เล่มที่ 31 เล่มที่ 31 ตอนที่ 903 แตงกวาก็เอามาด้วย

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

แตงกวาก็เอามาด้วยหรือเนี่ย?

ผักใบเขียวนี่เป็นสิ่งที่พกพายากที่สุด

ศักยภาพของเยี่ยโยวเหยาสูงส่งเกินไปหรือไม่? นางเพียงพูดออกไปโดยไม่ได้ใส่ใจเท่านั้น

ซูจิ่นซีจึงพูดอย่างเขินอาย “ท่านอ๋อง ข้าเพียงพูดเล่นเท่านั้น ท่านไม่ต้องทำจริงก็ได้”

ดวงตาของเยี่ยโยวเหยาแสดงออกถึงความรักใคร่และอ่อนโยน เขาคีบผักใส่ลงในชามของซูจิ่นซี

“ไม่ต้องกังวล ตอนที่มา ข้าเตรียมของไว้พร้อมแล้ว พระชายาที่รักจะเสวยสิ่งใดก็บอกได้ทันที ข้าจะสั่งให้คนไปทำ”

เตรียมของไว้เพียงพอ?

โยวอ๋อง ท่านเตรียมสิ่งของมามากเพียงใดกันแน่?

การเดินทางครั้งนี้ พวกเราต้องแอบแฝงตัวเข้าไปในดินแดนศัตรูไม่ใช่หรือ? หาใช่วันหยุดหรือการท่องเที่ยวชมทัศนียภาพ! นอกจากนั้น หากผิดพลาด ย่อมเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ปัจจัยด้านความปลอดภัยต่ำมาก!

ท่านกำลังคิดจะก่อเรื่องอันใดหรือ?

อย่างไรก็ตาม ซูจิ่นซีไม่มีทางคาดคิดได้เลย ดูเหมือนเยี่ยโยวเหยาจะมองออกว่านางกำลังคิดสิ่งใด

“ไม่ต้องคิดมากอันใด และไม่ต้องกังวลให้มาก มีข้าอยู่ด้วย เจ้าทำตัวเป็นสาวน้อยข้างกายข้าก็พอแล้ว! ”

“แค่ก แค่ก แค่ก! ”

ซูจิ่นซีสำลักข้าวในลำคอจนไอออกมาสองสามครั้ง

เยี่ยโยวเหยารีบยื่นน้ำให้ซูจิ่นซี “เป็นอย่างไร? อาหารจานนี้ไม่ถูกปากหรือ? คนพวกนี้ทำกันอย่างไร? ”

เขาพูดพลางเคาะหน้าต่างรถม้าด้วยใบหน้าเคร่งขรึมเพื่อกล่าวตำหนิ

ซูจิ่นซีรีบห้ามเยี่ยโยวเหยา “ไม่ ไม่ใช่ เพคะ! ”

เยี่ยโยวเหยามองซูจิ่นซีด้วยสีหน้าสงสัย

ซูจิ่นซีเม้มริมฝีปาก พลางมองใบหน้าเยี่ยโยวเหยาด้วยดวงตาเปล่งประกาย นางมองอยู่ครู่หนึ่งและพูดขึ้นว่า

“สาวน้อย… เยี่ยโยวเหยา ท่านไปเรียนคำเหล่านี้มาจากที่ใด? น่าคลื่นไส้ ไม่ใช่อุปนิสัยของท่าน! หรือว่ามีใครสอนให้ท่านเสียคน”

นางพูดพลางโน้มตัวไปหาเยี่ยโยวเหยา “บอกข้า! ผู้ใดกันที่สอนท่านจนเสียคนถึงเพียงนี้! ”

เยี่ยโยวเหยาสบสายตาซูจิ่นซี ก้นบึ้งในดวงตาคุกรุ่นไปด้วยไฟปรารถนาที่พยายามสะกดกั้นไว้ จนซูจิ่นซีไม่สามารถมองเห็นได้เลย

