ในม่านพลังของหลิงฟ่างหัว หลิงตู้ฉิงและมี่ไลทั้งคู่ต่างกอดจูบกันอย่างแนบแน่นอยู่พักใหญ่ จากนั้นพวกเขาถึงผละออกจากกัน
เมื่อผละออกจากกัน มี่ไลกลับรู้สึกเขินอาย ซึ่งความรู้สึกนี้มันไม่ควรที่จะเกิดขึ้นเพราะนางกับหลิงตู้ฉิงนั้นเป็นสามีภรรยากันมาตั้งนานแล้ว
“สามี ทำไมตอนนี้ข้าถึงมีความรู้สึกที่ขัดแย้งกันในใจ ความรู้สึกส่วนหนึ่งของข้ามันเหมือนกับว่าข้ารู้จักท่านมานานมาก ๆ แล้วแต่ความรู้สึกอีกส่วนหนึ่งกลับบอกข้าว่าพวกเราเพิ่งเจอกันเท่านั้นเอง” มี่ไลพูดขึ้นด้วยสีหน้าแดงก่ำ “ที่ข้าบอกว่านานนั้นข้าไม่ได้หมายถึงระยะเวลาหลายร้อยปีที่เรารู้จักกัน แต่ข้าหมายถึงระยะเวลาที่นานกว่านั้นมากราวกับว่าหลายหมื่นปีเห็นจะได้”
หลิงตู้ฉิงถามกลับ “แต่ความรู้สึกที่เจ้ารู้สึกว่ารู้จักกับข้ามานานนั้นมันแรงกล้ามากกว่าใช่ไหม?”
มี่ไลพยักหน้าและพูดว่า “อันที่จริงข้าเองก็เดาได้ลาง ๆ ว่าข้าน่าจะเป็นผู้ที่กลับชาติมาเกิดใหม่เหมือนกับท่าน หรือไม่บางทีข้าอาจจะเป็นคน ๆ เดียวกับพี่หญิงที่อยู่ในยันต์สั่งสวรรค์ก็เป็นได้ เพราะก่อนหน้านี้จู่ ๆ ข้าก็เข้าใจวิชาเทวะสี่ฤดูแปรเปลี่ยนได้ทั้งหมดอย่างกะทันหัน และบ่มเพาะมันได้อย่างรวดเร็วแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และนี่ยังไม่รวมไปถึงบางทีที่จู่ ๆ ข้าก็รู้ในเรื่องบางอย่างที่ข้าไม่น่าจะรู้ได้มาก่อน ซึ่งจู่ ๆ ข้อมูลเหล่านั้นมันก็ปรากฏขึ้นมาในสมองโดยที่ข้าไม่สามารถหาสาเหตุได้”
“ยกตัวอย่างเช่นตอนนี้ที่ข้ามองร่างของท่านอยู่ ข้ากลับสัมผัสได้ถึงปัญหาในร่างของท่านที่ขาดรูปแบบพลังงานชีวิตบางอย่างไปจนเป็นสาเหตุว่าทำไมท่านถึงไม่อาจมีลูกกับข้าและภรรยาคนอื่น ๆ ได้! ข้าสับสนจริง ๆ เพราะข้อมูลเหล่านี้จู่ ๆ มันก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของข้าโดยที่ข้าแน่ใจว่าถ้าเป็นข้าเมื่อก่อน ข้าไม่มีทางสัมผัสหรือรู้ในเรื่องแบบนี้ได้แน่นอน”
มี่ไลรู้สึกสับสนกับตัวเองเป็นอย่างมากในช่วงหลัง ๆ มานี้ แต่แน่นอนว่านางยังแน่ใจว่านางไม่ใช่คนบ้าแน่นอนเพราะนอกเหนือจากข้อมูลต่าง ๆ ที่จู่ ๆ ก็เด้งเข้ามาในหัวของนางแล้ว เรื่องอื่น ๆ นางก็ไม่มีปัญหาอะไร
และด้วยอาการที่นางเป็นแบบนี้ มันกลับทำให้นางสามารถบ่มเพาะในเส้นทางของนางเองโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีหลิงตู้ฉิงคอยชี้แนะเลยด้วยซ้ำ
หลิงตู้ฉิงเดินเข้ามากอดนางและพูดปลอบนาง “จริง ๆ แล้วเจ้าคือผู้ที่กลับชาติมาเกิด แต่มันเป็นเพราะความบังเอิญบางอย่างที่ข้าทำลงไป มันกลับทำให้เจ้ากลายเป็นผู้ที่กลับชาติมาเกิดได้ไม่สมบูรณ์เพราะขาดเศษเสี้ยวเจตจำนงส่วนหนึ่งไป เอาเป็นว่าในตอนนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร เจ้าแค่พยายามทำความเข้าใจกับข้อมูลต่าง ๆ ที่ปรากฏขึ้นในหัวของเจ้าก็พอ แล้วพอผ่านไปอีกหน่อยเจ้าก็จะหายสับสนเอง”
