ไทเฮาผุดลุกขึ้นมาทันที น้ำเสียงยินดีจนปิดไม่อยู่ “เย่ว์เอ๋อร์มีข่าวดีแล้วอย่างนั้นหรือ”
ท่าป๋าหั่นหลินพยักหน้าหลายที แผ่เอาความรู้สึกของคนเป็นพ่อออกมา
ไทเฮายื่นมือให้เขา “เร็วเข้า พาข้าไปจวนอ๋อง ข้าจะไปดูแลเย่ว์เอ๋อร์”
ท่าป๋าหั่นหลินเดินเข้ามา พยุงนางเดินออกจากเรือนไป ขึ้นรถม้า มายังจวนอ๋อง
หวงฝู่เย่าเย่ว์นอนราบอยู่บนเตียง ลูบท้องเบาๆ น้ำตาคลอ ใบหน้ายิ้ม
ทั้งสองเดินเข้าไปในห้อง เห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง รู้ได้ว่านางคิดถึงลูกที่ถูกบังคับให้แท้ง
ในใจรู้สึกผิดยิ่งนัก มองตากัน ไทเฮายิ้มพร้อมเอ่ยว่า “เย่ว์เอ๋อร์”
หวงฝู่เย่าเย่ว์หวังจะลุกขึ้นมา “เสด็จแม่”
ไทเฮาเดินตามเข้ามา ห้ามนาง “อย่าขยับ อย่าขยับ อายุครรภ์เจ้ายังน้อย อย่าขยับเป็นอันขาด”
ไทเฮาเดินมาข้างเตียง ท่าป๋าหั่นหลินเลื่อนตั่งมานั่งด้านหลังนาง
ไทเฮานั่งลง คว้ามือของหวงฝู่เย่าเย่ว์ “เย่ว์เอ๋อร์ เรื่องที่แล้วก็ให้แล้วไป บัดนี้เจ้ากำลังมีครรภ์ ห้ามคิดสิ่งใดเรื่อยเปื่อยเป็นอันขาด ระวังจะกระทบลูกในท้อง”
หวงฝู่เย่าเย่ว์พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ลูกเข้าใจแล้วเพคะ เสด็จแม่ ท่านไม่ต้องเป็นกังวล”
ไทเฮาพยักหน้าอย่างโล่งใจ
หวงฝู่เย่าเย่ว์มองท่าป๋าหั่นหลินเล็กน้อย “เสด็จแม่ ข้ามีครรภ์แล้ว ต้องการคนดูแล ท่านย้ายเข้ามาในจวนอ๋องได้หรือไม่เพคะ”
คนในจวนอ๋องมีมากมาย พระชายาและเมิ่งเชี่ยนโยวรวมทั้งหวงฝู่สือเมิ่งต่างอยู่ในจวน ต้องการคนดูแลที่ใดกัน ที่หวงฝู่เย่าเย่ว์กล่าวเช่นนี้ ก็เพื่อใช้โอกาสนี้ให้ไทเฮาย้ายเข้ามาในจวน
ไทเฮาเข้าใจดี ยินดีนัก นางอาศัยอยู่ที่หนานเฉิงผู้เดียว เงียบเหงายิ่ง แต่ก็ไม่อาจขอย้ายมาอยู่ในจวนได้ บัดนี้ดีทีเดียว มีโอกาสแล้ว ยิ้มพร้อมพยักหน้าโดยไม่ลังเล “ดีๆๆ แม่เข้ามาอยู่ที่นี่ จากนี้จะได้อยู่กับเจ้าทุกวัน”
ไทเฮาอาศัยโอกาสย้ายเข้ามาอยู่ในจวนเช่นนี้ จัดการให้อยู่ข้างเรือนหวงฝู่เย่าเย่ว์ ส่วนบ่าวรับใช้เหล่านั้น ให้อยู่ที่หนานเฉิงเช่นเดิม
สามเดือนผ่านไป ครรภ์ของหวงฝู่เย่าเย่ว์เห็นชัดขึ้น ท่าป๋าหั่นหลินตัวติดนางไม่ห่างไปที่ใด ไม่ว่านางจะทำสิ่งใด ที่ใด ล้วนติดตามอยู่กับนางทุกขณะ
ทุกคนเห็นทุกอย่าง จึงมิได้มีผู้ใดเข้ามา ปล่อยให้เขาดูแลผู้เดียว กระทั่งไทเฮาที่ย้ายเข้ามาเพื่อดูแลหวงฝู่เย่าเย่ว์ก็ยังไม่ปรากฏต่อหน้าทั้งสองคน
ขณะที่ท่าป๋าหั่นหลินแทบจะตัวติดกับร่างของหวงฝู่เย่าเย่ว์ ไม่ยอมแยกจากนางนั้น เมิ่งเจี๋ยสั่งให้คนควบม้าเร็วนำจดหมายมามอบให้เขา เนื้อความว่า ฮ่องเต้ได้จากไปครึ่งปีแล้ว ควรกลับมาดูแลเรื่องในวังได้แล้ว
