ภาค 7 ความผันผวนในใต้หล้าเป็นยุคของข้า บทที่ 687 แผนเปิดเผย

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ลูกศิษย์ของประมุขตงหนานคาดเดาถึงการยึดครองดินแดนในทะหลวงเจียอย่างแปลกประหลาด ของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องมาโดยตลอด

เพียงแต่ว่าประมุขตงหนานให้การอนุญาตอย่างเงียบๆ พวกเจิ้งหมิงและเฉินจื้อเหลียงจึงไม่ถามมากความ

ในตอนนี้แม้เยี่ยนจ้าวเกอจะไม่ได้พูดอย่างชัดเจน แต่พวกเจิ้งหมิงจิตใจต่างสั่นไหวเล็กน้อย ทั้งนึกถึงเรื่องบางอย่าง

เฉินจื้อเหลียงพูดอย่างราบเรียบ “ความสามารถด้านค่ายกลของนักพรตสือสูงส่งยิ่ง ผู้สืบทอดของเขาคงจะไม่ใช่ธรรมดา”

เยี่ยนจ้าวเกอคอยสังเกตสีหน้าของเจิ้งหมิงและเฉินจื้อเหลียง ครั้นได้ยินคำพูดของเฉินจื้อเหลียง เขาก็ค่อยๆ คำนวณในใจ

เสวียเหวินอ๋อง ผู้วิเศษเซิง และนักพรตสือในอดีต ดูเหมือนไม่ได้มายังทะเลหวงเจียเพราะคำสั่งของประมุขตงหนาน

พวกเขาไม่เพียงแต่เป็นแขกผู้มาจากด้านนอกของทะเลหวงเจียเท่านั้น สำหรับเขตหยางเทียนตะวันออกเฉียงใต้ ก็เป็นไปได้มากว่าจะเป็นแขกที่มาจากด้านนอกเหมือนกัน

ส่วนเหตุใดประมุขตงหนานจึงอนุญาตให้พวกเขาสร้างค่ายกลบูชาฟ้าขึ้นบนทะเลหวงเจีย เพื่อตามหาเบาะแสของมารดาแห่งแผ่นดิน นั่นมีความเป็นไปได้สองอย่าง

ข้อแรก ด้านหลังพวกเขายืนไว้ด้วยบุคคลที่แม้แต่ประมุขตงหนานยังกริ่งเกรง ได้แต่ปิดตาข้างหนึ่งลืมตาข้างหนึ่งต่อการกระทำของพวกเขา

ข้อสอง พวกเขามีที่พึ่งพิง แม้จะยังไม่ถึงขั้นทำให้ประมุขตงหนานก้มหน้าเรียกตัวเองว่ากระหม่อมได้ แต่ว่าประมุขตงหนานปกติไม่คิดล่วงเกิน ตัวประมุขตงหนานไม่รู้ว่าพวกเขาต้องการทำอะไรกันแน่ จึงไม่รู้ถึงการมีอยู่ของค่ายกลบูชาฟ้าที่ทะเลหวงเจียนี้

ความเป็นไปได้ของสถานการณ์ก่อนหน้าไม่สูงนัก กษัตริย์ยังมีกษัตริย์อีกสองพระองค์คอยคานอำนาจ ไม่มีใครใช้มือเดียวบังฟ้าอย่างเบ็ดเสร็จได้

พวกต้าเสวียนอ๋อง ฉีเหว่ย คังฮูหยิน ยังปฏิบัติการเป็นการลับ หมายความว่าพวกเขาไม่ต้องการให้ประมุขตงหนาน หรือคนอื่นรู้เรื่อง

สถานการณ์อย่างหลัง มีอะไรให้น่าพูดถึงกว่า

เยี่ยนจ้าวเกอพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่ใช่ธรรมดาจริงๆ ถ้าหากไม่ใช่เพราะยามปกติข้าศึกษาค่ายกล ค้นคว้าตลอดเวลา เกรงว่าคงจะหนีจากค่ายกลเอกภพย้อนทวนของเขาไม่พ้น ถึงอย่างไรก็เป็นยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า ขั้นเทวะสำแดงระยะกลาง”

เจิ้งหมิงตาเป็นประกาย “ท่านสู้กับเขามาแล้วหรือ?”

