บทที่ 2987 คว้าน้ำเหลวซ้ำๆ 4
ผลคือ พบเพียงร่องรอยที่พวกกู้ซีจิ่วทิ้งไว้ในจุดเดิมเท่านั้น สองคนหนึ่งสัตว์นั้นหนีหายไปอีกครั้ง หายลับไป
ฟั่นเชียนซื่อกำมือเข้าหากัน กำแล้วกำอีก!
สาวน้อยคนนั้นลื่นไหลเหมือนปลาไหลไม่มีผิด! การคาดเดาจิตใจคนก็ยิ่งแม่นยำ
เขาถอนหายใจเบาๆ ยกมือขึ้นเสกผีเสื้อโลหิตออกมาอีกครั้ง ผีเสื้อโลหิตดมแผ่นเกล็ดที่ปลายนิ้วของเขาอยู่พักหนึ่ง ยังคงโผบินวนเวียนอยู่รอบกายเขา
ชัดเจนยิ่งนัก วิธีนี้ใช้งานกับที่นี่ไม่ได้ เพียงนำมาหลอกล่อเสี่ยวเฮยเท่านั้น…
….
เสี่ยวเฮยกำลังก่นด่าไปถึงโคตรเหง้าของเจ้านายตนอยู่ตรงนั้น ก็เห็นผู้เป็นนายกลับมาอีกครั้งแล้ว
ซ้ำยังกลับมาอย่างรวดเร็วเป็นพิเศษจริงๆ!
เพียงแต่ สีหน้าก็ไม่ดีจริงๆ! ชัดเจนมาก เขาคว้าน้ำเหลวอีกแล้ว
เดิมทีเสี่ยวเฮยถูกแสงแดดแผดเผาจนแห้งเฉาอยู่บ้าง บัดนี้พอเห็นสีหน้าของผู้เป็นนายมันรู้สึกค่อนข้างสดชื่นแล้ว!
ฟั่นเชียนซื่อสะบัดแขนเสื้อคลายผนึกมัน “ตรวจดูอีกครั้งว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน?”
เสี่ยวเฮยกลับไม่อิดออดเลย หลังจากจับสัมผัสดูเล็กน้อย ก็ชี้ทิศทางออกมา
จากนั้นก็หมอบยองอยู่ตรงนั้น รอให้เขาผนึกการเคลื่อนไหวของมันอีกรอบ
ครั้งนี้ฟั่นเชียนซื่อกลับไม่ผนึกมันแล้ว ชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง “เจ้ามุ่งไปยังทิศทางนั้นร้อยลี้!”
เสี่ยวเฮยเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง กลับคร้านจะถามแล้วว่าเพราะอะไร มุ่งหน้าไปตามที่เขาบอกทันที
จากนั้นฟั่นเชียนซื่อถึงได้มุ่งหน้าไปตามทิศทางที่เสี่ยวเฮยชี้ออกมา
….
‘เทพศักดิ์สิทธิ์ จู่ๆ เจ้าดำตัวนั้นก็มุ่งหน้าไปทางทิศใต้แล้ว!’ เสี่ยวเฝิ่นรายงาน
กู้ซีจิ่วหยักมุมปากแวบหนึ่ง “กลยุทธ์ส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิม” หิ้วทั้งสองขึ้นมาแล้วหลบหนีไปอีกครั้ง
ด้วยเหตุนี้ ยามที่ฟั่นเชียนซื่อตามมาถึงก็คว้าน้ำเหลวอีกครั้ง
ฟั่นเชียนซื่อยืนอยู่ตรงจุดเดิมครู่หนึ่ง ข่มกลั้นเพลิงโทสะที่เอ่อท้นขึ้นมาในหัวใจเอาไว้ แล้วถึงหันหลังเดินทางกลับไปหาเสี่ยวเฮย...
เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาจึงปรับเปลี่ยนการเชื่อมโยงกับเสี่ยวเฮยบ้างเป็นครั้งคราว บ้างก็เดินทางด้วยกัน บ้างก็แยกทางกันไป บ้างก็มีฝ่ายหนึ่งรออยู่ที่เดิม…
แต่ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีไหน ล้วนถูกกู้ซีจิ่วล่วงรู้ล่วงหน้า หลบหนีไปได้ทันเวลา
ต่อให้ฟั่นเชียนซื่อสุขุมแค่ไหน ก็โมโหจนเส้นเลือดบนหน้าผากเต้นตุบๆ แล้ว แทบนึกสงสัยแล้วว่าไอ้สารเลวเสี่ยวเฮยตัวนี้ได้แปรพักตร์อย่างสมบูรณ์ ลอบส่งข่าวแจ้งอีกฝ่ายอย่างทันท่วงที ถึงได้ทำให้เขาคว้าน้ำเหลวซ้ำๆ…
เขาพลันตัดสินใจ ใช้วิชาลับอ่านความทรงจำของเสี่ยวเฮยดู หากว่ามันลอบติดต่อกับมังกรประทีปโง่เง่าตัวนั้นเป็นการส่วนตัว ถ้าอ่านความทรงจำก็จะค้นพบแล้ว
แต่ผลของการอ่านความทรงจำทำให้เขาโล่งอกยิ่ง และฉงนยิ่งขึ้นกว่าเดิม
หรือกู้ซีจิ่วจะติดตั้งเครื่องดักฟังหรือเครื่องระบุพิกัดอันใดไว้บนตัวเขา?
ทำไมถึงหนีไปได้อย่างพอเหมาะพอดีทุกครั้งเลย?
….
ยามนี้ กู้ซีจิ่วกำลังนั่งดื่มน้ำหวานอยู่ในกระโจม ตี้เฮ่าเป็นร่างจิต แต่ก็สามารถดื่มกินได้เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงนั่งร่วมวงอยู่ด้านข้างด้วย
ส่วนมังกรประทีปชมพู มันก็ได้น้ำหวานมาดื่มถังหนึ่งเช่นกัน มันใช้ชีวิตอยู่ในทะเลทรายแห่งนี้มาเนิ่นนานปานนี้ เป็นครั้งแรกที่สบายใจเช่นนี้ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าชีวิตดูมีอนาคตยิ่งนัก
มันหนังแข็งเนื้อหนาโดยกำเนิด บาดแผลบนร่างหายดีอย่างรวดเร็วเสมอมา บัดนี้ผ่านไปสามวันแล้ว บาดแผลบนร่างมันดีขึ้นเจ็ดแปดส่วนแล้ว
อันที่จริงมันซาบซึ้งยิ่งนัก!
สตรีที่อยู่เบื้องหน้านี้ดูอรชรอ้อนแอ้นจนไม่อาจต้านลมได้ แต่ไม่นึกเลยว่าจะมีคุณธรรมถึงเพียงนี้!
อยู่ในสถานการณ์ที่ยุ่งเหยิงยากลำบากเช่นนี้ ยังคงไม่ละเลยทิ้งขว้างมัน ทุกครั้งที่หลบหนีล้วนจะหอบหิ้วมันที่ตัวใหญ่ขนาดนี้ไปด้วย…
ถึงแม้มันจะย่อร่างให้เล็กลงมาหลายสิบเท่าแล้ว แต่ก็ยังคงเหมือนงูเหลือมตัวหนึ่งอยู่ดี แถมยังยาวกว่าหนึ่งจั้งด้วย!
สตรีนางนี้ไม่เพียงแต่รักษาแผลให้มัน ยังให้มันกินให้มันดื่มด้วย ปฏิบัติต่อมันราวกับพี่น้อง ทำให้ในใจของมังกรประทีปชมพูเต็มไปด้วยความตื้นตัน
มันตัดสินใจแล้ว! ต่อไปมันจะติดตามร่วมหัวจมท้ายกับสตรีผู้นี้! มันจะยอมรับนางเป็นนาย นางไปที่ไหนมันก็จะไปที่นั่นด้วย!
