บทที่ 764 กำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

สุดท้ายแสนรักก็หมดสติสลบไป และถูกส่งตัวกลับไป

เส้นหมี่ก็ติดตามไปด้วย

“คุณปู่ ดูสิครับ เป็นถึงขนาดนี้แล้ว ผมบอกแล้วว่า รักเขาไม่ใช่คนที่ได้รับการฝึกซ้อมมาตั้งแต่เด็กๆ เขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ในช่วงปีแรกๆ เพื่อทำการรักษาโรคของเขา ธนากรก็ให้เขาไปรักษาอยู่ที่สวิส อยู่ตลอด สภาพร่างกายแบบนี้ ปู่ให้เขาฝึกซ้อมหนักขนาดนี้ นั่นไม่เท่ากับแลกด้วยชีวิตเขาเหรอครับ?”

ม็อกโกเห็นคนคนนี้ถูกส่งตัวกลับไปแล้ว ก็บ่นพึมพำกับไชยันต์ขึ้นมาอีกครั้ง

อีกทั้ง ครั้งนี้เพื่อให้เขาล้มเลิกความคิดนี้ออกไป เขายังจงใจย้ายเก้าอี้ตัวหนึ่งเข้ามา และนั่งลงด้านข้างของนายท่าน วางแผนจะทำสงครามแบบยืดเยื้อ

ไชยันต์จ้องเขม็งไปที่เขา!

“แกช่วยมันพูดขนาดนี้ ไม่กลัวว่าเขาฟื้นแล้วจะคิดบัญชีกับแกเหรอ?”

“……”

ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับ

เพียงแค่ประโยคนี้ ชายหนุ่มที่เดิมทีพยายามอ้อนวอนเพื่อน้องชายอย่างสุดความสามารถ ก็เหมือนโดนอะไรบางอย่างแทงเข้าอย่างจัง จุกอยู่อย่างนั้นจนแทบพูดออะไรไม่ออกเลยทีเดียว

กลัวสิ ทำไมจะไม่กลัวล่ะ?

ตอนนั้นที่เขาเพิ่งจะรู้สึกตัว ก็ไม่กล้าแม้แต่จะไปเยี่ยมเขาที่เขาภูตา

ดวงตาของม็อกโกมัวหมองลง สักพัก ก็ได้ยินเขาพูดประโยคหนึ่งขึ้นมา : “คิดก็คิดสิครับ เดิมทีสิ่งเหล่านั้นก็เป็นผมที่ติดค้างต่อเขาไว้”

ไชยันต์ : “…….”

มองดูหลานชายคนโตด้วยอารมณ์สับสนยิ่งนัก ชั่วครู่นั้นเขาก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไรดี?

หลังจากนั้นไม่กี่นาที ไชยันต์ออกมาจาก เดอะวิวซี และ รองผู้นำข้างกายถามว่า “นายท่าน ท่านรู้สึกผิดหวังกับคำพูดเมื่อสักครู่ของคุณชายม็อกโกไหมครับ?”

ไชยันต์ถอนหายใจ : “นิสัยของเขา ยังคงอ่อนโยนจนเกินไป”

“ใช่ครับ คุณชายม็อกโกก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร แล้วแบบนี้ไม่ดีเหรอครับ?”

“คนธรรมดา แน่นอนว่าดี แต่เขาเป็นทายาทสืบทอดตระกูล ในอนาคตของตระกูลเทวเทพ ถ้าหากจะใจดีอยู่แบบนี้ ในเมืองหลวงที่สถานการณ์ไม่อาจคาดเดาอะไรได้อย่างนี้ ทุกที่เต็มไปด้วยศัตรูและอันตรายรอบด้าน ก็ถือว่าไม่ใช่เป็นเรื่องที่ดีนัก”

ไชยันต์พูดความคิดที่แท้จริงที่แอบซ่อนไว้ในใจออกมาต่อหน้ารองผู้นำของตัวเอง

ม็อกโกเป็นคนซื่อสัตย์ซื่อตรงมากจริงๆ

สมัยนั้น ตอนที่เขาเลือกทายาทสืบทอดตระกูล ก็ลังเลอยู่เป็นเวลานานมาก แต่สุดท้ายเพราะว่าไม่มีตัวเลือกอื่นที่เหมาะสมกว่านี้ เขาก็ทำได้เพียงแค่เลือกเขาเท่านั้น

รองผู้นำมองเขาทีหนึ่ง ชั่วครู่ จึงถามประโยคหนึ่งขึ้นอย่างลังเลใจ : “งั้น… นายท่านคิดว่าคุณชายเล็กที่กลับมาคราวนี้เป็นอย่างไรบ้าง? ถ้าจะพูดถึงเรื่องนิสัยใจคอเหมือนเขาจะเหมาะสมนะครับ”

“……”

ผ่านไปหลายวินาที ถึงจะได้ยินนายท่านที่เดินมือไขว้หลังแล้วเดินไปข้างหน้าพูดอย่างเย็นชาว่า : “มัน? ยังเร็วเกินไป!”

รองผู้นำ: “……..”

