บทที่ 3023 สลับตัวรัชทายาท 6
ดูเหมือนว่าเมื่อกี้เธอจะหูแว่วไปแล้ว
เสี่ยวซวี่เยวี่ยยังอยู่สุขดีที่ตำหนักนภาลัยของชั้นฟ้าที่เก้า
ส่วนตี้เฮ่า…
จู่ๆ กู้ซีจิ่วก็หลั่งเหงื่อเย็นเฉียบท่วมร่าง!
ถ้าหากเธอคาดไม่ผิดล่ะก็ ตี้เฮ่าคนเมื่อครู่นั้นก็คงเป็นตัวปลอมเหมือนกัน ตี้เฮ่าตัวจริงไม่รู้ว่าถูกจับไปโยนไว้ที่ไหนแล้ว!
มิเช่นนั้นเมื่อครู่ฟั่นเชียนซื่อคงไม่หายตัวไปอย่างเงียบเชียบปานนั้นหรอก ถึงอย่างไรเขาก็เป็นเทพผู้สร้างโลกมิใช่หรือ? เป็นไปไม่ได้ที่จะถูกคนผู้หนึ่งเล่นงานได้ในคราวเดียว…
มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวก็คือ ฟั่นเชียนซื่อกับตี้เฮ่าก่อนหน้านี้ล้วนเป็นตัวปลอม ใช้หลอกลวงเธอกู้ซีจิ่ว ต่อมาตี้ฝูอีหลุดพ้นจากเขตแดน จิตมารรังเกียจว่าจะเกิดความยุ่งยากขึ้น และเกรงว่าฟั่นเชียนซื่อตัวปลอมจะถูกจับพิรุธได้ที่นี่ ดังนั้นจึงทำให้ฟั่นเชียนซื่อตัวปลอมหายไปเสียเลย เหลือไว้แค่ตี้เฮ่าตัวปลอมที่ได้รับบาดเจ็บ…
จิตมารตนนี้มีความรู้สึกต่อตี้ฝูอีเพียงคนเดียว อยู่ข้างกายตี้ฝูอีแล้วไม่มีทางทำร้ายเขา
แต่กับตี้เฮ่าและตี้ซวี่เยวี่ยเกรงว่าคงไม่ไว้ไมตรีเลย!
อย่างไรเสียจิตมารตนนี้ก็เกลียดชังร่างต้นอย่างเธอ!
ซ้ำจิตมารตนนี้ยังมีพลังมหาศาล ไม่แน่ว่าวันหน้านางอาจจะสร้างตี้เฮ่ากับตี้ซวี่เยวี่ยตัวปลอมขึ้นมา แล้วทำร้ายเด็กน้อยตัวจริงทั้งสองให้สิ้นชีพ…
ยามที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวใจ แม้แต่ปลายจมูกของกู้ซีจิ่วก็มีหยาดเหงื่อเย็นเฉียบผุดออกมาแล้ว!
สตรีนั้นอ่อนแอ แต่คนเป็นแม่จะแข็งแกร่ง
ผู้หญิงธรรมดายังสามารถทุ่มชีวิตเพื่อให้ลูกได้อยู่รอดเลย แล้วนับประสาอะไรกับตัวเธอกู้ซีจิ่วเล่า?!
เธอไม่ใช่คนที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆ! เธอต้องหาทางหนีออกไปจากที่นี่ ไปช่วยลูกน้อยทั้งสองของตน!
อีกอย่างต่อให้จิตมารตนนี้จะสวมบทบาทเป็นตัวเธอกู้ซีจิ่วได้เหมือนสักแค่ไหน ก็ไม่อาจตบตาตี้ฝูอีไปได้ตลอด ถึงอย่างไรนิสัยใจคอ รวมถึงรายละเอียดปลีกย่อยในการดำเนินชีวิตของเธอกับจิตมารก็แตกต่างกัน เชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไป ตี้ฝูอีจะต้องค้นพบความจริงแน่ เขาน่าจะหาทางเข้ามาช่วยเหลือเธอเช่นกัน เพียงแต่ระยะเวลาอาจจะยาวนานสักหน่อยก็เท่านั้น
เธอต้องอดทนต่อไป หรือไม่ก็หาทางหนีออกไปให้ได้!