————————————————————————————-
บทที่ 2988 ร่วมมือ
มันมองถังที่อยู่ตรงหน้า อันที่จริงยังคงฉงนอยู่บ้าง บนร่างของเจ้านายราวกับซุกซ่อนอ่างรวมทรัพย์เอาไว้ก็มิปาน หยิบของดีมากมายออกมาได้ไม่หมดไม่สิ้น…
มันกลับไม่ทราบว่าเมื่อก่อนกู้ซีจิ่วเคยหิวโหยอยู่ในสถานที่มากมาย ประสบความหิวโหยมาแล้ว
ดังนั้นไม่ว่าเธอจะไปไหน เสบียงอาหารในถุงเก็บของล้วนเต็มปรี่
ต่อให้มังกรประทีปชมพูกินเข้าไปจนเต็มท้อง ก็มีเพียงพอให้มันกินไปได้อีกหลายปี…
ตอนนี้ตี้เฮ่านั่งเคาะศีรษะอยู่ตรงนั้น เขาไม่นึกอยากรู้ที่มารดาพกพาเสบียงมาด้วยมากมายถึงเพียงนี้ เขาค่อนข้างอยากรู้อีกเรื่องหนึ่งมากกว่า “ท่านแม่ ท่านหาที่นี่เจอได้ยังไง? แล้วท่านพ่อกับซวี่เยวี่ยละขอรับ?”
กู้ซีจิ่วถอนหายใจ “จู่ๆ เจ้าก็ถอดวิญญาณหายไป พวกเราตามหาเจ้าจนแทบคลั่งแล้ว! ท่านพ่อของเจ้าใช้วิชาต้องห้าม ตรวจสอบพบว่าเจ้าไม่ได้อยู่ที่ทวีปซิงเยวี่ยแล้ว สงสัยว่าเจ้าจะถูกฟั่นเชียนซื่อปองร้าย…ดังนั้นจึงออกจากทวีปซิงเยวี่ยทันที กลับไปที่ดินแดนเบื้องบน อยู่ในตำหนักนภาลัยของดินแดนเบื้องบน พวกเราค้นหาข้อมูลทางประวัติศาสตร์ คิดจะตามหาสถานที่ที่ฟั่นเชียนซื่อซ่อนตัวอยู่…”
สวรรค์ไม่ทอดทิ้งผู้มีจิตมานะ ถึงแม้รังของฟั่นเชียนซื่อจะลึกลับมากพอ บนโลกนี้มีคนรู้อยู่ไม่กี่คนเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรเสินจิ่วหลีบิดาของตี้ฝูอีก็เป็นมหาเทพ ดังนั้นความรู้ความเข้าใจจึงล้ำลึกยิ่ง ในบันทึกชีวประวัติเล่มหนึ่งของเขา ได้บันทึกสถานที่แห่งหนึ่งเอาไว้ สถานที่แห่งนั้นคือที่พำนักของเทพผู้สร้างโลกในตำนาน
คู่สามีภรรยาจึงให้ตี้ซวี่เยวี่ยรออยู่ที่ตำหนักนภาลัย ให้เหล่าสัตว์วิเศษคอยดูแล
จากนั้นก็เดินทางไปยังสถานที่แห่งนั้นด้วยกัน
ผลคือไม่ได้เรื่องอันใดจากที่นั่นเลย…
ตี้ฝูอีค้นหาที่นั่นจนแทบจะพลิกฟ้าพลิกดินแล้ว
ถึงอย่างไรที่นั่นก็เป็นฐานหลักของฟั่นเชียนซื่อ ซุกซ่อนข้าวของมากมายที่เจือกลิ่นอายของเขาไว้
ตี้ฝูอีเก็บเกี่ยวกลิ่นอายของเขามา จากนั้นก็โคจรเวทวิชาอย่างหนึ่งตรวจหาร่องรอยในระยะหนึ่งเดือนของเขา ได้เห็นฉากที่มังกรประทีปเสี่ยวเฮยดูดดึงดวงวิญญาณของตี้เฮ่าไป และย่อมเห็นทะเลทรายด้วย…