เพียงครู่เดียว เขาก็บรรจงจูบริมฝีปากสีแดงร้อนแรงของซูจิ่นซี จากนั้นจึงมองดวงตาของนางด้วยความรักลึกซึ้งเสน่หา

“นอกจากพระชายาที่รักแล้ว ผู้ใดจะสอนข้าได้อีกหรือ? ”

ซูจิ่นซีตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ราวกับไม่คาดคิดว่าเยี่ยโยวเหยาจะรุกไล่เช่นนี้ เขาขยับเข้ามาใกล้และลูบไล้แขนของนาง

“ขนลุก น้อยๆ หน่อย! ข้าสอนท่านเสียคนตั้งแต่เมื่อใด? ท่านเรียนรู้เองทั้งนั้น! ”

อุณหภูมิในรถม้าอบอุ่น ซูจิ่นซีกำลังหยอกล้อเยี่ยโยวเหยาอย่างมีความสุข ทว่าเยี่ยโยวเหยามองใบหน้าซูจิ่นซีอย่างเสน่หาลึกซึ้ง “ซูจิ่นซี เจ้าหยุดหยอกเล่นกับข้าเช่นนี้ หากทำอีกครั้ง ข้าจะลงโทษเจ้าตรงนี้ให้สาสม”

การกระทำทั้งหมดของซูจิ่นซีหยุดชะงักทันที คิ้วของนางกระตุกเล็กน้อย จากนั้นจึงหันหลังกลับมามองใบหน้าของเยี่ยโยวเหยา

ก่อนจะพบว่าสีหน้าของเยี่ยโยวเหยามีบางอย่างผิดปกติ นางจึงรีบเขยิบตัวนั่งห่างออกไป และหยิบชามข้าวขึ้นมาทานต่อ ทำทีเชื่อฟังแต่โดยดี

ทว่านางกลับบ่นในใจว่า ‘ก็ได้! เพียงล้อเล่น เพราะเหตุใดท่านอ๋องถึงได้เกิดอารมณ์อีกแล้ว?

จริงๆ เลย!

คนป่าเถื่อน คนป่าเถื่อน หื่นที่สุด!

ไม่รู้จักอดกลั้น ไม่รู้จักหักห้ามใจ ไม่รู้จักพอ!

อารมณ์หื่นระเบิดขึ้นไม่บอกล่วงหน้า’

ซูจิ่นซีแอบบ่นพึมพำในใจ แต่นางลืมไปว่าบุคคลที่นั่งอยู่ภายในรถม้าพร้อมกับนางคือเยี่ยโยวเหยา!

เยี่ยโยวเหยาเป็นคนเช่นไร?

แม้ไม่ใช่คนที่เข้าใจนางมากที่สุด ทว่ามันช่างอัศจรรย์ยิ่งนัก หลายครั้งเพียงมองนาง เขาก็รู้ว่านางกำลังคิดอันใดอยู่

แน่นอนว่าเสียงของเยี่ยโยวเหยาดังขึ้นจากด้านบน “ห้ามบ่นข้าในใจ”

‘อึก’ ซูจิ่นซีเกือบจะสำลักอีกครั้ง

หลายวันมานี้ ซูจิ่นซีมักจะง่วงนอนเป็นพิเศษ หลังอาหารเช้า เยี่ยโยวเหยาจัดการเอกสารราชสำนัก ส่วนซูจิ่นซีงีบหลับบนตักของเยี่ยโยวเหยาในรถม้า

อู๋จุนหายหน้าไปเลยหลังขี่ม้าออกไปข้างนอก ตงหลิงหวง อวิ๋นจิ่น และถังเสวี่ยอยู่ในโรงเตี๊ยม ยุ่งกับเรื่องของตนเอง

เดิมที วันนี้ทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว สามารถเดินทางได้ในทันที ทว่าเยี่ยโยวเหยาบอกให้ทุกคนรออีกสองคน และกำหนดเวลาออกเดินทางเป็นเช้าวันรุ่งขึ้น

แม้เจ้าของโรงเตี๊ยมจะเตรียมอาหารค่ำให้พวกเขาแล้ว ทว่าเยี่ยโยวเหยาก็ยังไม่เข้ามารับประทานอาหาร ซูจิ่นซีจึงอยู่บนรถม้ากับเยี่ยโยวเหยา