เฉินจื้อเหลียง ไป๋จื่อหมิง และเหวินลั่วเสียต่างงงงัน ‘ปรมาจารย์ด้านค่ายกลที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้าวางค่ายกล คนหนุ่มผู้นี้เป็นแค่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหนึ่ง ถึงกับหนีรอดมาได้หรือ? เช่นนั้นความสามารถด้านค่ายกลของเขาเกรงว่าจะไม่ได้แค่ศึกษาในยามปกติเท่านั้น…’

เยี่ยนจ้าวเกอเล่าว่า “ก่อนหน้านี้ไม่นาน จะว่าไปก็น่าขายหน้า ข้าได้ของบางอย่างมาจากผู้สืบทอดของผู้วิเศษเซิง สุดท้ายล่วงเกินจนผู้อาวุโสท่านนั้นและผู้สืบทอดของนักพรตสือมาซุ่มสังหาร”

เจิ้งหมิงกับเฉินจื้อเหลียงต่างไม่ได้พูดอะไร พวกเขารู้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะต้องเล่าต่อ

เยี่ยนจ้าวเกอเองก็ไม่ได้ทำลับลมคมใน โพล่งขึ้นว่า “ของมีไม่น้อย เช่นเครื่องหอมบรรจุฟ้า ดินกำเนิดจักรภพ ผลึกปอดแดนทะเล”

เฉินจื้อเหลียงขมวดคิ้ว มองเจิ้งหมิงอย่างสงสัยเล็กน้อย “ศิษย์พี่เจิ้ง ของเหล่านี้?”

ในฐานะลูกศิษย์ที่ประมุขตงหนานสั่งสอนด้วยตัวเอง พวกเขามีประสบการณ์และเรื่องที่รู้มากกว่าคนธรรมดามากมายนัก

โดยเฉพาะเครื่องหอมบรรจุฟ้า มีความพิเศษมาก แต่ให้สรรพคุณน้อยนิด

เฉินจื้อเหลียงคิดถึงอะไรบางอย่าง แต่ไม่กล้ายืนยัน ดังนั้นจึงมองเจิ้งหมิง

เจิ้งหมิงไม่ได้กล่าวอันใด สีหน้าเคร่งขรึมลง

ครู่ต่อมา เขาก็มองเยี่ยนจ้าวเกอ ฝ่ายเยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าพลางยิ้ม “ตามที่ข้ารู้ ของพวกนี้เป็นวัตถุดิบวางค่ายกลของค่ายกลบูชาฟ้า”

เจิ้งหมิงเอ่ยอย่างเชื่องช้า “สหายเยี่ยนมีประสบการณ์เต็มเปี่ยม ข้านับถือนัก”

เยี่ยนจ้าวเกอว่า “ท่านชมกันเกินไป”

เจิ้งหมิงมองเยี่ยนจ้าวเกออย่างล้ำลึกแวบหนึ่ง เขารู้สึกว่าที่เยี่ยนจ้าวเกอลงมือช่วยเหลือเหวินลั่วเสีย ก็เพราะสาเหตุนี้

เยี่ยนจ้าวเกอเผชิญกับสายตาพิจารณาของเจิ้งหมิง เหมือนรู้ความคิดในใจของอีกฝ่าย

เขามีสีหน้าเยือกเย็น ไม่รีบไม่ร้อน

เจิ้งหมิงเห็นดังนั้นก็ละสายตา ไม่ได้รู้สึกไม่พอใจ

เยี่ยนจ้าวเกอแม้จะลงมือเพราะเป้าหมายของตัวเอง แต่ว่าอำนาจในการตัดสินยังคงอยู่ที่ฝั่งเจิ้งหมิงและเฉินจื้อเหลียง

ค่ายกลบูชาฟ้าและความหมายที่อยู่เบื้องหลังมัน ทำให้คนที่เป็นลูกศิษย์ของประมุขตงหนานต้องระวังตัว

พึงรู้ว่าข่าวนี้ไม่ว่าจะดีต่อเยี่ยนจ้าวเกอหรือไม่ พวกเจิ้งหมิงล้วนต้องถาม

ตรงกันข้าม พวกเขาต้องขอบคุณการแจ้งข่าวของเยี่ยนจ้าวเกอ ไม่เช่นนั้นหากเกิดเรื่องแล้วมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ผู้ใดก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดปัญหาเช่นนี้

ระหว่างคนด้วยกัน ความน่าเชื่อถือและความประทับใจแรกสำคัญมาก

คนเหมือนกัน เรื่องเดียวกัน ความประทับใจไม่เหมือนกัน อาจจะมีวิธีการมองที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ที่พูดกันบ่อยๆ ว่า มองอย่างไรก็ถูกใจ หรือ มองอย่างไรก็ขัดลูกนัยน์ตา ก็เป็นหลักการนี้เอง

เฉินจื้อเหลียงตอนนี้มองเยี่ยนจ้าวเกอ กลับชมเชยมากกว่าเดิม ‘เป็นคนหนุ่มที่น่าสนใจนัก ไม่เพียงแต่ในด้านการฝึกปรือจะล้ำเลิศเท่านั้น บุคลิกยังเหนือกว่าคนในระดับเดียวกันด้วย’

