“ไม่เพียงแต่ลืมเรื่องระหว่างเจ้ากับข้าในชีวิตนี้เท่านั้น ทว่ายังรวมถึงชาติภพหน้า ชาติภพหน้าอีกแปดชาติภพด้วย และข้าจะไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าตลอดไป”
“มู่หรงฉี เจ้าฟื้นเดี๋ยวนี้! เจ้าได้ยินข้าหรือไม่ อย่าหลับ อย่าหลับ! ”
ทว่าดวงตาของมู่หรงฉียังคงปิดสนิท แม้แต่ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อ และค่อยๆ เย็นลง
ตงหลิงหวงร้องไห้จนเสียงแหบแห้ง
ทันใดนั้นก็มีคนผู้หนึ่งตกลงมาด้านข้างตงหลิงหวง เลือดได้กระเซ็นลงบนตัวและใบหน้าของนาง
ตงหลิงหวงยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้น นางค่อยๆ หันศีรษะพร้อมดวงตาที่กระหายเลือดมองทุกคน คนเหล่านั้นนอนอยู่แทบเท้าของฮ่องเต้หลู่ราวกับมดตัวเล็ก เหมือนดั่งเศษผงฝุ่น ยังไม่ทันเข้าใกล้ฮ่องเต้หลู่ พวกเขาก็ถูกหอกที่อยู่ในมือของฮ่องเต้หลู่แทงทะลุร่างกาย
ภาพของมู่หรงฉีถูกฮ่องเต้หลู่ใช้หอกแทงทะลุร่างพลันปรากฏขึ้นในหัวของตงหลิงหวง แววตากระหายเลือดเข้มขึ้นเล็กน้อย ทันใดนั้น ดูเหมือนภาพคนต่อไปที่ถูกหอกหงหลิงของฮ่องเต้หลู่แทงจะกลายเป็นมู่หรงฉี
ร่างกายของตงหลิงหวงเริ่มสั่นสะท้าน นางค่อยๆ วางมู่หรงฉีลงบนพื้น จากนั้นจึงพลิกฝ่ามือ กระบี่สามเล่มบนพื้นควบรวมกลายเป็นกระบี่เล่มหนึ่งตกลงในมือของนาง
นางลุกขึ้นยืนอย่างเชื่องช้าราวกับเทพสวรรค์ และเดินไปหาฮ่องเต้หลู่ทีละก้าว
ทันใดนั้น สายตาของฮ่องเต้หลู่ก็มองไปที่ร่างของตงหลิงหวง แววตาและมุมปากแสดงออกถึงความเย้ยหยัน
“เจ้ายังจะสู้กับข้าอีกหรือ? เหมือนกับคนโง่พวกนี้ เข้ามารนหาที่ตายเปล่าๆ ในเมื่อเจ้าอยากตาย ข้าจะสนองความต้องการให้เจ้าเอง”
ตงหลิงหวงไม่ได้พูดโต้ตอบฮ่องเต้หลู่ นางยกกระบี่ยาวในมือขึ้น และส่งพลังทั้งหมดในร่างกายไปที่กระบี่ยาวในมือ จากนั้นจึงกระโดดขึ้นและฟันไปทางฮ่องเต้หลู่อย่างสุดกำลัง
ฮ่องเต้หลู่ตอบโต้ด้วยหอกยาวหงหลิงในมือ
ไม่รู้ว่าตงหลิงหวงใช้พลังไปมากเพียงใด จึงสามารถฟันหอกยาวของฮ่องเต้หลู่ที่อยู่ตรงหน้าจนขาดสองท่อน
ขณะที่หอกหงหลิงขาดสองท่อน ฮ่องเต้หลู่ตกตะลึงเล็กน้อย ร่างของเขาเอนไปด้านหลัง หลบกระบี่ที่ฟันมายังใบหน้าของตนได้อย่างฉิวเฉียด ตอนที่ฟันกับอากาศ ตงหลิงหวงส่งพลังไปข้างหน้าอีกสามส่วน
กระบี่ยาว… แทงไปที่ดวงตาของฮ่องเต้หลู่ทันที
“อ้าก… ” ฮ่องเต้หลู่ร้องตะโกนดังกึกก้องไปทั่วสารทิศ และเดินโซเซไปข้างหลังหลายก้าว
