เล่มที่ 30 เล่มที่ 30 ตอนที่ 895 เจ้าลำเอียง

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

ทันทีที่สิ้นเสียงพูด คนก็มาถึงด้านหน้าซูจิ่นซีแล้ว อู๋จุนนำถุงใบน้อยใหญ่ในมือวางไว้ด้านหน้าซูจิ่นซี

ซูจิ่นซีเลิกคิ้วเล็กน้อยและมองไปที่ถุง

อู๋จุนเปิดถุงทีละใบ

“นี่คือลูกพีชกรอบ นี่คือขนมไห่ถัง นี่คือซาลาเปาเหอจี้ รสผัก เนื้อ ต้นหอม และหัวไชเท้า นี่คือโจ๊กแปดเซียนที่เจ้าโปรดปรานที่สุด ยังมีไข่ม้วน พายเนื้อพลัม และอีกมากมาย มีนี่… นี่คือเนื้อแกะจากบ้านอาจารย์เฉิงซีเหอ หลายคนตามทางบอกว่าอร่อยที่สุด พี่จุนจึงไปต่อแถวยาวกว่าจะซื้อได้ เจ้าลองชิมดู ทั้งหมดล้วนเป็นของโปรดของเจ้า”

เขาพูดพลางเปิดถุงทั้งหมดและผลักไปยังเบื้องหน้าของซูจิ่นซี เฝ้ามองดวงตาที่สดใสและสวยงามของนางอย่างมีความหวัง

ถังเสวี่ยไม่ชอบกลิ่นของเนื้อแกะมากที่สุด แม้จะเป็นเนื้อแกะชิ้นเล็ก ทว่านางไวต่อกลิ่นของเนื้อแกะ เมื่อได้กลิ่น นางจึงอดขมวดคิ้วอย่างรุนแรงไม่ได้ จากนั้นจึงเหลือบมองถุงที่อยู่ข้างหน้าซูจิ่นซี

นางขมวดคิ้ว “พี่เป่าอวี้ เจ้าลำเอียง ลำเอียง! เจ้าซื้ออาหารอร่อยมากมายให้ซูจิ่นซี ล้วนเป็นสิ่งที่นางชอบทานทั้งหมด แล้วของข้าเล่า? ของข้าอยู่ที่ใด? ”

อู๋จุนเหลือบมองถังเสวี่ยด้วยความรังเกียจ “เด็กน้อย หยุดอยู่ตรงนั้นเลย ไปที่ใดก็เจอแต่เจ้าไม่ใช่หรือ? หากอยากกินก็ซื้อเอง”

จากนั้น เขาก็ยื่นลูกพีชชิ้นหนึ่งใส่มือของซูจิ่นซี

“แม่นางพิษน้อย เจ้าลองชิมนี่สิ พี่จุนชิมแล้วอร่อยมาก อร่อยกว่าคราวก่อนที่พี่จุนซื้อให้เจ้าในแคว้นจงหนิงมาก”

ซูจิ่นซียังไม่ทันได้หยิบลูกพีชกรอบ อู๋จุนก็ยื่นขนมไห่ถังให้อีกชิ้น

“ยังมีอันนี้ อร่อยเหมือนกัน ซาลาเปานี้รสเนื้ออร่อยกว่าหัวไชเท้า เห็นเจ้าผอมลง ควรกินเนื้อให้มากกว่านี้”

อู๋จุนดูใส่ใจ ทั้งใบหน้ายังเต็มไปด้วยความคาดหวัง

มีเพียงไม่กี่คนที่ปฏิบัติต่อซูจิ่นซีดีเช่นนี้ นางไม่อาจปฏิเสธได้จริงๆ และไม่อยากปฏิเสธอู๋จุน ดังนั้นจึงรับของที่อู๋จุนให้มาถือไว้

ทว่านางยังไม่ทันแตะต้องก็ถูกถังเสวี่ยขวางไว้เสียก่อน

ถังเสวี่ยขัดขวางมือของซูจิ่นซีด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็จับเอว และเชิดคอขึ้นเพื่อเผชิญหน้ากับอู๋จุน

“ถังเป่าอวี้ ทำเช่นนี้ไม่เหมาะสมกระมัง? ซูจิ่นซีเป็นถึงพระชายาโยวอ๋อง เรื่องการซื้อหาอาหารเช้า คงไม่จำเป็นต้องให้เจ้าทำกระมัง?

