ภาคที่ 38 เจ้าดินแดนเสวี่ยอิง ตอนที่ 7 รับซื้อตามอำเภอใจ

Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน

พวกตงป๋อเสวี่ยอิงกินจนถึงรุ่งสางของวันถัดมาจึงได้ยุติลง แม้พวกมารแดงทั้งหลายจะเป็นคนกลุ่มแรกซึ่งทำหน้าที่รับผิดชอบ ‘ผู้มาใหม่’ แต่ทั้งโลกทิพย์ก็มีผู้บำเพ็ญทั้งหมดน้อยนิดเท่านี้ โดยทั่วไปแล้ว นานแสนนานจึงจะมีผู้มาใหม่สักคนหนึ่ง! ทั้งตัวเมืองมีขอบเขตทั้งหมดแสนกว่าลี้เท่านั้น ไม่ว่าพวกเขาจะกระจายตัวอยู่ส่วนใดของเมือง ก็ล้วนสามารถไปรวมตัวกันที่กำแพงเมืองได้อย่างรวดเร็ว

ภายในสวนฝู พวกตงป๋อเสวี่ยอิงยืดกายขึ้น เตรียมตัวจากไป

“หิมะเหิน นี่คือเนื้อย่างที่เจ้าต้องการ ทั้งหมดสามร้อยลูกบาศก์เมตร! คงเพียงพอจะให้เจ้ากินได้สามล้านปีแล้วกระมัง” ชายชราฝูอั้นก็ส่งกำไลเก็บวัตถุวงหนึ่งให้ตงป๋อเสวี่ยอิง ภายในมีเนื้อย่างจำนวนมากเก็บเอาไว้

ตงป๋อเสวี่ยอิงตรวจสอบดูคราหนึ่ง

เนื้อย่างมีจำนวนมากเสียจนเทียบได้กับร่างกว่าครึ่งหนึ่งของเทพมรณะเงาทะมึน เพราะถึงอย่างไรอย่างกระดูกและเกล็ด ก็มิอาจนำมาทำเนื้อย่างได้ ตัวฝูอั้นเองก็เก็บค่าใช้จ่ายเล็กน้อย! ‘เนื้อย่าง’ ระดับนี้ลงมือทำได้สะดวกที่สุด ทว่ารสชาติก็นับว่าไม่เลว

“ขอบคุณ” ตงป๋อเสวี่ยอิงรับมาแล้วเผยรอยยิ้มออกมา

“เพียงพอสำหรับสามล้านปีแล้ว ถึงตอนนั้น เจ้าก็ยังต้องออกล่าอยู่ดี” มารแดงเอ่ย “ครั้งแรกที่ออกล่า เจ้าไม่มีประสบการณ์ จะให้ดีที่สุดก็หากองออกล่าใหญ่ๆ สักกองไปด้วย อย่างน้อยก็ต้องหากองที่มีผู้บำเพ็ญเกินห้าสิบคน”

“เข้าใจแล้วขอรับ” ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้า

คิดจะออกไปล่าสังหาร แค่ส่งคำขอไปยัง ‘ตำหนักเมฆาแดง’ ผ่านวัตถุส่งสารก็เป็นอันใช้ได้แล้ว

ตำหนักเมฆาแดงนั้นเผยแพร่รายนามผู้ขอเข้าร่วม ‘กองออกล่า’ อยู่ตลอดเวลา! กองออกล่าต้องมีอย่างน้อยที่สุดสามสิบคน อย่างมากหนึ่งร้อยคน! เมื่อรวมกองกำลังได้แล้ว ก็จะแจ้งผู้ที่ยื่นคำขอเหล่านั้น แล้วออกเคลื่อนไหวพร้อมกัน

