แม้อู๋จุนจะแย้มยิ้ม ทว่าเขาตอบคำถามของซูจิ่นซีอย่างจริงจัง
“ที่แท้ก็เป็นเรื่องนี้เอง! ข้าคิดว่าเป็นเรื่องอันใด! พอดีเลย พี่จุนกลับมาจากแคว้นไหวเจียงในครั้งนี้ ได้นำของล้ำค่ามามากมาย เมื่อวานข้าต้องการเอามาให้เจ้าดู! น่าเสียดายที่ถูกเยี่ยโยวเหยารบกวนเสียก่อน”
เขาพูดพลางหยิบสิ่งของที่นำติดตัวออกมา ชั่วพริบตาก็ปรากฏสิ่งของเต็มโต๊ะ
เสื้อคลุมสีแดงที่อู๋จุนสวมมาแต่เดิมนั้นกว้างใหญ่และแขนเสื้อกว้างมาก สามารถซ่อนสิ่งต่างๆ ได้มากมาย
อู๋จุนเห็นซูจิ่นซีมองด้วยสายตาตกตะลึงเล็กน้อย จึงนั่งไขว้ขาอยู่ข้างเก้าอี้อย่างภาคภูมิใจ
“เฮ้ ของล้ำค่าทั้งหมดในตัวของพี่จุนอยู่ที่นี่ เจ้าชอบชิ้นใด ก็เลือกได้ตามใจชอบ! ”
ซูจิ่นซีรับไว้ด้วยความยินดี
เมื่อดูทีละชิ้น ก็พบว่ามีคางคกโลหิต คางคกเหมันต์ และคางคกมรกต ราชาหยกนิลกาฬเป็นคางคกที่ล้ำค่าที่สุดและมีพิษร้ายแรงมากที่สุดในบรรดาคางคก นอกจากนี้ยังมีบางสิ่งที่อู๋จุนเอาออกมาอีก
แมงป่อง ราชามด งูเขียวน้อย ราชาน้อยด้วย…
สิ่งที่บินอยู่บนฟ้า วิ่งบนพื้นดิน และว่ายอยู่ในน้ำ ล้วนอยู่ที่นี่ครบถ้วน บางส่วนซูจิ่นซีรู้จัก บางส่วนก็ไม่รู้จัก
ซูจิ่นซีเปิดระบบถอนพิษและตรวจสอบทีละอย่าง จากนั้นจึงเลือกราชาหยกนิลกาฬอย่างระมัดระวัง ซึ่งก็คือคางคกสีดำนั่นเอง
“ข้าต้องการสิ่งนี้! ”
อู๋จุนมองกล่องเล็กๆ ในมือของซูจิ่นซีด้วยความกังวลเล็กน้อย “แม่นางพิษน้อย เจ้าแน่ใจหรือ? อย่ามองเพียงว่าเป็นกล่องเล็ก มันมีพิษร้ายแรงมาก! อาการของฮ่องเต้เฒ่าแคว้นตงเฉินเป็นอย่างไร? อย่าคิดว่าใช้พิษสู้กับพิษ ถึงเวลานั้น นอกจากจะกำจัดพิษในร่างกายไม่หมดแล้ว ยังอาจตายเพราะถูกพิษเข้าก็เป็นได้ หากเป็นเช่นนั้น พวกเราคงไม่มีเหตุผลให้อธิบาย”
อย่างไรเสีย ไม่มีผู้ใดรู้ดีไปกว่าอู๋จุนว่า พิษของราชาหยกนิลกาฬนั้นร้ายกาจมากเพียงใด
ท้ายที่สุด สถานะของฮ่องเต้แคว้นตงเฉินก็ทรงเกียรติสูงศักดิ์
พวกเขาไม่อาจทำผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย อู๋จุนคิดถึงจุดนี้แทนซูจิ่นซี
ใบหน้าของซูจิ่นซีปรากฏความแน่วแน่มั่นคง
“วางใจได้ ข้าทำสิ่งใดล้วนมีขอบเขต”
“แหะ แหะ ในเมื่อเจ้ารู้จักขอบเขตก็ดี พี่จุนก็วางใจ หากต้องการให้พี่จุนช่วยเหลือ เพียงบอกมา”
“อืม! ”
ซูจิ่นซีพยักหน้า
ขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนากัน เยี่ยโยวเหยาได้สั่งให้คนยกน้ำแกงอิงเถาใบบัวเข้ามา ซูจิ่นซีเลือกทานของบางอย่างที่อู๋จุนซื้อ จากนั้นจึงดื่มน้ำแกงอิงเถาใบบัวหนึ่งชาม และเดินไปหาตงหลิงหวงเพื่อถอนพิษให้ฮ่องเต้แคว้นตงเฉิน
