บทที่ 3064 (3) ปัจฉิมบท 29 / บทที่ 3065 (1) ปัจฉิมบท 30

ลำนำบุปผาพิษ

บท​ที่​ ​3064​ ​(​3)​ ​ปัจฉิม​บท​ ​29

จักรพรรดิ​เซียน​หลับตา​ลง​อย่าง​โศกสลด​ ​เว้นแต่​จะ​เกิด​ปาฏิหาริย์​ขึ้น​ใน​ช่วงเวลา​นี้​ ​มิเช่นนั้น​ก็​ไม่มี​ผู้ใด​สามารถ​ช่วยเหลือ​ประชาชน​ผู้บริสุทธิ์​ทั้งเมือง​ได้​แล้ว​…

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​เสียง​ร่ำไห้​โหยหวน​ของ​ปวงประชา​ที่​คาดการณ์​เอาไว้​กลับ​ไม่​แว่ว​ขึ้น​มา​เลย​ ​ส่วน​เสียง​พายุ​ทราย​โหม​ตลบ​ที่​กึกก้อง​กัมปนาท​ดุจ​สายฟ้า​ก็​คล้าย​จะ​ถูก​อัน​ใด​ตรึง​ไว้​ ​รอบข้าง​เงียบสงบ​ลง​ ​มี​เพียง​เสียง​สูด​หายใจ​ลึก​ๆ​ ​ที่​แผ่วเบา​เท่านั้น​…

จักรพรรดิ​เซียน​รีบ​ลืมตา​ขึ้น​มา​ ​จากนั้น​ก็ได้​เห็น​ฉาก​ที่​เขา​ยาก​จะ​ลืมเลือน​ได้​ใน​ชั่วชีวิต​นี้

ด้านนอก​ที่​ทราย​ทมิฬ​กลิ้ง​ถาโถม​ได้​มี​กำแพง​แสงรุ้ง​วง​หนึ่ง​เพิ่มขึ้น​มา​ ​กำแพง​นี้​บน​เชื่อม​จรด​นภา​ ​ล่าง​ประสาน​แนบ​ดิน​ ​ดู​เปราะบาง​อย่างยิ่ง​ ​ทว่า​ครอบคลุม​ทราย​ทมิฬ​เอาไว้​อย่าง​สมบูรณ์​ทรงพลัง​ดุจ​พยัคฆ์​ย่าง​ลง​เขา​ ​ทำให้​มัน​เคลื่อน​ไป​ข้างหน้า​ไม่ได้​อีก​…

วิญญาณ​อาฆาต​ใน​ทราย​ทมิฬ​ร้อง​คำราม​พุ่งชน​ ​ทว่า​ไม่​สามารถ​สั่นคลอน​กำแพง​แสงรุ้ง​นั้น​ได้​เลย​สักนิด

บน​นภา​เหนือ​กำแพง​รุ้ง​ ​มี​คน​ผู้​หนึ่ง​ยืน​สง่า​อยู่​ ​สวม​อารมณ์​ม่วง​ดุจ​แสง​สนธยา​อัน​ร้อนแรง​สุด​คณา​ ​ทอแสง​เจิด​จรัส​อยู่​บน​ท้อง​นภา​ ​รอบกาย​คน​ผู้​นั้น​มีแสง​มงคล​นับ​หมื่น​โอบล้อม​ ​ทำให้​ผู้คน​มองเห็น​ใบหน้า​ของ​เขา​ไม่ชัด​ ​แต่​อำนาจ​กดดัน​ของ​ผู้​เป็น​เทพ​กลับ​ท่วมท้น​ล้น​ฟ้า​นอง​ปฐพี​…

สอง​ขา​ของ​จักรพรรดิ​เซียน​พลัน​อ่อน​ยวบ​ ​คุกเข่า​ลง​บน​ยอด​เมฆา

ส่วน​คนที​่​เหลือ​ ​ย่อม​ยืน​ไม่อยู่​แล้ว​เช่นกัน​ ​พากั​นคุก​เข่า​ให้​แก่​คน​ผู้​นั้น