เธอเริ่มคลำหาภายในคุกวารีอย่างช้าๆ เธอไม่เชื่อหรอกว่าคุกผุๆ นี่จะไม่มีรอยปริแยกสักรอยเลยจริงๆ!
เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำลายเขตแดนนะ ขอเพียงเธอพบจุดปริแยกเล็กน้อยภายในคุกนี้ได้ เธอก็สามารถทลายที่คุมขังออกไปได้แล้ว!
คุกวารีทมิฬไม่เล็กเลย จากมุมมองของเธอ มีขนาดเท่าห้องกว่าสิบห้องรวมกัน ถึงแม้ล้วนเต็มไปด้วยวารีทมิฬเช่นนี้ แต่อุณหภูมิกลับแตกต่างกันไป บางที่ก็ร้อนจนลวกผิวคนได้ บางที่ก็ร้อนแค่พอลวกเท้าได้ แต่ยังอยู่ในขอบเขตที่ทนรับไหว…
กู้ซีจิ่วพลันกัดฟัน ตัดสินใจว่าที่ไหนร้อนลวกที่สุดก็แหวกว่ายไปที่นั่นเสียเลย…
หากว่าในคุกวารีทมิฬแห่งนี้มีประตูค่ายกลอยู่ จะต้องซุกซ่อนเอาไว้ในจุดที่คนไม่อาจเข้าถึงได้ง่ายๆ แน่นอน ยิ่งเป็นสถานที่ที่อันตรายมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีความเป็นไปได้มากเท่านั้น…
ขณะที่เธอกำลังกัดฟันควานคลำไปทั่วอย่างอยู่มิสู้ตาย จู่ๆ คล้ายจะจับสัมผัสอะไรได้ พลันเงยหน้ามองออกไปด้านนอก หัวใจเต้นรัวทันที!
ไม่น่าเชื่อว่าตี้ฝูอีจะยืนอยู่ด้านนอก!
มองจากมุมมองของกู้ซีจิ่ว เขายืนอยู่หน้าคุกวารีพอดี เพ่งสายตามองเข้ามาด้านใน…
หลังจากกู้ซีจิ่วทึ่มทื่อไปครู่หนึ่ง ก็แทบจะถลาเข้าไปแล้ว “ฝูอี!”
แต่ตี้ฝูอีกลับไม่ได้มองเธอ หรือไม่ก็ เขายังคงมองไม่เห็นเธออยู่ ถึงแม้สายตาเขาจะมองเข้ามา แต่ก็ไม่ได้สบตากับกู้ซีจิ่วเลย
กู้ซีจิ่วสามารถได้ยินเสียงพูดจากด้านนอกได้ ดังนั้นเธอจึงได้ยินเสียงแผ่วๆ ของเขา “น่าจะเป็นหินก้อนนี้แล้วไม่ผิดแน่…”
เขาเดินวนรอบโขดหินก้อนนี้ จากมุมมองของกู้ซีจิ่ว มองเห็นเขาเดินวนรอบคุกวารี…
‘ซีจิ่ว เจ้าอยู่ข้างในใช่ไหม? ไม่ต้องกลัวนะ!’ มือข้างหนึ่งของตี้ฝูอีทาบลงบนโขดหิน ส่งกระแสเสียงเข้าไป
ไม่น่าเชื่อว่าจะสังเกตเห็นแล้ว!
ช่างสมกับที่เป็นสามีของเธอ จิตมารตนนั้นสวมบทบาทได้แนบเนียนถึงเพียงนั้น เขาก็ยังสังเกตเห็นได้!
เขามาช่วยเธอแล้ว…
กู้ซีจิ่วรู้สึกเพียงว่าโพรงจมูกแสบเคือง ถึงแม้จะยังแช่อยู่ในวารีทมิฬเดือดพล่าน แต่ความสิ้นหวัง ความหวาดกลัว…อารมณ์ด้านต่างๆ กลับเลือนหายไปจนสิ้นแล้ว!