ก่อนออกจากตำหนักฟางเฟย ถังเสวี่ยยังคงโต้เถียงกับอู๋จุนเกี่ยวกับอาหารเช้า สถานการณ์เช่นนี้เป็นเรื่องปกติระหว่างถังเสวี่ยกับอู๋จุน แม้ซูจิ่นซีจะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่นางก็ช่วยอะไรได้ไม่มากนัก จึงเดินอ้อมไปอีกทาง
เยี่ยโยวเหยาคงไม่สนใจเรื่องเช่นนี้
อู๋จุนและถังเสวี่ยทะเลาะกันตั้งแต่ด้านในห้องจนกระทั่งเดินออกมาด้านนอก เยี่ยโยวเหยาสั่งให้ใครบางคนปิดประตูห้องและอ่านตำราในห้อง
เมื่อซูจิ่นซีพบตงหลิงหวง ตงหลิงหวงอยู่ในตำหนักว่าราชการ นางเพิ่งอนุมัติฎีกาเสร็จ และกำลังจะไปเยี่ยมพระอาการของฮ่องเต้แคว้นตงเฉินพอดี นางจึงไปห้องบรรทมของฮ่องเต้แคว้นตงเฉินพร้อมกับซูจิ่นซี
ระหว่างทาง ซูจิ่นซีได้อธิบายเรื่องของราชาหยกนิลกาฬให้ตงหลิงหวงฟังหนึ่งครั้ง
แม้ตงหลิงหวงจะกังวลว่าพิษของราชาหยกนิลกาฬจะรุนแรงเกินไป เกรงว่าฮ่องเต้แคว้นตงเฉินอาจทนไม่ไหวเหมือนที่อู๋จุนพูดไว้
ทว่าตงหลิงหวงรู้ดีว่าซูจิ่นซีกระทำการอย่างระมัดระวังเสมอมา เรื่องเช่นนี้ หากซูจิ่นซีไม่มั่นใจเต็มสิบส่วน นางไม่มีวันลงมือทำ อีกทั้งวิชาแพทย์และทักษะด้านพิษของนางน่าเชื่อถืออย่างยิ่ง
ตงหลิงหวงจึงไว้วางใจซูจิ่นซีอย่างไม่มีเงื่อนไข
เมื่อทั้งสองมาถึง ฮ่องเต้แคว้นตงเฉินเพิ่งเสวยยาที่ซูจิ่นซีจัดให้ก่อนหน้านี้ พระอาการก็ดีขึ้นมาก
ซูจิ่นซีบอกขั้นตอนการรักษาแก่ฮ่องเต้แคว้นตงเฉินอีกครั้ง เมื่อฮ่องเต้แคว้นตงเฉินเห็นว่าตงหลิงหวงเชื่อมั่นในตัวซูจิ่นซีมาก จึงไม่ถามสิ่งใดอีก และให้ซูจิ่นซีเริ่มการรักษา
ขั้นตอนยังคงเป็นไปตามเดิม ซูจิ่นซีไม่ชอบให้ผู้อื่นอยู่ข้างกายขณะที่นางทำการวินิจฉัยและรักษา ต่อให้เป็นนางกำนัลก็ตาม นางจึงให้ตงหลิงหวงทำความสะอาดพื้นที่
หลังจากเตรียมพื้นที่แล้ว ตงหลิงหวงจึงเอ่ยถามซูจิ่นซี “ต้องการคนช่วยเหลือหรือไม่? หมอหลวงไม่สะดวก ข้าสามารถช่วยได้”
เมื่อพบปัญหาในการรักษา ซูจิ่นซีมักมีท่าทางจริงจังเสมอ “ไม่ต้อง! ”
ตงหลิงหวงไม่เคยเห็นซูจิ่นซีมีท่าทางจริงจังเช่นนี้มาก่อน นอกจากฮ่องเต้แคว้นตงเฉินแล้ว ยังไม่เคยมีผู้ใดแสดงท่าทางจริงจังต่อหน้านาง
ทว่าตงหลิงหวงกลับไม่รู้สึกอึดอัดใจ นางทำเพียงเดินออกไปเงียบๆ และปิดประตู
เมื่อภายในห้องบรรทมเหลือเพียงซูจิ่นซีกับฮ่องเต้แคว้นตงเฉินสองคน ซูจิ่นซีจึงหยิบยาจากระบบถอนพิษและเทลงในถ้วยหนึ่งใบ ละลายยาลงในน้ำ จากนั้นก็ยื่นให้ฮ่องเต้แคว้นตงเฉิน
“เสวยโอสถนี่ก่อนเพคะ เวลาล้างพิษจะบรรเทาความเจ็บปวดได้”
ฮ่องเต้แคว้นตงเฉินนั่งพิงหมอน ไม่ขยับเขยื้อน
ดูเหมือนซูจิ่นซีได้คาดการณ์ถึงสถานการณ์นี้ไว้แล้ว
