บทที่ 3053 ปัจฉิมบท 18 / บทที่ 3054 ปัจฉิมบท 19

ลำนำบุปผาพิษ

บท​ที่​ ​3053​ ​ปัจฉิม​บท​ ​18

ถึงขั้น​ที่​ยัง​มีพลัง​ยุทธ์​ลึกลับ​สาย​หนึ่ง​หลั่งไหล​เข้ามา​ด้วย​ ​ทำให้​พลัง​ยุทธ์​ของ​เขา​พุ่ง​ทะยาน​…​เมื่อ​ออก​ไป​จาก​ที่นี่​แล้ว​ ​เขา​จึง​ได้​กลายเป็น​เทพ​ผู้สร้าง​โลก​องค์​ใหม่​สดๆ​ ​ร้อน​ๆ​…

เนื่องจาก​ม้วน​ตำรา​เหล่านี้​ดู​เก่าแก่​โบราณ​ยิ่ง​ ​อีกทั้ง​ลายมือ​ที่อยู่​บน​นั้น​เขา​ก็​ไม่เคย​เห็น​อาจารย์​เขียน​มาก​่อน​ ​ดังนั้น​เขา​ไม่มีทาง​คาดคิด​ถึง​เลย​ว่า​ม้วน​ตำรา​เหล่านี้​เป็น​สิ่ง​ที่​อาจารย์​เขียน​ขึ้น​…

พลัง​ยุทธ์​แห่ง​เทพ​ผู้สร้าง​โลก​ของ​เขา​ได้รับ​มาจาก​ม้วน​ตำรา​เหล่านี้​ ​ยาม​นั้น​เขา​หลง​นึก​ว่า​เป็น​สิ่ง​ที่​สวรรค์​ประทาน​ให้​เขา​ ​ที่แท้​แล้ว​กลับเป็น​ทักษะ​ที่​อาจารย์​ส่งมอบ​ต่อให้​เขา​…

พลาด​แล้ว​!​ ​เป็น​เขา​ผิดพลาด​ไป​แล้ว​!

อาจารย์​ของ​เขา​ไม่เคย​ผิด​ต่อ​เขา​เลย​ ​มองว่า​เขา​เป็น​ศิษย์​มาโดยตลอด​ ​สุดท้าย​ก็​ยัง​ทิ้ง​พลัง​ยุทธ์​ทั้งหมด​เอาไว้​ให้​เขา​ ​ไม่ได้​ทิ้ง​ไว้​ให้​ตี้ฝู​อี.​..

เป็น​เขา​เข้าใจผิด​ไป​!​ ​ซ้ำ​ยัง​เข้าใจผิด​มา​เนิ่นนาน​ปานนี้​!

ร่างกาย​เขา​แข็งทื่อ​ไป​หมด​ ​ใบหน้า​ยิ่ง​ร้อนผ่าว​ ​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​แทบจะ​ทรงตัว​ไม่อยู่​แล้ว

แต่ว่า​ ​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​ตี้ฝู​อี​ใน​ปีนั​้น​เล่า​?

ทำไม​หลังจาก​อาจารย์​ดับขันธ์​ไป​แล้ว​ ​พอ​เขา​ออกมา​พลัง​ยุทธ์​ถึง​เพิ่มพูน​ขึ้น​?

สตรี​นาง​นั้น​เขียน​อักษร​ได้หน้า​หนึ่ง​แล้ว​ ​ค่อนข้าง​เหนื่อยล้า​ ​จึง​นวด​หว่าง​คิ้ว​ ​ลุกขึ้น​มา​ ​มองดู​ม้วน​ตำรา​บน​โต๊ะ​แล้ว​ถอนหายใจ​เฮือก​หนึ่ง​ ​“​พลัง​ยุทธ์​ของ​เด็ก​คน​นั้น​ไม่​เพียงพอ​ ​ยัง​ไม่​อาจ​เข้ามา​ได้​ชั่วคราว​ ​รอ​จน​มังกร​ประทีป​ฟัก​ออกมา​แล้ว​ ​ด้วย​ความช่วยเหลือ​จาก​พลัง​ของ​มังกร​ประทีป​ ​เขา​จะ​ได้​ไม่​ถึงขั้น​ถูก​เขตแดน​ของ​แดน​ต้องห้าม​นี้​ทำร้าย​เอา​…​คาด​ว่า​อีก​ไม่​กี่​ปีก​ว่า​เขา​คง​เข้ามา​สืบทอด​มรดก​เหล่านี้​ได้​แล้ว​ ​น่าเสียดาย​ที่​ข้า​จะ​ไม่เห็น​วันที่​เขา​ได้​กลายเป็น​เทพ​ผู้สร้าง​โลก​ ​เด็ก​คน​นั้น​พะวง​ใน​ตัว​ข้ามาก​เกินไป​ ​หากว่า​ปล่อย​ให้​เขา​เห็น​ตอน​ข้า​ดับขันธ์​ ​คาด​ว่า​เขา​คง​บ้าคลั่ง​ขึ้น​มา​ ​ดังนั้น​ข้า​จึง​ให้​เขา​กลับ​ไป​ฟักไข่​มังกร​ประทีป​…​ไม่​ให้​เขา​เห็น​คาตา​น่าจะ​ดีกว่า​ ​เฮ้อ​ ​ได้​แต่​หวัง​ว่า​เขา​จะ​ไม่​เกลียด​ข้า​เพราะ​เรื่อง​นี้​…​”