ไป๋จื่อหมิงไม่กล่าววาจาตั้งแต่ต้น เพียงมองอย่างเงียบๆ อยู่ด้านข้าง ในใจรำพึงรำพัน

เจิ้งหมิงบังคับเรือนภาร่อนวายุให้ค่อยๆ ออกจากแถบเกาะจิ่งชิง

ขณะมองพายุไร้สิ้นสุดที่ค่อยๆ ไกลออกไปด้านหลัง ทุกคนต่างมีความรู้สึกโล่งใจ

เฟิงอวิ๋นเซิงกับอาหู่มองพวกเจิ้งหมิงและเฉินจื้อเหลียงด้วยความสนใจ

อาหู่ส่งกระแสเสียงเงียบๆ “คุณชาย เพียงบอกพวกเขาแค่นี้ก็พอแล้วหรือ? ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องอาจจะไม่ยอมรับก็ได้ มีคำพูดว่าจับชู้จับคู่ จับโจรใช้เงินโจร พวกเราไม่รู้ตำแหน่งของค่ายกลบูชาฟ้า”

เฟิงอวิ๋นเซิงก็ถามเช่นกันว่า “หรือว่าจะอยู่ที่เมืองหลวงของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง ไม่แน่กระมัง…”

เยี่ยนจ้าวเกอแสยะยิ้ม “ไม่แน่จริงๆ แต่ไม่จำเป็นต้องกังวล พวกเราไม่รู้ แต่มีคนรู้”

อาหู่มองเจิ้งหมิงและเฉินจื้อเหลียงแวบหนึ่ง อดร้องอย่างตกใจไม่ได้ “อย่าบอกนะว่าคนของประมุขตงหนานไม่ต้องไปถามถึงสำนัก คนของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องก็มีคนพาไปดูเอง?”

“แน่นอนว่าไม่ต้อง” เยี่ยนจ้าวเกอพูดด้วยรอยยิ้ม “ดูเงียบๆ เถอะ เดี๋ยวจะเริ่มแล้ว”

หลังจากเจิ้งหมิงครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก็มองเฉินจื้อเหลียงแวบหนึ่ง ออกคำสั่งโดยวิธีส่งกระแสเสียง

เฉินจื้อเหลียงพยักหน้า ร่างหายไปในทันใด

ไม่ทันไร เฉินจื้อเหลียงก็ปรากฏตัวอีกครั้ง จากนั้นก็มอบถุงย่อส่วนใบหนึ่งให้เจิ้งหมิง

เจิ้งหมิงมองเยี่ยนจ้าวเกอกับไป๋จื่อหมิง ก่อนจะหยิบของส่วนหนึ่งออกมาจากในถุงย่อส่วนโดยไม่ปิดบังพวกเขา

เจิ้งหมิงวางค่ายกลบนดาดฟ้าเรือนภาร่อนวายุ

เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อย เป็นอย่างที่คาด พูดถึงความสามารถด้านค่ายกล เจิ้งหมิงก็มีระดับไม่ธรรมดาเช่นกัน

ธารแสงหลายสายรวมตัวกันกลายเป็นลวดลายค่ายกลหลายวง จากนั้นก็ประกอบกันเป็นค่ายกลใหญ่ ค่อยๆ ลอยขึ้น ก่อนจะหยุดนิ่งอยู่เหนือเรือนภาร่อนวายุ

นาทีถัดมา แสงสว่างบนค่ายกลหมุนเวียน ปรากฏเงาแสงหนาหนัก

ด้านในรูปเงาแสง ปรากฏภาพกว้างใหญ่ไพศาล จากนั้นก็มีลำธารไหลริน

ลำธารมายา ยืดยาวออกไปยังที่ไกล เหมือนกับไหลไปหามหาสมุทร

เจิ้งหมิงคงสภาพค่ายกล ส่วนเฉินจื้อเหลียงควบคุมเรือนภาร่อนวายุ

เรือยักษ์เหมือนกับแล่นเข้าไปในลำธารมายา จากนั้นก็เดินทางอย่างราบรื่น

เฟิงอวิ๋นเซิงกับอาหู่ดูจนจุ๊ปากชมเชย อาหู่มองไปยังเยี่ยนจ้าวเกอ เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยว่า “คนที่รู้จักค่ายกลบูชาฟ้า มีวิธีตามหาที่อยู่ของมัน ถึงอย่างไรค่ายกลนี้ก็สร้างขึ้นโดยอาศัยสภาพการหมุนเวียนของใยดิน อีกทั้งยังเป็นค่ายกลบูชาขนานแท้ เพียงแต่ในตอนนี้ข้ามีพลังฝึกปรือไม่พอเท่านั้น”

เขามองเจิ้งหมิงแวบหนึ่ง “แต่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า ถือว่าเพียงพอแล้ว”