เล่มที่ 30 เล่มที่ 30 ตอนที่ 882 ลำแสงลึกลับ

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

ฟังจากน้ำเสียงในคำพูดของกูซือสาน ดูเหมือนพวกเขาจะมาที่นี่เพื่อท่องเที่ยวชมทิวทัศน์ จากนั้นจึงนั่งดีดพิณ จุดกำยานไปตามทาง การกระทำทุกอย่างเป็นไปเพื่อความสนุกเพลิดเพลินเท่านั้น

ทว่าตงหลิงหวงกลับมองด้วยความขุ่นเคือง ความเดือดดาลในใจกำลังพลุ่งพล่าน

เขาเรียกว่าท่องเที่ยวชมทิวทัศน์ที่ใดกัน? นี่มันเป็นการสังหารหมู่ชัดๆ !

เป็นการฉวยโอกาสตอนที่ภายในแคว้นตงเฉินกำลังเกิดความวุ่นวาย สังหารชาวบ้านในเมืองหลวงแคว้นตงเฉินก่อนที่สถานการณ์ของแคว้นตงเฉินจะคลี่คลาย

เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อดินแดนแคว้นตงเฉิน!

ตงหลิงหวงไม่คิดจะพูดเรื่องไร้สาระกับพวกเขา นางถือกระบี่ยาวไว้ในมือและพุ่งเข้าไปหาหลานอวี่ทันที

ฮั่วซืออวี่ รวมถึงองครักษ์และนักฆ่าทั้งหมดต่างตามไปด้วย

ขณะที่พวกเขามาถึง ตงหลิงหวงได้มอบยาต้านพิษให้ทุกคนกินก่อนแล้ว อีกทั้งกลุ่มคนที่ติดตามมาด้วยล้วนมีฝีมือแข็งแกร่ง สามารถสกัดกั้นเส้นลมปราณ ดังนั้นสารพิษจึงไม่เป็นอันตรายต่อพวกเขา

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ตงหลิงหวงและคนอื่นๆ กำลังจะมาถึงตัวหลานอวี่และกูสือซาน หมอกสีแดงโดยรอบบริเวณกลับหนาขึ้นเล็กน้อย จากนั้นจำนวนแมลงปอโลหิตที่บินออกมาจากพิณของหลานอวี่ก็เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว พวกมันพุ่งโจมตีตงหลิงหวงและคนอื่นๆ

แม้องครักษ์ของตงหลิงหวงจะเป็นยอดฝีมือระดับสูง ทว่าพวกเขาไม่มีทางจัดการกับแมลงปอพิษมากมายเช่นนี้ได้ ไม่นานนัก เหล่านักฆ่าและองครักษ์จำนวนมากก็ถูกพิษจนล้มลงกับพื้น

แมลงปอพิษจำนวนมากห้อมล้อมตงหลิงหวง ตงหลิงหวงใช้ลำแสงกระบี่ต่อต้าน จากนั้นจึงผนึกพลังเทพซิวเสวียน ปกคลุมทุกคนไว้ตรงกลางด้วยลำแสงจากพลังกระบี่ซิวเสวียน

เมื่อเห็นพลังซิวเสวียนของตงหลิงหวง หลานอวี่และกูสือซานพลันขมวดคิ้วแน่นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย ทว่าพวกเขาเริ่มใช้พิษที่รุนแรงมากขึ้นเพื่อจัดการกับตงหลิงหวงและคนอื่นๆ

เมื่อทำนองพิณของหลานอวี่มีจังหวะเร็วขึ้น แมลงปอพิษก็บินออกมาจากพิณโบราณมากขึ้นเรื่อยๆ ในเวลาเพียงชั่วครู่ รอบบริเวณก็ถูกล้อมไปด้วยแมลงปอพิษอย่างหนาแน่น

แม้ตงหลิงหวงและคนอื่นๆ จะมีม่านแสงจากพลังซิวเสวียนปกคลุม ทว่ามันปลอดภัยเพียงชั่วคราว แมลงปอพิษที่อยู่ด้านนอกม่านลำแสงซิวเสวียนโจมตีม่านลำแสงอย่างบ้าคลั่ง

