บทที่ 3007 จิตมาร 4 / บทที่ 3008 แยกจิตมาร

ลำนำบุปผาพิษ

บท​ที่​ ​3007​ ​จิต​มาร​ ​4

​จากนั้น​เธอ​ก็​มองเห็น​สตรี​ชุด​ขาว​คน​นั้น​อีกครั้ง​ ​สตรี​นาง​นั้น​นั่ง​อยู่​ใน​มุม​หนึ่ง​ท่ามกลาง​โถง​ใหญ่​ ​สั่งอาหาร​มาชุด​ใหญ่​ ​กิน​ไป​ดื่ม​ไป​อยู่​ตรงนั้น

​กู้​ซีจิ​่ว​มองดู​อาหาร​ ​ถึงแม้​จะ​มี​อาหาร​ที่​เธอ​ไม่รู้​จัก​เลย​อยู่​มากมาย​ยิ่ง​ ​แต่​สัมผัส​ได้​อย่าง​น่าประหลาด​ว่า​ตน​น่าจะ​ชอบ​มาก​

​จากนั้น​เธอ​ก็​พบ​ว่า​สตรี​ชุด​ขาว​ผู้​นี้​กิน​เข้าไป​ค่อนข้าง​เยอะ​ไป​แล้ว​จริงๆ​!

​อาหาร​โต๊ะ​ใหญ่​ที่​เพียงพอ​ให้​คน​สิบ​คน​แบ่ง​กัน​กิน​ได้​ ​ถูก​นาง​กิน​เข้าไป​คนเดียว​จน​หมดเกลี้ยง​แล้ว​!

​นาง​ไม่เพียงแต่​กิน​อาหาร​ทั้ง​โต๊ะ​ใหญ่​เข้าไป​ ​ยัง​ดื่ม​สุราชั​้น​เลิศ​เข้าไป​กว่า​สิบ​ไห​เลย​ด้วย

​กู้​ซีจิ​่​วรู​้​สึก​ตื่นตระหนก​แทน​นาง​อยู่​บ้าง​!

​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นี้​ใช้​รูปโฉม​ดั้งเดิม​ทานอาหาร​อยู่​ที่นี่​ ​โฉมงาม​เลิศล้ำ​นาง​หนึ่ง​ที่​กิน​ราวกับ​นักกิน​จุ​ ​ย่อม​ดึงดูดสายตา​นับไม่ถ้วน​ให้​มอง​มา​ได้​ ​ถึงขั้น​ที่​มี​ชาย​ชี​กอส​อง​สาม​คน​เตรียมพร้อม​จะเข้า​จู่โจม​แล้ว​ ​ต่าง​สบตา​กัน​แวบ​หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​สงบใจ​รอคอย​ให้​สตรี​นาง​นั้น​เมามาย

​กู้​ซีจิ​่ว​ขมวดคิ้ว​นิดๆ​ ​เธอ​รู้​แล้ว​ว่านี​่​คือ​ภาพมายา​จำพวก​ความฝัน​ประเภท​หนึ่ง​ ​เพียงแต่​ไม่​ค่อย​กระจ่าง​ว่า​สิ่ง​เหล่านี้​ที่​ตน​ได้​เห็น​เคย​เกิดขึ้น​จริง​ ​หรือว่า​เป็นเรื่อง​หลอกลวง​ที่มาร​เทพ​ตน​นั้น​จงใจ​ให้​ตน​เห็น

​กู้​ซีจิ​่ว​ไม่ใช่​คน​อ่อนไหว​ที่จะ​ถูก​ชักจูง​ความรู้สึก​ได้​ง่ายๆ​ ​แต่​เธอ​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​รับรู้​ถึง​อารมณ์​ใน​ยาม​นี้​ของ​สตรี​ชุด​ขาว​ได้​ง่ายดาย​ยิ่ง

​ใน​ใจ​ว่างเปล่า​ยิ่งนัก​!​ ​วูบ​โหวง​จน​อยาก​จะ​หา​อะไร​บางอย่าง​มา​เติมเต็ม​…

​และ​ดูเหมือนว่า​นาง​จะ​กลัว​ความโดดเดี่ยว​ยิ่ง​ ​ชอบ​อยู่​ท่ามกลาง​ผู้คน​ ​ดังนั้น​ถึง​ไม่ได้​เรียกหา​ห้อง​รับรอง​ส่วนตัว​ ​แต่​นั่ง​อยู่​ใน​ห้องโถง​แทน