แน่นอน​ ​ประชาชน​ที่​ร่ำไห้​หนี​ตาย​อยู่​ใน​เมือง​ก็ได้​เห็น​ฉาก​นี้​ด้วย​ ​ร่างกาย​พลัน​อ่อน​ยวบ​ ​พากั​นก​้​มล​งก​ราบ​กราน

ราชัน​ปีศาจ​ที่อยู่​ระหว่าง​การ​หลบหนี​ ​ทันทีที่​เขา​ได้​เห็น​ฉาก​นี้​ ​ก็​มอง​เข้าไป​ใน​แสง​มงคล​แวบ​หนึ่ง​อย่าง​ไม่​อาจ​ควบคุมตัว​เอง​ได้​ ​ยัง​ไม่ทัน​ได้​เห็นชัด​ๆ​ ​ว่า​หน้าตา​ของ​คน​ผู้​นั้น​เป็น​อย่างไร​ก็​สัมผัส​ถึง​แรงกดดัน​อัน​แกร่งกล้า​แห่ง​เทวา​แล้ว​ ​คุกเข่า​เสียงดัง​ตึง​ ​หวิด​จะ​ร่วงหล่น​จาก​เมฆา​แล้ว

“​นั่น​คือ​…​นั่น​คือ​…​”

“​เจ้า​แห่ง​ลิขิต​สวรรค์​!​”

“​เป็น​เจ้า​แห่ง​ลิขิต​สวรรค์​!​”

ถึงแม้​คนที​่​เคย​เห็น​เจ้า​แห่ง​ลิขิต​สวรรค์​จะ​มีอยู่​เพียง​ไม่​กี่​คน​ ​แต่​บัดนี้​เมื่อ​ได้​เห็น​คน​ผู้​นี้​ ​จู่ๆ​ ​ใน​ใจ​ของ​ทุกคน​ก็​มีความรู้​เช่นนี้​ผุด​ขึ้น​มา

จักรพรรดิ​เซียน​ชะงัก​ไป​แวบ​หนึ่ง​ ​ในที่สุด​ก็ได้​เห็น​เงา​ร่าง​ของ​คน​ผู้​นั้น​ที่อยู่​ท่ามกลาง​แสง​มงคล​เจิดจ้า​ชัดเจน​แล้ว​ ​ร่าง​พลัน​ไหว​สะท้าน​ ​ดุจ​ถูก​ฟ้าผ่า​!​ ​ปาก​อ้า​เผยอ​นิดๆ​ ​จะ​ทำ​อย่างไร​ก็​เปล่ง​คำ​ว่า​ ​‘​ฝ่า​บาท​เนี่ยน​โม่​’​ ​ออกมา​ไม่ได้​อีกแล้ว​!

คน​ผู้​นั้น​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​ ​ถึงแม้​รูปโฉม​จะ​คล้ายคลึง​กับ​ฝ่า​บาท​เนี่ยน​โม่​ ​แต่​รัศมี​อำนาจ​กลับ​แตกต่าง​กัน​อย่าง​สิ้นเชิง​เลย​!

นั่น​คือ​เทพเจ้า​องค์​หนึ่ง​!​ ​เจ้า​แห่ง​ฟ้า​ดิน​ ​เทพ​ผู้ควบคุม​ความ​เป็นความ​ตาย​ของ​หก​ภพ​ภูมิ​!​ ​เพียง​พลิก​มือ​ก็​เรียก​ลม​เรียก​ฝน​ได้​ขนาน​แท้

เขา​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​ ​เพียง​จรด​ร่าย​อาคม​หนึ่ง​ ​สร้างกำแพง​แสงสาย​หนึ่ง​ขึ้น​เพื่อ​ปก​ปักษ์​ปวงประชา​ ​ตรึง​ทะเลทราย​ที่​ดุร้าย​คุ้มคลั่ง​เอาไว้​ตรงนั้น​อย่างมั่นคง​!

ราชัน​ปีศาจ​อ้า​ปากกว้าง​จน​แทบ​หุบ​ไม่​ลง​แล้ว

ไม่​นึก​เลย​ว่า​ไอ้​หนุ่ม​หน้าขาว​ตัว​พ่อ​คน​นั้น​จะ​เป็น​ร่าง​อวตาร​ของ​เจ้า​แห่ง​ลิขิต​สวรรค์​…

ยาม​นี้​ ​เจ้า​แห่ง​ลิขิต​สวรรค์​ท่าน​นี้​ได้​ตื่น​รู้​ขึ้น​มา​ได้​!