ตงหลิงหวงถือกระบี่ยาวไว้ในมือ ก่อนจะเดินตามร่างของฮ่องเต้หลู่ไปข้างหน้า จากนั้นจึงส่งพลังซิวเสวียนไปที่กระบี่ยาวอย่างต่อเนื่อง
“ตงหลิงชาง ข้า ตงหลิงหวงสามารถตายได้ ทว่ามู่หรงฉีไม่อาจตายได้ เจ้าสังหารเขาจริงๆ แม้จะต้องแลกกับชีวิต ข้า ตงหลิงหวงก็ต้องสังหารเจ้าไปพร้อมกับเขา”
ก่อนหน้านี้ ไม่ว่ากระบี่ยาวจะแทงไปที่ร่างของฮ่องเต้หลู่สักกี่ครั้งก็ไร้ประโยชน์ ทว่าตอนนี้ กระบี่ยาวกลับแทงไปที่ดวงตาของฮ่องเต้หลู่ ทำให้เขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด
คำพูดของผู้วิเศษจิ่วเทียนตอนอยู่ในมิติมายาที่ว่าต้องหาจุดอ่อนเพื่อจัดการกับฮ่องเต้หลู่ ปรากฏขึ้นในหัวของตงหลิงหวงอีกครั้ง ทันใดนั้น นางก็ใช้กระบี่ยาวแทงดวงตาอีกข้างของฮ่องเต้หลู่
“อ้าก… ”
ฮ่องเต้หลู่เปล่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง ทันใดนั้น เขาก็แทงและฟันหอกยาวหงหลิงไปยังผู้คนอย่างบ้าคลั่ง
ตงหลิงหวงดึงกระบี่ยาวออกมา ก่อนจะเหาะลงบนพื้น พลางจ้องฮ่องเต้หลู่ที่กำลังคลุ้มคลั่งด้วยสายตาเย็นชาและเกลียดชัง
ดวงตาทั้งคู่ของฮ่องเต้หลู่บอดสนิทเหมือนรูเลือดสองรู หอกยาวในมือไม่ได้ทำร้ายผู้ใดแม้แต่น้อย ทุกคนต่างไม่กล้าเข้าใกล้จึงถอยกลับไปอีกด้านหนึ่ง
ทันทีที่ตงหลิงหวงเหาะลงมาบนพื้น คนผู้หนึ่งที่อยู่ในฝูงชนก็กระโดดขึ้น เขาถือมีดสั้นไว้ในมือและพุ่งแทงใต้รักแร้ของฮ่องเต้หลู่อย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น ฮ่องเต้หลู่ก็ส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่าอนาถยิ่งกว่าเดิม และผลักชายผู้นั้นออกทันที
ตงหลิงหวงขมวดคิ้วแน่น เมื่อเห็นชัดว่าชายผู้นั้นคือตงหลิงจวิ้น นางจึงรีบกระโดดขึ้นคว้าตัวเขาไว้ได้ทัน
เมื่อลงมาบนพื้น ตงหลิงหวงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าร่างของตงหลิงจวิ้นเย็นเฉียบและสั่นเทาไปทั้งตัว
“จวิ้นเอ๋อร์… ”
มือของตงหลิงจวิ้นเต็มไปด้วยเลือด ทันทีที่จับมือของตงหลิงหวง เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงตกใจว่า “พี่หวง ข้าสังหารเขา ข้าสังหารเขา ข้าสังหารเสด็จพ่อของข้าแล้ว… ”
ฮ่องเต้หลู่มีพลังแข็งแกร่งถึงเพียงนั้น มีผู้ที่เสียชีวิตด้วยน้ำมือของเขาไปตั้งมากมายเท่าไร?
แม้แต่นักฆ่าฉีเฟิงและฉานเยวี่ยก็สูญเสียไปมากกว่าครึ่ง มู่หรงฉีก็จากไปแล้ว หากคิดสังหารเขา จะง่ายเหมือนคำพูดหรือ?