​หลังจาก​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นี้​ดื่ม​กิน​อิ่มหนำ​แล้ว​ ​ก็​ลุกขึ้น​แล้ว​ก้าว​ออก​ไป

​ฝีเท้า​ของ​นาง​เลื่อนลอย​อยู่​บ้าง​ ​จากนั้น​ก็​ถูก​ชาย​ชี​กอ​ที่​ไม่​ประสงค์ดี​สอง​สาม​คน​เข้า​จู่โจม​ใน​ตรอก​เล็ก​ๆ​ ​สาย​หนึ่ง​!

​ชาย​ชี​กอสาม​สี่​คน​นั้น​คิด​จะ​เอาเปรียบ​นาง​ ​พูดจา​น่ารังเกียจ​แทะโลม​นาง​สารพัด​ ​เห็นได้ชัด​ว่านา​งมึน​สุรา​แล้ว​ ​ผู้อื่น​แทะโลม​นาง​ ​นาง​ก็​ทึ่ม​ทื่อ​นิ่งงัน​ ​ปฏิกิริยา​ตอบสนอง​ช้า​ลง​ครึ่งหนึ่ง​…

​จวบจน​มี​คน​ผู้​หนึ่ง​ตบ​ไหล่​ของ​นาง​เบา​ๆ​ ​เอ่ย​ประโยค​หนึ่ง​ที่​หยาม​หยัน​ยิ่ง​ ​“​แม่นาง​น้อย​ ​ไม่มีใคร​ต้องการ​เจ้า​ใช่ไหม​?​ ​ท่าทาง​เช่นนี้​ของ​เจ้า​คล้าย​ถูก​คน​ทอดทิ้ง​ไม่มี​ผิด​ ​มิสู​้​ให้​พี่ชาย​มา​อยู่​เป็นเพื่อน​เจ้า​ ​แต่ง​มา​เป็น​อนุ​ของ​พี่ชาย​เสียดี​ไหม​?​”

​ผล​คือ​ ​ประโยค​นี้​จี้​จุด​ของ​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นี้​อย่างเห็นได้ชัด​ ​นาง​จึง​ระเบิดอารมณ์​ออกมา​ทันที​…

​ชาย​ชี​กอสี​่​คน​นั้น​ถูก​ทุบตี​แล้ว​…

​ความหมาย​ของ​การ​ทุบตี​ก็​ตรงตัว​จริงๆ​ ​ร่างกาย​ของ​สี่​คน​นั้น​ถูก​นาง​ชก​ตี​เตะ​ต่อย​จน​เละ​ตุ้ม​เป๊ะ​แล้ว​ ​บิดเบี้ยว​เสียรูปทรง​ ​สิ้นใจ​ใน​ที่เกิดเหตุ​เลย

​และ​ใน​ดวงตา​ดำขลับ​ของ​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นั้น​ก็​ปรากฏ​แสงสี​แดง​เลือนราง​ออกมา​แล้ว​ ​นาง​ยืน​เอา​มือ​เท้า​กำแพง​ ​ไม่​มอง​เหล่า​ชาย​ชี​กอ​ที่​ถูก​นาง​ทุบตี​จน​ไม่​เป็น​คน​แล้ว​ ​ขมวดคิ้ว​นิดๆ​ ​มือ​ลูบ​อก​ ​พึมพำ​ประโยค​หนึ่ง​ ​“​แปลก​จัง​ ​กิน​เข้าไป​มาก​ขนาด​นี้​แล้ว​ชัดๆ​ ​ทำไม​ยัง​ว่างเปล่า​แบบนี้​อีก​ล่ะ​?​”

​นาง​เดิน​ส่าย​โงนเงน​จากไป​ ​แต่​ใน​ใจ​ของ​กู้​ซีจิ​่​วก​ลับ​ดิ่ง​วูบ​ลง​ไป​!

