เมื่อเห็นสีหน้าที่ตกตะลึงปนหดหู่ของอุลบา หลิงตู้ฉิงก็กลั้นขำของตัวเองสุดฤทธิ์
ศิษย์ทึ่มของเขาไม่ได้เข้าใจในคำว่า ‘หยินหยาง’ เลยแม้แต่น้อย ไม่เช่นนั้นเขาก็คงไม่ทำหน้าตกตะลึงขนาดนี้
หลิงตู้ฉิงค่อย ๆ วาดสัญลักษณ์หยินหยางขึ้นในอากาศตรงหน้าอุลบา และพูดว่า “ตอนนี้ร่างกายของเจ้ากลายเป็นเหมือนสัญลักษณ์หยินหยางนี้ ฝั่งสีขาวคือร่างที่ล่องหนหรือก็คือร่างวิญญาณอเวจีของเจ้า ฝั่งสีดำคือร่างกล้ามเนื้อ ส่วนเส้นตรงกลางที่แบ่งแยกสีขาวกับสีดำก็คือสายเลือดทรราชสวรรค์ที่คอยสร้างสมดุลให้กับสายเลือดทั้งหมดของเจ้า”
“ตอนนี้ร่างกายของเจ้าที่ครึ่งหนึ่งล่องหนและอีกครึ่งกลับยังเห็นได้ชัดเจนอยู่เป็นเหมือนกับสัญลักษณ์หยินหยางที่ข้าวาดตอนนี้ที่สีขาวกับสีดำยังเท่ากันอยู่ แต่วิชาหยินหยางโกลาหลผกผันที่ข้าถ่ายทอดให้กับเจ้านั้นมันสามารถทำให้ฝั่งสีดำกลืนกินฝั่งสีขาวได้ ซึ่งก็หมายความว่าร่างกายของเจ้าก็จะกลายเป็นเด่นชัดไปทั้งร่าง หรือเจ้าจะให้ฝั่งสีขาวกลืนกินฝั่งสีดำสลับมาก็ได้ ซึ่งร่างของเจ้าก็จะกลายเป็นวิญญาณที่ล่องหนได้แทน”
“ถ้าหากเจ้าสำเร็จวิชาหยินหยางโกลาหลผกผันและสามารถใช้มันได้อย่างช่ำชองเมื่อไหร่ เจ้าก็จะสามารถควบคุมสายเลือดของเจ้าได้อย่างใจนึกและเมื่อถึงเวลานั้นเจ้าจะกลายเป็นเผ่าไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็น เผ่ามนุษย์หิน ปีศาจยักษ์ หรือ วิญญาณอเวจี”
“และในเวลาต่อสู้หากเจ้าต้องการให้ร่างของเจ้ากลายเป็นวิญญาณและล่องหนหายไป เจ้าก็จะล่องหนหายไป แต่ถ้าเจ้าอยากจะชกหมัดใส่คู่ต่อสู้เจ้าก็แค่เปลี่ยนหมัดของเจ้าเป็นร่างมนุษย์หิน แค่นี้ศัตรูของเจ้าก็ไม่รู้จะรับมือเจ้าแบบไหนแล้ว”
อุลบากระพริบตามองปริบ ๆ ไปที่สัญลักษณ์หยินหยางที่หลิงตู้ฉิงวาดขึ้น จากนั้นเขาครุ่นคิดอยุ่สักพักและจึงลองโคจรวิชาหยินหยางโกลาหลผกผันเพื่อควบคุมสายเลือดของเขาเองอีกรอบ
ในระหว่างที่หลิงตู้ฉิงกำลังมองอุลบาฝึกฝนรอบใหม่อยู่ มี่ไลก็เดินเข้ามา แต่เมื่อนางเห็นสภาพร่างกายของอุลบาที่ประหลาดตาเป็นอย่างมาก นางก็รู้สึกตกตะลึงและถามขึ้น “นี่มันตัวอะไรกัน?”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “นี่คือศิษย์ของข้าเองที่ข้าเพิ่งจะรับมา เขามีสายเลือดของทั้ง วิญญาณอเวจี มนุษย์หินและปีศาจยักษ์ผสมอยู่ในร่าง ซึ่งเป็นสาเหตุให้ในตอนแรกเขาบ่มเพาะไม่ได้ แต่หลังจากที่ข้าแก้ไขปัญหาสายเลือดให้เขาได้แล้ว ร่างกายของเขาก็เลยเป็นแบบนี้”
“ช่างเป็นร่างกายที่แปลกประหลาดอะไรขนาดนี้!” มี่ไลพูดขึ้นหลังจากที่นางหายจากอาการตกตะลึง นางก็สังเกตเห็นแล้วว่าในร่างกายของอุลบามีพลังอะไรสถิตอยู่บ้าง “ข้าคิดว่าหากท่านฟูมฟักเขาดี ๆ แล้วล่ะก็ ในอนาคตเขาจะกลายเป็นตัวตนที่น่ากลัวมากแน่นอน”