มี่ไลคิดทบทวนอยู่สักพัก จากนั้นนางพยักหน้าและพูดว่า “สามี ตอนนี้ข้าเข้าใจวิชาเทวะสี่ฤดูแปรเปลี่ยนทั้งหมดแล้ว และความสำเร็จในตอนนี้นับได้ว่าผ่านขั้นต้นของเคล็ดวิชาไปเรียบร้อย และข้ายังสำเร็จเต๋าแห่งกาลเวลาในบท 12 ชั่วยามไปเรียบร้อยแล้วเช่นกัน ซึ่งตอนนี้ข้ากำลังก้าวไปบ่มเพาะในช่วงของบท 180 ชั่วยาม สามีเดี๋ยวข้าจะแสดงอาณาเขตสวรรค์ของข้าให้ท่านดู ตามข้อมูลที่ปรากฏในหัวของข้า อาณาเขตสวรรค์ที่ข้าสร้างขึ้นมาใหม่ในตอนนี้นั้นเหนือกว่าสิ่งที่ข้าเคยทำได้สำเร็จมาก่อนซะอีก”
*12 ชั่วยาม (24ชั่วโมง/1วัน)
*180 ชั่วยาม(360ชั่วโมง/1เดือน)
เมื่อพูดจบ มี่ไลก็เปิดใช้อาณาเขตสวรรค์ของนางทันที ซึ่งอาณาเขตสวรรค์ของนางนั้นแปลกมาก ๆ เพราะมันไม่มีพลังแห่งกฎใด ๆ แฝงอยู่เลย
ที่ด้านในอาณาเขตสวรรค์ของนางนั้นให้บรรยากาศเหมือนกับว่าว่าพวกเขาล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าสีครามที่สดใส และมีดาวอยู่ 8 ดวงลอยเด่นเป็นสง่าอยู่
แต่ทางด้านของหลิงตู้ฉิงกลับสัมผัสได้ว่าอาณาเขตสวรรค์ของมี่ไลนั้นมีเสาพลังงานบางอย่างที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าค้ำจุนอยู่ 12 ต้น และดวงดาวทั้ง 4 ดวงเหล่านั้นก็ไม่ได้เกิดจากพื้นฐานการบ่มเพาะขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 12 ของมี่ไลเอง
“บท 180 ชั่วยามตอนนี้ข้าเพิ่งสำเร็จมันได้แค่ 4 ชั่วยาม!” มี่ไลชี้ไปที่ดวงดาวทั้ง 8 ดวงที่ลอยอยู่ในอาณาเขตสวรรค์รอบกายของนาง “ต้องรอให้ข้าสำเร็จบท 180 ชั่วยามได้ทั้งหมดก่อนอาณาเขตสวรรค์ของข้าถึงจะนับได้ว่าสมบูรณ์แบบ”
หลิงตู้ฉิงมองไปรอบ ๆ อาณาเขตสวรรค์ของมี่ไลและพูดว่า “ภรรยาของข้า แนวคิดอาณาเขตสวรรค์ของเจ้าในตอนนี้นั้นคล้ายกับของยี่เทียนเป็นอย่างมาก แต่ว่าแนวคิดของยี่เทียนนั้นอ่อนโยนกว่าของเจ้าเล็กน้อย ส่วนเรื่องความแข็งแกร่งนั้นข้าเองก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าของเจ้าหรือของเขาใครแข็งแกร่งกว่ากัน เพราะว่ายี่เทียนนั้นครอบครองสมบัติที่เหนือล้ำกว่าของเจ้า เอาเป็นว่าข้าแนะนำว่าหลังจากนี้เมื่อเจ้ากลับไป เจ้าก็จงไปหายี่เทียน และถามเขาถึงเรื่องผลึกดวงใจสวรรค์ จากนั้นเจ้ากับเขาก็จงแลกเปลี่ยนแนวคิดและศึกษาแนวคิดของแต่ละฝ่ายให้ดี ซึ่งข้ามั่นใจว่าพวกเจ้าทั้งคู่จะต้องได้รับประโยชน์จากกันและกันเป็นอย่างมากแน่นอน”
มี่ไลพูดขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ “นี่เทียนเอ๋อมีพลังชีวิตมากพอกันกับข้าเลยงั้นเหรอ? ว่าแต่สามี ผลึกดวงใจสวรรค์มันคืออะไร?”