สตรี​นาง​นั้น​น่าจะ​มี​ความคับ​ข้อง​ที่​ไม่​อาจ​บอก​ผู้อื่น​ได้​อยู่​เต็ม​ท้อง​ ​ดังนั้น​จึง​ถือเอา​ธาร​ดารา​ของ​ที่นี่​ต่าง​ถังขยะ​ระบาย​อารมณ์​ ​พูด​เอง​เออ​เอง​อยู่​ที่นี่​ ​กล่าว​ความในใจ​ทั้งหมด​ออกมา

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​เสมือน​ถูก​ตบหน้า​อย่าง​จัง​!

ยืน​อยู่​ตรงนั้น​ด้วย​ความละอาย​อยาก​แทรกแผ่นดิน​หนี​ใจจะขาด​แล้ว​!

หัวใจ​ที่​เย็นชา​แข็งกระด้าง​มาโดยตลอด​ราวกับ​ถูก​คน​สาด​น้ำ​เดือด​ชาม​หนึ่ง​ใส่​ ​ความรู้สึก​นั้น​ยาก​จะ​บรรยาย​ได้​ ​คล้าย​จะ​ปวดร้าว​ยิ่ง​และ​คล้าย​จะ​อบอุ่น​นัก​ ​คล้าย​ว่า​จะ​อาย​ใจ​ซ้ำ​ยัง​แฝง​ความยินดี​และ​สิ้นหวัง​เอาไว้​รางๆ​ ​ด้วย​…

อารมณ์​สารพัด​อย่าง​ปนเป​อยู่​ใน​หัวใจ​เขา​ ​ทำให้​ร่างกาย​เขา​สั่นสะท้าน​ไป​หมด​…

เขา​พลัน​ยื่น​แขน​ออก​ไป​ ​ต้องการ​จะ​โอบกอด​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นั้น​ ​“​อาจารย์​!​”​ ​ลำคอ​ตีบตัน​ ​น้ำเสียง​แหบแห้ง​ไป​หมด​แล้ว

แน่นอน​ ​เขา​ยังคง​โอบกอด​ได้​เพียง​อากาศ​อัน​เยือกเย็น​เช่น​เดิม​ ​นั่น​คือ​ภาพมายา​อย่างหนึ่ง​ ​เป็น​ภาพมายา​ที่​หลงเหลือ​อยู่​ใน​ตำหนัก​เทวา​นี้​…

คนใน​อดีต​ผู้​นั้น​ไม่มี​ตัวตน​อยู่​ ​มา​เนิ่นนาน​แล้ว​…

ตำหนัก​เทวา​หลัง​นี้​คล้าย​เครื่องฉาย​วี​ดีทัศน​์​เครื่อง​หนึ่ง​ ​ถ่ายทอด​ทุก​เรื่องราว​ที่​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นั้น​กระทำ​อยู่​ที่นี่​ออกมา​ทีละ​ฉาก​ๆ

เขามอง​เห็น​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นั้น​เข้า​ๆ​ ​ออก​ๆ​ ​อยู่​หลายครั้ง​ ​ทุกครั้งที่​เข้ามา​ล้วน​จะ​วาง​หิน​ผลึก​ลง​ไป​ก้อน​หนึ่ง​ ​เขียน​อักษร​หนึ่ง​หน้า​ ​วนเวียน​ซ้ำๆ​ ​จวบจน​วันนั้น​มาถึง​…

