นายหญิงใหญ่เซียวไม่เคยคิดเลยว่า เซียวฉางควนที่ขี้ขลาดมาโดยตลอด จะกล้ามามีอารมณ์ต่อหน้าของตน!

เธออดไม่ได้ที่จะทั้งรู้สึกโกรธและเกลียด!

เป็นเวลาหลายสิบปีที่เธอใช้ความน่าเกรงขามของตนมาบดขยี้เซียวฉางควน เซียวฉางควนเองก็ไม่เคยที่จะมีความสามารถในการมาต่อต้านเธอเลยแม้สักครั้ง แม้แต่ความสามารถในการโต้แย้งก็ไม่มี

แม้ว่าตนจะขับไล่เขาออกจากตระกูลเซียว เขาก็ไม่กล้าทำอะไรสักอย่าง

ไม่คาดคิดว่าวันนี้เขาจะมาพูดจาแบบนี้กับตน!

ปีกกล้าขาแข็งแล้วงั้นเหรอ?!

แถมยังมากล้าพูดว่าแม่แบบนี้ได้ยังไง เขาไม่อยากใช้คำพูดไร้ศีลธรรมแบบนี้ออกมา!

เมื่อหล่อนกำลังโกรธ โมโหไปกันใหญ่ ถึงเวลาปกป้องศักดิ์ศรีและความสง่างามของตนซะแล้ว

เซียวฉางเฉียนที่อยู่ด้านข้างก็ไม่ยอมแพ้ เปิดปากพูดกับเย่เฉินว่า “เย่เฉิน ที่พวกเรามาในวันนี้ พวกเราไม่ได้จะมาสร้างความเดือดร้อน ฉันมีเรื่องต้องการพบแม่ยายหม่าหลันของนาย เพราะฉะนั้น นายรีบไปเรียกหล่อนลงมาเถอะ ฉันอยากรีบถามหล่อนจะแย่อยู่แล้ว!”

ในใจของเย่เฉินนั้นรูอย่างชัดเจนว่า เซียวฉางเฉียนจะต้องมาตามหาเฉียนหงเย่น

แต่น่าเสียดาย ที่เซียวฉางเฉียนก็คงไม่คิดไม่ฝันเลยว่า เฉียนหงเย่นและคนที่ร่วมมือกับเธอจะถูกส่งไปที่จิ้นซีอย่างลับๆเสียแล้ว ดังนั้นสำหรับเขาแล้ว เฉียนหงเย่นก็เสมือนกับระเหยหายไป

ดังนั้น เย่เฉินจึงพูดกับเซียวฉางเฉียนว่า “คุณมีอะไรบอกผมได้ เดี๋ยวผมจะไปบอกหล่อนให้”

เซียวฉางเฉียนรีบพูดว่า “ภรรยาของฉันหายไปแล้วน่ะสิ!”

เย่เฉินแสร้งทำเป็นแปลกใจแล้วถามว่า “หายไป?หายไปได้ยังไงกัน?”

เซียวฉางเฉียนรู้สึกไม่พอใจกับคำถามของเย่เฉิน แต่ก็ยังคงระงับอารมณ์ไว้และพูดว่า “ก็แค่หาไม่เจอ ติดต่อไม่ได้ ก่อนที่หล่อนจะหายไป ได้เจอแม่ยายของนายเป็นคนสุดท้าย ดังนั้นฉันเลยมาถาม”

เย่เฉินยิ้มและพูดว่า “เรื่องแบบนี้ ไม่ต้องถามก็เข้าใจได้”

เซียวฉางเฉียนโพล่งพูดออกมาว่า “หมายความว่ายังไงกัน?”

เย่เฉินพูด “ความหมายของผมนั้นง่ายมาก คิดว่าภรรยาของคุณอาจจะหนีไปแล้วน่ะสิ”

ขณะที่พูด เย่เฉินก็หักนิ้วพร้อมกับพูดอีกว่า “คุณดูพวกคุณตอนนี้ก่อนสิ หนึ่งไม่มีเงิน สองไม่มีอำนาจ สามคือไม่มีคนที่ร่ำรวยคอยช่วยเหลือ แบบนี้ดูเหมือนว่าตระกูลเซียวก็คงจะต้องล้มละลายแล้วล่ะสิ วิลล่าของคุณก็คงถูกธนาคารยึดไปแล้วใช่ไหมล่ะ?ป้าเฉียนที่ไม่เคยพบความทุกข์ทรมานมา ก็คงไม่สามารถที่จะรอไปอยู่บ้านเช่าราคาต่ำกับพวกคุณได้หรอก ใช่ไหมล่ะ?”

เซียวฉางเฉียนกัดฟันและพูดว่า “เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนาย ทางที่ดีก็ไม่ต้องพูดมาก”

ในตอนนี้เซียวฉางควนพ่อตาของเย่เฉินก็เดินมาอีกครั้ง พูดอย่างจริงจังว่า ‘พี่ใหญ่ ผมรู้สึกว่าสิ่งที่เย่เฉินพูดมาก็มีเหตุผล ตอนนี้ตระกูลเซียวก็เหมือนกับหลุมที่ไม่มีก้น(ความต้องการที่ไม่สามารถทำให้พอใจได้) ถ้าผมเป็นพี่สะใภ้ ผมเองก็คงไม่ใช้ชีวิตกับพวกคุณแล้วเช่นกัน ไม่ใช่เพียงแค่ไม่ใช้ชีวิตกับพวกคุณ แต่ยังจะเอาเงินทั้งหมดไปอีกและออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ซะ!“

“แก..” เซียวฉางเฉียนคิดไม่ถึงว่าเซียวฉางควนเองก็จะสะกิดความกลัวที่สุดในใจของตน ทันใดนั้นก็ด่าด้วยความโกรธว่า “เซียวฉางควน แกอย่ามาเดามั่วเรื่องภรรยาของฉัน!ถ้าไม่ได้เห็นว่าแกเป็นน้องชาย ฉันคงตีสั่งสอนแกแล้ว!”

ทันทีที่เสียงของเซียวฉงเฉียนนั้นลดลง เย่เฉินก็ตบไปที่หน้าของเขา ดวงตาของเขานั้นมึนไปหมด

สติของเขานั้นยังไม่ทันกลับมา เย่เฉินก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “เซียวฉางเฉียน อยู่หน้าบ้านของผมยังกล้าที่มาทำตัวทะนงตน ลืมชะตากรรมของลูกชายและตระกูลเซียวไปแล้วรึไง?”

หลังจากที่เซียวฉางเฉียนถูกตบหน้า เขาก็ว่านอนสอนง่ายในทันที

เขารู้ดีว่า อย่าพูดอะไรก็ตามถึงสิ่งที่เขาต้องการ