กองออกล่าระดับนี้ออกล่าบริเวณรอบๆ เมืองเมฆาแดง ระดับความอันตรายค่อนข้างต่ำ เพียงเพื่อ ‘อาหาร’ เท่านั้น แต่ต่อให้ระดับความอันตรายต่ำกว่านี้…ก็ยังอาจจะมีสิ่งมีชีวิตคละถิ่นทั้งหลายมาลอบโจมตีอยู่ดี จึงอาจจะเกิดความเสียหายขึ้นได้เช่นเดียวกัน

“ใช่แล้ว ทุกท่าน”

ตงป๋อเสวี่ยอิงเห็นพวกมารแดงกำลังจะจากไป จึงเอ่ยขึ้นว่า “ข้าคิดจะรับซื้อชิ้นส่วนร่างกายของสิ่งมีชีวิตคละถิ่นซึ่งมีความเร้นลับของกฎเกณฑ์ทางสายอากาศแฝงอยู่! แลกด้วยเลือดเนื้อสองเท่า ทว่าชิ้นส่วนร่างกายเดียวกันจะรับซื้อเพียงครั้งเดียวเท่านั้น นอกจากนี้…ชิ้นส่วนร่างกายของสิ่งมีชีวิตคละถิ่นทางสายอากาศ ข้าไม่ต้องการ!”

“ต้องการชิ้นส่วนร่างกายที่มีความเร้นลับทางสายอากาศแฝงอยู่ แต่กลับไม่ต้องการชิ้นส่วนของสิ่งมีชีวิตคละถิ่นทางสายอากาศอย่างนั้นหรือ เงื่อนไขนี้ออกจะประหลาดอยู่บ้าง”

“ได้ๆๆ”

“ข้าพอจะมีสะสมไว้บ้าง”

มารแดง เหลยเซียว เทพอสรพิษอินทรีและฝูอั้นต่างพากันเผยสีหน้ายินดีออกมา

ฝูอั้นรีบพูดขึ้นว่า “สิ่งมีชีวิตคละถิ่นที่ข้าสังหารมีมากมายถมไป เกล็ด ขน ผิวหนังยิบย่อยต่างๆ ข้ามีมากมายนัก” ในฐานะผู้ทำอาหารเลิศรสที่กิจการดีที่สุด เกล็ดเอย กระดูกเอย เขามีสะสมไว้มากเป็นอันดับต้นๆ ในเมืองเมฆาแดงเลยทีเดียว

“พวกเราแลกเปลี่ยนกับน้องหิมะเหินก่อน เจ้าเป็นคนสุดท้าย” มารแดงพูด

“ถูกต้อง เจ้าน่ะคนสุดท้าย”

“หากเจ้าแลกเปลี่ยนแล้ว พวกเราจะแลกอะไรได้อีกเล่า”

เทพอสรพิษอินทรีและเหลยเซียวต่างก็เอ่ยขึ้น

ฝูอั้นหัวเราะฮิฮิอย่างไม่รีบร้อนอะไร

ทันใดนั้นก็มีเสียงฟิ้วๆๆ

พวกมารแดงทั้งสามคนโบกมือคราหนึ่งก็มีส่วนต่างๆ เช่นเกล็ด กระดูก เขาและเส้นขนถูกโยนออกมา แต่ละส่วนล้วนมีความเร้นลับทางสายอากาศแฝงอยู่! ต้องรู้ไว้ว่าร่างกายของสิ่งมีชีวิตคละถิ่นโดยกำเนิดตนหนึ่ง นั้นเปลี่ยนแปรมาจากกฎเกณฑ์ บางส่วนนั้นเปลี่ยนแปรมาจากกฎเกณฑ์ที่แตกต่างกัน เหมือนกับดวงตาของ ‘สิ่งมีชีวิตพันเนตร’ ตนนั้นที่ล้วนแฝงไว้ด้วยความเร้นลับของเขตลวงโลกเทียม ส่วนอื่นๆ กลับแตกต่างออกไป