ท่าป๋าหั่นหลินอ่านจดหมายแล้ว เจรจากับหวงฝู่เย่าเย่ว์ “เย่ว์เอ๋อร์ เจ้าว่า ข้ายกตำแหน่งฮ่องเต้ให้ท่านน้าดีหรือไม่”
นางกลอกตาใส่เขา กล่าวว่า “ท่านแม่ฆ่าเจ้าได้เลยเชื่อหรือไม่”
ท่าป๋าหั่นหลินชะงัก ไม่ได้กล่าวอะไร
“เจ้าเป็นฮ่องเต้แห่งรัฐ เรื่องในวังโยนให้ท่านน้าทำ เขาก็ลำบากพอแล้ว เช่นนี้ เจ้ากลับไปก่อน รอข้าคลอดลูกแล้วค่อยกลับไป”
ท่าป๋าหั่นหลินส่ายหน้าราวกับคลื่นทะเล “ไม่ได้ บัดนี้เจ้าขยับตัวยาก ข้าไม่สามารถห่างเจ้าได้ มีเรื่องใดรอเจ้าคลอดก่อนค่อยว่ากัน”
เมิ่งเชี่ยนโยวได้รับจดหมายจากเมิ่งเจี๋ยเช่นกัน เนื้อความมีเพียงระบายความทุกข์กับนาง บอกว่าเรื่องภายในของรัฐอิงยุ่งนัก เขาคนเดียวรับมือไม่ไหว ทั้งยังกล่าวโทษนางในจดหมาย เพราะเป็นหน้าที่ที่ลูกเขยของนางต้องทำ แต่กลับโยนให้เขาทำ เช่นนี้ น้องชายแท้ๆ เช่นเขาไม่สำคัญเท่าลูกเขยด้วยซ้ำ
เมิ่งเชี่ยนโยวเอ็นดูเมิ่งเจี๋ยมาตั้งแต่เล็ก เมื่อเห็นเช่นนี้ หลังปรึกษากับหวงฝู่อี้เซวียนแล้ว จึงได้เรียกตัวท่าป๋าหั่นหลินมาทันที สั่งให้เขากลับรัฐอิงไปจัดการเรื่องในวัง
ท่าป๋าหั่นหลินไม่ยอม “ท่านพ่อ ท่านแม่ เย่ว์เอ๋อร์เป็นเช่นนี้ ข้าจะไปได้อย่างไร ท่านให้ท่านน้าอดทนอีกนิด บอกเขาว่ารอให้เย่ว์เอ๋อร์คลอดลูกแล้ว พวกเราจะกลับไป”
เมิ่งเชี่ยนโยวจนปัญญา ทำได้เพียงตอบกลับจดหมายเมิ่งเจี๋ย
หลายเดือนต่อมา หวงฝู่เย่าเย่ว์คลอดลูกชายออกมาอย่างปลอดภัย ไทเฮาและท่าป๋าหั่นหลินยินดีมาก ตั้งชื่อว่าท่าป๋าเยี่ย
หลังท่าป๋าเยี่ยครบหนึ่งเดือนแล้ว ท่าป๋าหั่นหลินจึงได้ถูกเมิ่งเชี่ยนโยวไล่กลับรัฐอิง ตั้งแต่นั้นมาจึงได้เริ่มต้นชีวิตอยู่ที่รัฐอิงสามเดือน เมืองหลวงสามเดือน ส่วนไทเฮา อยู่ที่จวนอ๋องต่อไป ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมกลับมาอยู่ที่วังกำแพงสูงอีกแล้ว
สามปีหลังจากนั้น เยียลี่ว์หมิงห้าขวบ แขกที่ไม่ได้รับเชิญปรากฏขึ้นที่จวนอ๋อง
อ๋องฉีกำลังสอบวิชาต่อสู้ของเยียลี่ว์หมิงอยู่ เมื่อได้ยินว่ามีคนมาเยี่ยม จึงขมวดคิ้ว “เขาบอกหรือไม่ว่าเป็นผู้ใด”
พ่อบ้านเดินเข้ามาข้างกายเขา รายงานเสียงเบาว่า “หากข้าน้อยจำไม่ผิด เขาผู้นั้นคงจะเป็นฮ่องเต้รัฐหมิงและฮองเฮาขอรับ”
อ๋องฉีเงียบไปครู่หนึ่ง สั่งว่า “เชิญไปห้องรับรองแขก และรีบไปเรียกอาเป่ามา”
พ่อบ้านรับคำ สั่งให้คนไปเรียกเยียลี่ว์อาเป่ากลับจวน อีกด้านเชิญแขกไปยังห้องรับรองแขกด้วยตนเอง