ว่าไปแล้ว เจ้าซื้อของเหล่านี้มาจากที่ใด? สะอาดหรือไม่? ถูกสุขอนามัยหรือไม่? กินแล้วคงไม่ท้องเสียกระมัง? ”

อู๋จุนหน้าเจื่อน เขาตบมือของถังเสวี่ยต่อหน้าซูจิ่นซี

“จะไปเล่นสนุกที่ใดก็ไป! ผู้ใหญ่กำลังพูดคุย เด็กน้อยอย่างเจ้าอย่าเข้ามาสอด! ”

อู๋จุนลงมือหนักมาก เขาตบจนเกิดเสียงดังชัดเจน ถังเสวี่ยเจ็บปวดจนดวงตาแดงก่ำ ทว่านางยังคงไม่ยอมแพ้ จากนั้นก็รีบลุกขึ้นกระทืบไปที่หลังเท้าของอู๋จุนทั้งสองข้าง

“ถังเป่าอวี้ เจ้าคนชั่ว เจ้ากล้าตบตีข้า ข้าจะเหยียบเจ้า เหยียบเจ้า คอยดู ข้าจะเหยียบเจ้า! ”

อู๋จุนคว้าแขนถังเสวี่ย และเหวี่ยงถังเสวี่ยออกไปอย่างง่ายดาย

“ไปทางโน้น สถานที่นี้ไม่เหมาะสำหรับเด็กน้อยอย่างเจ้า! ไป ไปเล่นที่อื่น! ”

ถังเสวี่ยโกรธมากจนดวงตาแดงก่ำ น้ำตาเอ่อล้นอยู่ในดวงตา ทว่าในที่สุด นางก็พยายามยับยั้งไม่ให้มันไหลออกมา

“ถังเป่าอวี้ ข้าบอกเจ้ากี่ครั้งแล้ว? ข้าไม่ใช่เด็กแล้ว ข้าอายุน้อยกว่าเจ้าเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น”

“น้อยไปไม่กี่ปี ก็น้อยเหมือนกัน! ”

อู๋จุนไม่ชายตามองถังเสวี่ยแม้แต่น้อย จากนั้นจึงเดินไปด้านหน้าของซูจิ่นซี ใบหน้ายังคงแย้มยิ้มอย่างมีความสุข

“แม่นางพิษน้อย เจ้ากินสิ! เหตุใดไม่กินเล่า? สิ่งที่พี่จุนเลือกไม่ถูกปากเจ้าหรือ? ไม่ใช่ พี่จุนเลือกตามความชอบของเจ้า! เจ้าไม่ชอบสิ่งใด พี่จุนจะโยนทิ้งและเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแทน”

ถังเสวี่ยชอบอู๋จุน ทุกคนต่างรู้ดี ความกังวลใจของนางทำให้ซูจิ่นซีทำตัวไม่ถูก ขณะกำลังจะพูดอันใดบางอย่าง ด้านหลังก็มีเสียงของเยี่ยโยวเหยาดังขึ้นว่า “สิ่งของเหล่านี้ นางไม่ชอบทั้งหมด”

ทันทีที่สิ้นเสียงพูด เยี่ยโยวเหยาก็เดินมาอยู่ข้างกายซูจิ่นซีแล้ว แขนกว้างวางลงบนไหล่ของซูจิ่นซี จากนั้นจึงมองไปที่ใบหน้าของอู๋จุนอย่างแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของ

ดูเหมือนอู๋จุนจะมองไม่เห็นความเกลียดชังของเยี่ยโยวเหยา

“เยี่ยโยวเหยา เจ้าเข้ามายุ่งอันใด! ข้ากำลังถามแม่นางพิษน้อย! ข้าไม่ได้ถามเจ้า! ”

เมื่อสิ้นเสียงของอู๋จุน ซูจิ่นซีก็รู้สึกถึงรัศมีที่แข็งแกร่งซึ่งแผ่ซ่านออกจากร่างของเยี่ยโยวเหยา

ซูจิ่นซีไม่ต้องการให้อู๋จุนและเยี่ยโยวเหยาลงไม้ลงมือกันอีก นางจึงรีบหันไปหาเยี่ยโยวเหยาและพูดว่า “เยี่ยโยวเหยา ข้าอยากทานน้ำแกงอิงเถาใบบัวที่ท่านให้คนทำมาให้ข้าเมื่อวาน ท่านให้คนไปทำให้ข้าอีกชามได้หรือไม่? ”

โชคดีที่ซูจิ่นซีพูดเอาใจเยี่ยโยวเหยาได้ทัน ในที่สุด รัศมีอันทรงพลังของเยี่ยโยวเหยาก็ลดลงอย่างมาก เขากวาดสายตาเชือดเฉือนมองอู๋จุนอย่างเย็นชาด้วยท่าทางราวกับผู้ชนะ ก่อนจะเดินออกไป