เธอยิ้มทั้งน้ำตาทาบมือผ่านกำแพงที่ขวางกั้นไว้ ราวกับจะถ่ายทอดกำลังให้กันผ่านฝ่ามือของเขา “ฝูอี ข้าอยู่นี่!”
————————————————————————————-
บทที่ 3024 พบหน้า
ตี้ฝูอีย่อมไม่ได้ยินเสียงของเธอ เขาทาบฝ่ามือลงบนโขดหินจับสัมผัสอยู่ครู่หนึ่ง ยังคงสัมผัสถึงอะไรไม่ได้เลย โขดหินก็ยังเป็นโขดหิน ไม่ได้พิเศษไปกว่าก้อนหินเหล่านั้นที่อยู่รอบข้างเลย
แต่ว่า เขามั่นใจว่าเป็นก้อนนี้!
และยิ่งนางไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งร้อนใจเท่านั้น
เขาสูดหายใจเบาๆ คราหนึ่ง ลางสังหรณ์ของเขาไม่มีทางผิดพลาด! และตอนนั้นสายตาของสตรีที่ยึดครองสังขารของซีจิ่วคนนั้นก็เหลือบมาทางนี้บ่อยๆ…
เขาวนรอบโขดหินอีกรอบหนึ่ง เขาไม่อาจบุ่มบ่ามทำลายโขดหินได้ เลี่ยงไม่ให้เป็นการทำร้ายนางที่อยู่ด้านใน
วิชาคลายคำสาปศิลาผนึกวิญญาณมากมายหลายแขนงแวบเข้ามาในสมองเขา สำแดงออกมาทีละอย่างๆ นิ้วมือจรดกันคล้ายบงกช สายรุ้งสายแล้วสายเล่าพุ่งเข้าใส่โขดหินก้อนนั้น…
แต่…ล้วนไม่เป็นผล!
โขดหินนั้นยังคงตั้งอยู่ดีที่ตรงนั้น ไม่บุบสลายเลยสักนิด และไม่เห็นดวงวิญญาณของกู้ซีจิ่วหลุดรอดออกมาเลยด้วย
กู้ซีจิ่วกัดฟันข่มกลั้นอดทนอยู่ด้านใน เธอรู้ว่าตี้ฝูอีมีวิธีเสมอ ถึงแม้เวทวิชาที่เขาสำแดงออกมาจะยิ่งทำให้วารีทมิฬรอบกายเธอเดือดพล่านยิ่งขึ้น ทำให้เธอทุกข์ทรมานกว่าเดิม แต่เธอก็ไม่ร้องเลยสักแอะ…
เพียงแต่ อุณหภูมิของวารีทมิฬเพิ่มสูงขึ้นไม่น้อยเลยจริงๆ กู้ซีจิ่วที่อยู่ด้านในถูกต้มจนค่อนข้างสะลึมสะลือแล้ว แต่ในใจของเธอยังคงกระจ่างแจ้งดี จิตมารตนนั้นไม่ได้ใช้วิชาปิดผนึกแบบธรรมดา!
ยิ่งคนที่ไม่รู้วิธีแก้ไขการคลายผนึกเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้คนที่อยู่ด้านในทุกข์ทรมานมากขึ้น
ดูเหมือนจิตมารตนนั้นจะคิดเอาไว้หมดแล้ว!
เกรงว่าจะมีคนมาช่วยเธอได้ ดังนั้นคุกวารีนี้ที่คุมขังเธอไว้จึงมีเอกลักษณ์พิเศษ
เธอสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวของตี้ฝูอีที่อยู่ด้านนอกได้ มองเห็นเขาวนเวียนเสาะหาวิธีทำลายอย่างไม่หยุดหย่อน ถึงแม้วิชาทำลายเหล่านี้จะไม่ได้ผลเลย แต่ก็สิ้นเปลืองพลังวิญญาณยิ่งนัก ตี้ฝูอีสำแดงออกมาอย่างไม่หยุดพักเลยเช่นนี้ บนหน้าผากจึงปรากฏหยาดเหงื่อออกมาแล้ว…
เธอรู้ว่าเขาต้องเหนื่อยล้ายิ่งนักแน่นอน ช่วงที่ตามหาตี้เฮ่าเกรงว่าเขาก็คงตามหาอย่างไม่หลับไม่นอนเลย ซ้ำยังใช้วิชาต้องห้ามเพื่อมาที่นี่อีก ต่อมาก็ต้องต่อสู้ชิงไหวชิงพริบกับร่างอวตารของจิตมารตนนั้นอีก…
เกรงว่ากำลังของเขาคงเสื่อมทรุดจนเป็นม้าตีนปลายแล้ว!
