บทที่ 1841 เป็นเรื่องเข้าใจผิดหรือเปล่า
ตอนนี้มุมปากของเยี่ยหวันหวั่นกระตุกเล็กน้อย เดิมทีคิดที่จะซ้อนแผนเข้ามาในบ้านตระกูลซือ แค่ตั้งใจที่จะมาหาเอริกเพื่อที่จะดูว่าเขาเป็นใครและมีจุดประสงค์อะไร…แต่ใครจะไปคิดว่าแม่ง…จะมีเผือกให้กินอีกเพียบ…สืออีคือเอริก เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลย และตอนนี้ เอริกกลับกลายเป็นเหล่าชีแห่งตระกูลซือ พี่ชายคนที่เจ็ดของซือเยี่ยหาน!
ตอนนั้นในประเทศจีน เยี่ยหวันหวั่นมักใช้เวลาปลอบโยนซือเยี่ยหาน และเคยได้ฟังซือเยี่ยหานเล่าถึงพี่น้องตระกูลซืออยู่บ้าง
พี่น้องที่เสียชีวิตด้วยน้ำมือของซือเยี่ยหาน ทุกคนต่างก็ต้องการชีวิตของซือเยี่ยหาน ย้อนกลับไปในตอนแรก ซือเยี่ยหานไม่ได้วางแผนที่จะลงมือกับพวกเขาเลย เพราะถึงแม้ว่าจะไม่ได้เกิดจากแม่เดียวกัน แต่พวกเขาก็เป็นพี่น้องกัน…
แต่อย่างไรก็ตาม พี่น้องเหล่านั้นกลับเห็นว่าซือเยี่ยหานเป็นศัตรูตัวฉกาจ แม้ว่าซือเยี่ยหานจะแสดงความเมตตามาโดยตลอด แต่พี่น้องเหล่านั้นกลับไม่เห็นคุณค่า จนกระทั่งพวกเขาล้ำเส้นซือเยี่ยหาน ทำให้เขาตัดสินใจอย่างเด็ดขาดและฆ่าพวกเขาบางคน
นอกจากพี่ใหญ่แล้ว คนที่ยังเหลือรอดก็คือพี่เจ็ดแห่งตระกูลซือ แต่เยี่ยหวันหวั่นกลับไม่เคยได้ยินซือเยี่ยหานพูดถึงพี่เจ็ดมาก่อน…
แม้ว่าเขาจะไม่อยากเชื่อว่าชายที่อยู่ตรงหน้าคือคุณชายเจ็ดแห่งตระกูลซือ แต่สวี่อี้ก็คิดอย่างรอบคอบแล้ว ดูเหมือนว่าเอริกจะไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะต้องโกหกพวกเขา ตอนนี้เอริกได้กุมอำนาจของตะกูลซือแล้ว อีกทั้งเมื่อเห็นท่าทางของฉินรั่วซีและผู้อาวุโสตระกูลซือที่มีต่อเขาแล้วนั้น ดูเหมือนว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเขาจะต้องน่าเกรงขามเช่นกัน ไม่มีเหตุผลใด ที่ต้องเสแสร้งทำเป็นคุณชายเจ็ดเลย
แม้ว่าไม่อยากยอมรับ แต่สวี่อี้ก็รู้อยู่แก่ใจดีว่าคนผู้ นี้…เป็นคุณชายเจ็ดแห่งตระกูลซือจริงๆ…
“คุณชายเจ็ด…เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับ คุณชายเก้าไม่เคยพูดมาก่อนว่าจะลงมือกับคุณเลยนะครับ” สวี่อี้มองไปยังสืออีและอธิบายอย่างรวดเร็ว
“โอ้…จริงเหรอ” เมื่อได้ยินดังนั้น สืออีก็ยิ้มอย่างเย็นชาพลางเอ่ยว่า“สวี่อี้ พ่อบ้านสวี่ นายคิดว่าฉันจะเชื่องั้นเหรอ”
“แต่คุณชายเก้าไม่เคยพูดว่าจะลงมือทำอะไรคุณชายเจ็ดเลยนะครับ…”สวี่อี้
พยายามอธิบายให้ดีที่สุด
“ช่างเถอะ…ตอนนี้ทั้งหมดล้วนไม่มีความหมาย…” สืออียิ้มเยาะ “พี่น้องที่เหลือก็แค่นั้น…แต่ทำไมซือเยี่ยหานต้องฆ่าเจ้าแปด…น้องแปดตายด้วยน้ำมือของเขา”
เมื่อกล่าวถึงเจ้าแปด แสงอันเย็นชาและน่าสะพรึงกลัวก็ปรากฏขึ้นในแววตาของสืออี
เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก สืออีและเจ้าแปดแห่งตระกูลซือได้ใช้ช่วงเวลาอยู่ด้วยกันในต่างประเทศ…แม้ว่าพวกเขาจะมีพ่อคนเดียวกันแต่คนละแม่ แต่ราวกับเป็นพี่น้องพ่อแม่เดียวกันเลย
