บทที่ 2991 ปองร้ายกันและกัน
สุรา เธอย่อมเตรียมไว้เป็นธรรมดา โดยเฉพาะสุราที่เธอชอบดื่มอยากได้เท่าไหร่ก็มีเท่านั้น
เธอเม้มปาก โยนน้ำเต้าสุราเหมยเขียวออกไปสองลูก
ฟั่นเชียนซื่อรับเอาไป ดมดู หลับตาลงนิดๆ ถอนหายใจคราหนึ่ง “นานเหลือเกินที่ไม่ได้กลิ่นเช่นนี้ ชวนให้คะนึงหาอยู่บ้างจริงๆ…”
กู้ซีจิ่วเงียบงัน
สุราเหมยเขียวไม่นับว่าเป็นสุราที่ล้ำค่ามากนัก ล้วนซื้อหาได้ทั่วไปในหกภพ ถ้าฟั่นเชียนซื่อต้องการดื่ม สุ่มซื้อเอาก็ซื้อหามาได้แล้ว ประโยคนี้ของเขาหมายความว่าอย่างไรกัน? นี่คือจะแสดงละครอันใดอีกแล้วหรือ?
ถึงแม้ตี้เฮ่าจะเข้าใจ แต่ก็ไม่คิดจะเปิดโปงเลย
ฟั่นเชียนซื่อเปิดจุกน้ำเต้าสุราออก คล้ายอยากจะลิ้มรสชาติดูสักหน่อย แต่ก็หักใจไม่ลง
กู้ซีจิ่วสะบัดมือโยนน้ำเต้าให้เขาอีกใบ “ดื่มสิ!”
ฟั่นเชียนซื่อรับไว้ สายตาจับอยู่ที่ดวงหน้านาง “นี่เจ้าห่วงใยข้าหรือ?”
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกเลย
เขาคิดมากไปแล้วจริงๆ!
เธอยิ้มนิดๆ “ในเมื่อจะร่วมมือกันแล้ว ย่อมต้องจริงใจหน่อย ข้ามีสุรานี้อยู่มากมาย ถ้าเจ้าอยากดื่มจริงๆ บอกข้ามาตรงๆ ก็ได้แล้ว”
ฟั่นเชียนซื่อมองรอยยิ้มของนาง ผละสายตาออกไปทันที ยกปากน้ำเต้าจรดริมฝีปาก ดื่มอึกหนึ่ง ละเมียดละไมกับรสชาติ
‘เจ้านาย ข้าก็อยากดื่มนะ…ข้าก็ชอบสุรานี้เหมือนกัน…’ มังกรประทีปชมพูเขยิบเข้ามาใกล้ๆ กู้ซีจิ่ว สีหน้าโหยหา
กู้ซีจิ่วตบศีรษะมันเบาๆ “ก่อนหน้านี้ก็ให้เจ้าไปแล้วลูกหนึ่งมิใช่หรือ? ดื่มหมดไวขนาดนี้เชียว?”
‘สุรานี้เลิศรส อีกทั้งผู้อื่นก็กินจุมากด้วย’ มังกรประทีปชมพูค่อนข้างเขินอายยิ่งนัก
กู้ซีจิ่วโยนน้ำเต้าสุราขนาดมหึมาให้มันลูกหนึ่ง “เอาล่ะ ให้เจ้าก็ได้”
มังกรประทีปชมพูดีใจ กัดจุกน้ำเต้าให้แตกทันที ดื่มอักๆ เสมือนวาฬสูบกลืนสายน้ำ…
กลิ่นสุราเข้มข้นแผ่กระจายไปทั่ว แววตาฟั่นเชียนซื่อลุ่มลึกลง
คุณภาพของสุราในเต้าสุราใบนั้นของมังกรประทีปชมพูไม่ต่างไปจากที่อยู่ในมือเขาเลย แต่น้ำเต้าลูกนั้นของมันเท่ากับน้ำเต้าในมือเขาจำนวนสิบใบเลย…
นางมีสุรานี้มากมายจริงๆ ไม่แปลกเลยที่จะแจกจ่ายออกไปอย่างมือเติบประหนึ่งลูกหลานมหาเศรษฐีได้
เขาดื่มอีกสองสามคำน้ำเต้าสุราในมือตนก็หมดเกลี้ยงแล้ว จึงยื่นมือออกไปหากู้ซีจิ่วอีกครั้ง “เพื่อให้การร่วมมือเป็นไปอย่างราบรื่น เอามาอีกลูกคงได้กระมัง?”
