บทที่ 1855 เดธโรสรุ่นก่อน เอริก
ได้ยินคำพูดนี้ สืออีจึงโกรธทันที “แกกล้า!”
ซือป๋ออี้ยิ้มน้อยๆ และเอ่ยเสียงเบา “เดิมทีฉันไม่ชอบฆ่าคนด้วยตัวเองอยู่แล้ว”
เมื่อสิ้นเสียงของซือป๋ออี้ ก็มีหญิงสาวสีหน้าเคร่งขรึมเดินออกมาช้าๆ
“ฉินรั่วซี…”
หลังจากเห็นหญิงสาว สืออีก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“คุณเอริก”
ฉินรั่วซีไม่ได้สนใจสืออีแม้แต่น้อย ทำเพียงมองซือป๋ออี้ แล้วเอ่ยอย่างเคารพหาใดเปรียบ
“หึๆ…” ซือป๋ออี้ส่งยิ้มบางๆ ให้ฉินรั่วซี
“เชี่ย นายไม่ใช่เอริกงั้นเหรอ…ทำไมถึงเปลี่ยนเป็นพี่ใหญ่ตระกูลซือแล้วล่ะ”
หลังจากได้ยินคำเรียกที่ฉินรั่วซีเรียกซือป๋ออี้ เป่ยโต่วก็หันมองสืออีอย่างสงสัย
“เอริกไม่ใช่ชื่อของคนคนเดียว…”
ไม่นานสืออีก็อธิบาย
“เอริกมีสองความหมาย อย่างแรกเป็นชื่อภาษาอังกฤษเอริก และอีกอย่างคือความหมายที่แท้จริง…ก็คือผู้นำ…ตอนนั้น พี่ใหญ่ตระกูลซือจัดตั้งกองกำลังหนึ่งในประเทศจีน เพื่อให้ฉันปฏิบัติการที่ประเทศจีนได้สะดวก สามารถฆ่าเจ้าเก้าได้ง่ายขึ้น ดังนั้นจึงยกชื่อผู้นำเอริกให้ฉัน…และในจีน ด้วยชื่อเดิมของฉันไม่สามารถเคลื่อนย้ายทหารรับจ้างระดับสูงได้…แต่ชื่อผู้นำเอริกนั้นทำได้…”
“แม่ง ทำมาตั้งนาน นอกจากแกจะถูกพี่ใหญ่หลอกใช้ก็ยังเป็นหุ่นเชิดของเขาอีก…นายนี่ใช้ได้จริงๆ” เป่ยโต่วชูนิ้วโป้งให้สืออี
“หึๆ สืออี แกพลาดอีกแล้ว” ซือป๋ออี้มองสืออี หัวเราะเยาะพลางเอ่ยว่า “เอริกนอกจากมีความหมายว่าผู้นำ…แต่ในรัฐอิสระก็ยังมีอีกความหมายหนึ่ง…ปีศาจแห่งการล้างแค้น”
“เอริก…เอริก…หรือว่า…” เวลานี้ผู้อาวุโสใหญ่หรี่ตา
แม้แต่ผู้อาวุโสสาม หลังจากที่ได้ยินผู้อาวุโสใหญ่กล่าว ก็อดที่จะเผยสีหน้าตกใจเล็กน้อยไม่ได้
“หมายความว่ายังไง” เยี่ยหวันหวั่นมองผู้อาวุโสใหญ่และขมวดคิ้วถาม
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เยี่ยหวันหวั่นคิดว่าเอริกคือชื่อๆ หนึ่งเท่านั้น
“เดธโรส…” เสียงของผู้อาวุโสใหญ่แผ่วเบาราวกับกระซิบข้างหูเยี่ยหวันหวั่น
“เดธโรส!?”