สืออีจึงไม่เข้าใจว่าแค่ตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวของตระกูลซือ จะทำให้ซือเยี่ยหานถึงกับฆ่าเจ้าแปด…น้องชายของเขาทิ้งได้ลงคอ
“คุณชายเจ็ด…มันไม่ใช่อย่างที่คุณชายคิดจริงๆ นะครับ คุณชายเก้าให้โอกาสพวกเขาหลายครั้ง แต่พวกเขากลับรวมหัวกันและพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อฆ่าคุณชายเก้า คุณชายเก้าไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ…” สวี่อี้ถอนหายใจ
“หุบปาก!…” สืออีตะโกนเสียงดัง “ฉันไม่สนใจคนอื่น น้องแปดไม่ได้สนใจตำแหน่งหัวหน้าตะกูลซือเลยสักนิด…ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะทำร้ายน้องเก้า…ทั้งหมดนี้เป็นเพราะน้องเก้าต้องการกำจัดขวากหนามทั้งหมด…”
“สืออี ซือเยี่ยหานไม่ใช่คนแบบนั้นนะ” เยี่ยหวันหวั่นมองสืออีและเอ่ยขึ้นหลังจากนั้น
ตอนนั้นที่เยี่ยหวันหวั่นและซือเยี่ยหานยังอยู่ในประเทศจีน เยี่ยหวันหวั่นรู้เรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี
“อ้อ…อาจารย์หมายความว่า พี่ใหญ่โกหกผมงั้นเหรอ” สืออีมองเยี่ยหวันหวั่นอย่างเยือกเย็น
เมื่อเอ่ยถึงพี่ใหญ่ สวี่อี้ก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้
พี่ใหญ่ตระกูลซือ อาจดูไม่มีพิษมีภัย แต่ลับหลังกลับเกลียดชังซือเยี่ยหานมาก รวมทั้งซือเซี่ยลูกชายของเขาด้วย
————————————————————–
บทที่ 1842 พี่เจ็ด นายกำลังตามหาฉันอยู่หรือเปล่า
หากนี่คือสิ่งที่พี่ใหญ่พูดกับคุณชายเจ็ด สวี่อี้ก็ไม่สงสัยอะไรแล้ว…
“คุณชายเจ็ด หากเป็นอย่างที่คุณคิดจริงๆ พี่ใหญ่และซือเซี่ยจะอยู่รอดมาถึงทุกวันนี้ได้ยังไง เกรงว่าคงถูกคุณชายเก้ากำจัดไปนานแล้วนะครับ…” สวี่อี้กล่าว
ตอนนี้ เยี่ยหวันหวั่นกำลังสังเกตสืออีอย่างละเอียด และอดไม่ได้ที่จะแอบขำ พี่เจ็ดตระกูลซือนี่ช่างลึกลับซับซ้อนเสียจริง
ตอนยังเด็กเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับซือเยี่ยหานและเจ้าแปด แต่กลับถูกพี่ใหญ่ยั่วยุให้ขัดแย้งกัน แม้กระทั่งบอกกับสืออีว่า ซือเยี่ยหานค้นหาร่องรอยของเขาทุกหนทุกแห่ง และต้องการที่จะกำจัดเขาให้สิ้นซาก…สืออีจึงไปทำศัลยกรรมและลักลอบเข้ามาปะปนในตระกูลซือ
ในสายตาของสืออี สถานที่ที่อันตรายที่สุด คือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด หลังจากทำศัลยกรรมแล้ว เขาก็แอบปะปนเข้ามาอยู่ในบ้านตระกูลซือและเป็นบอดี้การ์ดลับ ด้วยวิธีนี้ซือเยี่ยหานจะไม่มีวันหาเขาเจอ และคงคาดไม่ถึงด้วยว่าพี่เจ็ดจะกลายเป็นสืออีไปได้…
ยิ่งไปกว่านั้น ในมุมมองของเยี่ยหวันหวั่น สืออีในฐานะที่เป็นพี่เจ็ด เขาต้องเกลียดชังซือเยี่ยหานเข้ากระดูกดำแน่นอน ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ให้พันธมิตรเลือดมาลอบสังหารซือเยี่ยหาน ทว่าพี่เจ็ดคนนี้ก็มีความขัดแย้งในตัวเองอย่างมากเช่นกัน แม้ว่าต้องการชีวิตของซือเยี่ยหาน แต่กลับไม่ต้องการให้ซือเยี่ยหานตาย เพราะอย่างไรเขาก็เป็นน้องชายคนสุดท้องของเขา
