต่งมันได้ในระยะเวลาสั้นๆ ฟางหยวนตระหนักถึงขีดจํากัดของตน

 

ท้ายที่สุดมันก็เป็นค่ายกลวิญญาณอมตะที่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะสวรรค์พิภพ ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปฐพีของเทพอมตะสวรรค์พิภพอยู่ในระดับปรมาจารย์สูงสุด!

 

ฟางหยวนพยายามใช้หกสิบส่วนของค่ายกลวิญญาณอมตะใต้ทะเลปรับแต่งส่วนที่เหลือ

 

แต่เขากลับกระอักเลือดออกมาขณะที่ค่ายกลเสริมแตกออกจากกัน กลุ่มผู้อมตะตกลงไปในน้ําและเผชิญหน้ากับผลกระทบย้อนกลับในระดับที่แตกต่างกัน

 

แผนการของฟางหยวนล้มเหลว แม้เขาจะสามารถควบคุมค่ายกลวิญญาณอมตะใต้ทะเลได้หกสิบส่วน แต่เขาไม่สามารถปรับแต่งแกนกลางที่เหลืออีกสี่สิบส่วน

 

“สมกับเป็นเทพอมตะสวรรค์พิภพ” หัวใจของฟางหยวนสั่นไหว

 

เขาถอยหายใจกับตนเองก่อนตะโกน “ทุกท่าน ข้าต้องขออภัยด้วย ข้าล้มเหลวและทําให้พวกท่านได้รับบาดเจ็บ”

 

กลุ่มผู้อมตะส่ายศีรษะและตอบว่าพวกเขาสบายดี

 

ตามความเห็นของพวกเขา มันยอดเยี่ยมมากแล้วที่ชอิงสามารถทําได้ถึงขั้นนี้ เขาท่าได้เกินความคาดหมายของทุกคนไปไกลแล้ว

 

ฟางหยวนหรี่ตามองทุกคนและคิด “ดูเหมือนเราต้องรื้อถอนค่ายกลวิญญาณอมตะนี้เท่านั้น

 

หลังจากพักผ่อนชั่วครู่ เขาก็เริ่มรื้อค่ายกลวิญญาณอมตะใต้ทะเล

 

เนื่องจากหกสิบส่วนของมันถูกปรับแต่งแล้ว การรื้อถอนส่วนดังกล่าวจึงประสบความสําเร็จอย่างราบรื่น

 

ฟางหยวนแยกหกสิบส่วนของมันออกมา วิญญาณระดับมนุษย์จํานวนมากถูกทําลายระหว่างกระบวนการ แต่เขาได้รับวิญญาณอมตะทั้งหมด

 

เสี่ยวหมิงเฉินและคนอื่นๆเบิกตากว้าง

 

ก่อนหน้านี้พวกเขาควบคุมค่ายกลเสริมและไม่ตระหนักถึงเรื่องนี้ พวกเขามีความเชื่อมโยงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตามเมื่อฟางหยวนรื้อถอนมัน ทุกคนจึงค้นพบวิญญาณอมตะทั้งหมด

 

“วิญญาณอมตะมากมายนัก!”

 

“ข้าเห็นวิญญาณบนเส้นทางแห่งปฐพี่ที่สูญหายไปนานแล้ว แม้พวกมันจะเป็นวิญญาณระดับมนุษย์แต่พวกมันก็ถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะสวรรค์พิภพ”

 

“มีวิญญาณอมตะอยู่ด้วย โอ้ สวรรค์ มีวิญญาณอมตะแปดดวง!”

 

“ส่วนใหญ่เป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ด มีวิญญาณอมตะระดับหกเพียงเล็กน้อย

 

“ชอิงได้รับพวกมันทั้งหมด!”

 

“เขาไม่แบ่งให้พวกเราแม้แต่ดวงเดียว!”

 

กลุ่มผู้อมตะเฝ้ามองด้วยความงุนงงและอิจฉา

 

วิญญาณอมตะส่วนใหญ่เป็นวิญญาณบนเส้นทางแห่งปฐพี พวกมันไม่เหมาะสมกับพวกเขา แต่พวกเขายังสามารถใช้มันแลกเปลี่ยนกับวิญญาณอมตะประเภทอื่น

 

ดวงตาของถูเทาเทากลายเป็นแดงก่ํา มันแทบสามารถพ่นไฟออกมา

 

เขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปฐพี เขามองฟางหยวนเก็บวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพี่เข้าไปในมิติช่องว่างและรู้สึกหัวใจเต้นแรง

 

เขาต้องการกล่าวบางคําแต่ทําได้เพียงกลืนน้ําลายกลับลงไปในคอเท่านั้น

 

กระทั่งเฉินกงเจิ้งที่เป็นผู้อมตะระดับแปดก็ไม่สามารถทําสิ่งใด แล้วถูเทาเทาจะทําสิ่งใดได้?

 

สุดท้ายถูเทาเทาก็ต้องถอนหายใจกับตนเองและกลืนความอิจฉาทั้งหมดลงท้องพร้อมกับน้ําลาย

 

เขารู้ว่าตนเองไม่มีความสําคัญต่อแผนการนี้ สิ่งเดียวที่เขาทําได้คือการกระชับความสัมพันธ์กับชองด้วยการแสดงคุณค่าของตนเอง ด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถแลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะกับชอิงได้ในอนาคต

 

สิ่งสําคัญคือชอิงบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงและเส้นทางแห่งค่ายกล เขาไม่ได้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปฐพี ดังนั้นถูเทาเทาจึงรู้สึกว่ามันมีความเป็นไปได้ที่เขาจะขอแลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะกับชูอิงในอนาคต

 

แต่ถเทาเทาไม่รู้เลยว่าฟางหยวนเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปฐพี ความสําเร็จของฟางหยวนกระทั่งสูงกว่าเขา!