อาหารเช้า กลางวัน และอาหารเย็นหลากหลายชนิดไม่ซ้ำกัน อีกทั้งอาหารค่ำยังมีแตงกวาดองเพิ่มมาเป็นพิเศษอีกหนึ่งจาน

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทุกครั้งที่ซูจิ่นซีเห็นจานแตงกวาดอง น้ำลายก็ไหลด้วยความอยากทานเป็นพิเศษ นางทานผักดองหมดไปครึ่งจานภายในเวลาอึดใจเดียว

เมื่อเยี่ยโยวเหยาเห็นเช่นนี้ ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความรักและเอ็นดู เขาคีบซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานชิ้นหนึ่งใส่ลงในชามของซูจิ่นซี

“ลองชิมนี่สิ นี่ก็เปรี้ยวเหมือนกัน”

เปรี้ยว?

ซูจิ่นซีไม่ได้คิดอันใดจากคำพูดของเยี่ยโยวเหยา เมื่อซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานอยู่ตรงหน้า นางก็รู้สึกพะอืดพะอม อาหารที่กินเข้าไปเมื่อครู่แทบจะสำรอกออกมา

ซูจิ่นซีรีบวางชามลง ก่อนจะพิงข้างรถม้าและอาเจียนออกมา สีหน้าของเยี่ยโยวเหยาเปลี่ยนไปทันที เขารีบไปประคองซูจิ่นซีและลูบหลังให้นาง

“เป็นอันใดหรือ ไม่สบายตรงไหน ข้าจะไปเรียกอวิ๋นจิ่น”

“ไม่ต้องเพคะ” ซูจิ่นซีรีบคว้ามือของเยี่ยโยวเหยา ก่อนจะเช็ดริมฝีปากพลางครุ่นคิดอันใดบางอย่าง และเหลือบมองแตงกวาดองที่นางกินเข้าไปครึ่งหนึ่งด้วยสีหน้าแปลกใจ รวมถึงซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานที่เยี่ยโยวเหยาคีบให้ด้วย

“หรือว่าอาหารคืนนี้ไม่ถูกปากหรือ? เจ้าอยากทานอันใดอีก ข้าจะสั่งให้พวกเขาทำมาให้! ”

ซูจิ่นซีส่ายศีรษะ และยกยิ้มมุมปากอย่างไม่เต็มใจนัก

“ไม่ต้อง อาจเป็นเพราะข้าทานอาหารเช้าและกลางวันมากจนเกินไป และไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย จึงรู้สึกจุก ท่านอ๋องเสวยไปก่อน ข้าขอลงไปเดินสักหน่อย! ”

นางพูดจบก็ไม่รอให้เยี่ยโยวเหยาพูดอันใด ก่อนจะคว้าเสื้อคลุมยาวที่แขวนอยู่ด้านข้างมาสวมบนตัวและลงจากรถม้าทันที

เยี่ยโยวเหยาไม่ได้ลงตามไปด้วย

ลมช่วงหัวค่ำที่นี่ค่อนข้างหนาวเย็น ซูจิ่นซีรัดเสื้อคลุมไว้แน่น พลางกอดอกเดินไปข้างหน้าทีละก้าว ลมหนาวพัดปะทะใบหน้า เสียดแทงดั่งมีดบาด ทว่าดูเหมือนนางจะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดแม้แต่น้อย จิตใจฟุ้งซ่าน ภายในหัวของนางเต็มไปด้วยคำพูดของเทพพยากรณ์ที่บอกกับนาง ตอนที่อยู่ในห้องลับสวนหลังบ้านของสกุลจงแคว้นหนานหลี