​เธอ​มองออก​ว่า​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นี้​คือ​เทพ​ ​แต่​มี​จิต​มาร​แล้ว​ ​เมื่อ​ครู่​ที่นาง​ลงมือ​สังหาร​คน​อย่าง​โหดเหี้ยม​ก็​เป็น​เพราะ​จิต​มาร​ ​เพียงแต่​นาง​เมามาย​จน​ไม่​สังเกตเห็น​เท่านั้น

​เทพ​เกิด​จิต​มาร​ขึ้น​ย่อม​มิใช่​เรื่อง​ดี​ ​หลังจาก​เติบใหญ่​พัฒนา​ขึ้น​มา​อย่าง​เบา​ก็​ธาตุ​ไฟ​เข้า​แทรก​ ​อย่างหนัก​ก็​คือ​ถูก​จิต​มาร​เข้า​ควบคุม​จิตสำนึก​ ​ตัวตน​จะ​เปลี่ยนแปลง​ไป​หมด​…

​กู้​ซีจิ​่ว​เม้ม​ริมฝีปาก​นิดๆ​ ​ใน​ใจ​รับรู้​ได้​รางๆ​ ​แล้ว​ว่านี​่​ก็​คือ​อดีตชาติ​ของ​มาร​เทพ​ใน​ปัจจุบันนี้

​ไม่ว่า​จะ​เป็น​สิ่ง​ที่มาร​เทพ​จงใจ​แสดง​ให้​เธอ​เห็น​ ​หรือว่า​เป็น​ตน​ที่จับ​พลัด​จับ​ผลู​มา​พบเห็น​เข้า​เอง​ ​ในเมื่อ​ติดตาม​มา​แล้ว​ ​เช่นนั้น​ลองดู​หน่อย​ก็​ไม่เสียหาย​นี่​ ​เรียกว่า​รู้​เขา​รู้​เรา​รบ​ร้อย​ครั้ง​ไม่​พ่าย​ ​ถ้า​เธอ​ทราบ​ประวัติ​ความเป็นมา​ของ​อีก​ฝ่าย​แล้ว​ ​ก็​สามารถ​หาทาง​รับมือ​อีก​ฝ่าย​ได้​ทันท่วงที

​เธอ​ก้าวเดิน​ไป​ใน​ทิศทาง​ที่​สตรี​นาง​นั้น​อยู่​อีกครั้ง​ ​หลังจาก​ฟ้า​ดิน​พลิก​หมุน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​เธอ​พบ​ว่า​ตัว​ตกลง​มา​ใน​ทะเลทราย​อีกแล้ว

​เธอ​มึนงง​ไป​บ้าง​ชั่วขณะ​ ​ไม่รู้​ว่า​ตน​ตื่น​จาก​ความฝัน​แล้ว​ ​หรือว่า​ยังคง​อยู่​ใน​ห้วง​ฝัน​ของ​มาร​เทพ​ตน​นั้น​เช่น​เดิม

​เธอ​มอง​ไปร​อบ​ๆ​ ​ในไม่ช้า​ก็​พบ​ว่า​ทะเลทราย​แห่ง​นี้​ไม่ใช่​ทะเลทราย​ที่มาร​เทพ​สร้าง​ขึ้น​ ​ทะเลทราย​แห่ง​นี้​ธรรมดา​ยิ่ง​ ​ดวงตะวัน​บน​ท้องฟ้า​ร้อนแรง​ยิ่ง​ ​แต่​ก็​อยู่​ใน​ขอบเขต​ที่​ผู้คน​ทน​รับ​ไหว

​เธอ​ยังคง​ไม่เห็น​ตี้​เฮ่า​กับ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​เช่น​เดิม​ ​แน่นอน​ ​ยิ่ง​ไม่​พบเห็น​เสี่ยวเ​ฝิ่น​กับ​เสี่ยว​เฮ​ยด​้วย

​มองเห็น​เพียง​ทราย​เหลืองอร่าม​ทอด​ยาว

​ขณะที่​เธอ​กำลัง​วิเคราะห์​อยู่​ว่า​จะ​ไป​สำรวจ​รอบ​ๆ​ ​สักหน่อย​ดี​ไหม​ ​จู่ๆ​ ​ก็​เห็น​ว่า​บน​ฟ้า​มี​เมฆา​ม่วง​ทึบ​ทะมึน​ ​กระแสไฟฟ้า​สาย​แล้ว​สาย​เล่า​แลบ​แปลบปลาบ​อยู่​ใน​กลุ่ม​เมฆ

​เธอ​ใจเต้น​แวบ​หนึ่ง​ ​จำได้​ว่านี​่​คือ​อัสนี​ด่าน​เคราะห์​!