“อันที่จริงเจ้ามาได้เวลาพอดีเลย ข้าคิดค้นวิชาที่ชื่อหยินหยางโกลาหลผกผันให้กับเขา ซึ่งมันยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ ข้าอยากให้เจ้าช่วยข้าดูรายละเอียดของวิชาที่ข้าเพิ่งคิดขึ้นให้หน่อยว่ามันควรจะมีตรงไหนต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง เพื่อที่ข้าจะได้ทำให้มันสมบูรณ์ยิ่งขึ้น” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น จากนั้นเขาก็ถ่ายทอดวิชาหยินหยางโกลาหลผกผันให้กับมี่ไลได้รู้
มี่ไลวิเคราะห์อยู่สักพัก จากนั้นนางส่ายหัวและพูดว่า “สามี ข้าขอโทษด้วยจริง ๆ ตอนนี้ในหัวของข้ามีแต่เรื่องแนวคิดอาณาเขตสวรรค์ของข้าเต็มไปหมด จนมันทำให้ข้าคิดเรื่องวิชาของท่านไม่ออกจริง ๆ ข้าเกรงว่าหากข้าฝืนแบ่งความคิดของข้ามาช่วยท่านปรับปรุงวิชาหยินหยางโกลาหลผกผันแล้วล่ะก็ มันอาจจะเป็นผลเสียต่อทั้งวิชาของท่านและอาณาเขตสวรรค์ของข้า”..
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ไม่เป็นไร งั้นเอาไว้เจ้าว่างเมื่อไหร่เจ้าค่อยลองคิดก็ได้”
มี่ไลยิ้มและตอบกลับ “อืม ถ้าในอนาคตข้าคิดอะไรออก ข้าจะมาบอกท่าน เอาล่ะตอนนี้ข้าไม่รบกวนเวลาท่านศึกษาศิษย์รักของท่านแล้วจะดีกว่า ข้าขอตัวก่อนล่ะ!”
เมื่อพูดจบ มี่ไลก็เดินออกไป แต่หลังจากนั้นสักพักนางก็พาหลิงฟ่างหัว จ้าวเหมิงลู่ และคนอื่น ๆ มาดูร่างกายอันแปลกประหลาดของอุลบา ซึ่งทุกคนต่างก็ตกตะลึงกับภาพที่เห็นเป็นอย่างมาก
พริบตาเดียวเวลาก็ผ่านไปอีก 2 ปี
เมื่อเห็นว่ากำหนดวันคัดเลือกเริ่มใกล้เข้ามา บรรดาผู้อาวุโสสำนักเงามายาก็เริ่มกระสับกระส่าย และยิ่งหลิงตู้ฉิงไม่ออกมาแจ้งความคืบหน้าอะไรกับพวกเขาบ้างเลย พวกเขาก็ยิ่งอยู่ไม่เป็นสุข
เมื่อรู้สึกทนไม่ไหว เหล่าผู้อาวุโสสำนักเงามายาก็ขอเข้าพบกับหลิงตู้ฉิง ซึ่ง หลิงตู้ฉิง กลับเดินออกมาเจอกับพวกเขาแทนที่จะปล่อยให้พวกเขาเข้าไปในสวนด้านหลัง
“คุณชายหลิง อุลบาเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้?” หนึ่งในผู้อาวุโสสำนักเงามายาถามขึ้น
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ตอนนี้ปัญหาสายเลือดของอุลบาถูกข้าแก้ไขไปเรียบร้อยแล้ว แถมในตอนนี้ระดับการบ่มเพาะยังทะลวงไปถึงขอบเขตประสานทะเลปราณเป็นที่เรียบร้อย แต่มีสิ่งหนึ่งที่ข้าต้องบอกกับพวกเจ้าเอาไว้ก่อน ซึ่งก็คือตอนนี้ข้าได้รับอุลบามาเป็นศิษย์ของข้าเรียบร้อยแล้ว”
เหล่าผู้อาวุโสสำนักเงามายาเมื่อได้ยินว่าปัญหาสายเลือดของอุลบาได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว แถมอุลบายังสามารถบ่มเพาะไปถึงขอบเขตประสานทะเลปราณได้อีก พวกเขาก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