ขณะที่ตงหลิงหวงกำลังจะพูดอันใดบางอย่าง นางพลันรับรู้ถึงความผิดปกติ
เมื่อมองฮ่องเต้หลู่อีกครั้ง นางเห็นว่าพลังที่แข็งแกร่งของฮ่องเต้หลู่กำลังถดถอยอย่างรวดเร็ว แม้แต่กล้ามเนื้อปูดโปนก็ค่อยๆ หดตัวลง
ในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนหน้านี้ ฮ่องเต้หลู่ยังมีพลังที่แข็งแกร่ง ไม่เกรงกลัวสิ่งใดแม้แต่น้อย ทั้งดวงตาของเขาก็ถูกทำลายไปแล้ว ใบหน้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเต็มไปด้วยเลือด
ฮ่องเต้หลู่ล้มลงบนพื้นเสียงดัง ‘ตุบ’ และไม่อาจลุกขึ้นได้อีก
ตงหลิงหวงเหลือบมองมีดพกเปื้อนเลือดในมือของตงหลิงจวิ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ ดูเหมือนนางจะเข้าใจบางอย่างเมื่อมองฮ่องเต้หลู่อีกครั้ง
รักแร้…
ที่แท้จุดอ่อนของฮ่องเต้หลู่อยู่ที่รักแร้
เหตุใดก่อนหน้านี้นางไม่เคยคิดถึงจุดนี้?
ก่อนหน้านี้ นางยังคิดว่าจุดอ่อนของฮ่องเต้หลู่คือดวงตาทั้งสอง อย่างไรก็ตาม นางยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดดวงตาทั้งสองจึงทำให้ฮ่องเต้หลู่รู้สึกเจ็บปวด ทว่าไม่ทำให้ถึงแก่ชีวิต
ที่แท้ นางคิดผิดถนัด
ร่างของตงหลิงจวิ้นยังคงสั่นเทา เขามองมีดพกเปื้อนเลือดในมือด้วยความหวาดกลัวและพูดซ้ำๆ ว่า “ข้าสังหารเสด็จพ่อ พี่หวง ข้าสังหารเสด็จพ่อ ข้าสังหาร… ”
ไม่มีผู้ใดเข้าใจว่าฮ่องเต้หลู่มีความสำคัญต่อจิตใจของตงหลิงจวิ้นมากไปกว่าตงหลิงหวง และไม่มีใครเข้าใจความขุ่นเคืองของตงหลิงจวิ้นดีไปกว่าตงหลิงหวงเช่นกัน
ฮ่องเต้หลู่เป็นเสด็จพ่อของเขา ทว่ายังเป็นคนบาปของแคว้นตงเฉิน เขาสังหารผู้คนไปเป็นจำนวนมาก แม้แต่พระชายาหลู่หยางอ๋องซึ่งเป็นภรรยาของเขา เขาก็ยังสังหาร
ตงหลิงจวิ้น ผู้เป็นบุตรชายเห็นทุกอย่างด้วยตาของเขาเอง เขาเกลียดชัง ทว่าไม่อาจทำสิ่งใดได้
ตงหลงหวงนั่งลงและค่อยๆ กอดตงหลิงจวิ้นไว้ในอ้อมแขนของนาง
“ไม่ต้องกลัว จวิ้นเอ๋อร์ไม่ต้องกลัว พี่หวงอยู่ที่นี่ พี่หวงอยู่กับเจ้าเสมอ ไม่ต้องกลัว! ”
ตงหลิงจวิ้นซุกศีรษะตนเองลงในอ้อมแขนของตงหลิงหวงและร้องไห้ออกมา
มือของตงหลิงหวงลูบหลังของตงหลิงจวิ้นอย่างอ่อนโยน ปลอบโยนอย่างแผ่วเบา ทว่าดวงตาของนางค่อยๆ เหลือบมองร่างของมู่หรงฉีที่อยู่ในระยะไกล
ภายใต้แสงจันทร์ ร่างกายที่นอนอยู่อย่างเงียบงันท่ามกลางเลือดเจิ่งนองนั้น ชัดเจนราวกับกำลังหลับไหล
ทว่ากลับเสียดแทงสายตาอย่างยิ่ง
หัวใจของตงหลิงหวงเจ็บปวดเหมือนถูกบางสิ่งดึงรั้งเอาไว้ ดวงตาทั้งคู่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา
แม้ฮ่องเต้หลู่ยังไม่ตาย ทว่าเขาสูญเสียพลังที่แข็งแกร่งไปแล้ว ทั้งยังได้รับบาดเจ็บสาหัส ดวงตาทั้งคู่บอดสนิท ไม่ต่างอันใดกับคนตาย
นักฆ่าฉานเยวี่ยและฉีเฟิงเดินมาข้างหน้าเพื่อรอรับคำสั่งจากตงหลิงหวง
ตงหลิงหวงค่อยๆ ยกตงหลิงจวิ้นออก และมอบให้นักฆ่าฉีเฟิงที่ไว้ใจได้ “เจ้าพาซื่อจื่อและพระชายาหลู่หยางอ๋องไปที่ตำหนัก จำไว้ว่าเจ้าต้องปกป้องซื่อจื่อ ปกป้องความปลอดภัยของซื่อจื่อ หากมีความผิดพลาดอันใดกับซือจื่อ ข้า รัชทายาทจะเอาเรื่องเจ้า”
“พ่ะย่ะค่ะ รัชทายาทโปรดวางพระทัย ตราบใดที่กระหม่อมยังอยู่ ซื่อจื่อต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน” นักฆ่าตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ตงหลิงหวงพูดกับตงหลิงจวิ้นอีกครั้งว่า “จวิ้นเอ๋อร์ เชื่อฟังพี่ พี่หวงให้คนพาเจ้าไปในสถานที่ปลอดภัยก่อน ตอนนี้ภายในวังวุ่นวายอย่างมาก พี่หวงยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ รอให้เสร็จเรื่องแล้ว พี่หวงจะไปหาเจ้า”
แม้ตงหลิงจวิ้นจะหวาดกลัว ทว่ายังมีสติดีอยู่ จึงพยักหน้าทั้งน้ำตา
ตงหลิงหวงมอบตงหลิงจวิ้นให้นักฆ่าผู้นั้น
จากนั้น ตงหลิงหวงก็ยืนขึ้นและเดินไปที่มู่หรงฉีทีละก้าว
สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมคือ การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของตงหลิงหวงรวดเร็วและมั่นคง
นางคุกเข่าลงข้างกายมู่หรงฉี เก็บอารมณ์ความเจ็บปวดในใจ เช็ดคราบเลือดบนใบหน้าของมู่หรงฉี จากนั้นจึงส่งต่อให้กับผู้บัญชาการของนักฆ่าฉานเยวี่ย
“พาฉีอ๋องไปตำหนักบูรพา [1] หากไม่มีคำสั่งจากข้า รัชทายาท เจ้าห้ามออกจากตำหนักบูรพาแม้แต่ก้าวเดียว”
แม้ผู้บัญชาการฉานเยวี่ยจะต้องการร่วมต่อสู้กับตงหลิงหวง ทว่าขอเพียงเป็นหน้าที่ที่ตงหลิงหวงมอบหมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด พวกเขาต่างไม่ขัดข้อง
เขาจึงรีบตอบรับ “พ่ะย่ะค่ะ! ”
จากนั้น สายตาของตงหลิงหวงก็มองไปที่บาดแผลทั้งสามแห่งบริเวณท้องของมู่หรงฉี
“ตามหมอหลวงมาห้ามเลือดและเย็บบาดแผลให้เขา”
“พ่ะย่ะค่ะ! ” ผู้บัญชาการฉานเยวี่ยจากไปพร้อมกับมู่หรงฉี
ตงหลิงหวงค่อยๆ ยืนขึ้นพลางเงยศีรษะและหลับตาลง จากนั้น ไม่รู้ว่านางใช้พลังอันใด กระบี่ที่ระเกะระกะบนพื้นพลันสั่นไหว
ทันใดนั้น เมื่อนางพลิกฝ่ามือ กระบี่หักจำนวนมากจึงควบรวมเป็นกระบี่ล้ำค่าและตกลงในฝ่ามือของนาง
……
เชิงอรรถ
[1] ตำหนักบูรพา หรือบางครั้งอาจเรียกว่า ตำหนักตงกง ซึ่งหมายถึงตำหนักที่ประทับของรัชทายาท