ใน​วันนั้น​นาง​เดินโซเซ​เข้ามา​ ​การ​แต่งกาย​ของ​นางใน​วันนั้น​เหมือน​ยาม​ที่​จิต​มาร​ปรากฏตัว​ขึ้น​ทุกอย่าง​ ​ทว่า​หน​นี้​ไม่ได้​เข้าสู่​ตำหนัก​เทวา​ ​แต่​ตรง​ไป​ยัง​ผัง​ดารา​ผัง​หนึ่ง​ที่อยู่​ทาง​ตะวันออกเฉียงใต้​ของ​ตำหนัก​ ​จากนั้น​ก็​ประกอบ​พิธีกรรม​ ​ค่อยๆ​ ​ดับขันธ์​โรยรา​…

และ​เขา​ก็ได้​เห็น​ตี้ฝู​อี​ใน​ปีนั​้น​แล้ว​ ​พุ่ง​เข้ามา​ราวกับ​คนบ้า​ ​เมื่อ​ไป​ถึง​ริม​แท่น​สูง​ ​ก็​พยายาม​จะ​บุกเข้าไป​ใน​เขตแดน​ที่นา​งก​่อ​ขึ้น​อย่าง​สุด​ชีวิต​ ​แต่​ไม่มี​ประโยชน์​เลย​…​สุดท้าย​ไม่​ง่าย​เลย​กว่า​ตี้ฝู​อี​จะ​ฝ่า​ทะลวง​เข้าไป​ได้​ ​ทว่า​ได้​แค่​โอบกอด​ละออง​แสง​ของ​นาง​ที่​ดับขันธ์​ไป​แล้ว​ไว้​ ​ความ​โศกเศร้า​ปวดร้าว​มหาศาล​ทำให้​ตี้ฝู​อี​ตื่น​รู้​กลายเป็น​เจ้า​แห่ง​ลิขิต​สวรรค์​…

ฉาก​การดับ​ขันธ์​ใน​ปีนั​้​นข​อง​เทพ​ผู้สร้าง​โลก​ซีจิ​่ว​ปรากฎ​ขึ้น​ต่อหน้า​ทุกคน​อย่างครบถ้วน

ภายใน​ตำหนัก​เทวา​เงียบสงัด​ยิ่ง​ ​เงียบ​จนถึง​ขั้น​ที่​เข็ม​สัก​เล่ม​หล่น​บน​พื้น​ก็​ยัง​ได้ยิน​กัน​ทั่ว

ถึง​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​จะ​ได้รับ​ความสะเทือนใจ​อย่างมหาศาล​ที่สุด​ ​แต่​ตี้ฝู​อีกั​บกู​้​ซีจิ​่​วก​็​ได้รับ​ความสะเทือน​ไม่น้อย​เลย​เช่นกัน​ ​ทั้ง​สาม​คน​เงียบงัน​กัน​ไป​ชั่วขณะ

….

————————————————————————————-

บท​ที่​ ​3054​ ​ปัจฉิม​บท​ ​19

สีหน้า​ตี้ฝู​อีซีด​ขาว​ ​ถึงแม้​เขา​จะ​ยัง​ไม่ทราบ​ต้นสายปลายเหตุ​ ​แต่​เมื่อ​เห็น​ตน​แตกสลาย​ถึง​เพียงนั้น​ ​ก็​คล้าย​จะ​สัมผัส​ถึง​ความสิ้นหวัง​และ​สำนึก​เสียใจ​ใน​ยาม​นั้น​ได้​ ​หัวใจ​ไหว​สะท้าน​เป็นพักๆ​ ​เขา​โอบกอด​กู้​ซีจิ​่​วที​่​อยู่​ข้าง​กาย​ไว้​ใน​อ้อมอก​ ​กอด​ไว้​แน่น​ ​เอ่ย​เสียง​แหบ​เครือ​ ​“​ซีจิ​่ว​ ​ขอโทษ​นะ​…​”​ ​เขา​ขอโทษ​แทน​ตัวเอง​ใน​ชาติก่อน

หัวใจ​ของ​กู้​ซีจิ​่​วก​็​ผันผวน​แปรปรวน​เช่นกัน​ ​หันไป​โอบกอด​เขา​ ​ส่ายหน้า​นิดๆ​ ​“​ล้วน​ผ่าน​ไป​หมด​แล้ว​…​พวกเรา​ใน​ยาม​นี้​ดียิ่ง​นัก​แล้ว​”

ใช่​แล้ว​ ​พวกเขา​ใน​ยาม​นี้​ดียิ่ง​นัก​ ​ต่อให้​ลำบาก​ยากเข็ญ​มากกว่า​นี้​ก็​จะ​ผ่านพ้น​ไป​ให้​ได้