เยี่ยหวันหวั่นตกใจเล็กน้อย นี่มันเกี่ยวอะไรกับเดธโรสกัน…
เดธโรสไม่ใช่ชื่อตัวละครในนิยายหรอกเหรอ…นิยายที่ตระกูลเนี่ยสร้างขึ้น กระทั่งว่ายังขายลิขสิทธิ์ให้ตัวเองแล้ว…
แน่นอนว่าแม้เยี่ยหวันหวั่นจะสงสัยในใจ แต่ก็ไม่อาจแสดงออกมา
“ผู้นำ…ผู้นำน่าจะรู้…ว่าฉายาของเดธโรสรุ่นก่อน…เหมือนว่าจะเป็นเอริกนี่ละครับ” ผู้อาวุโสใหญ่เอ่ยเสียงเบาราวกับกลัวว่าจะไปแตะสิ่งต้องห้ามบางอย่าง
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก นี่เดธโรสแม่งยังมีการสืบทอดต่อกันด้วยเหรอ คนก่อน? หรือว่ายังมีรุ่นแรก รุ่นที่สอง รุ่นที่สาม!?
“เดธโรส…ในรัฐอิสระยังได้ชื่อว่าเป็นนักล้างแค้นที่น่ากลัว…เพราะมีกองกำลังที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่มาก ส่งผลกระทบต่อสมดุลของรัฐอิสระ ดังนั้นรัฐอิสระจึงไม่อาจทนได้…แล้วพอมาถึงเดธโรสรุ่นก่อน…ผมก็จำได้ไม่ชัดเจนเท่าไรแล้ว แต่น่าจะไม่ผิด…เหมือนว่าก็ชื่อเอริก และแปลมาเป็นเอริก ในรัฐอิสระ…เดธโรสรุ่นก่อนก็ถูกเรียกว่าปีศาจแห่งการล้างแค้น…เอริก ก็คือความหมายนี้…” ผู้อาวุโสใหญ่ขมวดคิ้วมุ่น
ในรัฐอิสระไม่มีใครจงใจพูดถึงเดธโรส ถึงขนาดพูดความจริงของการที่เดธโรสสูญสิ้น…กระทั่งว่า ไม่มีใครรู้แม้แต่นิดเดียวว่าเดธโรสรุ่นก่อนถูกทำลายได้ยังไง
เยี่ยหวันหวั่นนิ่งเงียบ
กลายเป็นว่าเนี่ยอู๋หมิงพูดเหลวไหลเหรอ นิยายที่เขียนอะไรกัน…แถมยังหลอกเอาค่าลิขสิทธิ์จากเธอด้วย!
————————————————————–
บทที่ 1856 สมาชิกเดธโรส
แต่ที่ทำให้เยี่ยหวันหวั่นไม่เข้าใจนิดหน่อยก็คือ เนี่ยอู๋หมิงหรือแม้แต่ตระกูลเนี่ยทำไมจึงไม่อนุญาตให้ใครพูดถึงเดธโรส?
ตามความหมายของผู้อาวุโสใหญ่ เดธโรสในรัฐอิสระนับเป็นสิ่งต้องห้าม คนมากมายจึงไม่กล้าพูดถึง ถ้างั้นที่ตัวเองสวมรอยเป็นแม่หม้ายดำ กระทั่งสถาปนาเป็นเดธโรสคนใหม่…นี่แม่ง…ตัวเธอกำลังรนหาที่ตายสินะ…
“ผู้อาวุโสใหญ่…นายบอกว่าเดธโรสล่มสลายไปแล้ว” ใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นเรียบนิ่งแต่ความเป็นจริงกำลังเอ่ยถามเสียงเบา
ผู้อาวุโสใหญ่มองเยี่ยหวันหวั่นแล้วส่ายหน้า ก่อนที่จะกระซิบข้างหู “ผู้นำ…เรื่องนี้ผมก็ไม่แน่ใจครับ…เดธโรสสาบสูญอย่างไร้ร่องรอยไปนาน ผมก็คิดว่าถูกทำลายล้างไปแล้ว…แต่ตัวผมแค่คิดไปเองแบบนั้น…ส่วนที่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเดธโรสกันแน่ก็ไม่มีใครรู้…”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของผู้อาวุโสใหญ่ เยี่ยหวันหวั่นก็มีท่าทางครุ่นคิด ตัวเองสวมรอยเป็นแม่หม้ายดำ หลังจากตั้งตัวเป็นเดธโรสคนใหม่ ตอนที่รับสมัครคนก็เคยได้รู้จากปากคนพวกนั้น ในสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์ยังมีกองกำลังเดธโรสบางส่วนที่ถูกปราบปรามอยู่…หรือว่ายังมีความจริงที่น่าตกใจบางอย่างซ่อนอยู่…