โอ้​สวรรค์​ ​ไม่น่าเชื่อ​ว่า​เขา​จะ​ได้​ต่อย​ตี​กับ​เจ้า​แห่ง​ลิขิต​สวรรค์​!

ราชัน​ปีศาจ​ถู​ไม้​ถู​มือ​ ​เดิมที​การ​ที่​เขา​ถูก​ต่อย​จน​จมูก​เขียว​หน้า​บวม​เป็นเรื่อง​น่าอับอาย​ขายหน้า​ ​แต่​ยาม​นี้​จู่ๆ​ ​ก็​รู้สึก​ว่า​มีเกียรติ​มีศรี​อยู่​บ้าง​…

ส่วน​เหล่า​ผู้​บำเพ็ญ​ที่​สิ้นหวัง​ไป​แล้ว​ ​แต่​เมื่อ​ได้​เห็น​ฉาก​นี้​ ​ใน​ใจ​ก็​มีความหวัง​พุ่ง​ทะยาน​ขึ้น​มา​แล้ว​!

สตรี​ประหลาด​ที่​ควบคุม​ทะเลทราย​ชั่วร้าย​ได้​ผู้​นั้น​น่าจะ​ไม่ใช่​คู่ต่อสู้​ของ​เขา​กระมัง​?

สายตา​นับไม่ถ้วน​มอง​ไป​ทางทะเล​ทราย​ชั่วร้าย​ ​รอ​ให้​สตรี​ชุด​ขาว​ผู้​นั้น​เผย​ตัว​ขึ้น​อีกครั้ง

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​หลบ​อยู่​ใน​มุม​หนึ่ง​ ​กำลัง​มองดู​ตี้ฝู​อี​อยู่​เช่นกัน​ ​ความเศร้า​หมอง​วาบ​ผ่าน​นัยน์ตา

ไม่​นึก​เลย​ว่า​เขา​จะ​มาตื​่​นรู​้​ขึ้น​ที่นี่​ ​หวนคืน​สู่​ฐานะ​เจ้า​แห่ง​ลิขิต​สวรรค์​แล้ว​…

เขามอง​ไป​ทาง​กู้​ซีจิ​่​วอี​กค​รั้ง​ ​กู้​ซีจิ​่ว​ยืน​อยู่​ข้าง​กาย​ตี้ฝู​อี​ ​ยืน​อยู่​ภายใน​แสง​มงคล​ของ​เขา​ ​ทั้งสอง​เคียงบ่าเคียงไหล่​กัน​ ​ถึงแม้​กู้​ซีจิ​่​วจะ​ยัง​ไม่ได้​ฟื้นฟู​กลับคืน​สู่​ฐานะ​เทพ​ผู้สร้าง​โลก​ ​แต่​ยาม​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​กาย​ตี้ฝู​อี​เช่นนี้​ ​ไม่มีความรู้​สึก​ขัดแย้ง​แตกต่าง​อัน​ใด​เลย​ ​เข้าคู่​กัน​เสมือน​กิ่งทองใบหยก​…

ทะเลทราย​ชั่วร้าย​ยังคง​ซัด​ถาโถม​อยู่​ด้านใน​ ​แต่​กำแพง​ถูก​แสง​นั้น​ตรึง​เอาไว้​อย่าง​หนาแน่น​ ​เคลื่อน​ไป​ข้างหน้า​ไม่ได้​เลย

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​วิญญาณ​ที่​ชายขอบ​ของ​ทะเลทราย​ก็​จำแลง​เป็น​สตรี​ชุด​ขาว​กว่า​สิบ​คน​ ​เหมือนก่อน​หน้า​นี้​ทุก​ประการ

นาง​จ้องมอง​คน​ทั้งสอง​ที่อยู่​ภายใน​แสง​สนธยา​อัน​เจิด​จรัส​อย่าง​ชิงชัง​ ​สายตา​เปี่ยม​ด้วย​ความโกรธแค้น​!