ตอนนี้​แค่​ต้อง​แก้ปัญหา​ยุ่งยาก​อีก​อย่างหนึ่ง​…

ตี้ฝู​อี​มอง​ไป​ที่​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ ​น้ำเสียง​เย็นยะเยือก​ ​“​นาง​ไม่ได้​ผิด​ต่อ​เจ้า​!​”

สอง​ตาของ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ยังคง​ทอด​มอง​จุด​ที่​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นั้น​เลือนหาย​ไป​ ​แววตา​เลื่อนลอย​อยู่​บ้าง​ ​สีหน้า​ก็​ยิ่ง​เผือด​ซีด​จน​น่ากลัว​ ​เอ่ย​ทวน​ประโยค​ราวกับ​เครื่องบันทึกเสียง​ ​“​ใช่​ ​นาง​ไม่ได้​ผิด​ต่อ​ข้า​เลย​…​เป็น​ข้า​ที่​ผิด​ต่อนา​ง.​..​”

เขา​หันไป​มอง​คน​ทั้งสอง​ที่​ตระกอง​กอด​กัน​แวบ​หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ละสายตา​ไป​อย่างรวดเร็ว​ ​ยิ้ม​แวบ​หนึ่ง​ ​“​ข้า​ผิดพลาด​ไป​ไกล​เหลือเกิน​…​”

รอยยิ้ม​ของ​เขา​คล้าย​ร่ำไห้​ ​น้ำเสียง​ก็​แหบแห้ง​ยิ่งนัก​ ​เอ่ย​พึมพำ​ ​“​ผิดพลาด​ไป​หมด​แล้ว​…​”

ทำผิด​พลาด​มหันต์​เมื่อ​สำนึก​เสียใจ​ก็​สาย​เกินไป​แล้ว

ก่อ​ความผิดพลาด​ครั้ง​ใหญ่​ไป​แล้ว​ ​ต่อให้​สำนึก​เสียใจ​สัก​เพียงใด​ก็​ไม่​อาจ​แก้ไข​เรื่องราว​ได้​อีก​…

เขา​พลัน​ทะยาน​กาย​ขึ้น​มา​ ​จู่ๆ​ ​ก็​หันหลัง​พุ่ง​ออก​ไป​ด้านนอก​!

กู้​ซีจิ​่​วกับ​ตี้ฝู​อีสบ​ตากัน​แวบ​หนึ่ง​ ​ย่อม​ติดตาม​ไป​ด้วย

ทั้ง​สาม​ออกจาก​ตำหนัก​หลัง​นี้​ไป​ใน​ชั่วพริบตา​ ​หาย​ลับ​ไป​แล้ว

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​ใจกลาง​ตำหนัก​ปรากฏ​เงา​ร่าง​สอง​สาย​ขึ้น​มา​ ​คน​หนึ่ง​คือ​บุรุษ​ผม​ขาว​ ​สวม​เสื้อคลุม​ที่​ดูรา​วกั​บสา​ดน​้ำ​หมึก​ลง​บน​บรรพต​ธารา​ ​พื้น​หลัง​เป็น​สีคราม​อ่อน​ ​ราวกับ​ท้อง​นภา​เวิ้งว้าง​หมื่น​ลี้​ไร้​เมฆา​ ​ด้านบน​ปัก​ลวดลาย​ภูมิทัศน์​นภา​ดารา​ไว้​ ​ยาม​เขา​ปรากฏตัว​ขึ้น​มา​ ​เสื้อคลุม​โบก​พลิ้ว​ ​ดวงดาว​ใน​อาภรณ์​ก็​โยก​ไหว​ไป​ด้วย​ ​ราวกับ​กำลัง​โคจร​อย่าง​เงียบงัน

เกศา​สีเงิน​ ​พิสุทธิ์​ดุจ​หิมะ​ ​ใช้​ปิ่น​สีคราม​อ่อน​ด้าม​หนึ่ง​ตรึง​ไว้​ ​รูปโฉม​หล่อเหลา​เลิศล้ำ​ ​สอง​เนตร​ส่อง​สกาว​ราวกับ​มี​ธาร​ดารา​ไหล​วน​อยู่

ใน​ท่วงท่า​อากัปกริยา​ของ​คน​ผู้​นี้​ ​มี​รัศมี​ความ​เย็นชา​ไม่แยแส​ใต้​หล้า​ประการหนึ่ง​อยู่​ ​ทันทีที่​เขา​ปรากฏตัว​ขึ้น​ ​แม้แต่​ดวงดาว​ที่​รายล้อม​อยู่​รอบข้าง​ก็​หม่นหมอง​กลายเป็น​ฉากหลัง​ไป​ด้วยตัวเอง