น้ำเสียงแบบนี้ ฟังดูเหมือนเยาะเย้ย

แต่ในความเป็นจริง จากตอนที่เขาชะงักในนาทีนั้น ก็สามารถฟังออกแล้ว หลานชายคนเล็กของเขาคนนี้ไม่ว่าจะนิสัยใจคอหรือไอคิวก็เก่งกว่าม็อกโกเป็นหลายเท่า ตำแหน่งภายในใจของเขาก็ไม่ได้จะแย่ซะขนาดนั้น

ยังเร็วเกินไป ความหมายคือ ตราบใดที่เขาดีขึ้น การจะกลายเป็นทายาทสืบทอดตระกูลเทวเทพก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

รองผู้นำหายใจเฮือกไปหนึ่งที!

ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่าเมฆลมเหนือศีรษะ เริ่มค่อยๆเปลี่ยนเป็นฟ้าครึ้ม ราวกับว่า พายุฝนตกหนักกำลังจะเปิดฉากขึ้น ในไม่ช้า–

สวนแมกโนเลีย

นีรวรรณก็รู้สึกถึงสิ่งนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตอนที่เธอได้ยินว่าไชยันต์พาคนไปยังเดอะวิวซีเพื่อฝึกซ้อมเจ้าคนบ้านั่น ความรู้สึกนี้ก็ยิ่งชัดเจนขึ้น

“นายท่านคงจะไม่ใช้ทีมองครักษ์สนิทของตัวเองโดยพลการเพื่อไปฝึกซ้อมคนคนหนึ่ง จุดประสงค์ที่เขาทำแบบนี้ นั่นก็คือทำให้คนบ้านี่รีบหายดีโดยเร็วที่สุด”

“งั้น….งั้นพวกเราจะทำอย่างไรดี?”

เมื่อทรงกลดและคนอื่นได้ยินดังนี้ หัวใจก็รู้สึกวูบชาไปครึ่งหนึ่งโดยทันที

ทายาทสืบทอดของตระกูลเทวเทพเลยนะ ถ้าหากให้คนบ้านั้นขึ้นนั่งในตำแหน่งนี้จริงๆ งั้นพวกเขาที่เป็นเชื้อสายนี้จะยังมีทางรอดไหม? กลัวแต่ว่าจะถูกตัดรากถอนโคนกันหมดหรือเปล่า?

คนของสวนแมกโนเลีย ต่างก็รู้สึกได้ถึงวิกฤตอย่างหนึ่งที่ยังไม่เคยมีมาก่อน

“มินตรานังคนไม่ได้เรื่องนั่น เรื่องแค่นี้ก็จัดการไม่ได้ จะทำอย่างไรได้ล่ะ? ก็คงมีแค่พวกเราที่ต้องลงมือเองแล้วแหละ!”

นีรวรรณขณะที่ดื่มชาไป ปากก็กัดฟันกรอดและด่าออกมา

ทรงกลดได้ยินเข้า ก็รีบเผยให้เห็นถึงสีหน้าอารมณ์อันโกรธแค้นทันที : “จริงๆด้วย ปกติผู้หญิงคนนี้เวลาที่อยู่ต่อหน้าพวกเราก็แสดงให้เห็นว่าเก่งกาจ แต่พอเวลาคับขัน ก็เป็นได้แค่หุ่นไล่กาตัวหนึ่ง”

“ฉะนั้น พวกเราจะต้องลงมือตั้งแต่ตอนนี้”

“ความหมายของคุณคือ…….”

“กระจายข่าวนี้อย่างแม่นยำไปยังมินตรา ทางนั้น เพิ่มความรู้สึกถึงวิกฤติของเธอ หลังจากที่ผู้หญิงคนนี้ได้ยินข่าวแล้ว จะต้องลงมืออีกครั้งแน่นอน ถึงตอนนั้น พวกเราก็ค่อยช่วยเธออีกสักหน่อยก็ได้แล้ว”

ผู้หญิงที่ถือถ้วยชาอยู่ พูดประโยคนี้จบลงแล้ว มุมปากอันเยือกเย็นนั่น ไม่ต่างอะไรเลยกับงูพิษตัวหนึ่ง มองดูแล้วช่างทำให้คนรู้สึกสั่นกลัว

ทรงกลดเข้าใจโดยทันที

ยืมมือฆ่าคน วิธีนี้ใช้ได้เลยทีเดียว!

เดอะวิวซี

เส้นหมี่ยังคงอยู่ในห้องนอนชั้น 3 เป็นเวลาจำนวนสองชั่วโมงแล้ว แสนรักที่นอนอยู่บนเตียงยังไม่รู้สึกตัว จากเหตุการณ์ทรมานนี้ ดูเหมือนจะดูดจิตวิญญาณของเขาเกือบหมดสิ้น

“คุณหมอสวยใส เขาไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ทำไมถึงนานขนาดนี้แล้วยังไม่ตื่นขึ้นมาสักที?”

ม็อกโกเองก็ยังไม่ไปไหน เห็นว่าเวลาผ่านไปนานมากแล้วก็ยังไม่ตื่น เขาอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง

เส้นหมี่ที่กำลังใช้ผ้าขนหนูอุ่นๆเช็ดให้กับผู้ชายที่กำลังนอนหลับใหลอยู่ ได้ยินคำพูดนี้แล้ว เธอเงยหน้าขึ้น : “ไม่เป็นไรค่ะ อาจจะเป็นเพราะเหนื่อยจนเกินไป พอได้สติสัมปชัญญะกลับมาแล้ว ก็จะตื่นขึ้นเองค่ะ”

เธอไม่กล้าบอกเรื่องการสะกดจิตผู้ชายคนนี้ก่อนหน้าที่จะทำการฝึกซ้อมกับเขา เพราะอย่างน้อย ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่