ตี้เฮ่าที่อยู่ด้านข้างมองแล้วอดไม่ได้ที่จะกุมขมับ ดูเหมือนว่าวัฒนธรรมของสุรานี้จะกว้างขวางลึกล้ำจริงๆ น้ำเต้าสุราแค่ไม่กี่ลูก ก็ทำให้คนสองคนที่เจอหน้าก็ทะเลาะต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย สรรสร้างมิตรภาพปลอมเปลือกขึ้นมาได้แล้ว…
เห็นได้ชัดว่ากู้ซีจิ่วมีความจริงใจในการร่วมมือกับฟั่นเชียนซื่อ ดังนั้นเธอจึงหยิบน้ำเต้าสุราออกมาอีกลูกหนึ่งแล้วโยนออกไป “ขอให้การร่วมมือเป็นไปอย่างราบรื่น…”
เธอพูดยังไม่ทันจบ ข้อมือก็ถูกคนคว้าจับแล้ว!
ฟั่นเชียนซื่อเคลื่อนไหวรวดเร็วดุจภูตผี ท่อนแขนยืดยาวออกมากว่าสองจั้งดั่งอสรพิษ คว้าจับชีพจรของกู้ซีจิ่วเอาไว้โดยตรง!
ชีพจรถูกควบคุม ทะเลลมปราณถูกผนึกพลังยุทธ์ทั้งหมดของกู้ซีจิ่วไม่อาจสำแดงออกมาได้ ร่างกายอ่อนระโหยลงครึ่งหนึ่งในทันใด
และเหตุผลที่อ่อนลงเพียงครึ่งหนึ่งมิใช่อ่อนยวบไปทั้งหมด เป็นเพราะน้ำเต้าสุราที่ฟั่นเชียนซื่อเพิ่งรับไว้ในมือพลันระเบิดขึ้นมา! เข็มเล่มบางดั่งขนวัวจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมา!ปักเข้าทั้งมือลามไปถึงครึ่งอกของฟั่นเชียนซื่อ…
ฟั่นเชียนซื่อฝึกฝนวรยุทธ์มาจนถึงระดับนี้แล้ว ร่างกาย่อมมีเขตแดนคุ้มกาย กล่าวได้ว่าอยู่ยงคงกระพัน ต่อให้โจมตีเขาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ไม่อาจทิ่มแทงระคายผิวพรรณของเขาได้
แต่อาวุธลับนี้ที่กู้ซีจิ่วปล่อยออกมากลับมิใช่อาวุธลับจากเหล็กทองทั่วๆ ไป แต่หล่อหลอมขึ้นจากเส้นขนจากร่างของสัตว์วิเศษฮุ่นตุ้น เป็นอาวุธล้ำค่าสำหรับป้องกันตัวที่ตี้ฝูอีหลอมสร้างขึ้นให้เธอในช่วงที่ผ่านมา
ตามที่ตี้ฝูอีกล่าวไว้ เมื่อใช้อาวุธลับชนิดนี้แล้วไม่มีเขตแดนคุ้มกายอันใดที่ไม่อาจทำลายได้
ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือเข็มชนิดนี้หาได้ยากยิ่ง แถมยังเป็นของที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว ใช้เสร็จก็เสื่อมสภาพแล้ว
————————————————————————————-
บทที่ 2992 ปองร้ายกันและกัน 2
ดังนั้นสิ่งนี้จึงถูกกู้ซีจิ่วเก็บรักษาไว้อย่างหวงแหนมาโดยตลอด ไม่เคยนำมาใช้เลย
หนนี้จึงนำมาจู่โจมฟั่นเชียนซื่อโดยไม่ให้ทันตั้งตัว!
