เหรียญ….
ในที่สุดมุมตาของไชยันต์ก็ชักกระตุกนิดหน่อย
“ถือเอาไว้สิคะ แม้ว่าจะไม่เยอะ แต่นี่คือทรัพย์สินทั้งหมดของหนูเลยนะ” มือน้อยๆอันนุ่มนวล กำเหรียญจำนวนหนึ่งยัดใส่เข้าไปในมืออันหยาบกร้านของชายชรา
ในชั่วครู่นี้ ไชยันต์ที่ยืนอยู่ตรงนั้น จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเหมือนมีอะไรมาทิ่มแทงเข้าที่ตำแหน่งหนึ่งของหัวใจ คนที่เป็นทหารมาตลอดชีวิต กลับกลายเป็นอ่อนโยนลงอย่างไม่เป็นท่า
“ได้”
สุดท้ายไชยันต์ก็รับเอาเหรียญจำนวนนี้เอาไว้
หนูรินจังเห็นเข้า ก็วิ่งออกไป เธอยังจำได้ว่าต้องไปหาหม่ามี๊
แต่ทันทีที่เธอหันหลังกลับ ก็เห็นว่าหม่ามี๊กำลังเข็นแด๊ดดี้เดินมาจากข้างหลัง
“หม่ามี๊—-“ เธอรีบพุ่งไปหาโดยทันที
เส้นหมี่ก็มองเห็นตรงนี้อยู่แต่แรกแล้ว เห็นว่าลูกสาวคนนี้บังเอิญเจอกับไชยันต์ ทันใดนั้น หลังจากที่สมองของเธอโล่งเปล่า ความหวาดกลัวที่ไม่สามารถควบคุมได้แบบนั้น มันก็ถูกปกคลุมลงมาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“คุณท่าน ขอโทษด้วยค่ะ นี่คือลูกสาวของฉัน เมื่อสักครู่เธอ….ไม่ได้รบกวนท่านใช่ไหมคะ”
เธอกอดเธอไว้แน่น รีบเข้ามาขอโทษต่อไชยันต์ที่ยังคงถือเหรียญจำนวนหนึ่งของลูกสาวเธอไว้ในมือ
เธอกลัวมากจริงๆ
ลูกสาวคนนี้ จะว่าไป ก็คือหลานสาวแท้ๆของชายชราที่อยู่ตรงหน้า แต่ ตอนนี้เขายังมีความคิดที่จะฆ่าแด๊ดดี้ของเธออยู่ตลอด และเธอเป็นแค่เด็กน้อยอายุหกขวบคนหนึ่ง
ถ้าหากเขารู้แล้ว เขาจะทำอย่างไร?
ไม่ฆ่า!
แต่ เขาจะต้องไม่คืนให้กับเธออีกแน่นอน
“ที่แท้เป็นลูกสาวของคุณ ผมถึงว่าสิ ที่เดอะวิวซี ทำไมถึงมีเด็กได้?” ไชยันต์จ้องมองเธออยู่สักพัก ในที่สุดก็เอ่ยปากพูด น้ำเสียง ก็ไม่น่าฟังจริงๆด้วย
ทันใดนั้นเส้นหมี่ที่กำลังกอดลูกสาวไว้ก็สั่นไปทั้งตัว
หวาดกลัวจนถึงขั้นไม่รู้จะตอบรับอย่างไรดี เธอกลัวว่าประโยคถัดไป ชายชราคนนี้จะเห็นว่าเธอมีลูกแล้ว จากนั้นไม่ให้เธอมาที่นี่อีก
“คุณมาทำอะไรอีก?”
ตอนที่เธอกำลังสับสนอยู่นั้น ด้านข้าง ก็มีเสียงอันเย็นชาเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
คือแสนรัก!
เขากลับตั้งคำถามชายชราคนนี้ว่ามาที่นี่ทำไม? และยังเพิ่มคำว่า “อีก” อีกด้วย
ไชยันต์โมโหจนเบี่ยงเบนความสนใจทั้งหมดตกอยู่ที่ตัวเขา
“ฉันมาทำไม? แน่นอนว่าฉันมาเพื่อฝึกซ้อมแก พวกนาย พาตัวคุณชายเล็กไปที่สนามซ้อม ฝึกซ้อมขากับมือทั้งสองข้างของเขา ให้ดีๆ!”
“ครับท่านจอมพล!”
เพียงแค่คำสั่งนี้คำสั่งเดียว ชายชราคนนี้ก็สั่งให้ทีมลูกน้องที่พามาด้วยเดินไป พาตัวของแสนรักไปฝึกซ้อม
ทันใดนั้นสีหน้าของแสนรักเป็นสีเขียวปั๊ด
และเส้นหมี่เองก็ได้ยินแล้ว ก็ยิ่งร้อนใจ : “คุณท่านคะ เขายังไม่หายดีเลยค่ะตอนนี้ยังไม่สามารถออกกำลังกายหนักได้ เพราะแบบนี้จะไม่เป็นผลดีต่อการฟื้นตัวของเขาค่ะ”
เธอชักแม่น้ำทั้งห้าอ้อนวอนเขา คงขาดก็เพียงแค่พุ่งเข้าไปขวางไว้
ในเวลานี้ เขายังไปฝึกซ้อมไม่ได้จริงๆ เพราะว่า เธอเพิ่งจะทำการสะกดจิตเขาไป แบบนั้นคือเกิดความอ่อนล้าเป็นอย่างมาก อีกทั้ง เดิมทีร่างกายเขาเองก็ยังไม่หายดี
แต่ ไชยันต์กลับไม่ได้สนใจอะไรเลย
“ยังหายไม่ดี? เธอลองถามเขาดูสิว่าสองวันนี้ไปทำอะไรไว้บ้าง? ตัวเขาเองคนเดียวไปหักเด็ดต้นกล้าไม้มีราคาของฉันในสวนด้านหลังไปตั้งหลายต้น เธอบอกฉันว่าเขายังไม่สามารถออกกำลังกายหนักได้?”