ก่อนจากไป เขายังไม่ลืมพูดกับซูจิ่นซีอย่างใกล้ชิดว่า “รอข้าประเดี๋ยว! ”

ซูจิ่นซีตอบรับแต่โดยดี

หลังจากที่เยี่ยโยวเหยาเดินออกไป ซูจิ่นซีก็พูดกับอู๋จุนอย่างจริงจังด้วยใบหน้าเย็นชา “อู๋จุน เจ้ากำลังยุ่งเรื่องอันใด? ไม่เหนื่อยหรือ? ”

อู๋จุนยังคงแย้มยิ้มอย่างกระตือรือร้น

“แหะ แหะ พี่จุนชอบมองใบหน้าเคร่งขรึมของเยี่ยโยวเหยา เมื่อเขาอารมณ์เสีย ข้ามีความสุขมาก”

ซูจิ่นซีขมวดคิ้วอย่างดุเดือด

อู๋จุนพูดอีกว่า “แม่นางพิษน้อย เจ้ากินเถิด! เหตุใดไม่กินเล่า? น้ำแกงอิงเถาใบบัวที่เจ้าเพิ่งพูดถึงคือสิ่งใดกันแน่! ฤดูกาลนี้หาผลอิงเถายากยิ่งนัก! ทว่าไม่เป็นอันใด หากเจ้าชอบกิน พี่จุนจะหามาให้เจ้า! ”

ซูจิ่นซียังคงแสดงสีหน้าจริงจัง “อย่าทำเป็นเล่น ข้ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเจ้า ตามข้ามาทางนี้”

นางพูดพลางนำสิ่งของในมือและถุงสองใบบนโต๊ะใส่ไว้ในมือของถังเสวี่ย ก่อนจะตบไหล่ถังเสวี่ยเบาๆ เพื่อปลอบโยนและให้กำลังใจ จากนั้นจึงเดินไปที่ห้องหนังสือ

อู๋จุนหยิบเนื้อแกะชิ้นหนึ่งใส่ปากตนเอง จากนั้นจึงถือโจ๊กกับขนมห่อหนึ่ง และรีบเดินตามซูจิ่นซีเข้าไปในห้องหนังสือ

อู๋จุนวางโจ๊กและของว่างไว้ด้านหน้าซูจิ่นซี และหยิบเนื้อแกะใส่ปากตนเอง

“แม่นางพิษน้อยมีเรื่องสำคัญอันใดหรือ? เคร่งเครียดถึงเพียงนี้ ทั้งยังเรียกพี่จุนมาที่ห้องหนังสือเพียงลำพังอีก” เขาพูดพร้อมกับโน้มตัวลงมาเบื้องหน้าซูจิ่นซี พลางหรี่ตามองด้วยสายตาหวานฉ่ำ

“เจ้าคงไม่เปลี่ยนใจหันมามองพี่จุน และเปลี่ยนความคิดเลิกรากับเยี่ยโยวเหยา เพื่อมาอยู่กับพี่จุนใช่หรือไม่? ”

ซูจิ่นซีหยิบไม้บรรทัดบนโต๊ะขึ้นมาและเคาะไปที่ด้านข้างศีรษะของอู๋จุน สีหน้าของเขาดูจริงจังกว่าเมื่อก่อน

“หากยังไม่เลิกล้อเล่น ต่อไปข้าจะไม่สนใจเจ้าอีก”

“ไม่ล้อเล่น ไม่ล้อเล่น แหะ แหะ พี่จุนไม่ล้อเล่น พี่จุนจริงจังก็ได้ พี่จุนจริงจังมากจริงๆ ”

อู๋จุนพูดด้วยท่าทางเคร่งขรึม ทว่าใบหน้ายังมีท่าทีหยอกล้อไม่เปลี่ยนแปลง

ซูจิ่นซีจนปัญญากับอู๋จุนจริงๆ นางจึงทำเป็นไม่สนใจและเริ่มพูดคุยเรื่องสำคัญ

“เมื่อสองสามวันก่อน ข้าไปเยี่ยมฮ่องเต้แคว้นตงเฉิน พบว่าในพระวรกายของพระองค์มีโลหะหนักจำนวนมาก คงเกิดจากการใช้ยาวิเศษที่มีคุณภาพต่ำเป็นเวลานาน

ข้าต้องการใช้แมลงพิษต่อสู้กับพิษ ทว่าต้องทราบชนิดของสารพิษที่อยู่ในพระวรกายของพระองค์ให้ชัดเจนก่อน เจ้าเคยใช้หนอนพิษบ้างหรือไม่?”