บทที่ 762 เขาจำอะไรบางได้แล้วบ้าง

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 762 เขาจำอะไรบางได้แล้วบ้าง?
เส้นหมี่ : “……..”

ภายใต้ความหวาดกลัวสุดขีดนี้ เธอก็ไม่สนใจอย่างอื่นอีกแล้ว จับมือของเขาขึ้นมาเอาเข้าในปากแล้วกัดลงไปอย่างแรง

“อูยยยย”

ความเจ็บปวดอย่างรุนแรง ในที่สุดทำให้ผู้ชายคนนี้สั่นสะท้านไปทั้งตัว เขาก็ค่อยๆ หยุดอาการดังกล่าวลง

เส้นหมี่เห็นเข้า ก็ถอนหายใจยางยางด้วยความโล่งอก

แต่ เธอยังโชคดีได้ไม่นานเท่าไหร่ หรือแม้แต่มือของเขาก็ยังไม่ทันจะวางลง ผู้ชายคนนี้ที่ตื่นขึ้นมาแล้วในที่สุด หลังจากที่ลืมตาขึ้นมา ทันใดนั้นก็ตบหน้าเธอไปฉาดใหญ่

“เปรี๊ยะ——”

เกิดเสียงตบหน้าดังสนั่น!

ทันใดนั้น ทั้งใบหน้าของเส้นหมี่ก็เอนเอียงไปด้านหนึ่ง เบื้องหน้าเต็มไปด้วยความมืดอยู่หลายวินาที

เขากล้าตบเธอ?

ความคิดของเธอหยุดนิ่งลง เป็นเวลานานมาก ที่เธอนั่งลงตรงนั้นโดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเลย

และแสนรัก หลังจากที่ตบเธอไปฉาดใหญ่ ก็ล้มหงายลงไปอีกครั้งอย่างหมดสิ้นเรี่ยวแรง สีหน้าของเขาขาวซีดราวกับกระดาษ เหงื่อท่วมร่างกาย ซึ่งดูเหมือนจะทำให้เขาเปียกชุ่มไปทั้งตัว

“ไสหัวไป!”

เขาสบถคำนี้ออกมาจากซี่ฟันราวกับว่าเป็นน้ำแข็ง

เส้นหมี่ : “………”

ในที่สุด หลังจากที่เธอเลียคราบหวานคาวที่บนมุมปากแล้ว ยื่นมือขึ้นไปลูบคลำบนใบหน้าที่ถูกตบจนเอียงนั้น แล้วค่อยๆหันกลับมาทีละนิดๆ

“ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้นค่ะ หากคุณไม่พอใจ คุณสามารถทำต่อได้เลย ขอเพียงแค่คุณระบายความโกรธ ได้ทั้งหมดเลยค่ะ”

เธอกลับไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย

ในม่านตาของแสนรักก็ปรากฏเป็นชั้นสีแดงฉาดขึ้นทันที “พึ่บ” เขาลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง ราวกับว่ากลายเป็นสัตว์ป่าบ้าคลั่งไปโดยสิ้นเชิง ยื่นมือมาบีบคอผู้หญิงคนนี้เอาไว้อย่างแรง

“คุณเชื่อไหมว่าผมฆ่าคุณได้?”

“คุณไม่กล้าทำหรอก แสนรัก ในใจของคุณ ที่จริงไม่ได้มีแค่ความโกรธแค้น เมื่อสักครู่ตัวคุณเองก็เห็นแล้ว คุณยังมีความปรารถนา ความคิดถึงโหยหา ถึงแม้ว่าการสะกดจิตของฉันจะไม่ประสบความสำเร็จมาก แต่ฉันสามารถทำให้คุณได้เห็นในสิ่งที่ในใจคุณก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ดังนั้นคุณจึงเขินอายจนกลายเป็นความโกรธ จึงได้ตบฉัน ใช่ไหม?”

เส้นหมี่ยังคงสงบนิ่ง และค่อยๆ เปิดเผยหน้ากากที่แท้จริงของชายคนนี้ผู้ซึ่งเสแสร้งแกล้งทำเป็นโมโหในตอนนี้ออกมาทีละคำๆ

ใช่ การสะกดจิตของเธอครั้งนี้ ถึงแม้จะล้มเหลว

แต่ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีผลเสียเลยทีเดียว อย่างน้อย เธอทำให้เขาได้เห็นว่าหลังจากแตกแยกกันนอกจากความโกรธแค้นแล้ว ยังมีสิ่งสิ่งนี้ ที่ทำให้เขาโมโห โกรธเคืองเป็นอย่างมาก

เพราะว่า เขารู้สึกว่าเป้าหมายชีวิตของเขาถูกเธอทำให้ยุ่งเหยิง

“จี๊ด”

ผู้ชายที่ถูกพูดจนแทงใจดำนี้ สีเลือดแดงในดวงตาก็ยิ่งแดงก่ำยิ่งขึ้น

เขานิ้วมือทั้งห้าของตัวเองแน่นยิ่งขึ้น

เพียงชั่วครู่ หลังจากที่เส้นหมี่รู้สึกเพียบเจ็บแปลบที่คอ เธอก็หายใจไม่ออกแล้ว ภายในไม่กี่วินาที ริมฝีปากของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีม่วงดำ ดวงตาทั้งสองข้างก็แดงก่ำจนถึงขีดสุด

“คุณ…คุณฆ่าฉัน ไม่เป็นไร แต่ ตราบใด…..ตราบใดที่ฉันยังมีลมหายใจอยู่ ฉัน….ฉันจะต้องปลุกคุณให้จนได้ แสนรัก….ฉันจะต้อง….จะต้องพาคุณกลับมาให้ได้…..”