 

หลังจากฟางหยวนรื้อถอนส่วนนอกของค่ายกลวิญญาณอมตะใต้ทะเล กลุ่มผู้อมตะเร่งเข้ามาแสดงความยินดีกับเขา

 

“ยินดีด้วย ยินดีด้วย”

 

“ชูอิง ครั้งนี้เจ้าได้รับโชคลาภครั้งใหญ่ แม้เจ้าจะใช้ทรัพยากรอมตะมากมาย แต่เจ้าก็ได้รับวิญญาณอมตะจํานวนมาก มันเป็นผลประโยชน์มหาศาลอย่างแท้จริง”

 

“กล่าวตามตรง น้ําลายของข้าไหลไปถึงพื้นแล้ว”

 

“วิธีการของเจ้าน่าอัศจรรย์มาก ข้ารู้สึกชื่นชมเจ้าจากใจจริง”

 

“ชูอิง ข้า ถูเทาเทา บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปฐพี หากเจ้าต้องการแลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพีเหล่านั้น โปรดแจ้งข้า ข้าแน่ใจว่าเจ้าจะพอใจกับข้อเสนอของข้า”

 

ฟางหยวนขอบคุณที่ละคน

 

วิญญาณอมตะที่เขาได้รับในครั้งนี้อาจทําให้ผู้อมตะคนอื่นๆรู้สึกตกใจ

 

แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่ผลประโยชน์ครั้งใหญ่ที่สุดที่เขาเคยได้รับ

 

ก่อนหน้านี้เขาเอาชนะวังสวรรค์ในสายธารแห่งกาลเวลา

 

เขารื้อถอนคฤหาสน์วิญญาณอมตะหกหลังของวังสวรรค์และได้รับวิญญาณอมตะจํานวนมาก

 

วิญญาณอมตะส่วนใหญ่เป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ด บางดวงยังเป็นวิญญาณอมตะระดับแปด

 

หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น เขาได้รับแรงบันดาลใจมากมาย ร่างแยกกาลเวลาของเขาอนุมานและพยายามรวมสนามรบสิบสองราศีเข้ากับเรือรบหมื่นปี

 

กลับมาที่สถานการณ์ปัจจุบัน ฟางหยวนและคนอื่นๆยืนอยู่ต่อหน้าค่ายกลวิญญาณอมตะสี่สิบส่วนที่เหลือแต่พวกเขาไม่สามารถทําสิ่งใดกับมัน

 

แม้ฟางหยวนจะพยายามอย่างเต็มที่ แต่เขาก็ไม่มีความคืบหน้า

 

“ข้าความรอให้ร่างแยกของขายกระดับความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปฐพี่หรือควรโจมตีมันโดยตรง?” ฟางหยวนคิดและตัดสินใจโจมตี

 

ทํายที่สุดตอนนี้เขาก็มีกาลังคนมากมาย เขาต้องใช้ประโยชน์จากคนเหล่านี้

 

เขาให้ผู้อมตะบางคนโจมตีขณะที่บางคนใช้ค่ายกลย่อยสนับสนุน

 

“บีม บีม บีม”

 

ท่าไม้ตายทุกประเภทถูกปลดปล่อยออกมา

 

หลังจากถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการโจมตีของผู้อมตะระดับแปดเช่นเฉินกงเจิ้ง ในที่สุดค่ายกลวิญญาณอมตะสี่สิบส่วนก็เริ่มเกิดรอยแตกร้าวและรูช่องโหว่

 

ฟางหยวนดีใจมาก เขาเร่งใช้ค่ายกลย่อยบุกเข้าไปในรูช่องโหว่ของมันทันที

 

“ข้าเสียใจ” ทันใดนั้นเสียงคร่ําครวญของปีศาจก็ดังขึ้น

 

“ข้าเสียใจ ข้าไม่ควรมาที่ถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้า ข้าติดอยู่ที่นี่ ข้าเสียใจกับทุกสิ่ง

 

กลุ่มผู้อมตะหยุดการกระทําของพวกเขา ขวัญกําลังใจของทุกคนร่วงหล่นลง พลังอํานาจของวิญญาณความเสียใจส่งผลกระทบต่อพวกเขา

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น “ปีศาจอมตะที่อยู่ภายในกําลังปลดปล่อยพลังอํานาจของวิญญาณความเสียใจออกมาเพื่อลดอิทธิพลของมันที่มีต่อเขา เขาต้องการหลบหนี!”

 

“บีม!”

 

เสียงระเบิดดังขึ้น ค่ายกลวิญญาณอมตะเกิดรูช่องโหว่ขนาดใหญ่

 

เฉินกงเจิ้งตะโกนเสียงดังและพยายามต่อต้านพลังอานาจของวิญญาณความเสียใจ ดวงตาของเขากลายเป็นแดงก่าขณะที่เขาโจมตีรูช่องโหว่อย่างดุเดือด

 

“บีม!”

 

ด้วยความร่วมมือจากปีศาจอมตะที่อยู่ภายใน ค่ายกลวิญญาณอมตะแตกเป็นเสียงๆ

 

ปีศาจอมตะบินออกมาราวกับลูกศรสีด่า

 

เฉินกงเจิ้งดีใจมาก เขาบินเข้าไปหาปีศาจอมตะตนนั้นและตะโกน “บรรพชนเฉินซาน ข้าคือบุตรหลานของตระกูลเฉิน ข้าเป็นทายาทของท่าน!”