เป็นฮ่องเต้และฮองเฮารัฐหมิงจริงๆ
อ๋องฉีเตรียมคารวะ แต่ฮ่องเต้รัฐหมิงยกมือห้ามไว้ ยิ้มพร้อมเอ่ยว่า “พวกเรามาเยือน รบกวนความสงบของจวนท่าน ขอท่านอ๋องโปรดอย่ากล่าวโทษกันเลย”
สองฝ่ายนั่งลง อ๋องฉีสั่งให้คนนำน้ำชามาถวาย ยิ้มพร้อมกล่าวว่า “พริบตาเดียว ผ่านไปแล้วถึงห้าปี บัดนี้หมิงเอ๋อร์เติบใหญ่แล้ว ฮ่องเต้และฮองเฮารัฐหมิงอยากพบเขาหรือไม่”
ฮองเฮารัฐหมิงพยักหน้าด้วยความรอคอย “อยากๆ อยากสิ”
อ๋องฉีส่งสั่งไปด้านนอก “พาหมิงเอ๋อร์เข้ามา”
เยียลี่ว์หมิงไม่นานก็เข้ามา
ฮ่องเต้และฮองเฮารัฐหมิงออกไปพบเขาพร้อมกัน คนตัวน้อย มีท่าทางสูงส่งโดยกำเนิด ยืนอยู่ตรงนั้น ราวกับว่าแสงสว่างทั้งหมดสาดส่องไปที่เขา เป็นที่จับตามอง โหงวเฮ้งดีมาก เหมือนเยียลี่ว์อาเป่าราวกับแกะ
เยียลี่ว์หมิงเห็นคนแปลกหน้าทั้งสอง ไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย
ฮองเฮารัฐหมิงยืนขึ้น น้ำตาคลอ เดินเข้าไปหาเขา เรียกด้วยเสียงสั่นเครือ “หมิงเอ๋อร์ ข้าเป็นท่านย่า ส่วนนั่นเป็นท่านปู่ของเจ้า”
เยียลี่ว์หมิงเม้มปากน้อยๆ มองอ๋องฉี
อ๋องฉีพยักหน้า
เยียลี่ว์หมิงคุกเข่าลงพื้น ก้มหัว “หมิงเอ๋อร์คารวะท่านปู่ ท่านย่าขอรับ”
“เด็กดี รีบลุกขึ้นเร็ว ให้ย่าดูเจ้าหน่อย”
ฮองเฮารัฐหมิงโน้มตัวอุ้มเขา พิจารณาอย่างละเอียด
ฮ่องเต้เก็บความรู้สึกยินดีของตนเองไม่ได้ ยืนขึ้นเดินเข้ามาหาเขา
เยียลี่ว์หมิง ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ปล่อยให้พวกเขามองตามใจ
ครู่ใหญ่ ฮ่องเต้รัฐหมิงพยักหน้าไม่หยุด “ดี ดี ดี หลานชายเก่งเพียงนี้ ต่อให้พวกเราเหนื่อยกันต่ออีกหลายปี ก็คุ้มค่าแล้ว”
ฮองเฮารัฐหมิงพยักหน้าเห็นด้วย จับมือของเยียลี่ว์หมิงไว้แน่น
อ๋องฉีเห็นทุกอย่าง ยิ้มพร้อมกล่าวว่า “ฐานะของหมิงเอ๋อร์ พวกเราไม่เคยปิดบังเขา ปกติเข้มงวดกับเขาไปเสียหน่อย เด็กคนนี้ฉลาดมาก เรียนรู้ได้เร็วไม่ว่าเรื่องใด พวกเราคิดว่าพ้นปีใหม่ไปแล้ว จะให้ครอบครัวเขาสามคนกลับไปเยี่ยมพวกท่าน พาหมิงเอ๋อร์ไปหาพวกท่าน”
ฮ่องเต้รัฐหมิงละสายตาจากเยียลี่ว์หมิง ยิ้มพร้อมมองอ๋องฉี “ขอบคุณท่านอ๋องที่อบรมหมิงเอ๋อร์ได้ดีเช่นนี้”
อ๋องฉีโบกมือ “ร่างกายเขามีเลือดของจวนอ๋องอยู่ครึ่งหนึ่ง อบรมเขาเป็นเรื่องที่ควรทำ ฮ่องเต้รัฐหมิงกล่าวเช่นนี้ ดูห่างเหินไปแล้ว”
ด้านนอกมีเสียงฝีเท้าดังขึ้น
ทั้งหมดหันไปมองพร้อมกัน
ม่านประตูถูกเปิดออก เยียลี่ว์อาเป่าเดินเข้ามาด้วยความตื่นเต้น เมื่อเห็นฮ่องเต้รัฐหมิงและฮองเฮารัฐหมิง เดินก้าวเข้ามา คุกเข่าต่อหน้าทั้งสอง กล่าวอย่างทุลักทุเลว่า “ลูกคารวะเสด็จพ่อ เสด็จแม่ขอรับ”