ส่วนเนี่ยอู๋หมิง กระทั่งตระกูลเนี่ยยังไม่อนุญาตให้ใครพูดถึงเดธโรส กระทั่งไม่ลังเลที่จะอ้างกับคนที่ไม่รู้ความจริงอย่างชัดเจนว่าเดธโรสรวมไปถึงแม่หม้ายดำล้วนถูกเสกสรรปั้นแต่งขึ้นมา…เป็นไปได้ไหมว่า เดธโรสจะเกี่ยวข้องกับตระกูลเนี่ย…
หลังจากเยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วครุ่นคิด ก็โยนความคิดนี้ออกจากสมอง นี่เหมือนจะไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ
ตัวเองแค่สวมรอยเป็นแม่หม้ายดำ ตั้งเดธโรสขึ้นมาใหม่…อย่างแย่ที่สุดไว้หลังจากกลับไปก็ค่อยถามเนี่ยอู๋หมิง ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็เปลี่ยนชื่อ อย่าหาเรื่องใส่ตัวก็พอ
“อยากรู้ว่าเอริกแสดงถึงอะไรเหรอ” ทันใดนั้นซือป๋ออี้ก็ยิ้มเย็น “ที่รัฐอิสระของพวกเรา ไม่นานมานี้ชื่อนี้แสดงถึงเลือดและความตาย…แล้วก็ความเกลียดชังและการล้างแค้น…ถึงแม้พวกนายจะไม่เคยได้ยินชื่อรัฐอิสระมาก่อน แต่ก็น่าจะเคยได้ยินชื่อเดธโรสล่ะมั้ง
และสาเหตุที่ฉันถูกตระกูลซือของรัฐอิสระขับไล่ก็เพราะ…ฉันแอบเข้าร่วมกับเดธโรส…
แต่น่าเสียดาย ไม่นานฉันถูกตระกูลซือโบราณจับได้…หลังจากที่ฉันออกจากรัฐอิสระ ก็คิดจะกลับเข้าเดธโรสมาโดยตลอด…แต่น่าเสียดายที่เดธโรสกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่อาจหาเจออีก…เพราะงั้นฉันก็เลยใช้ชื่อเอริก ความจริง จุดประสงค์ก็เพราะฉันอยากให้เดธโรสพบฉัน…ให้ฉันได้กลับเข้าองค์กรใหม่อีกครั้ง…”
พอพูดมาถึงตรงนี้ซือป๋ออี้ก็กวาดสายตามองพวกเยี่ยหวันหวั่น แล้วส่ายหน้า สีหน้าเต็มไปด้วยความโดดเดี่ยว “ช่างเถอะ พวกเธอก็แค่กบในกะลา ไฉนเลยจะรู้ว่ารัฐอิสระคืออะไร…”
ไม่นานนัก ซือป๋ออี้ก็มองสืออีอีกครั้งและยิ้มน้อยๆ “เจ้าเจ็ด แกรู้ไหม…ไม่ใช่แค่แก เจ้าสอง…เจ้าสาม แล้วก็เจ้าแปดพวกนั้น ฉันเคยมอบชื่อเอริกให้กับพวกนั้นมาก่อน แต่น่าเสียดาย พวกแกทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ นะ…ทำชื่อเอริกขายหน้าจริงๆ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ แววตาของฉินรั่วซีก็สั่นไหวเล็กน้อย และมองซือป๋ออี้ “ถ้าคุณใคร่ครวญมอบชื่อเอริกให้ฉันได้…ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวังค่ะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ซือป๋ออี้ก็ยิ้มน้อยๆ “ฆ่าพวกเขาก่อน ให้ฉันดูความก้าวหน้าของเธอ”
“คุณวางใจได้ค่ะ”
ฉินรั่วซีพินิจมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
เวลานั้นฉินรั่วซีไม่เอ่ยวาจา เพียงก้าวช้าๆ ไปหาเยี่ยหวันหวั่น
ตอนอยู่ข้างกายเอริก เธอได้เรียนรู้เทคนิควิทยายุทธ์มากมาย เยี่ยหวันหวั่นตอนนี้ ในสายตาของเธอไม่สามารถทนได้สักการโจมตีเดียว