และเป็นความบังเอิญยิ่ง ทั้งสองฝ่ายเผยโฉมหน้าออกมาในเวลาเดียวกัน เรือมิตรภาพอันปลอมเปลือกจึงพลิกล่มไปแล้ว!
กู้ซีจิ่วถูกเขาผนึกพลังวิญญาณ ส่วนเขาก็โดนอาวุธลับของเธอ แววตาพลันมืดลง ชาหนึบไปทั้งร่าง ทรุดลงบนพื้นเสียงดังตุบ
กู้ซีจิ่วก็ซวนเซเช่นกัน เพียงแต่เธอยืดหยัดไว้ได้ไม่ล้มลงไป เพียงเซถอยหลังไปสองก้าว
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว ยังคงเป็นกู้ซีจิ่วที่เหนือกว่าขั้นหนึ่ง กุมความได้เปรียบ
มังกรประทีปชมพูตาวาวแล้ว!
….
‘ฆ่าเขา! ฆ่าเขาเลย!’ มังกรประทีปชมพูชิงชังเขา ร้องตะโกนอยู่ด้านข้าง
มันตรงไปตรงมายิ่งนัก ฟั่นเชียนซื่อเพิ่งจะล้มลงพื้น มันก็อ้าปากกว้างหมายจะขยำลงไป ปฏิญาณไว้แล้วว่ามันจะกัดคนที่ถูกทิ่มจนแทบกลายเป็นเม่นไปแล้วผู้ให้กระจุยเป็นชิ้นๆ
กู้ซีจิ่วดึงตะเกียงของมันไว้ได้ทันกาล “ไม่ได้!”
มังกรประทีปชมพูแทบจะกระทืบเท้าแล้ว ‘ทำไมถึงไม่ได้ล่ะ? คนผู้นี้เป็นภัยร้าย! ถ้าไม่ฆ่าเขาตอนนี้ปัญหาก็ไม่มีทางจบ!’
“เขาถูกพิษยาชาของข้าแล้ว ถ้าเจ้ากัดเขาก็จะโดนยาชาไปด้วย” กู้ซีจิ่วลากมันออกมา
ยาชาที่เธอเคลือบไว้บนเข็มสามารถล้มทีเร็กซ์ตัวหนึ่งได้เลย เกรงว่าทันทีที่มังกรประทีปชมพูกัดทะลุผิวเขา ก็คงจะได้รับยาชาจนล้มไปด้วย
ในที่สุดมังกรประทีปชมพูก็ล้มเลิกความคิดที่จะกัดอีกฝ่ายแล้ว แต่มันไม่ยอมถอดใจ อ้าปากออกทันที พ่นหมอกพิษสีแดงอ่อนสายหนึ่งออกมา ครอบคลุมร่างของฟั่นเชียนซื่อ
หมอกพิษนี้ของมันร้ายกาจยิ่งนัก มีฤทธิ์กัดกร่อนเสมือนกรดไนตริก สามารถหลอมละลายทุกอย่างได้
แต่เมื่อพ่นหมอกพิษอันเข้มข้นเช่นนี้ใส่ร่างฟั่นเชียนซื่อแล้ว กลับทำอันตรายเขาไม่ได้เลยสักนิด ตรงกันข้ามกลับทำให้เขาฟื้นขึ้นมาจากการสลบไปด้วย
เขาลืมตาขึ้น มองกู้ซีจิ่วที่ใกล้ๆ ถอนหายใจเบาๆ คราหนึ่ง “บอกไว้ดิบดีว่าจะร่วมมือกัน ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าจะฉวยโอกาสตอนข้าเผลอปองร้ายข้า”
กู้ซีจิ่วยิ้มเย็น “เสมอกันแล้วๆ เจ้าก็ลอบเล่นงานข้าเช่นกัน”
“เช่นนั้นเจ้าคิดจะจัดการข้าอย่างไรเล่า? สังหารข้าหรือ?” ฟั่นเชียนซื่อมองตานาง
กู้ซีจิ่วหมุนกระบี่สีแดงเข้มเล่มหนึ่งในมือ ตอบอย่างกระชับซื่อตรง “ตอบถูกแล้ว!”