“แน่นอน พระองค์ไม่ต้องเชื่อหม่อมฉันก็ได้ พระองค์ไม่จำเป็นต้องเสวยยานี้ หากสามารถทนความเจ็บปวดได้”
“เจ้าช่วยบอกวิธีถอนพิษให้เราฟังได้หรือไม่? ”
แม้ซูจิ่นซีไม่ต้องการกล่าวอันใด ทว่านางยังหยิบราชาหยกนิลกาฬออกมา และอธิบายให้ฮ่องเต้แคว้นตงเฉินฟังอย่างอดทน
“ไม่ว่าจะเป็นอาการบาดเจ็บภายในหรือบาดแผลอื่นๆ ในพระวรกายของพระองค์ ล้วนรักษาได้ง่ายกว่า ทว่าพิษในพระวรกายของพระองค์กลับยากที่จะขจัดออก โดยเฉพาะสารพิษจากโลหะหนัก
โอ้ พระองค์อาจไม่เข้าพระทัยเกี่ยวกับสารพิษโลหะหนัก นั่นก็คือ ปรอท ตะกั่ว และอื่นๆ มักเป็นสิ่งที่ใช้สำหรับหลอมยาวิเศษ
แม้ในยามปกติ สิ่งเหล่านี้จะใช้เป็นยา ทว่ามันขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ หากใช้ในปริมาณน้อยก็ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายมนุษย์มากนัก ทว่าหากใช้ในปริมาณมากเกินไป มันจะสะสมอยู่ในร่างกายของมนุษย์และกลายเป็นสารพิษ ไม่มียาที่สามารถรักษาให้หายขาดได้
วิธีการของหม่อมฉันง่ายมาก นั่นคือการนำราชาหยกนิลกาฬเข้าสู่พระวรกายของพระองค์ และใช้พิษต่อสู้กับพิษเพื่อขจัดสารพิษโลหะหนักในช่องท้องของพระองค์”
ซูจิ่นซีอธิบายอย่างชัดเจน ฮ่องเต้แคว้นตงเฉินอาจฟังไม่เข้าใจบ้าง ทว่าหลังจากที่ซูจิ่นซีพูดจบ พระองค์ก็เริ่มเกิดความสงสัยและความกังวล
เรื่องนี้ซูจิ่นซีจะไม่บังคับ นางวางถ้วยยาในมือไว้ข้างแท่นบรรทมของฮ่องเต้แคว้นตงเฉิน จากนั้นก็นั่งลงที่เก้าอี้ข้างโต๊ะ และรินน้ำชาให้ตนเองด้วยท่าทีผ่อนคลาย
“ยาในถ้วยนี้ นอกจากจะบรรเทาความเจ็บปวดแล้ว ยังเพิ่มบางสิ่งซึ่งเป็นของโปรดของราชาหยกนิลกาฬ เพื่อให้ง่ายต่อการดึงมันเข้าสู่ร่างกาย หากพระองค์ไม่ไว้ใจหม่อมฉัน การรักษาของเราก็จะจบลงเพียงเท่านี้ หม่อมฉันไม่มีเวลามากพอให้อยู่กับพระองค์ที่นี่”
พูดตามตรง ซูจิ่นซีถอนพิษให้ฮ่องเต้แคว้นตงเฉินได้ ทั้งหมด เป็นเพราะมู่หรงฉีชอบพอกับตงหลิงหวง หากไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์เช่นนี้ ซูจิ่นซีในฐานะพระชายาโยวอ๋องแห่งแคว้นจงหนิงคงไม่สามารถมารักษาฮ่องเต้แคว้นตงเฉินซึ่งเป็นแคว้นศัตรูแน่นอน
นางต้องการสังหารเขาเสียมากกว่า!
ฮ่องเต้แคว้นตงเฉินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แววตาแห่งความสงสัยค่อยๆ จางหายไป จากนั้นจึงหยิบถ้วยยาขึ้นมา
“ข้ารู้ดีที่สุดว่าร่างกายของข้าเป็นอย่างไร หากไม่ใช่เพราะสูตรยาที่เจ้าสั่งเมื่อวันก่อนใช้ได้ผล ข้าคงไม่หยิบยาถ้วยนี้
อย่างไรเสีย ช้าเร็วก็ต้องตาย หากเจ้าใช้โอกาสนี้สังหารข้าจริง ตายช้าหรือตายเร็วจะต่างกันอย่างไร”
เขาพูดพลางเงยหน้าขึ้นและดื่มยาจนหมดถ้วย