ไม่ได้พบกันห้าปี เยียลี่ว์อาเป่าจากหนุ่มน้อยกลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว มีความน่าเกรงขามมากขึ้น
ฮ่องเต้และฮองเฮารัฐหมิงตื่นเต้น ฮองเฮารัฐหมิงยื่นมือออกมา “รีบลุกขึ้นเร็ว ให้แม่ดูเจ้าที”
เยียลี่ว์อาเป่ายืนขึ้น
ฮองเฮารัฐหมิงมองพิจารณา พยักหน้าไม่หยุด
หลังจากดีใจไปแล้ว เยียลี่ว์อาเป่านั่งลง พ่อบ้านนำน้ำชามาวางตรงหน้าเขา จากนั้นถอยไป ปิดประตูห้องรับรองแขกจนสนิท
อ๋องฉีหยิบน้ำชาตรงหน้าของตน ดื่มลงไปอย่างสง่างาม วางลงอย่างเชื่องช้า มองฮ่องเต้และฮองเฮารัฐหมิง ถามว่า “ทั้งสองท่านมาในวันนี้ แสดงว่าต้องมีเรื่องใหญ่ใช่หรือไม่”
ฮ่องเต้และฮองเฮารัฐหมิงมองตากัน ฮ่องเต้ลูบเคราของตน ยิ้มพร้อมเอ่ยว่า “ในเมื่อท่านอ๋องถามเช่นนี้ พวกเราก็ไม่ปิดบังแล้ว ที่พวกเรามาครานี้ ก็เพื่อรับพวกเขาทั้งสามคนกลับไป พวกเราอายุมากแล้ว จัดการเรื่องในวังได้ไม่เป็นดั่งใจ อาเป่าควรกลับไปสืบทอดตำแหน่งฮ่องเต้ได้แล้ว”
การมาของพวกเขา อ๋องฉีก็เดาใจของพวกเขาได้ พยักหน้า “ฮ่องเต้และฮองเฮารัฐหมิงพูดถูก ให้อาเป่าและเมิ่งเอ๋อร์อาศัยอยู่ในจวนหลายปีเพียงนี้ ทำพวกเราพอใจมากแล้ว พวกเราไม่อยากเป็นคนอกตัญญู พวกท่านวางใจได้ ครานี้พวกเราจะไม่ขัดขวางเป็นอันขาด”
ฮ่องเต้รัฐหมิงยินดี “ขอบคุณท่านอ๋อง”
ไม่นานข่าวการมาถึงของฮ่องเต้และฮองเฮารัฐหมิงก็ลอยเข้าหูของทุกคนในจวน
พระชายายังคงอาลัย เมื่อก่อนอาวรณ์หวงฝู่สือเมิ่ง บัดนี้อาวรณ์เยียลี่ว์หมิง
เมิ่งเชี่ยนโยวและหวงฝู่อี้เซวียนคิดไว้แล้วว่าวันนี้จะต้องมาถึง ปฏิกิริยาจึงได้สงบ
หวงฝู่สือเมิ่งเพียงแต่ชะงักเล็กน้อย จากนั้นจึงได้ยอมรับเรื่องนี้ เยียลี่ว์อาเป่าทำเพื่อนาง อาศัยอยู่ที่เมืองหลวงรัฐอื่นมาถึงห้าปี นางควรทำอะไรเพื่อตอบแทนเขาบ้าง
เยียลี่ว์อาเป่ารู้สึกผิด มองดูแววตาสดใสของหวงฝู่สือเมิ่ง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “เมิ่งเอ๋อร์ ข้าขอโทษ ข้าผิดคำพูดแล้ว”
หวงฝู่สือเมิ่งยิ้มอย่างอ่อนโยน “สามีภรรยาเสมือนคนคนเดียวกัน เจ้าไปที่ใด ข้าก็จะไปที่นั่น แต่เจ้าต้องสัญญากับข้า ว่าช้าเร็วอย่างไรต้องกลับมาเมืองหลวง มาอยู่ข้างกายท่านปู่ท่านย่า เพื่อแสดงความกตัญญู”
เยียลี่ว์อาเป่าพยักหน้าให้สัญญา “เมิ่งเอ๋อร์ เจ้าวางใจได้ ข้าสัญญากับเจ้า ขอเพียงหมิงเอ๋อร์จัดการเรื่องในวังได้แล้ว ข้าจะกลับมาอยู่กับเจ้า”
หวงฝู่สือเมิ่งพยักหน้า อิงกายอยู่ในอ้อมกอดของเขาเงียบๆ