ด้วยเหตุผลอย่างเดียวกัน

สิ่งมีชีวิตคละถิ่นโดยกำเนิดที่เชี่ยวชาญทางด้านเปลวเพลิงตนหนึ่ง โครงสร้างร่างกายก็อาจจะมีเก้าจุดเก้าส่วนที่เป็นความเร้นลับของเปลวเพลิ แต่ก็มีส่วนน้อยนิดที่เป็นกฎเกณฑ์อื่นๆ ทั้งหลาย

สิ่งมีชีวิตคละถิ่นที่ไม่ใช่ทางสายอากาศ ก็มีส่วนน้อยนิดอย่างยิ่งที่มีความเร้นลับทางสายอากาศแฝงอยู่เช่นกัน

“ที่ซ้ำกันข้าไม่ต้องการ มารแดง ท่านเก็บเกล็ดนี่กลับไปเถิด”

“อาศัยอะไรกันเล่า พวกเราเอาออกมาพร้อมกัน อาศัยอะไรให้ข้าเก็บกันเล่า”

“เจ้าเอาออกมามากกว่าข้า นี่ๆๆ เกล็ดแผ่นนี้ของเจ้าคงจะเป็นเกล็ดมังกรเงาอากาศกระมัง น้องหิมะเหินบอกแล้วว่า ไม่ต้องการชิ้นส่วนร่างกายของสิ่งมีชีวิตคละถิ่นทางสายอากาศน่ะ!”

“มีมากเกินไป ข้าหยิบผิดเสียแล้ว!”

“จงใจหยิบผิดกระมัง”

“ข้าคร้านจะจงใจหลอกลวงเพียงเพื่อเลือดเนื้อน้อยนิดเท่านี้ น้องหิมะเหิน เขี้ยวนี่นับว่าข้ามอบให้เปล่าๆ ก็แล้วกัน”

เดิมทีเมื่ออยู่ในบ้านเกิดเป็นผู้ทรงอำนาจที่ไร้เทียมทาน

แต่ยามนี้เพื่อจะแลกอาหาร แต่ละคนกลับต้องแย่งชิงกัน เพราะถึงอย่างไรส่วนต่างๆ เช่นเกล็ด กระดูก และเส้นขนนั้นไม่สามารถทำเป็นอาหารได้ ก่อนหน้านี้ล้วนถูกกองเอาไว้เป็นขยะอยู่ข้างๆ บัดนี้กลับสามารถแลกเป็น ‘อาหารสองเท่า’ ได้ นี่ก็เท่ากับได้มาเปล่าๆ เลยทีเดียว

นอกจากนี้สิ่งมีชีวิตคละถิ่นในโลกทิพย์ล้วนแต่เป็นเผ่าพันธุ์ต่างๆ แต่ละเผ่าพันธุ์มีจำนวนมหาศาล! สามารถหาส่วนที่เหมือนกันได้อย่างง่ายดาย

ดังนั้นตงป๋อเสวี่ยอิงจึงกล่าวว่า ไม่เอาส่วนที่ซ้ำกัน!

เขาเอามาก็เพื่อรับรู้และฝึกฝน แล้วจะนำสิ่งที่เหมือนกันมาทำไมเล่า

“มาๆๆ” ตงป๋อเสวี่ยอิงยิ้มพลางแลกเปลี่ยน เขาเก็บชิ้นส่วนร่างกายของสิ่งมีชีวิตคละถิ่นซึ่งมีความเร้นลับทางสายอากาศแฝงอยู่ลงไปหลายกำใหญ่

เทพอสรพิษอินทรี เหลยเซียวและมารแดงทั้งสามคน แลกเนื้อย่างไปรวมกันแล้วเกือบสิบลูกบาศก์เมตร

ก็เท่ากับแต่ละคนได้อาหารพอกินไปหลายหมื่นปีเลยทีเดียว!