ตอนแรกพวกเขาอยู่เป็นเพื่อนกับซือเยี่ยหานในต่างประเทศ แต่ซือเยี่ยหานอาการโคม่าหลังจากป่วยหนัก ดังนั้นพันธมิตรเลือดจึงฉวยโอกาสนี้หมายเอาชีวิตของซือเยี่ยหาน…
และพวกนั้นก็คือคนที่สืออีจ้างมา…หากสืออีต้องการให้ซือเยี่ยหานตายจริงๆ ก็สามารถแสดงตัวออกมา เปิดโปงตัวตนเดธโรสที่เยี่ยหวันหวั่นแอบอ้าง…แต่สืออีกลับไม่ทำ อีกทั้งยังให้ความร่วมมือกับการแสดงละครจนจบ
“ถ้างั้น ตอนนี้ฉันควรเรียกนายว่าพี่เจ็ด หรือว่าสืออี” เยี่ยหวันหวั่นมองสืออีด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
“หึ…ก็แค่ชื่อเรียก แล้วแต่อาจารย์เลยครับ” สืออีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“สืออี จิตใจนายนี่มันขัดแย้งกันจริงๆ” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มอ่อน “ใจหนึ่งก็เกลียดซือเยี่ยหานเข้ากระดูกดำ แต่อีกใจหนึ่งเมื่อเห็นว่าซือเยี่ยหานตกอยู่ในอันตราย นายกลับเป็นห่วงมาก…ไม่อยากให้เขาตาย ที่จริงแล้ว ตอนนั้นในต่างประเทศ ที่ฉันแอบอ้างเป็นเดธโรส ถ้านายอยากให้ซือเยี่ยหานตายจริงๆ ละก็ นายสามารถสั่งให้พันธมิตรเลือดเปิดโปงฉันได้ แต่นายกลับไม่ทำ นายยังห่วงใยน้องชายซือเยี่ยหานคนนี้ใช่ไหม” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยถาม
“ห่วงใยชีวิตเขาเหรอ?”
เมื่อได้ยินเยี่ยหวันหวั่นพูดเช่นนั้น สืออีก็หัวเราะออกมาทันที “อาจารย์…อาจารย์คิดมากเกินไปแล้ว…ผมอยากให้ซือเยี่ยหานตายจริงๆ…แต่ผมหวังให้เขาตายอย่างทรมานต่างหาก ตอนนั้นที่อยู่ต่างประเทศซือเยี่ยหานบาดเจ็บจนโคม่า ถ้าตายไปแบบนั้น มันก็ไม่มีความหมายน่ะสิ สำหรับผมแล้วมันไม่ค่อยสนุกเท่าไร”
“อ้อ?” เยี่ยหวันหวั่นจ้องสืออีอย่างประหลาดใจเล็กน้อย “แต่ก่อนหน้านี้นายไม่ได้บอกว่า ยังไงเสีย ซือเยี่ยหานก็เป็นน้องชาย ไม่อยากให้เขาตายไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนคำพูดแล้วล่ะ?”
คำพูดเพียงไม่กี่คำของเยี่ยหวันหวั่น ทำให้สืออีต้องขมวดคิ้วแน่น
เยี่ยหวันหวั่นมองคุณชายเจ็ดแห่งตระกูลซือได้อย่างทะลุปรุโปร่งตั้งแต่แรกแล้ว จิตใจของเขาสับสนวุ่นวาย ที่จริงแล้วเขามีความผูกพันทางสายเลือดกับซือเยี่ยหาน แต่กลับปากแข็งไม่ยอมรับ แค่ตั้งใจดูการกระทำของเขาก็จะเห็นอย่างชัดเจน
“อาจารย์ เราหยุดคุยกันแค่นี้แล้วบอกผมมาเถอะว่าซือเยี่ยหานอยู่ที่ไหน” สืออีถามเยี่ยหวันหวั่น
เมื่อได้ยินดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็ยักไหล่ “ขอโทษนะลูกศิษย์ ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าน้องชายที่แสนน่ารักของนายอยู่ที่ไหน ถ้านายหาเขาเจอแล้วมาบอกฉันด้วยก็แล้วกัน”
“พี่เจ็ด นายตามหาฉันอยู่หรือเปล่า”
เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ก็พลันมีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น