ในหมื่นพันโลกานี้มีทะเลทรายอยู่ไม่รู้กี่สิบล้านแห่ง ให้ค้นหาไปทีละแห่งย่อมไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง
โชคดีที่ไป๋เจ๋อและเถิงเสอล้วนสามารถติดตามกลิ่นอายของมังกรประทีปได้ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงติดตามเสาะหากลิ่นอายของมังกรประทีปมาตลอดทาง
เนื่องจากฟั่นเชียนซื่อก็กำลังค้นหาอยู่เช่นกัน เคยเข้าไปในทะเลทรายมากมายนับไม่ถ้วน กลิ่นอายจึงกระจัดกระจายไป
เพื่อให้มีประสิทธิภาพ กู้ซีจิ่วกับตี้ฝูอีจึงต่างแบ่งสัตว์วิเศษกันคนละตัวแล้วแยกกันออกตามหา ใครหาพบก่อนก็แจ้งให้อีกฝ่ายทราบ
ทวีปแห่งนี้ที่ตี้เฮ่าอยู่ไม่ใหญ่เลย เทียบกับทวีปอื่นๆ แล้วนับว่าเล็กจิ๋ว ถูกคนมองข้ามไปได้ง่ายดายนัก
กู้ซีจิ่วกับเถิงเสอเคยเดินทางผ่านมันไปสองครั้งแล้ว ล้วนไม่พบเห็นมันเลย
หลังจากฟั่นเชียนซื่อกับเสี่ยวเฮยได้เข้าสู่ทวีปนี้แล้ว กู้ซีจิ่วผ่านมาที่นี่อีกครั้ง เถิงเสอได้กลิ่นอายของเสี่ยวเฮยแล้ว ถึงได้เข้าสู่ทวีปแห่งนี้มา
ทวีปนี้ค่อนข้างประหลาด ทันทีที่กู้ซีจิ่วมาถึงที่นี่ก็สัมผัสถึงความผิดปกติได้แล้ว ความรู้สึกโศกศัลย์อันน่าประหลาดหลั่งไหลเข้าสู่หัวใจ ทำให้เธอไม่อยากรั้งอยู่ที่นี่นานนัก
หากมิใช่พะวงถึงความปลอดภัยของบุตรชาย เธอไม่มีทางจะรั้งอยู่ที่นี่
เมื่อเธออยู่ที่นี่ย่อมได้ยินถึงความพิสดารพันลึกของทะเลทรายแห่งนี้เช่นกัน
เถิงเสอก็สืบกลิ่นตามรอยพบว่าเสี่ยวเฮยได้เข้าสู่ทะเลทรายแห่งนี้แล้ว
กู้ซีจิ่วก็เป็นเช่นเดียวกับฟั่นเชียนซื่อ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเกี่ยวกับตำนานของที่นี่ และไม่คิดว่าจะมีสถานที่อันใดที่สามารถกักขังเธอได้
แน่นอน เพื่อป้องกันเอาไว้ก่อน เธอจึงให้เถิงเสอเฝ้าอยู่นอกทะเลทราย เธอจะเข้าไปตามหา
ก่อนที่จะแยกกับเถิงเสอ เธอได้นัดแนะกับมันไว้ดีแล้ว กำหนดเวลาเอาไว้ห้าวัน หากว่าเธอออกมาได้ภายในห้าวันนี้ นั่นย่อมไม่มีอะไรต้องกังวล
หากว่าไม่ออกมา นั่นก็ยืนยันได้ว่าเธอติดอยู่ด้านในแล้ว เถิงเสอต้องรับหน้าที่แจ้งให้ตี้ฝูอีทราบ ให้เขาเดินทางมาช่วยเหลือ…
ตอนนี้ผ่านไปสามวันแล้ว เถิงเสอน่าจะยังเฝ้ารออยู่ข้างนอก ยังไม่ได้แจ้งต่อตี้ฝูอี
————————————————————————————-