เธอพูดอย่างติดๆขัดๆต่อหน้าของเขา

ถึงแม้ว่าในตอนนี้คอของเธอกำลังจะถูกเขาหักออกแล้วก็ตาม

เธอพูด เธอจะต้องพาเขากลับมาให้ได้….

และเมื่อสักครู่ ก่อนที่เขาจะตกอยู่ในภวังค์ความฝันอันแสนเลวร้ายนั้น ประโยคนั้นที่เขาได้ยิน เหมือนจะเป็น “คุณรีบกลับมา” ยังมี ริมฝีปากคู่นั้นที่นุ่มนวลและมีรสเค็มขมที่จูบลงบนปากของเขา

เธอเป็นใครกันแน่?

ทำไมเธอยืนยันที่จะช่วยเขา?

อีกทั้ง ไม่ใช่เพียงแค่ครั้งเดียว เหมือนกับเป็นคนบ้า พยายามอย่างสุดชีวิต เพื่อช่วยชีวิตเขาครั้งแล้วครั้งเล่า!

ในที่สุดแสนรักก็ยอมปล่อยมือลง ความอ่อนแรงเพียงชั่วครู่ เขาก็ล้มหงายตึงลงบนเตียงผู้ป่วยอีกครั้ง

“แฮ่มๆๆๆๆ”

เส้นหมี่ที่ในที่สุดก็ถูกปล่อยตัว ก็ร่วงล้มลงบนพื้นทันที แตะหน้าอกของตัวเองไว้และรีบหายใจเข้าออกยกใหญ่

ไม่ต่างอะไรเลยกับปลาตัวหนึ่งที่เพิ่งหนีรอดจากความตาย

——

นานมากแล้วที่หนูรินจังไม่ได้เจอกับหม่ามี๊ เธอจึงตัดสินใจไปหาหม่ามี๊

“หม่ามี๊ หม่ามี๊อยู่ไหน?”

เธอเดินวนไปรอบๆในสวนของปราสาทอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ ผลคือ ขาอวบอ้วนๆ น้อยๆวิ่งอยู่เป็นเวลานานก็ยังหาหม่ามี๊ไม่เจอ แต่บังเอิญเจอเข้ากับคุณปู่หนวดขาวท่านหนึ่ง

“คุณปู่ คุณเป็นใครเหรอคะ?” เธอเงยศีรษะอันน้อยๆกลมๆขึ้นมา มองไปยังคุณปู่และถามอย่างสุภาพด้วยน้ำเสียงเด็กๆ

ยังจะถามว่าเขาเป็นใคร?

ไชยันต์ที่นำทีมลูกน้องผ่านมานั้น ก้มศีรษะลงมองเจ้าตุ๊กตาคนนี้และจ้องไปที่เธอ

“แล้วเธอล่ะเป็นใคร?”

“หนูเหรอคะ หนูคือรินจังลูกรักค่ะคุณปู่ คุณก็เป็นคนใช้ของที่นี่เหรอคะ? ทำไมคุณน่าเวทนาอย่างนั้นล่ะ? อายุปูนนี้แล้ว ยังมาเป็นคนใช้อยู่อีก?”

หนูรินจังมองดูยังคุณปู่ที่ทั้งเส้นผมและหนวดเคราล้วนเป็นสีขาวหมดแล้ว อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

ไชยันต์ : “……”

และทีมลูกน้องที่เดินตามมาด้านหลัง หลังจากที่ได้ยินคำพูดของน้องหนูคนนี้แล้ว ก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปอีกทาง และชักกระตุกนิดหน่อย

คนแรกที่กล้าว่าคุณท่านน่าเวทนา เกรงว่าคงมีแค่สาวน้อยคนนี้เท่านั้น

“ทำไงได้ล่ะ ก็ต้องมีชีวิตอยู่สิ” คิดไม่ถึงว่า หลังจากที่นิ่งเงียบอยู่นาน คุณท่านท่านนี้ กลับเริ่มสนทนาไปตามคำพูดของสาวน้อยคนนี้

ผู้คนได้ยินเข้า ทันใดนั้นก็อ้าปากค้างตกตะลึงงันกันอีกครั้ง!

มีเพียงแค่หนูรินจัง ที่หลังจากเธอได้ยินแล้ว เอียงศีรษะน้อยๆและดิ้นรนอยู่นานมาก เพื่อเปิดกระเป๋าเล็กๆของตัวเองที่สะพายอยู่ออกมา

“ได้ งั้นหนูให้เงินคุณค่ะ”

“อะไรนะ? ให้เงินฉัน?”

“ใช่ค่ะ หนูจะบอกคุณให้นะ นี่คือเงินที่หม่ามี๊ให้หนูซื้อลูกอมนะ หนูสะสมกันนานมากเลยล่ะ วันนี้หนูแบ่งให้คุณครึ่งหนึ่ง ต่อไปคุณก็ไม่ต้องมาแล้วนะคะ”

พูดจบ สาวน้อยคนสวยราวหยกสีชมพูแกะสลัก มือน้อยอันอวบอั๋นก็ล้วงหยิบเหรียญจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเล็กๆของตัวเอง

บทที่ 761 สะกดจิต

บทที่ 763 ล้มลงใต้ตัวของเขา