“ถึงคราวข้าแล้วกระมัง” ฝูอั้นพูดพลางยิ้มตาหยี

“พี่ฝูอั้น เชิญ” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดยิ้มๆ

“เจ้าแลกด้วยเนื้อถึงสองเท่า ช่างใจกว้างจริงๆ บางคนที่ขี้เหนียวหน่อยก็ให้เนื้อเพียงเท่าเดียวเท่านั้นเอง” ฝูอั้นกล่าว ในโลกทิพย์ หากพูดถึงเลือดเนื้อก็ต้องคำนวณจากมวล! เนื่องจากมีกฎเกณฑ์ของโลกกดดัน ผู้ที่ร่างกายอ่อนแอก็จะถูกกดดันให้เล็กลง ตอนต่อสู้ไม่ว่าร่างกายจะเล็กลงหรือใหญ่ขึ้น แต่เมื่อตายไป ร่างกายก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิม

เลือดเนื้อที่มีมวลเท่ากัน พลังงานที่เก็บสะสมไว้ก็จะเท่ากัน

“ฟิ้ว” ฝูอั้นพูดพลางโบกมือคราหนึ่ง

ทันใดนั้นชิ้นส่วนจำนวนมากก็ถูกโยนออกมาจนแน่นขนัด ผู้แกร่งกล้าระดับเขา ได้เห็นชิ้นส่วนที่พวกมารแดงทั้งสามคนโบนออกมา ก็ย่อมไม่นำออกมาซ้ำกันอีก

……

พวกมารแดงทั้งสามคนรวมกันแล้ว ก็เพิ่งจะแลกเนื้อย่างไปได้เกือบสิบลูกบาศก์เมตรเท่านั้น

แต่ชิ้นส่วนมากมายที่ฝูอั้นนำออกมาเพียงคนเดียว  ก็แลกเนื้อย่างจากตงป๋อเสวี่ยอิงมาได้กว่าหนึ่งร้อยเก้าสิบลูกบาศก์เมตรเลยทีเดียว!

“น้องหิมะเหิน เจ้าใช้เนื้อสองเท่าเข้าแลก มากเกินไปแล้ว”

“นั่นสิ ปล่อยให้เจ้าปีศาจเฒ่าฝูได้กำไรไปมากถึงเพียงนี้”

พวกมารแดงพูดขึ้นอย่างอดมิได้

“ไม่เป็นไรหรอก” ตงป๋อเสวี่ยอิงยิ้มพลางโบกมือคราหนึ่ง แล้วโยนซากของเทพมรณะเงาทะมึนร่างหนึ่งออกมา ครั้งนี้เขาได้ร่างเทพมรณะเงาทะมึนมาทั้งหมดสองร่าง “เจ้าสวนฝูอั้น ช่วยข้าแลกเป็นเนื้อย่างด้วยเถิด”

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้ายังมีเทพมรณะเงาทะมึนอยู่อีกร่างหนึ่งหรือนี่” ฝูอั้นหัวเราะเสียงดัง เมื่อครู่เขาเพิ่งจะได้กำไรมหาศาลจากตงป๋อเสวี่ยอิง จึงพูดอย่างสบายๆ ว่า “ได้ เทพมรณะเงาทะมึนตนนี้ ข้าจะไม่เอากำไรอะไรจากเจ้าเลย ขอมอบเนื้อย่างสามร้อยยี่สิบลูกบาศก์เมตรให้เจ้า”

แลกเป็นเนื้อย่างอีกชุดหนึ่ง

ตงป๋อเสวี่ยอิงอารมณ์ดียิ่งนัก เพราะชิ้นส่วนต่างๆ เหล่านั้นล้วนแต่มีความเร้นลับระดับคละถิ่นแฝงอยู่ จึงย่อมหาได้ยากยิ่งนัก

“ยังมิได้กำไรอีกหรือ เฮอะๆ ชิ้นส่วนที่เจ้านำออกมาเมื่อครู่ ก็แทบจะนำที่มีอยู่เกือบทั้งหมดมาแลกแล้วกระมัง” มารแดงแค่นเสียงเฮอะดังกังวาน