หากเป็นเมื่อก่อนนางจะไม่กล้าเรียกหลิงยี่เทียนว่าเทียนเอ๋อราวกับว่านางเป็นแม่ของเขาแบบนี้
แต่ตอนนี้นางรู้สึกว่าลูกของหลิงตู้ฉิงทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นลูกของนางเช่นกัน เพราะในเวลานี้มุมมองในฐานะของนางต่อหลิงตู้ฉิงนั้นไม่ใช่ภรรยาน้อยของหลิงตู้ฉิงอีกต่อไปแล้ว นางคือหนึ่งในภรรยาหลวงของเขาต่างหาก!
ส่วนเรื่องของผลึกดวงใจสวรรค์ที่นางถามขึ้นมานั้นก็เพราะระยะหลังนี้โดยปกติหากนางได้ยินชื่อแปลก ๆ อะไร มันจะมีข้อมูลของชื่อแปลก ๆ นั้นปรากฏขึ้นมาในหัวทันทีเพื่อให้นางรู้รายละเอียดของมัน แต่กับผลึกดวงใจสวรรค์นั้นมันดันไม่มีข้อมูลอะไรปรากฏเลย..
“ผลึกดวงใจสวรรค์มีอีกชื่อเรียกหนึ่งก็คือผลึกเส้นทางสวรรค์!” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “ในตอนนี้มีแค่ ข้า เจ้า และ ยี่เทียน เท่านั้นที่รู้เรื่องของมัน ซึ่งพวกเราจะให้คนอื่นรู้เรื่องเกี่ยวกับมันไม่ได้เด็ดขาด อันที่จริงถ้าหากข้าไม่ได้เห็นอาณาเขตสวรรค์ของเจ้า ข้าเองก็คงไม่บอกเจ้าเหมือนกัน”
“ที่แท้มันก็คือผลึกเส้นทางสวรรค์นี่เอง!” มี่ไลพูดขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ “เทียนเอ๋อ ช่างโชคดีจริง ๆ”
ในตอนแรกเมื่อได้ยินชื่อผลึกดวงใจสวรรค์ มันกลับไม่มีข้อมูลอะไรปรากฏขึ้นในหัวของมี่ไล แต่เมื่อนางได้ยินชื่อผลึกเส้นทางสวรรค์ข้อมูลต่าง ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาทันที ซึ่งมันทำให้นางได้รู้แล้วว่าผลึกเส้นทางสวรรค์มันมีอำนาจเหลือล้นขนาดไหน
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “มีใครบางคนมอบมันมาให้ข้าน่ะ และอีกอย่างผลึกเส้นทางสวรรค์ชิ้นนี้ก็เป็นแค่ผลึกที่เกิดขึ้นในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับเท่านั้น มันไม่ได้มีอำนาจมากมายเทียบได้กับชิ้นที่เจ้ารู้จักหรอก”
มี่ไลพยักหน้า “อืม เอาเป็นว่าเดี๋ยวถ้าข้ากลับไปที่ทะเลชางหมางเมื่อไหร่ ข้าจะแอบไปพบกับเทียนเอ๋อเพื่อศึกษามันกับเขาเอง แต่ตอนนี้ในเมื่อข้ามีโอกาสได้ออกมาแล้ว ข้าคิดว่าข้าจะติดตามท่านต่อไปอีกสักระยะ ดังนั้นท่านอย่าหวังจะไล่ข้าทางอ้อมแบบนี้ให้ยากเลย!”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ข้าไม่ได้ไล่เจ้าให้รีบกลับไปสักหน่อย เอาล่ะภรรยาของข้า เดี๋ยวข้าคงต้องขอตัวไปช่วยไอ้เจ้าเด็กสำนักเงามายานั่นให้บ่มเพาะได้ก่อน ไม่อย่างนั้นปัญหาของเทียนหยุนคงแก้ไขไม่ได้ง่าย ๆ แน่”