ขณะเดียวกันก็ได้สร้างแรงกดดันให้ตงหลิงหวงอย่างมากเช่นกัน

อย่างไรเสีย แมลงปอพิษเหล่านั้น นอกจากพิษที่อยู่ในร่างของพวกมัน พลังทั้งหมดของพวกมันยังโจมตีมาที่ม่านลำแสงของตงหลิงหวง นางต้องใช้พลังที่แข็งแกร่งมากขึ้นเพื่อต่อต้านพวกมัน

ทว่านางฝึกฝนพลังซิวเสวียนได้ไม่นานนัก ตอนนี้ระดับการบำเพ็ญเพียรฝึกตนยังไม่แข็งแกร่งพอ นางต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการผนึกลำแสงจากพลังเทพซิวเสวียนเพื่อปกป้องตนเองและทุกคน ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ นางจึงยืดหยัดได้ไม่นาน

ไม่นานนัก เม็ดเหงื่อเย็นเฉียบก็ไหลลงมาจากหน้าผากของตงหลิงหวง

“องค์รัชทายาท… ”

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของตงหลิงหวง เหล่านักฆ่าและองครักษ์จำนวนหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียง ต่างร้องเรียกตงหลิงหวงด้วยสีหน้าเป็นกังวล

ตงหลิงหวงแสดงท่าทางจริงจัง “ไม่เป็นอันใด! ”

เหล่าองครักษ์และนักฆ่าไม่มีพลังเทพซิวเสวียน และไม่รู้ว่าพลังภายในของพวกเขาสามารถช่วยตงหลิงหวงได้มากเพียงใด ทว่าภายใต้สถานการณ์ในตอนนี้ พวกเขาสามารถช่วยได้มากเพียงใด ก็ต้องช่วยตามความสามารถ จากนั้นทุกคนจึงร่วมกันผนึกพลังภายในเข้าสู่ร่างกายของตงหลิงหวง เพื่อสร้างเสถียรภาพให้แก่ม่านพลังกระบี่ซิวเสวียน

ตงหลิงหวงใช้จังหวะนี้ยกกระบี่ยาวในมือขึ้น นางควบแน่นพลังซิวเสวียนทั้งหมดเข้าไปในกระบี่ยาวในมือตนเอง จากนั้นจึงค่อยๆ เคลื่อนไปทางหลานอวี่และกูสือซานพร้อมกับม่านพลังกระบี่ซิวเสวียน

กูสือซานยังคงปล่อยหมอกพิษสีแดงจำนวนมาก เสียงพิณของหลานอวี่ดังอย่างต่อเนื่อง แมลงปอพิษบินออกมาจากพิณมากขึ้นเรื่อยๆ

กูสือซานเห็นตงหลิงหวงเคลื่อนม่านพลังเดินเข้ามาใกล้พวกเขาอย่างเชื่องช้า โดยไม่รู้ว่าตงหลิงหวงกำลังคิดจะทำอันใด จู่ๆ เขาก็พูดกับเยี่ยเซินที่ยืนคุ้มกันอยู่ด้านข้างด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ยืนบื้อทำอันใด ยังไม่รีบลงมืออีก? ”

ดวงตาของเยี่ยเซินปรากฏความแข็งกร้าว ไอสังหารในดวงตาทวีความรุนแรง เขายกกระบี่ขึ้นแทงไปทางตงหลิงหวงและคนอื่นๆ

ทว่าม่านพลังของกระบี่ซิวเสวียนทรงพลังมาก เยี่ยเซินไม่มีพลังซิวเสวียน เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำลายม่านพลังกระบี่ซิวเสวียนด้วยพลังภายในทั่วไป ทันทีที่กระบี่ยาวในมือของเขาสัมผัสม่านพลัง มันก็กระเด็นออกมา