“ฮ่าฮ่า มิใช่แลกเกือบหมดหรอก หากแต่แลกจนหมดเกลี้ยงเลยต่างหาก!” ฝูอั้นพูดอย่างได้ใจ “หากไม่ให้โอกาสพวกเจ้าสามคนแลกก่อน พวกเจ้าก็คงจะมิได้แลกเลยสักชิ้นเดียว! นอกจากนักโทษแล้ว ขอเพียงเป็นสิ่งมีชีวิตคละถิ่นโดยกำเนิดทั่วไปที่เคยถูกล่า ข้าก็เคยปลิดชีพเองกับมือทั้งสิ้น จึงได้เก็บชิ้นส่วนเอาไว้มากมาย”

ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้า

เก็บรวบรวมมาหมดแล้วหรือ

“น้องหิมะเหิน เหตุใดเจ้าจึงแลกแต่สิ่งเหล่านี้เล่า โดยทั่วไปแล้วร่างกายของสิ่งมีชีวิตคละถิ่นทางสายอากาศ เก้าในเก้าส่วนมีความเร้นลับทางสายอากาศแฝงอยู่! หากค้นคว้ามัน ก็จะเป็นประโยชน์ต่อเจ้ามากกว่านะ” เทพอสรพิษอินทรีมองดูตงป๋อเสวี่ยอิง

“ไม่ต้องร้อนใจไปหรอก”

ตงป๋อเสวี่ยอิงกล่าว “ข้ากำลังจะหาซื้ออย่างเปิดเผย”

“หาซื้ออย่างเปิดเผยหรือ เจ้ายังมีซากสิ่งมีชีวิตคละถิ่นอีกมากหรือไร” เทพอสรพิษอินทรี ฝูอั้น มารแดงและเหลยเซียวทั้งสี่คนพากันสะดุ้ง กล้าหาซื้ออย่างเปิดเผย จะต้องแลกเปลี่ยนมากมายเพียงใดกัน

“ไม่หรอกๆ มีไม่กี่ตนเท่านั้น” ตงป๋อเสวี่ยอิงส่ายหน้า

“แล้วเจ้าจะยังหาซื้ออย่างเปิดเผยอีกรึ”

“ถูกต้อง สิ่งมีชีวิตคละถิ่นที่มีพลังรบระดับจักรพรรดิเทพครบสมบูรณ์ล้วนแต่เคยถูกปลิดชีพทั้งสิ้น! ยิ่งร่างกายของพวกมันใหญ่โตเท่าไหร่ กฎเกณฑ์ที่ปรากฏอยู่บนผิวก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น ราคาก็สูงกว่ามากทีเดียว! ตัวมีพลังรบระดับเทพครบสมบูรณ์ตนหนึ่ง โดยทั่วไปแล้วมีราคามากกว่าสิ่งมีชีวิตคละถิ่นที่มีพลังรบระดับจักรพรรดิเทพช่วงกลางของเจ้าเป็นหมื่นเท่า แล้วเจ้าจะแลกอย่างไรกันเล่า” พวกเขาแต่ละคนล้วนมองมาทางตงป๋อเสวี่ยอิง

“ข้ามีสิ่งมีชีวิตคละถิ่นตนหนึ่งที่นำมาจากบ้านเกิด ข้าเคยตรวจสอบมาแล้วว่าไม่มีในโลกทิพย์” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดยิ้มๆ

อันที่จริงแล้ว

ภายในที่เก็บสมบัติล้ำค่าของเขา มีซากสิ่งมีชีวิตคละถิ่นสองตนที่นำมาจากโลกอสนีบาต

ตนหนึ่งได้มาจากคุณชายใหญ่บุตรชายของเจ้าเมืองมังกรเหล็ก!

ส่วนอีกตนหนึ่งได้มาจากประมุขพรรคเงามาร!

“สิ่งมีชีวิตคละถิ่นที่ไม่มีในโลกทิพย์หรือ” พวกมารแดงพากันอุทานออกมาด้วยความแตกตื่น

ไม่มีหรือ

เช่นนั้นก็ล้ำค่ามากทีเดียว!

