ตอนที่ 893: ผู้อาวุโสประจำศาลาผู้ช่วยชีวิต

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 893: ผู้อาวุโสประจำศาลาผู้ช่วยชีวิต

วัตถุเซียนส่องแสงสีทองจาง ๆ ตอนที่ยืมพลังของแรงโจมตีเพื่อขับเคลื่อนตัวเองไปข้างหน้า มันเร็วมากและหายไปไกลในพริบตาเดียว

“ไล่ตามมันไป ! ” แม่ทัพศักดิ์สิทธิ์และผู้อาวุโสคุมวินัยทั้งสามเริ่มที่จะไล่ตามมันไป แม้ว่ามันจะหายไปจากระยะสายตาของพวกเขาไปแล้ว พวกเขายังสามารถหาร่องรอยได้จากพลังแห่งการมีอยู่ของมัน

อย่างไรก็ตาม ความคิดเพิ่มเติมจากนั้นก็ปรากฏขึ้นในหัวของพวกเขาทั้งเจ็ด นอกจากพวกเขาต้องการจะเอาตัวเจี้ยนเฉินกลับไปแล้ว พวกเขายังมีความโลภที่จะเอาวัตถุเซียนเพิ่มด้วย

สมบัติที่ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนหลังจากที่โดนการโจมตีทั้งเจ็ดของพวกเขาเข้าไป พร้อมกับสามารถเก็บผู้คนไว้ข้างในได้ นี่มันช่างล่อลวงใจจอมยุทธในระดับพวกเขาจริง ๆ

“หยุดพวกนั้นไว้ ! ” เล่อป้าเทียนพร้อมกับฉิงยี่หยวน โม่ซีรันและโอวหยุน พวกเขาทุ่มเทพลังทั้งหมดในการที่จะหยุดคนทั้งเจ็ดเอาไว้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังคงมองไปยังทิศทางที่วัตถุเซียนบินออกไปด้วยจากมุมของสายตาของพวกเขาเป็นครั้งคราว สายตาของพวกเขาเป็นประกาย

แม้แต่คนทั้งสี่ยังรู้สึกถูกยั่วยุเล็กน้อยจากสมบัติที่มหัศจรรย์นั้น อย่างไรก็ตาม พวกเขายังไม่ลืมเกี่ยวกับภารกิจของพวกเขาและไม่ลืมว่าพวกเขาได้รับคำสั่งส่วนตัวจากเจ้าศาลาของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลว่าให้นำพวกนั้นกลับมาอย่างปลอดภัย

วัตถุเซียนเดินทางไปหลายร้อยกิโลเมตรก่อนที่จะหมดแรงส่ง มันเริ่มที่จะช้าลงและตามมาด้วยแสงไฟวาบขึ้นมา พวกเขาทั้งสามโผล่มาอยู่ที่ใดไม่รู้ และวัตถุเซียนก็เปลี่ยนเป็นแสงสีทองก่อนที่จะหายไปที่หว่างคิ้วของเจี้ยนเฉิน

“วัตถุเซียนไม่เร็วเท่าพวกเรา พวกเราไม่สามารถอยู่ในนั้นได้ตลอดไป เพราะว่ามันจะเป็นปัญหาถ้าคนของศาลาเทพเจ้าอสรพิษหรือศาลาวิญญาณสวรรค์จับมันและเอามันกลับไปที่ศาลาของพวกเขา” เจี้ยนเฉินคำรามออกมา เจ้าศาลาทั้งสองเป็นเซียนจักรพรรดิ ดังนั้นพวกเขาจึงมีพลังที่จะทำลายวัตถุเซียนได้

“ดูเหมือนศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลจะส่งคนทั้งสี่มาเพื่อพวกเรา โชคดีที่เจ้าไม่ได้ไปทำให้พวกเขาทั้งสี่โกรธอีก ไม่เช่นนั้นจะไม่มีที่ในอาณาจักรทะเลอันกว้างใหญ่ให้ข้าอยู่อีกแล้ว พวกเราควรออกจากนี้ให้เร็วเพื่อไปที่อาณาเขตของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” ซี่หวังพูดอย่างเคร่งเครียด มีความกังวลเล็กน้อยในเสียงของเขาเพราะเขาพบว่ามันยากที่จะยังคงสงบได้เมื่อถูกไล่ตามมาโดยเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 ถึง 7 คน