​จากนั้น​เธอ​ก็​เห็น​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นั้น​รวมถึง​บุรุษ​ที่อยู่​ตรงกันข้าม​กับ​นาง​…

​ใน​สมอง​ของ​กู้​ซีจิ​่ว​เกิด​เสียงดัง​ตูม​!

​ตี้ฝู​อี​!

​นั่น​คือ​ตี้ฝู​อี​!

​เขา​กับ​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นั้น​กำลัง​ผจญ​อัสนี​เคราะห์​ด้วยกัน​!

​….

————————————————————————————-

บท​ที่​ ​3008​ ​แยก​จิต​มาร

​เขา​สวม​เสื้อคลุม​สีม่วง​เข้ม​รูปแบบ​โบราณ​พิสดาร​ ​ใน​มือ​จรด​ร่าย​อาคม​ต้าน​สายฟ้า​และ​เป็น​อาคม​ที่​กู้​ซีจิ​่ว​ไม่เคย​เห็น​มาก​่อน​ ​ส่วน​อัสนี​ด่าน​เคราะห์​นั้น​…

​กู้​ซีจิ​่ว​ใช้ชีวิต​มา​เนิ่นนาน​ขนาด​นี้​ก็​ยัง​ไม่เคย​เห็น​อัสนี​ด่าน​เคราะห์​ที่​รุนแรง​ขนาด​นี้​มาก​่อน​เลย​ ​และ​แฝง​อำนาจ​คุกคาม​ที่​ทำลายล้าง​โลกา​ได้​เอาไว้​ ​ราวกับ​คิด​จะ​ผ่า​คน​ทั้งสอง​ที่​เผชิญ​ด่าน​เคราะห์​อยู่​ให้​แหลก​เป็นจุณ​!

​และ​เห็นได้ชัด​ว่าว​รยุทธ​์​ของ​ตี้ฝู​อี​ไม่​อาจ​ต้านทาน​อัสนี​ด่าน​เคราะห์​นี้​ได้​ ​หาก​มิใช่​เพราะ​สตรี​ชุด​ขาว​ร่าย​อาคม​ลง​บน​ร่าง​เขา​ในขณะที่​สายฟ้า​กำลังจะ​ฟาด​ลงมา​ได้​ ​ส่อง​ลำแสง​สี​รุ้ง​ออกมา​ ​เกรง​ว่า​เขา​รับสาย​ฟ้า​ได้มาก​ที่สุด​สาม​เส้น​ก็​คง​ถูก​ผ่า​จน​แหลก​เป็นจุณ​ไป​แล้ว​…

​ยาม​ที่​เผชิญ​ด่าน​เคราะห์​อัสนี​นี้​ตี้ฝู​อี​หลับตา​ลง​ทุ่ม​พลัง​ทั้งหมด​ออก​ไป​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​ไม่เห็น​ว่า​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นั้น​ร่าย​อาคม​ลง​บน​ร่าง​เขา​เพื่อ​ต้าน​รับสาย​ฟ้า​ให้​เขา​ ​ไม่เห็น​ว่า​แสง​ศักดิ์สิทธิ์​บน​ร่าง​ของ​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นั้น​ค่อยๆ​ ​สลาย​ไป​ ​เลือด​ออกจาก​เจ็ด​ทวาร​ ​สีหน้า​ซีด​เหลือง​ปาน​ขี้ผึ้ง​ ​โลหิต​สดๆ​ ​อาบ​ย้อม​ชุด​ขาว​จน​แดงฉาน​…