เนื่องจากบรรดาผู้ตระหนักวิถีที่รับรู้ความเร้นลับของกฎเกณฑ์นั้นให้ความสำคัญกับซากสิ่งมีชีวิตคละถิ่นเป็นที่สุด เนื่องจากร่างกายเปลี่ยนแปรมาจากกฎเกณฑ์! สิ่งมีชีวิตคละถิ่นตนหนึ่งที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนก็เพียงพอจะทำให้เหล่าผู้แกร่งกล้าระดับยอดสุดของเมืองเมฆาแดงตาเป็นมันได้แล้ว

……

ระหว่างที่พวกมารแดงทั้งสี่คนกำลังตาเป็นมันนั้น ตงป๋อเสวี่ยอิงก็ปล่อยข่าวอออกไปผ่านวัตถุส่งสาร ผ่านตำหนักเมฆาแดงแล้วส่งไปยังผู้บำเพ็ญทั้งหมดในเมืองเมฆาแดง

ข่าวนั้นเรียบง่ายนัก

“ข้ามีซากสิ่งมีชีวิตคละถิ่นจำพวกเปลวเพลิงที่สมบูรณ์ซึ่งนำมาจากโลกอื่นอยู่ตนหนึ่ง ที่ไม่เคยมีในโลกทิพย์มาก่อน! ข้าอยากจะใช้สิ่งนี้หาซื้อซากสิ่งมีชีวิตคละถิ่น ‘ทางสายอากาศ’ ที่สมบูรณ์ ในระยะเวลาหมื่นปี ผู้ที่ให้ราคาสูงสุดจะได้ไป โดยราคาต่ำสุดคือซาก ‘สิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับจักรพรรดิเทพครบสมบูรณ์ทางสายอากาศที่แตกต่างกันสามร่าง’ ”

ตงป๋อเสวี่ยอิงปล่อยข่าวออกไป เพียงครู่เดียวกลับทำให้ผู้แกร่งกล้าทั้งเมืองเมฆาแดงอลหม่านขึ้นมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาผู้แกร่งกล้าที่ฝึกฝน ‘ทางสายเปลวเพลิง’ ยิ่งตาร้อนไปหมด

หากในเมืองมิได้มี ‘คำสั่งห้าม’ ที่ยอมรับร่วมกันว่า…ห้ามห้ำหั่นกันภายในเมืองอย่างเด็ดขาด ผู้ฝ่าฝืนจะต้องถูกผู้แกร่งกล้าทั้งปวงล้อมโจมตีแล้วล่ะก็! หากมิใช่เพราะคำสั่งห้ามนี้ เกรงว่าคงจะมีผู้แกร่งกล้าฆ่าคนชิงทรัพย์เสียแล้ว แน่นอนว่าหากเป็นเช่นนั้นตงป๋อเสวี่ยอิงก็คงไม่ออกประกาศอย่างเปิดเผย

“อะไรนะ ซากสิ่งมีชีวิตคละถิ่นทางสายเปลวเพลิงที่ไม่เคยมีมาก่อนในโลกทิพย์อย่างนั้นหรือ”

“ราคาสูงเกินไปแล้ว ราคาต่ำสุดเป็นถึงระดับจักรพรรดิเทพครบสมบูรณ์ ทั้งยังต้องการสามร่างที่แตกต่างกันด้วยอย่างนั้นหรือ”

“โหดร้ายจริงๆ คิดจริงๆ หรือว่าสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับจักรพรรดิเทพครบสมบูรณ์จะได้มาง่ายๆ เช่นนี้น่ะ ผู้มาใหม่ผู้นี้ตั้งราคาโหดร้ายจริงๆ และนี้ยังเป็นเพียงราคาต่ำสุดอีกด้วย”

ทั้งเมืองเมฆาแดงอลหม่านไปหมด

ที่ตงป๋อเสวี่ยอิงประกาศออกไปว่าราคาต่ำสุดคือร่างระดับจักรพรรดิเทพครบสมบูรณ์สามร่าง มิได้สูงกว่านี้