ทั้งสามเร่งความเร็วจนถึงขีดสุด พวกเขาเหลืออีกเพียงแสนกิโลเมตรเท่านั้นจากชายแดน

พลังแห่งการมีอยู่ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสามโผล่ขึ้นมาด้านหลังอย่างรวดเร็ว สามจากเจ็ดคนหลุดออกมาจากกลุ่มของเล่อป้าเทียนได้และกำลังบินด้วยความเร็วสูงเข้ามาหาพวกเขาทั้งสาม เล่อป้าเทียนและอีกสามคนกำลังตามหลังมาติด ๆ เพื่อที่ต้องการที่จะหยุดพวกเขาทั้งสาม ด้านหลังพวกเขาทั้งสี่ มีจอมยุทธอีก 4 คนที่ต้องการจะหยุดกลุ่มของเล่อป้าเทียนเช่นกัน พวกเขาต้องการให้คนทั้งสามด้านหน้าหยุดกลุ่มของเจี้ยนเฉินให้ได้

ในขณะที่พวกเขารีบตามเข้ามา พวกเขาก็ใกล้กับกลุ่มของเจี้ยนเฉินเข้ามาเรื่อย ๆ

ในขณะที่พลังแห่งการมีอยู่ที่ยิ่งใหญ่ 11 ดวงบินเหนือเผ่าและกลุ่มอย่างไม่สนอะไร มันก็ทำคนจำนวนมากของเผ่าพันธุ์ทะเลรู้และทำให้พวกเขาวุ่นวาย การต่อสู้ระหว่างจอมยุทธ 16 ดาวนับสิบคนเป็นอะไรที่หายากมากในโลกนี้ มันไม่ปกติเลยแม้จะเป็นในรอบหลายพันปีก็ตาม เรื่องนี้ต้องดังกระหึ่มไปทั่วทั้งอาณาจักรทะเลแน่

ในตอนนั้นเอง ยังมีเซียนผู้คุมกฎที่สะกดรอยตามจอมบุธทั้งสิบเอ็ดคนจากศาลาทั้งสามอยู่พร้อมด้วยเซียนราชาอีกบางคน พวกเขามาเพื่อดูการต่อสู้นี้ ไม่มีใครที่อยากเข้าไปยุ่งด้วย

หัวใจเจี้ยนเฉิน นูบิสและซี่หวังเริ่มเต้นแรงอีกครั้งเมื่อพวกเขาเห็นเซียนราชา 3 คนตามพวกเขามาอยู่ด้านหลัง เซียนราชาเร็วกว่าพวกเขาทั้งสามและอาจจะไล่ตามพวกเขามาทันก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปในอาณาเขตของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ

สายตาของนูบิสแน่วแน่ขึ้นมา เขาขบฟัน “ข้าจะใช้แก่นแท้ของชีวิตของข้าเพื่อที่จะหนีไปกับพวกเจ้าทั้งสองคน” หลังจากพูดจบ ไฟสีทองก็ปกคลุมไปทั่วนูบิส ไฟนี้ไม่ร้อนแต่เต็มไปด้วยไฟสว่างจ้าในอาณาจักรทะเลสีฟ้า เหมือนพระอาทิตย์กำลังเปล่งแสงสว่าง

นูบิสแลกแก่นแท้ของชีวิตเพื่อความเร็วที่สุดยอด พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นเหมือนดาวหางแสงสีทองและพุ่งไปไกล นูบิสไม่ต้องการจะทำแบบนี้แต่เขาไม่มีทางเลือกในสถานการณ์แบบตอนนี้

ไฟสีทองพวกพุ่งรอบ ๆ ร่างของนูบิสในขณะที่แก่นแท้ชีวิตของเขากำลังถูกใช้ไปเรื่อย ๆ ผิวเขาเริ่มเหี่ยวแบบสังเกตเห็นได้ในขณะที่ร่างกายของเขาก็หดลง พลังแห่งการมีอยู่ของนูบิสอ่อนลงเรื่อย ๆ ในขณะที่แก่นแท้พลังชีวิตของเขาถูกใช้ไป ความแข็งแกร่งของเขาถดถอยลงไปแต่ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นถึงในระดับที่น่ากลัวเป็นการแลกเปลี่ยนกัน เขาเร็วเท่าเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 4 แล้วในตอนนี้