เงา​ร่าง​อีก​สาย​กลับเป็น​มังกร​ประทีป​ตัว​หนึ่ง​ ​มังกร​ประทีป​สีชมพู

มังกร​ประทีป​ชมพู​ตัว​นี้​งดงาม​อย่างยิ่ง​ ​ตัว​ยาว​เจ็ด​ถึง​แปด​ฉื่อ​ ​ตะเกียง​ดวงน้อย​บน​ศีรษะ​ก็​มี​เอกลักษณ์​ยิ่ง​ ​ยาม​ที่​แกว่งไกว​ดูรา​วกับ​เนตร​สวรรค์​ได้​เบิก​ขึ้น​แล้ว​…

‘​เช่นนี้​นับว่า​ท่าน​ทำสำเร็จ​แล้ว​ใช่ไหม​?​’​ ​มังกร​ประทีป​ชมพู​มอง​ทิศทาง​ที่​ทั้ง​สาม​คน​จากไป​แล้ว​เอ่ย​ถาม

บุรุษ​ผม​ขาว​ผู้​นั้น​ตอบกลับ​ ​“​สำเร็จ​ครึ่งหนึ่ง​แล้ว​”​ ​ใน​น้ำเสียง​ดึงดูด​ของ​เขา​เจือ​ความ​กังวาน​ดุจ​แว่ว​มาจาก​ที่​ไกลๆ​ ​ไว้​ ​ราวกับ​แว่ว​ลอย​ลงมา​จาก​สวรรค์

‘​ครึ่งหนึ่ง​?​ ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ทราบ​ความ​แล้ว​ ​เขา​น่าจะ​ออก​ไป​สะสาง​ปัญหา​วุ่นวาย​แล้ว​ ​ไม่​ร่วมมือ​กับ​จิต​มาร​ตน​นั้น​อีก​ ​อีก​อย่าง​มีบิ​ดามา​รดา​ของ​ท่าน​ร่วมแรง​ช่วยเหลือ​อยู่​ ​น่าจะ​กำจัด​ทะเลทราย​ภัยพิบัติ​นี้​ได้​ ​เหตุใด​จึง​บอกว่า​ครึ่ง​เดียว​เล่า​…​’​ ​มังกร​ประทีป​ชมพู​ไม่เข้าใจ

บุรุษ​ผม​ขาว​ผู้​นั้น​จ้องมอง​ไป​ยัง​ทิศทาง​หนึ่ง​ ​ตรงนั้น​มี​เมฆา​ดำมืด​พลิก​ตลบ​ ​ฟ้า​ดิน​ก็​เสมือน​กลับตาลปัตร​แล้ว​…

เขา​ถอนหายใจ​ ​“​จิต​มาร​ตน​นั้น​ไม่ใช่​แค่​จิต​มาร​ของ​อดีต​เทพ​ผู้สร้าง​โลก​แล้ว​ ​ใน​ดวงวิญญาณ​ของ​นาง​ผสม​ปนเป​ด้วย​วิญญาณ​ชั่วร้าย​มากมาย​เกินไป​ ​ระดับ​ความ​เจ้าเล่ห์​กลับกลอก​ของ​นาง​ก็​วิปริต​สุดขีด​ ​ได้​ปรับเปลี่ยน​คุณสมบัติ​บางอย่าง​ของ​ทะเลทราย​ด้วยตัวเอง​แล้ว​ ​เกรง​ว่า​ต่อให้​เป็น​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ ​ก็​ไม่มีทาง​ควบคุม​ได้​อีกต่อไป​…​ตอนนี้​วิญญาณ​อาฆาต​ภายใน​ทะเล​ชั่วร้าย​มี​เกือบ​สี่​ล้าน​ดวง​แล้ว​…​แรง​พยาบาท​มากมาย​ถึง​เพียงนี้​รวมตัว​เข้าด้วยกัน​ ​เพียงพอ​จะ​ทำลายล้าง​โลกา​ได้​…​”

‘​ท่าน​ก็​ไม่มี​วิธี​เหมือนกัน​หรือ​?​’​ ​มังกร​ประทีป​เบิกตา​กว้าง​ ​‘​แต่​ท่าน​เป็น​เจ้า​แห่ง​ลิขิต​สวรรค์​นะ​ ​มิใช่​ว่า​สามารถ​พลิก​ฟ้า​ดิน​ด้วยมือ​เดียว​ได้​หรอก​หรือ​?​’

————————————————————————————-