แต่เมื่อพวกเขาได้ยินประโยคต่อท้ายที่หลิงตู้ฉิงบอกว่า ในตอนนี้อุลบาได้กลายเป็นศิษย์ของหลิงตู้ฉิงไปแล้ว เหล่าผู้อาวุโสสำนักเงามายาก็ขมวดคิ้วทันทีและถามว่า “คุณชายหลิง นี่ท่านต้องการจะชิงตัวอุลบาไปจากพวกเรางั้นเหรอ? ข้าขอถามหน่อยได้ไหมว่าท่านมาจากสำนักอะไรกัน?”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ข้าแค่รับเขาเป็นศิษย์ของข้าเท่านั้น ข้าไม่เคยคิดแย่งเขาไปจากพวกเจ้าเลยแม้แต่น้อย เหตุผลที่ข้ารับเขาเป็นศิษย์ก็เพราะข้าคิดว่าเขากับข้ามีชะตาที่ถูกกันและข้าก็ไม่อยากที่จะพลาดอัจฉริยะแบบเขาไป ส่วนเรื่องสำนักนั้นข้าไม่มีสำนักอยู่หรอก และข้าก็ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมกับสำนักไหนด้วย!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้อาวุโสสำนักเงามายาก็ผ่อนคลายลงและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นขอให้พวกเราได้เข้าไปถามความเห็นอุลบาก่อนอีกรอบก็แล้วกัน ถ้าหากเขาเต็มใจเป็นศิษย์ของท่านจริง ๆ พวกเราก็คงไม่ขัดอะไร ว่าแต่ตอนนี้พวกเราสามารถเข้าไปดูอุลบาได้แล้วรึยังคุณชายหลิง?”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าอนุญาต จากนั้นเขาก็เดินนำทุกคนเข้าไปด้านในสวน
เหล่าผู้อาวุโสสำนักเงามายาบอกได้ในทันทีระดับการบ่มเพาะของอุลบาตอนนี้ก้าวมาอยู่ที่ขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 3 แล้ว แต่เมื่อเขามองอุลบาไปได้สักพักและจู่ ๆ ก็เห็นแขนและขาของอุลบาหายไป เขาก็ตกตะลึงจนตาแทบจะถลนออกมาจากเบ้า
“นี่มัน…นี่มัน…คุณชายหลิง อุลบากลายเป็นตัวอะไรไปแล้วกัน!?” ผู้อาวุโสสำนักเงามายาตะโกนลั่น
อุลบา ซึ่งกำลังตั้งใจบ่มเพาะอยู่ เมื่อเขาสัมผัสได้ว่าผู้อาวุโสของสำนักเขาเดินเข้ามา เขาก็ผ่อนคลายจนเป็นผลทำให้อวัยวะส่วนต่าง ๆ ในร่างกายของเขากลายเป็นผลุบ ๆ โผล่ ๆ อีกรอบ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ผู้อาวุโสสำนักเงามายาร้องเสียงหลง
เมื่อเห็นสีหน้าของอุลบาที่หดหู่ลงเล็กน้อยเพราะท่าทีของผู้อาวุโสสำนักเงามายา หลิงตู้ฉิงก็โบกมือส่งสัญญาณให้อุลบาตั้งใจบ่มเพาะต่อไป และจากนั้นเขาหันมาตำหนิผู้อาวุโสสำนักเงามายาว่า “เจ้าเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันแท้ ๆ แต่กลับมีสายตาห่วยแตกแบบนี้ได้ยังไง? ข้าล่ะผิดหวังในตัวเจ้าแทนสำนักของเจ้าจริง ๆ! เจ้าดูไม่ออกรึไงว่าร่างกายของเขามหัศจรรย์ขนาดไหน? และนี่คือเหตุผลที่ข้ารับเขาเป็นศิษย์เพราะเขามีร่างกายที่วิเศษไม่เหมือนใคร และข้ามั่นใจว่ามีข้าเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถชี้แนะให้กับเขาได้!”
เมื่อได้ยินหลิงตู้ฉิงตำหนิเช่นนี้ ผู้อาวุโสสำนักเงามายาก็เริ่มสงบสติตัวเองและคิดทบทวนถึงเรื่องร่างกายของอุลบา และจากนั้นเมื่อผ่านไปสักพักแววตาของเขาก็เปล่งประกายและถามว่า “อุลบา สามารถควบคุมร่างกายของเขาได้รึเปล่าคุณชายหลิง?”
“ข้าจะกล้ารับเขามาเป็นศิษย์ได้ยังไงถ้าข้าไม่มั่นใจว่าจะทำให้เขาสามารถควบคุมมันได้?” หลิงตู้ฉิงถามกลับ
ผู้อาวุโสสำนักเงามายาโค้งตัวเล็กน้อย “คุณชายหลิงช่างมหัศจรรย์ยิ่งนัก!”