….

————————————————————————————-

บท​ที่​ ​3065​ ​(​1)​ ​ปัจฉิม​บท​ ​30

ถูก​สายตา​โกรธแค้น​กว่า​สิบ​คู่​มองดู​เช่นนี้​ ​กู้​ซีจิ​่ว​เพียง​เลิก​คิ้ว​เล็กน้อย​ ​ไม่ได้​ส่งเสียง​ออกมา

สายตา​ของ​สตรี​ชุด​ขาว​กว่า​สิบ​คน​นั้น​มอง​ไป​ที่​ตี้ฝู​อี​ ​เอ่ย​พึมพำ​ ​“ฝู​อี​ ​ที่แท้​เจ้า​ก็​เป็น​เจ้า​แห่ง​ลิขิต​สวรรค์​…​ไอ้​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ที่​น่าชัง​กลับ​ไม่เคย​พูด​ออกมา​เลย​!​”

เห็น​กัน​อยู่​ชัดๆ​ ​ว่า​เป็น​สตรี​สิบ​กว่า​คน​เอ่ย​ขึ้น​มา​พร้อมกัน​ ​แต่กลับ​คล้าย​เสียง​กล่าว​ของ​คน​ผู้เดียว​ ​ใน​เสียง​เจือ​ความขุ่นข้อง​เอาไว้​รางๆ​ ​ก้อง​สะท้อน​อยู่​ริม​หู​ของ​ทุกคน

ผู้คน​ที่อยู่​ใน​เหตุการณ์​มีอยู่​กว่า​ร้อย​คน​ ​ใน​บรรดา​นั้น​ส่วนใหญ่​เป็น​บุรุษ​ ​คน​เหล่านี้​กล่าว​ได้​ว่า​เห็น​สาวงาม​มา​จน​คุ้นชิน​แล้ว​ ​แต่​บัดนี้​เมื่อ​ได้ยิน​สตรี​ชุด​ขาว​เปล่ง​วาจา​ ​ไม่น่าเชื่อ​ว่า​ใน​ใจ​แต่ละคน​จะ​เกิด​รู้สึก​ใจอ่อน​เวทนา​สงสาร​ ​ขื่นขม​ขึ้น​มา​…

สีหน้า​ตี้ฝู​อี​เรียบ​เฉย​ ​เพียง​จรด​นิ้ว​ร่าย​อาคม​ขึ้น​มา​อีกครั้ง​ ​มีแสง​รุ้ง​ควบ​รวม​ขึ้น​กลางฝ่ามือ​เขา

“ฝู​อี​ ​ในเมื่อ​เจ้า​กลับ​สู่​ฐานะ​ตัวตน​เดิม​แล้ว​ ​คาด​ว่าความ​ทรง​จำ​ใน​อดีต​ก็​คงจะ​ฟื้นฟู​กลับมา​ด้วย​ ​ใน​ปีนั​้น​ ​เป็น​เจ้า​ติดค้าง​ข้า​ ​หาก​มิใช่​เพราะ​เจ้า​ดึงดัน​จะ​เพิกถอน​สัมพันธ์​ศิษย์​อาจารย์​กับ​ข้า​ให้​ได้​ ​ข้า​ก็​คง​ไม่​ดับขันธ์​ก่อนกำหนด​…​”

ดวงตา​ของ​สตรี​ชุด​ขาว​จับจ้อง​เขา​ ​ใน​ดวงตา​กว่า​สิบ​คู่​ดุจ​มี​หยาดน้ำ​เอ่อ​คลอ​ ​“​ยาม​นี้​ยัง​จะ​หักใจ​ทำร้าย​ข้า​ได้​ลงคอ​อีก​หรือ​?​”

เสียง​นั้น​คับแค้น​ขุ่นเคือง​อย่าง​สุดขีด​ ​ทำให้​อากาศ​โดยรอบ​คล้าย​จะ​ติดเชื้อ​ความคับ​แค้น​ไป​ด้วย​รางๆ

ใน​สมอง​ทุกคน​เกิด​เสียงดัง​ตูม​ ​ใน​ใจ​โศกศัลย์​ขื่นขม​จน​แทบจะ​ท่วม​ทะลัก​แล้ว​ ​ปรารถนา​จะเข้า​ไป​โอบกอด​สตรี​ชุด​ขาว​เอาไว้​แล้ว​ปลอบประโลม​อย่างดี​ใจ​แทบ​ขาด​…

นี่​ผิดปกติ​แล้ว​!