“หา?”
เส้นหมี่ตกตะลึงงัน
และก็ในเวลานี้เอง ชายชราก็โบกๆมือ ทันใดนั้น แสนรักที่นั่งอยู่บนรถเข็น ก็ถูกพาออกไปอย่างนั้น
เส้นหมี่ : “……”
นี่คือเรื่องอะไรกัน?!!
——
ตอนที่ม็อกโกถูกเรียกมายัง เดอะวิวซี แสนรักกำลังถูกแบกไปจนแทบจะตกอยู่แล้ว
หน้าของเขาขาวซีดราวกับกระดาษ เม็ดเหงื่อท่วมร่างกาย ยิ่งเหมือนกับเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ ถ้าหากไม่ใช่เพราะเส้นหมี่ที่ยื้อรั้งสมาชิกทีมลูกน้องเหล่านั้นไว้อย่างเอาเป็นเอาตาย เกรงว่าขาและมือทั้งสองข้างของเขา คงจะถูกมัดด้วยกระสอบทรายสองกระสอบ
“คุณปู่ กำลังทำอะไรอยู่ครับ? เขายังไม่ทันจะหายดี ปู่ให้เขาฝึกซ้อมหักโหมแบบนี้ นั่นไม่ใช่ทำให้เรื่องราวมันแย่ลงเหรอครับ?”
ม็อกโกเข้ามา หลังจากที่เห็นฉากนี้ ทันใดนั้นทั้งร้อนใจและโมโห พุ่งเข้าไปคุยกับไชยันต์ที่ยืนคุมดูอยู่ตรงนั้น
ชายชราคนนี้ ครั้งนี้ โหดเกินไปแล้วจริงๆ
ตลอดสามชั่วโมงเต็ม ที่เขายืนจ้องดูอยู่อย่างนั้น
“แกจะเข้าใจอะไร? มันบาดเจ็บจากกระสุนปืน ถ้าเป็นในสนามรบ ก็คงฆ่าศัตรูต่อได้นานแล้ว ใครจะเหมือนมันล่ะ ทำดูบอบบางราวกับดอกไม้ ฉันจะบอกแกให้นะ จะต้องลงมืออย่างโหด มันถึงจะฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้น!”
ชายชราคนนี้ อุกอาจบ้าบิ่นมากเป็นที่สุด
เส้นหมี่หมดความอดทนเต็มทีแล้ว เมื่อเห็นว่ามีคนมาช่วยตัวเองแล้ว เธอก็ไม่สามารถสนใจอะไรได้มากอีกแล้ว รีบปล่อยจากสมาชิกทีมลูกน้องที่ลากไว้อยู่ แล้วเธอก็รีบวิ่งไปยังด้านหน้าของผู้ชายคนนั้น
“พอแล้ว คุณชายม็อกโกมาแล้ว พวกคุณปล่อยเขาออกก่อน”
จากนั้นเธอก็ไม่พูดอะไรต่อรีบผลักสมาชิกสองคนที่จับแขนจับขาของเขาไว้ออกไป และปลดกระสอบทรายที่แขนและเท้าของเขาลง
พอปลดออก คนทั้งคนก็อ่อนแรงและล้มตัวลง
“คุณแสนรัก!!” เส้นหมี่เห็นเข้า ก็รีบยื่นมือไปกอดเขาไว้ทันที ทันใดนั้น น้ำหนักตัวของฝ่ายชายก็ทับลงร่างของเธอ และกดทับเธอลงไป
“ตึง–”
ตอนที่ศีรษะด้านหลังของเส้นหมี่กระทบกับพื้น ในหูก็ได้ยินเป็นเสียงอื้ออึงดังชัดเจน
แต่ เธอยังไม่ทันที่จะได้รู้สึก ด้านบนของศีรษะก็มีผู้ชายที่ราวกับเป็นเหล็กปิดทับลงมา เพียงหนึ่งวินาที เธอก็นอนแน่นิ่งอยู่ภายใต้ร่างกายของชายที่มีเหงื่อท่วมตัว
“แสน….แสนรัก….”
“รู้อย่างนี้ ฉันควรจะ….ฆ่าเธอให้ตายเสียก่อน!”
ในที่สุดเขาก็เอ่ยปากพูดออกมา
ลมหายใจรวยริน เกาะทับอยู่ที่ซอกไหล่ของเธอเหมือนกับเพิ่งขึ้นมาจากในน้ำ แต่ เสียงกัดฟันกรอดนั้นกลับดังชัดเจนมาก