เยี่ยเซินลอยคว้างกลางอากาศ เขาดึงจังหวะเท้าที่ถอยหลังอย่างต่อเนื่อง และค่อยๆ เหาะกลับไปบนชายคา

กูสือซานเห็นว่าการโจมตีของเยี่ยเซินไม่สามารถทำร้ายตงหลิงหวงและคนอื่นๆ ได้เลย เขาจึงเหลือบมองเยี่ยเซินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยการดูถูกและรังเกียจ

“พวกไม่ได้เรื่อง ไม่รู้จริงๆ ว่าท่านเจ้าสำนักและฝ่าบาทเก็บขยะเช่นเจ้ามาทำอันใด? ”

หลังพูดจบ กูสือซานก็กระโดดขึ้น เขาผนึกพลังภายในที่ฝ่ามือและโจมตีไปที่ม่านพลังกระบี่ซิวเสวียน

เยี่ยเซินไม่พอใจกูสือซานมานานแล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนย่ำแย่มาโดยตลอด อีกทั้งเมื่อครู่ กูสือซานพูดเหยียดหยามเขาอีก เมื่อเห็นเช่นนี้ แววตาของเยี่ยเซินยิ่งทอประกายความเย็นชา เขาค่อยๆ เก็บกระบี่ยาวในมือและมองกูสือซานด้วยใบหน้าเรียบเฉย ราวกับมองการแสดงฉากเด็ด

เป็นจริงดั่งคาด ฝ่ามือของกูสือซานโจมตีอย่างดุดัน พลังดูเหมือนรุนแรง ทว่าขณะที่ฝ่ามือกระแทกเข้ากับม่านพลังกระบี่ซิวเสวียนกลับไม่มีผลแม้แต่น้อย ไม่เพียงเท่านั้น เขายังถูกพลังของม่านลำแสงสะท้อนกลับอย่างรุนแรง

นอกจากนั้น ขณะที่ฝ่ามือของกูสือซานปะทะกับม่านพลังกระบี่ซิวเสวียน ตงหลิงหวงได้เพิ่มพลังเข้าไปอีกและควบคุมทิศทางแรงสะท้อนกลับของกูสือซาน

ดังนั้น เมื่อเขากระเด็นออกไปจึงรุนแรงอย่างมาก ทั้งยังพุ่งเข้าหาร่างของหลานอวี่

หลานอวี่กำลังจดจ่ออยู่กับการดีดพิณ นางไม่ได้สังเกตกูสือซาน รอจนกระทั่งร่างของเขาปรากฏอยู่เบื้องหน้าก็สายไปแล้ว กูสือซานกระแทกทั้งหลานอวี่และพิณโบราณเข้าอย่างจัง

เมื่อทั้งสองคนล้มลงกับพื้น ตงหลิงหวงจึงเสริมพลังเทพซิวเสวียน ก่อนจะเคลื่อนที่ม่านพลังให้ปกคลุมกูสือซาน หลานอวี่ และเยี่ยเซิน

แม้แมลงปอพิษจำนวนหนึ่งจะเข้ามาด้านในด้วยเช่นกัน ทว่าพวกมันไม่สามารถคุกคามตงหลิงหวงได้ มิหนำซ้ำ ตงหลิงหวงกลับจัดการพวกมันได้อย่างรวดเร็ว

จากนั้น เป้าหมายของทุกคนคือ กูสือซาน หลานอวี่ และเยี่ยเซิน ทุกคนเริ่มโจมตีพวกเขา

พิณโบราณแตกหักเสียหาย แมลงปอพิษด้านนอกม่านพลังไม่มีเสียงพิณคอยควบคุม ทั้งฝูงพลันสับสนอลหม่าน ยิ่งไปกว่านั้น พวกมันยังโจมตีกันเอง มีแมลงปอจำนวนมากที่ถูกพิณควบคุมทำให้มีพลังแข็งแกร่ง ทว่าตอนนี้กลับสูญเสียพลังกายไปมากและค่อยๆ ร่วงลงบนพื้น