เหล่า​ผู้​บำเพ็ญ​ที่อยู่​ ณ​ ​ที่​แห่ง​นี้​ล้วน​เป็น​ปาท่องโก๋​แก่​ที่​ผ่าน​โลก​มา​อย่าง​โชกโชน​ทั้งสิ้น​ ​ย่อม​รับรู้​ได้​ว่า​อารมณ์​ใน​ตอนนี้​ผิดปกติ​ ​จนปัญญา​ที่​รู้​ก็​ส่วน​รู้​ ​ทว่า​ไม่​อาจ​ควบคุม​อารมณ์​ความรู้สึก​ของ​ตน​ได้

ยาม​ที่​มีน​้ำ​ตาร​่​วง​ริน​ลง​บน​หน้า​ของ​สตรี​ชุด​ขาว​ ​คน​ส่วนหนึ่ง​ก็​ควบคุม​อารมณ์​ไม่อยู่​แล้ว​ ​น้ำตาไหล​ลงมา​ด้วย​เช่นกัน

คน​บางส่วน​ที่​จิตใจ​อ่อนแอ​ก็​ราวกับ​ถูก​คน​ควบคุม​ ​เริ่ม​หันเห​สายตา​ไป​ทาง​ตี้ฝู​อี​แล้ว​ ​เกลี้ยกล่อม​ให้​เขา​ทบทวน​ดี​ๆ​ ​ร้องขอ​ความเมตตา​ให้​สตรี​นาง​นั้น​…

ตี้ฝู​อี​หลุบ​ตาม​อง​สตรี​เหล่านั้น​ ​ถึงแม้​สีหน้า​จะ​ราบเรียบ​อยู่​ตลอด​ ​แต่​แสงรุ้ง​ที่​จรด​ร่าย​ขึ้น​บน​ปลายนิ้ว​กลับ​อ่อน​จาง​ลง​แล้ว

แววตา​ของ​สตรี​กว่า​สิบ​คน​นั้น​พลัน​วูบ​ไหว​ ​เหิน​พลิ้ว​ขึ้น​มา​ ​ยืด​กาย​เหยียด​อก​ ​เผชิญหน้า​กับ​ตี้ฝู​อี​ ​“ฝู​อี​ ​เจ้า​อยาก​ให้​เรื่องราว​ซ้ำรอย​เดิม​จริงๆ​ ​หรือ​?​ ​จะ​สังหาร​ข้า​อีกครั้ง​หนึ่ง​หรือ​?​”

ในที่สุด​ตี้ฝู​อีก​็​เปิดปาก​แล้ว​ ​“​เปิ่น​จุน​ไม่มีทาง​สังหาร​เจ้า​อีกครั้ง​หนึ่ง​…​”​ ​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​เขา​เปิดปาก​พูด​ ​หลังจากที่​กลับคืน​สู่​ฐานะ​เจ้า​แห่ง​ลิขิต​สวรรค์​แล้ว

น้ำเสียง​ดุจ​แฝง​ไอ​เมฆา​ล้อม​พัวพัน​ ​เสนาะ​หู​เหลือคณา​ ​กู้​ซีจิ​่ว​ถูก​น้ำเสียง​ของ​เขา​ทำเอา​ใจเต้น​ผิดจังหวะ​ไป​สองครา​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​มอง​เขา​แวบ​หนึ่ง

แววตา​ของ​สตรี​กว่า​สิบ​คน​นั้น​ทอ​ประกาย​นิดๆ​ ​“ฝู​อี​ ​ข้า​รู้อยู่​แล้ว​…​”