จากนั้นคนทั้งสองก็ออกมาจากม่านพลังที่หลิงฟ่างหัวสร้างขึ้น ซึ่งมี่ไลก็เดินไปหาหลิงฟ่างหัวและพูดว่า “ลูกสาวคนดีของข้า จงเอาเลือดทรราชสวรรค์ที่เจ้าพกติดตัวมามอบให้กับพ่อของเจ้าซะ และปล่อยให้เขายุ่งกับธุระของเขาไป ส่วนพวกเราแม่ลูกออกไปหาของซื้อของสวย ๆ งาม ๆ ในเมืองตามประสาผู้หญิงกันจะดีกว่า”
หลิงฟ่างหัวพยักหน้าอย่างว่าง่าย เพราะในตอนนี้ลูก ๆ ทุกคนที่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงไปของมี่ไลต่างก็พอจะเดาได้เหมือนกันว่า ในตอนนี้มี่ไลกับผู้หญิงในยันต์สั่งสวรรค์นั้นคือคน ๆ เดียวกัน ซึ่งมันทำให้พวกเขาต่างพร้อมใจกันยอมรับว่าสถานะของมี่ไลตอนนี้เป็นเหมือนกับภรรยาหลวงของพ่อเขาอีกคนไม่ใช่ภรรยาน้อยอีกต่อไป
ด้วยความแข็งแกร่งที่หญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์แสดงให้เห็นว่านางสามารถล้างบางอสูรนับล้านตนได้แบบสบาย ๆ ดังนั้นมี่ไลจึงมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะทำให้พวกเขาเชื่อใจ
หลังจากมอบขวดหยกที่บรรจุเลือดทรราชสวรรค์ให้กับหลิงตู้ฉิงเรียบร้อย มี่ไลก็พา หลิงฟ่างหัว จ้าวเหมิงลู่ หิวเฟ่ยเฟ่ย ออกไปเที่ยวเล่นในเมืองทันที
ทางด้านของหลิงตู้ฉิง เมื่อได้เลือดทรราชสวรรค์มาแล้วเขาก็สร้างอ่างโลหะใบโตขึ้นมาและเรียกอุลบาให้เข้ามาหาที่สวนด้านหลังเรือน
“พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องอยู่ดูแถวนี้!” หลิงตู้ฉิงพูดกับเหล่าผู้อาวุโสสำนักเงามายา “ไม่ใช่ว่าข้าหวงวิชากลัวพวกเจ้าจะลอบจดจำเอาไปใช้อะไร แต่ข้ากลัวว่าถ้าพวกเจ้ายังขืนยืนมองกันอยู่ พวกเจ้าคงอดไม่ได้ที่จะหยุดข้าไม่ให้ดำเนินการต่อ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น สิ่งที่ทั้งข้าลงทุนลงแรงกันไปคงสูญเปล่ากันหมด!”
หนึ่งในผู้อาวุโสสำนักเงามายาหัวเราะอย่างกระอักกระอ่วนและพูดว่า “ถ้าหากท่านไม่กลัวว่าพวกข้าจะลอบจำวิธีการของท่าน ถ้าอย่างนั้นมันก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่นา? ที่สำคัญถ้าหากเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา พวกข้าจะได้ช่วยท่านได้อย่างทันท่วงทียังไงล่ะ แบบนั้นไม่ดีกว่าเหรอ?”
อันที่จริงสิ่งที่ผู้อาวุโสสำนักเงามายาอยากจะพูดตรง ๆ ก็คือ ‘ถ้าหากเจ้าเผลอทำคนของข้าตายขึ้นมา ข้าจะทำยังไง?’
หลิงตู้ฉิงเลิกคิ้วขึ้นและพูดว่า “ด้วยความรู้ของข้ามันจะมีปัญหาอะไรได้ยังไง? และอีกอย่างพวกเจ้าเองก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับวิธีการของข้าอยู่แล้ว หากพวกเจ้ารั้งอยู่ไปมันก็เกะกะเปล่า ๆ เอาล่ะออกไปกันได้แล้ว หากพวกเจ้าไม่ฟังข้าและยังดื้อรั้นจะอยู่ให้ได้ ข้าจะไม่เกรงใจล่ะนะ!”