​แต่ละคน​ถูก​สายฟ้า​ผ่า​ทั้งหมด​เก้า​สาย​ ​กู้​ซีจิ​่ว​เห็น​กับ​ตาว​่า​ใน​วินาที​ที่​อัสนี​ด่าน​เคราะห์​สลาย​หาย​ไป​ ​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นั้น​พลัน​โบก​แขน​เสื้อ​ ​คล้าย​จะ​ใช้​เวท​วิชา​อัน​ใด​กับ​ร่าง​ตน​ ​ใน​พริบตา​นั้น​สภาพ​น่าเวทนา​จาก​การถูก​ฟ้าผ่า​ ​ฟื้นฟู​กลับ​สู่​สภาพ​ปกติ​ในทันที

​ยาม​ตี้ฝู​อี​เก็บ​พลัง​แล้ว​ลืมตา​ขึ้น​ ​นอกจาก​สีหน้า​ของ​นาง​ที่​ค่อนข้าง​ซีด​ขาว​อยู่​บ้าง​ ​ก็​มอง​ความผิดปกติ​อัน​ใด​ไม่​ออก​แล้ว

​เห็นได้ชัด​ว่า​ตี้ฝู​เป็นห่วง​ ​“​ท่าน​ไม่เป็นไร​กระมัง​?​”

​“​ไม่เป็นไร​ ​เจ้า​ไป​เถอะ​”​ ​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นั้น​โบกมือ

​ตี้ฝู​อีก​้าว​เข้าไป​หา​อีก​ ​“​ให้​ข้า​ตรวจ​ชีพจร​ของ​ท่าน​…​”

​สตรี​นาง​นั้น​กลับ​สะบัด​มือ​โยน​เขา​ออก​ไป​ ​น้ำเสียง​เยียบ​เย็น​ ​“​เจ้า​กับ​ข้า​ไม่เกี่ยว​ข้อง​อะไร​กัน​อีกต่อไป​แล้ว​ ​เจ้า​ไม่จำเป็น​ต้อง​มาหา​ข้า​อีก​…​”

​จากนั้น​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นั้น​ก็​เคลื่อนย้าย​จากไป​เลย

​กู้​ซีจิ​่ว​ยัง​ไม่ทัน​เห็น​ปฏิกิริยา​ของ​ตี้ฝู​อี​ชัดๆ​ ​ทิวทัศน์​เบื้องหน้า​ก็​แปรเปลี่ยน​อีกครั้ง​…

ณ​ ​เนินทราย​กรวด​แห่งหนึ​่ง​ภายใน​ทะเลทราย

​มี​หินตะกอน​ขนาดใหญ่​นับไม่ถ้วน​ตั้ง​ตระหง่าน​อยู่​ที่นั่น​ ​ดำ​เมื่อม​จาก​การผ่า​นลม​ฝน​มา​อย่าง​โชกโชน

​ส่วน​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นั้น​ก็​นั่ง​พิง​โขดหิน​ก้อน​หนึ่ง​หอบ​หายใจ​อยู่​ ​ขมับ​นาง​มี​หยาดเหงื่อ​ ​ทว่า​บน​ขน​ตากลับ​มีผลึก​น้ำแข็ง​ ​โลหิต​สด​ไหลริน​ลงมา​จาก​มุม​ปากของ​นาง​ ​นาง​เช็ด​ไป​แล้วก็​ยัง​ไหล​อีก​ ​จึง​ไม่​เช็ด​เสีย​เลย​…

​คล้าย​ว่านาง​จะ​พยายาม​ปรับ​ลมปราณ​อยู่​ ​นิ้วมือ​จรด​ก่อ​ตรา​อาคม​บางอย่าง​ออกมา​เป็นครั้งคราว​ ​กด​ลง​บน​ร่าง​ตน

​แสง​ศักดิ์สิทธิ์​บน​ร่าง​นาง​เดี๋ยว​มี​เดี๋ยว​ไม่มี​ ​ดู​เปราะบาง​จน​คล้าย​ว่า​จะ​สลาย​หาย​ไป​ได้

​นาง​เงยหน้า​มอง​ดวงตะวัน​บน​นภา​ ​กอด​แขน​เอาไว้​ ​“​หนาว​จัง​!​ ​ทำไม​ดวงตะวัน​ถึง​คล้าย​ช่วง​ฤดูหนาว​เลย​เล่า​ ​อ่อน​จาง​ไร้​เรี่ยวแรง​…​”