กู้ซีจิ่วเห็นดวงหน้าหล่อเหลาของเขาซีดเผือดนิดๆ แล้วปวดใจยิ่งนัก เธออยากให้เขาหยุดมือยิ่ง แต่ถ้อยคำใดๆ ของเธอล้วนส่งออกไปไม่ได้เลย
เธอร้อนใจจนแทบจะหมุนวนเป็นวงกลมแล้ว
จู่ๆ ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในสมอง สิ่งนั้นเป็นจิตมารของตน เรื่องที่มันทำได้ก็เป็นเรื่องที่ตนเคยทำได้เช่นกัน บางทีตนเองในชาติก่อนก็คงรู้วิธีทำลายคุกผุๆ แห่งนี้เช่นกัน…
ตอนที่ความคิดนี้แวบขึ้นมา ในสมองเธอคล้ายจะมีคาถาอาคมอันใดแวบเข้ามาด้วย…
ถึงแม้อาคมนี้จะผ่านเข้ามาในสมองของเธอแวบเดียว แต่เธอก็ยังคงคว้าเอาไว้ได้ เพียงแต่พอเธอคิดจะอ่านเนื้อหาของอาคมอย่างละเอียดชัดเจน มันก็หายไปอีกแล้ว
บางทีนี่อาจจะเป็นวิธีทำลายคุกวารีแห่งนี้!
เธอปิดตาลงเล็กน้อย ฝืนอดทนต่อความเจ็บปวดแล้วเพ่งสมาธิไปกับการใคร่ครวญไตร่ตรอง…
เธอใช้ศาสตร์ลับแขนงหนึ่ง ไล่ตามร่องรอยความคิดที่แวบผ่านเข้ามาในสมองโดยเฉพาะ
สวรรค์ไม่ละทิ้งผู้มีมานะ ผ่านไปครู่หนึ่ง อาคมของเธอก็แวบผ่านเข้ามาในสมองของเธออีกครั้ง และครั้งนี้เธอก็คว้าจับเอาไว้ได้เต็มๆ แล้ว!
เธอจดจำอาคมครึ่งหนึ่งบนนั้นได้แล้ว!
มีทางแล้ว!
ขณะที่เธอกำลังจะพยายามต่อไป พลันมีเสียงดังตึงตังแว่วขึ้นริมหู ทำให้เธอสะดุ้งโหยง รีบลืมตาขึ้นมาในทันใด จากนั้นก็โง่งมไปทันที!
ตี้ฝูอี!
ไม่น่าเชื่อ…ไม่น่าเชื่อเลยว่าตี้ฝูอีจะเข้ามาแล้ว!
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คาดคิดเลยว่าด้านในจะมีสภาพแวดล้อมเช่นนี้ หลังจากตกลงสู่วารีทมิฬแล้ว สีหน้าก็ซีดขาวไปแวบหนึ่ง แต่สายตาของเขากลับจ้องตรงไปที่ร่างของกู้ซีจิ่ว สีหน้าเขียวคล้ำไปในทันใด! จากนั้นก็โผเข้ามา “ซีจิ่ว!”
กู้ซีจิ่วตะลึงงัน!
….
คุกวารียังคงเป็นคุกวารีแห่งนั้น กู้ซีจิ่วขดอยู่ในอ้อมกอดของตี้ฝูอี บนร่างไม่มีวารีทมิฬปนเปื้อนอีกแม้แต่นิด
เนื่องจากเขาพลิกฝ่ามือก่อเขตแดนหนึ่งขึ้นมาโดยตรง โอบคลุมเขาและเธอเอาไว้ข้างใน
————————————————————————————-