พวก​นาง​กล่าว​วาจา​ยัง​ไม่ทัน​จบ​ ​ทันใดนั้น​มีแสง​สนธยา​กว่า​สิบ​สาย​พุ่งตรง​เข้าหา​ใบหน้า​และ​ศีรษะ​ของ​นาง​โดยตรง​ ​ยัง​มีคำ​พูด​ของ​ตี้ฝู​อี​ที่​ตามหลัง​มา​พร้อมกับ​แสง​สนธยา​ด้วย​ ​“​เปิ่น​จุน​จะ​สังหาร​เจ้า​กว่า​สิบ​ครั้ง​!​”

แสงรุ้ง​ส่อง​พร่างพราว​ ​คลื่น​แสง​มลังเมลือง​ ​เข้า​ครอบคลุม​สตรี​กว่า​สิบ​คน​นั้น​พร้อมกัน

สตรี​กว่า​สิบ​คน​นั้น​กรีดร้อง​ด้วย​ความตกใจ​แล้ว​แปรเปลี่ยน​เป็น​เสียง​โหยหวน​ ​เดิมที​เป็น​สุ้มเสียง​สตรีที​่​อ่อนหวาน​ ​แต่​ยาม​ที่​ร้อง​โหยหวน​ขึ้น​มาก​ลับ​กลายเป็น​เสียงร้อง​โหยหวน​ของ​ชาย​หญิง​นับไม่ถ้วน​ผสม​ปนเป​กัน​อยู่​ ​เสียง​แทบ​เจาะ​ทะลวง​แก้วหู​ของ​ผู้คน​ได้​ ​และ​ปลุก​ให้​เหล่า​เซียน​ที่ลุ่ม​หลง​อยู่​ใน​เสียง​เหล่านั้น​ได้สติ​ขึ้น​มา​…

เมื่อ​แสงรุ้ง​สลาย​ไป​ ​สตรี​กว่า​สิบ​คน​นั้น​ก็​หาย​ไป​ด้วย

ทุกคน​สั่นสะท้าน​ตื่น​ตะลึง​ ​ในที่สุด​ก็ได้​สติ​แจ่มแจ้ง​แล้ว

ทว่า​ตี้ฝู​อีก​ลับ​ไม่​เปิดโอกาส​ให้​ทุกคน​มี​ปฏิกิริยา​ตอบสนอง​เลย​ ​สะบัด​แขน​เสื้อ​ครา​หนึ่ง​ ​แสงรุ้ง​นับไม่ถ้วน​กลายร่าง​เป็น​ใบ​มีด​แหลมคม​พุ่ง​ทะยาน​เข้าสู่​ส่วนลึก​ของ​ทะเลทราย

ทะเลทราย​ที่​เดิมที​ปั่นป่วน​คลุ้มคลั่ง​อยู่​เสมือน​ถุง​ที่​ถูก​คม​มีด​กรีด​เฉือน​ ​ไม่น่าเชื่อ​ว่า​จะ​ปรากฏ​สัญญาณ​ของ​การเสื่อมสลาย​ขึ้น​มาส​อง​สาม​ส่วน​แล้ว

“​ตี้ฝู​อี​ ​จิตใจ​เจ้า​ช่าง​เหี้ยมโหด​นัก​!​”​ ​มีเสียง​กรีดร้อง​ของ​สตรี​แว่ว​ออกมา​จาก​ส่วนลึก​ของ​ทะเลทราย​ ​คล้าย​จะ​ร่ำไห้​และ​คล้าย​จะ​โกรธ​เกรี้ยว

“​จิตใจ​ของ​เปิ่น​จุน​โหดเหี้ยม​เสมอมา​ ​เจ้า​เพิ่ง​รู้​หรือไง​?​”​ ​ตี้ฝู​อีก​่​ออา​คม​ขึ้น​ที่​ปลายนิ้ว​อีกครั้ง​ ​น้ำเสียง​เย็นชา​เฉียบขาด​ ​“​ไม่จำเป็น​ต้อง​ปล่อย​ร่าง​แยก​ของ​เจ้า​ออกมา​แล้ว​ ​มิเช่นนั้น​ปล่อย​ออกมา​เท่าไหร่​เปิ่น​จุน​ก็​จะ​ทำลาย​ทิ้ง​เท่านั้น​!​”

————————————————————————————-