ภายในม่านพลังกำลังเกิดการต่อสู้อย่างดุเดือด

ตงหลิงหวงไม่ได้อ่อนด้อยเหมือนในอดีต แม้ทักษะพิษของกูสือซานและหลานอวี่จะแข็งแกร่งกว่า ทว่าวรยุทธ์ของพวกเขาไม่โดดเด่นมากนัก การจัดการกับตงหลิงหวงผู้เดียวก็ยากมากพออยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงองครักษ์และนักฆ่าจำนวนมาก

ไม่นานนัก ผลแพ้ชนะก็ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน กูสือซาน หลานอวี่ และเยี่ยเซินตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ทว่าพวกเขายังพยายามอย่างสุดกำลัง แม้แต่กูสือซานกับเยี่ยเซินยังได้รับบาดเจ็บจากคมดาบหลายจุด

ผลสุดท้าย พวกเขาเสียเปรียบอย่างมาก กูสือซานและหลานอวี่ใช้พิษ คราแรกพวกเขาใช้อาวุธลับอาบยาพิษ ตงหลิงหวงและคนอื่นๆ จึงสามารถรับมือได้ไม่ยาก ต่อมาพวกเขาใช้พิษไร้กลิ่นไร้สี นักฆ่าและองครักษ์ถูกพิษไปหลายคน

ทว่าฝ่ายตรงข้ามมีแผน ตงหลิงหวงก็มีมาตรการรับมือ เวลานี้นางฝึกพลังเทพซิวเสวียนถึงระดับสูง จึงใช้พลังเทพซิวเสวียนจัดการกูสือซานกับหลานอวี่ พวกเขาไม่สามารถต้านทานได้อยู่แล้ว มิหนำซ้ำ นางยังใช้พิษของกูสือซานกับหลานอวี่คืนสนองพวกเขาเอง ผลสุดท้าย กูสือซาน หลานอวี่ และเยี่ยเซิน ทั้งสามคนจึงถูกพิษของตนเอง

คิดจะสู้ก็สู้ไม่ได้ คิดจะหนีก็หนีไม่พ้น กูสือซานกับหลานอวี่ถูกบีบบังคับเหมือนสุนัขจนตรอก จึงตัดสินใจใช้กลวิธีปลาตายตาข่ายขาด [1] ทำให้อากาศภายในม่านพลังเป็นพิษทั้งหมด

ตงหลิงหวงขมวดคิ้วแน่น

ทว่าแม้จะใช้วิธีนี้ นางก็มีวิธีรับมือ

นางรวบรวมพลังเทพ จากนั้นจึงยืนนิ่งอยู่กับที่และค่อยๆ หลับตา

กูสือซาน หลานอวี่ และคนอื่นๆ ไม่เข้าใจสิ่งที่ตงหลิงหวงทำ ทว่าพวกเขาค่อนข้างยินดีที่เห็นองครักษ์และนักฆ่าค่อยๆ ล้มลงมากขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม พวกเขาลำพองใจได้ไม่นาน สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

เนื่องจากในช่วงเวลานั้น ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้น เหล่านักฆ่าและองครักษ์ด้านหลังตงหลิงหวงกลับหายไปในพริบตา

พวกเขาหายตัวไปที่ใด?

ขณะที่กูสือซาน หลานอวี่ และเยี่ยเซินกำลังตกตะลึงและประหลาดใจ เรื่องที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่าก็เกิดขึ้น

ไม่รู้ว่าตงหลิงหวงใช้วิธีใด นางออกจากม่านพลังในชั่วพริบตา รอจนพวกเขาเห็นได้ชัดเจน ตงหลิงหวงและคนอื่นๆ ก็อยู่นอกม่านพลังแล้ว

นี่มัน… เกิดอันใดขึ้นกันแน่?

……

เชิงอรรถ

[1] ปลาตายตาข่ายขาด เป็นคำสุภาษิตจีน อุปมาถึงการต่อสู้ให้ตกตายไปตามกันทั้งสองฝ่าย