“เจ้าหักใจลงรึ?”
“หักใจลงหรือไม่ เจ้ารอดูก็จะรู้เอง!”
ทันทีที่พูดจบ กระบี่ล้ำค่าในมือกู้ซีจิ่วก็พุ่งวาบขึ้นสู่อากาศ ร่อนลงมา! หมายจะบั่นคอฟั่นเชียนซื่อ!
กระบี่เล่มนี้ของเธอใช้ปราบมารร้ายโดยเฉพาะ เธอไม่เชื่อว่าจะบั่นศีรษะฟั่นเชียนซื่อที่ถูกควบคุมเอาไว้แล้วไม่ได้! ต่อให้ฟันไม่ขาด อย่างน้อยก็คงทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสได้ ทำให้เขาไม่อาจเล่นเล่ห์ได้เป็นระยะเวลาสั้น
กระบี่ร่วงลงมา โลหิตสาดกระเซ็น ศีรษะคนหมุนกลิ้ง
กู้ซีจิ่วผงะไป…
นี่…นี่ก็ง่ายดายเกินไปหน่อยกระมัง?!
“ท่านแม่ ระวัง!” จู่ๆ ตี้เฮ่าที่อยู่ด้านข้างก็ตะโกนออกมา ฟันกระบี่เข้าไปที่แทบเท้าของนาง
ส่วนกู้ซีจิ่วก็คล้ายจะตระหนักถึงอะไรได้แล้ว คิดจะใช้วิชาเคลื่อนย้ายตามสัญชาตญาณ พลันมีมือคู่หนึ่งผุดออกมาจากใต้ดิน ฉวยข้อเท้าของเธอไว้ทันที กระบี่ของตี้เฮ่าฟันเข้าที่ข้อมือคู่นั้น ไม่คล้ายการฟันลงบนเลือดเนื้อเลย กลับเหมือนฟาดฟันลงบนสำริด เกิดเสียงดังเคร้ง เด้งสะท้อนกลับไป เกือบจะฟันถูกหน้าอกของตี้เฮ่าเองแล้ว!
มือคู่นั่นไม่หยุดนิ่งเลย ออกแรงกระชาก เกิดเสียงดังผลุบ กู้ซีจิ่วถูกลากลงไปใต้ดินแล้ว
ทว่านี่มิใช่วิชาดำดิน เบื้องหน้ากู้ซีจิ่วมืดมิด จมลงไปในทรายเหลืองแล้ว
เธอกลั้นหายใจไว้ ถีบเท้าทั้งสองอย่างแรง ขณะเดียวกันก็แอ่นร่าง โค้งงอเป็นสะพานโค้ง สองมือซัดเข้าใส่มือที่กุมสองเท้าของตนไว้…
ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ แว่วขึ้นริมหู มือคู่นั้นพลันเลื่อนขึ้นจากสองเท้าของเธอ เชิดเข้าหาเธอ
หากว่าฝ่ามือนี้ของกู้ซีจิ่วซัดโดนเข้าจริงๆ จะไม่โดนคนผู้นั้น แต่เป็นไปได้ที่จะซัดสองเท้าของตนจนหักแทน
เธอทำได้เพียงชักมือกลับ มือที่ลากเธอคู่นั้นฉวยโอกาสหมุนแกว่งเธอ ทำให้ร่างกายเธอหมุนติ้วอยู่ที่เดิมเสมือนกังหันลม
————————————————————————————-