แม้ว่าเขาจะเผาพลานแก่นแท้พลังชีวิตของเขาไป นูบิสก็ยังไม่เร็วกว่าคนที่ตามมาด้านหลัง อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยมันก็มีช่องว่างให้หนีเพื่อให้คนที่ตามจับพวกเขาได้ชั่วคราว

“บ้าเอ้ย ทำไมเขาถึงเพิ่มความเร็วได้มากขนาดนั้น ? ” ท่าทางของคนทั้งสามที่ตามมาด้านหลังทั้งหมดเปลี่ยนไป พวกเขาเหลืออีกแค่เพียง 30 กิโลเมตรเท่านั้นก่อนที่จะถึงอาณาเขตของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล

“ไป ไป ไป พวกเราเกือบถึงแล้ว พวกเราจะปลอดภัยถ้าพวกเราไปถึงที่นั่น” คนทั้งสามต่างไปด้วยความกังวลใจ พวกเขาจ้องเขม็งไปที่เซียนราชา 3 คนที่ห่างออกไปน้อยกว่า 30 กิโลเมตร เซียนราชา 3 คนไม่กล้าที่จะโจมตีระยะไกลเพราะพวกเขากลัวว่ามันจะช่วยคนทั้งสามแทนที่จะทำให้บาดเจ็บ

มันกินเวลาประมาณ 2 ก้านธูป คนทั้งสามได้มาถึงพรมแดนระหว่างศาลาวิญญาณสวรรค์และศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล เซียนราชาทั้งสามอยู่ห่างอีกแค่เพียง 10 กิโลเมตรจากพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะไปถึง

“พวกเราให้พวกนั้นผ่านไปไม่ได้ หยุดมิติเอาไว้” แม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ตะโกนออกมา

ในตอนนั้นเอง คนทั้งสามที่มาจากองค์กรที่ต่างกันก็ร่วมมือกันไปโดนปริยาย พวกเขาหยุดมิติพร้อม ๆ กัน

ทันใดนั้นเอง รอบ ๆ คนทั้งสามก็หยุดนิ่ง พวกเขาต้องการที่จะขังคนทั้งสามเพื่อหยุดไม่ให้ทั้งสามหนี

อย่างไรก็ตามมันไม่ง่ายที่จะหยุดมิติที่ห่างออกไป 10 กิโลเมตรแม้ว่าพวกเขาจะเป็นเซียนราชาก็ตาม พวกเขาต้องใช้เวลาเพื่อที่จะหยุดมิติ มิติพันธนาการกระจายออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและไล่ตามทั้งสามคนไป ทั้งสามมีเวลาไม่มากแล้ว

“นูบิส บินเร็วกว่านี้อีกหน่อย ! ” เจี้ยนเฉินร้องออกมาอย่างรวดเร็ว พวกเขาใกล้กับชายแดนอีกนิดเดียวเท่านั้น

“บ้าเอ้ย มิติพันธนาการเกือบจะไล่พวกเราทันแล้ว เร็วกว่านี้ ! ” ซี่หวังโวยวายและร้องออกมาอย่างกังวลใจ

นูบิสขบฟันแล้วตะโกนออกมา แสงไฟสีทองที่อยู่รอบเขาสว่างมากกว่าเดิมในขณะที่พวกเขาพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่มากกว่าก่อนหน้านี้ ในท้ายที่สุด พวกเขาก็ข้ามชายแดนไปได้ก่อนที่มิติพันธนาการจะมาถึงพวกเขา พวกเขาเข้ามาในเขตของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลแล้ว

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะได้ฉลอง มิติพันธนาการก็ข้ามชายแดนมาเช่นกัน มันปกคลุมทั้งสามและยึดทั้งสามเอาไว้แน่น

ใจทั้งสามเขาตกไปอยู่ตาตุ่มและใบหน้าของทั้งสามเริ่มที่จะหวาดวิตก ถ้าคนของอีกสองศาลาไม่สนใจข้อตกลงและข้ามมายังดินแดนของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล พวกเขาจะทำอย่างไร

“ผู้อาวุโสคุมวินัยของศาลาวิญญาณสวรรค์ แม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ พวกเจ้าเป็นคนของศาลา เจ้าพยายามที่จะเพิกเฉยต่อข้อตกลงระหว่างพวกเราศาลาทั้งสามและต้องการที่จะเผชิญหน้ากับคนของดินแดนศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลอย่างนั้นหรือ ? ” เสียงหนักแน่นของเล่อป้าเทียนดังมาจากด้านหลัง เสียงนั้นโกรธเกรี้ยวมาก