​กู้​ซีจิ​่ว​ยืน​มอง​นาง​อยู่​ด้าน​ข้าง​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ส่ายหน้า​ ​เธอ​สามารถ​รับรู้​ถึง​อุณหภูมิ​ของ​ทะเลทราย​แห่ง​นี้​ได้​ ​อันที่จริง​ร้อน​ยิ่งนัก​ ​อุณหภูมิ​สามสิบ​สาม​ถึง​สามสิบ​สี่​องศา​แล้ว​ ​ถึงแม้​จะ​ไม่​ร้อน​จน​แผดเผา​ได้​ ​แต่​ก็​เรียกว่า​หนาว​ไม่ได้​แน่นอน​…

​มาถึง​ยาม​นี้​ ​กู้​ซีจิ​่​วก​็​รับรู้​ได้​รางๆ​ ​แล้ว​ว่า​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นี้​น่าจะเป็น​ตัว​เธอ​ ​หรือไม่ก็​เป็นอดีต​ชาติ​ของ​เธอ​เอง​…

​ที่แท้​ตน​ก็​พัวพัน​กับ​ตี้ฝู​อี​อย่าง​ลึกล้ำ​ถึง​เพียงนี้​มาตั​้ง​แต่​ชาติก่อน​แล้ว

​จู่ๆ​ ​สายตา​เธอ​ก็​ร่อน​ลง​บน​เงา​บน​พื้น​ของ​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นั้น

​ไม่น่าเชื่อ​ว่า​บน​พื้น​จะ​มี​เงา​อยู่​สอง​สาย​!

​สาย​หนึ่ง​เป็นเงา​ปกติ​ ​ตระหง่าน​อยู่​ตรงนั้น​อย่างสงบ​เหมือน​สตรี​ผู้​นั้น

​ทว่า​เงา​อีก​สาย​กลับ​เสมือน​อสรพิษ​ ​เลื้อย​วนเวียน​กลับไปกลับมา​อยู่​รอบ​ๆ​ ​นาง​ ​และ​ด้วย​การ​เลื้อย​วน​ของ​มัน​ ​ทำให้​คล้าย​ว่า​จะ​มี​ไอ​ทะมึน​พัวพัน​อยู่​บน​ร่าง​ของ​สตรี​นาง​นั้น

​นี่​คือ​…

​จิต​มาร​ของ​สตรี​ชุด​ขาว​ผู้​นี้​ใช่ไหม​?

​กู้​ซีจิ​่ว​มอง​เงา​ที่​หมุน​วน​นั้น​อย่างละเอียด​ ​ใจเต้น​นิดๆ

​เธอ​ก็​เป็น​ผู้​ที่​รอบรู้​ยิ่งนัก​เช่นกัน​ ​ทราบ​ว่าความ​จริง​แล้ว​ทุกคน​ล้วน​มี​จิต​มาร​อยู่​ ​ต่อให้​เป็น​พุทธองค์​ที่​บำเพ็ญ​เพียร​แล้ว​ ​ก็​มี​จิต​มาร​ได้​เช่นกัน​เพียงแต่​ปกติ​แล้ว​จะ​ถูก​สะกด​ข่ม​ไว้​และ​ชำระล้าง​ให้​บริสุทธิ์​เท่านั้น​ ​จึง​ไม่​ปรากฏ​ขึ้น​มา​เลย

​มี​เพียง​ช่วงเวลา​ที่​ใน​ใจ​ของ​ผู้คน​มี​ความ​โศกศัลย์​มี​ความเคียดแค้น​หรือไม่​พอใจ​ ​และ​ร่างกาย​จิตวิญญาณ​อ่อนแอ​สุดขีด​แล้ว​เท่านั้น​ ​จิต​มารถึง​จะ​เผยอ​อก​มา

​จิต​มาร​ล่อลวง​ปลุกปั่น​จิตใจ​คน​เสมอมา​ ​หมาย​จะ​คิด​หาทาง​เข้า​ควบคุม​บงการ​ร่าง

​ยาม​นี้​เห็นได้ชัด​ว่า​จิต​มาร​ของ​สตรี​นาง​นี้​ก็​กำลัง​สะกดจิต​ล่อลวง​สารพัด​วิธีการ​อยู่​ใน​สมอง​นาง

————————————————————————————-