ก็เพราะ ‘ระดับจักรพรรดิเทพครบสมบูรณ์’ นั้นสังหารได้ยากมากจริงๆ อย่างในโลกอสนีบาตนั้นไม่มีหวังจะสังหารได้เลย! ต่อให้อยู่ในโลกทิพย์แห่งนี้ มีผู้แกร่งกล้าร่วมมือกันมากกว่าและวิจิตรพิสดารกว่า การสังหารสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับจักรพรรดิเทพครบสมบูรณ์ก็ยังคงยากมากอยู่ดี! นอกจากนี้สิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับจักรพรรดิเทพครบสมบูรณ์ก็ยังมีร่างกายใหญ่โตกว่า ลำพังแค่เลือดเนื้อที่สามารถแลกเปลี่ยนได้ ก็เพียงพอสำหรับกินไปนานเกิบแสนล้านปีแล้ว!

“แม้ราคาจะโหดร้าย แต่เกรงว่าท้ายที่สุดราคาคงจะไม่ได้หยุดแค่นี้แน่”

“ผู้แกร่งกล้าทางด้านเปลวเพลิงระดับสูงสุดไม่กี่คนนั้น ล้วนแต่ร่ำรวยเป็นอันมาก”

แต่ละคนต่างก็รู้สึกว่าราคานี้สูงลิ่วเกินไป แต่ก็เข้าใจดีว่าราคาที่ตกลงกันในท้ายที่สุดจะต้องสูงกว่านี้อย่างแน่นอน

……

ขณะเดียวกับที่แต่ละฝ่ายสับสนอลหม่านไปหมดนั้น ภายในคูหาแห่งหนึ่งในเมืองเมฆาแดง ที่นี่มีผู้มาใหม่ที่มาถึงก่อนตงป๋อเสวี่ยอิงไม่นานนักอยู่คนหนึ่ง ซึ่งก็คือจักรพรรดิเป่ยเหอนั่นเอง!

“รับซื้อซากสิ่งมีชีวิตคละถิ่นทางสายอากาศอย่างนั้นหรือ ราคาเริ่มต้นสูงถึงเพียงนี้เชียว” จักรพรรดิเป่ยเหอได้รับข่าวเช่นเดียวกัน กล้ามเนื้อที่หางตาของเขากระตุกรัว

ตาร้อน

อิจฉาริษยา

ไม่ยุติธรรม!

เขา จักรพรรดิเป่ยเหอ ถ่อมเนื้อถ่อมตัวมากมาตลอดเมื่ออยู่ในโลกอสนีบาต ภายในสมบัติล้ำค่าคูหาสวรรค์ของเขาก็ยังไม่เคยมีซากสิ่งมีชีวิตคละถิ่นมาก่อนเลย! ดังนั้นบัดนี้จักรพรรดิเป่ยเหอจึงยังคงต้องปวดหัวเพราะ ‘อาหาร’ อยู่! เขาได้ยื่นคำขอ…ร่วมกับกองออกล่าที่ใหม่ที่สุดกองนั้น เพราะบัดนี้อาหารของเขาล้วนแต่เป็นของที่ผู้แกร่งกล้าที่ช่วยเหลือเขามอบให้ ซึ่งพอจะอยู่ได้ราวหมื่นปีเท่านั้น

“ข้าไม่มีอาหารแล้ว แต่เขากลับเรียกราคาได้อย่างง่ายดาย ทำให้ผู้แกร่งกล้าระดับยอดสุดทางสายเปลวเพลิงในเมืองเมฆาแดงพากันคลุ้มคลั่งเพราะมัน” เป่ยเหอส่ายหน้า เป็นคนที่ออกจากหุบเขาเขี้ยวหักไปยังโลกอสนีบาตและยังมาถึงที่นี่เหมือนกัน เหตุใดจึงใช้ชีวิตได้แตกต่างกันถึงเพียงนี้เล่า

………………………