เซียนราชาทั้งสามคนยึดกลุ่มของเจี้ยนเฉินเอาไว้และไม่สนคำพูดของเล่อป้าเทียน พวกเขาข้ามพรมแดนไปพร้อมกัน แต่ละคนประกบกลุ่มของเจี้ยนเฉินไว้คนต่อคนเพื่อที่จะพยายามดึงทั้งสามออกจากดินแดนของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล

“พวกเราจบสิ้นแล้ว” ซี่หวังถอนหายใจในใจ ไฟแห่งความหวังในใจของพวกเขาได้เหือดหายไปและแม้แต่ใบหน้าของนูบิสและเจี้ยนเฉินยังสลด พวกเขาพยายามอย่างมากและหนีมายังดินแดนของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลจากเซียนราชาทั้งเจ็ดได้ แต่ทั้งสามไม่คิดเลยว่าผลลัพธ์มันจะไม่เพียงพอและทำให้ถูกจับได้

จอมยุทธทั้งสามจับไหล่ทั้งสามไว้ พวกเขาต้องการที่จะลากทั้งสามออกจากชายแดน ท่าทางของพวกเขาเปลี่ยนไป พวกเขาทั้งหมดตกตะลึง

ทันใดนั้นเองพวกเขาพบว่าพวกเขาถูกตรึงอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยจากพลังลึกลับและไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เลย พวกเขาทั้งสามเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 แม้แต่ทั่วทั้งอาณาจักรทะเล พวกเขายังเป็นจอมยุทธระดับต้นต้น แต่มีบางคนที่สามารถพันธนาการพวกเขาทั้งสามเอาไว้ได้โดยพวกเขาไม่รู้ตัวเลย คนผู้นี้ทรงพลังขนาดไหนกัน ? พวกเขาตกตะลึง

“นี่เป็นความสามารถของตระกูลจักรพรรดิ ทักษะพันธนาการนี้ใช้เพื่อการควบคุมคนอื่น” หนึ่งในแม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ร้องออกมา ใบหน้าของเขาถอดสี

“บ้าเอ้ย มีบางคนจากตระกูลจักรพรรดิช่วยอยู่ลับ ๆ พวกเราติดอยู่ที่นี่แล้ว” หนึ่งในผู้อาวุโสคุมวินัยรู้ตัวอย่างรวดเร็ว และร้องตะโกนออกมาทันทีเพื่อเตือนสหาย

เล่อป้าเทียน ฉิงยี่หยวนและโอวหยุนทั้งหมดก็ได้ข้ามชายแดนมาเช่นกัน ทั้งหมดกลับมาสู่ดินแดนของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ในขณะเดียวกัน จอมยุทธทั้งสี่จากอีกทั้งสองศาลาหยุดที่พรมแดนของศาลาวิญญาณสวรรค์ พวกเขามองไปที่เซียนราชาทั้งสามคนที่ติดอยู่อย่างไม่สบายใจและไม่ต้องการที่จะออกไปช่วยเลยแม้แต่น้อย

“หืม พวกเจ้าศาลาเทพเจ้าอสรพิษและศาลาวิญญาณสวรรค์กล้ามากจริง ๆ ที่ข้ามมายังดินแดนของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล” เสียงนุ่มนวลและมีชีวิตชีวาดังอ้อยอิ่งออกมาจากอากาศ หญิงในชุดสีฟ้าที่มีความงดงามยิ่งนักปรากฎออกมาจากที่ใดก็ไม่ทราบ

หญิงผู้นี้งดงามอ่อนโยนมาก ในขณะที่ผมสีฟ้าของนางยาวลงมาประบ่าเหมือนน้ำตก นางถือคทายาวสีห้า และลอยอยู่ 100 เมตรเหนือท้องฟ้าด้วยเท้าเปล่า นางไม่เผยกลิ่นอายใดราวกับเป็นส่วนหนึ่งกับสิ่งแวดล้อม

เซียนราชาทั้งเจ็ดจากทั้งสองศาลาอึ้งเมื่อเห็นนาง ใบหน้าของพวกเขาไร้สีเลือด ในขณะที่เล่อป้าเทียนและอีก 3 คนยินดีมาก พวกเขาป้องมือไปยังหญิงผู้นั้นพร้อมกันแล้วพูดว่า “พวกเราขอคารวะผู้อาวุโสประจำศาลา”