ดวงจิตของท่านยังไม่สมบูรณ์ โชคชะตากำหนดให้ต้องผ่านด่านเคราะห์ครั้งใหญ่ในชีวิต ในโลกใบนี้มีเพียงคุณชายจิ่วแห่งสำนักแพทย์เทียนอีเท่านั้นที่สามารถช่วยเจ้าผ่านด่านเคราะห์ครั้งนี้ได้ เพราะฉะนั้น หลังจากบ่าวตายไปแล้ว ท่านต้องนำกระดูกของบ่าวไปที่ทะเลอู๋ว่าง ตามหาหญ้าเสินเซียน จากนั้นต้องไปหาคุณชายจิ่วที่หุบเขาเทียนอีก่อนวันเสี่ยวหาน[1]

คุณหนูจำไว้ให้ดี ต้องไปให้ถึงก่อนวันเสี่ยวหาน ก่อนวันเสี่ยวหานเจ้าค่ะ หากผ่านวันเสี่ยวหานไปแล้ว ยังไม่ได้จัดการให้เรียบร้อย ดวงวิญญาณของท่านจะแตกสลาย หากเป็นเช่นนั้น สิ่งที่คุณชายลงแรงไปนับพันปีก็เปล่าประโยชน์!

คุณหนูฟังบ่าวพูดให้ดีนะเจ้าคะ ท่านไม่สามารถอยู่ร่วมกับรัชทายาทเสวียนเยี่ยที่กลับชาติมาเกิดได้ ท่านอยู่ด้วยกันไม่ได้เด็ดขาด จะเกิดเคราะห์สวรรค์ ยิ่งไม่สามารถมีบุตรได้

คุณหนู มารดาของท่าน จงซีจือ เสียชีวิตด้วยเคราะห์สวรรค์ในตอนนั้นก็เพราะนางให้กำเนิดท่าน…

……

เชิงอรรถ

[1] วันเสี่ยวหาน (小寒) เป็นฤดูกาลที่ 23 ใน 24 ฤดูกาลของจีน ซึ่งในปีนี้เริ่มขึ้นในวันที่ 5 ม.ค. เป็นวันที่ประเทศจีนจะได้สัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็นขึ้นไปอีกขั้น โดยหลายพื้นที่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ ช่วงฤดูกาลนี้ ชาวจีนมักนิยมรับประทานอาหารร้อนๆ เพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย อาทิ หม้อไฟเนื้อแกะ เกาลัด ข้าวเหนียวนึ่ง รวมไปถึงอาหารประเภทถั่ว อบเชย กระเทียม และพริกไทย คนจีนยังแบ่งฤดูกาลใน 农历 ออกเป็น 24 ฤดู โดยใช้ 天干地支 tiān gān dì zhī [1] ทั้งเพื่อใช้บอกเวลาทางการเกษตร ประเพณีและพิธีกรรม เรียกว่า 二十四节气 èr shí sì jié qì โดยแบ่งจาก 4 ฤดูกาลใหญ่ทั้ง 4 春夏秋冬 chūn xià qiū dōng ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ให้ย่อยลงไปอีก 6 ฤดูกาลย่อยที่เรียกว่า 气 qì ดังนี้

立春 lì chūn — ช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ วันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 3, 4 หรือ 5 ของเดือน ก.พ.

雨水 yǔ shuǐ — ช่วงน้ำฝน น้ำหลาก วันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 18,19 หรือ 20 ของเดือน ก.พ.

惊蛰 jīng zhé — ช่วงแมลงและสัตว์ตื่นจากการจำศีล วันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 5, 6 หรือ 7 ของเดือน มี.ค.

春分 chūn fēn — ช่วงวสันตวิษุวัต กลางวันกับกลางคืนจะยาวเท่ากัน (ฤดูใบไม้ผลิ) วันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 20, 21 หรือ 22 ของเดือน มี.ค.

清明 qīng míng — แปลตรงตัวว่าช่วงสว่างใส (ช่วงเทศกาลเชงเม้ง) วันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 4, 5 หรือ 6 ของเดือน เม.ย.

谷雨 gǔ yǔ — ช่วงฝนข้าว ช่วงที่เหมาะกับการปลูกเมล็ดข้าว วันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 19, 20 หรือ 21 ของเดือน เม.ย.

立夏 lì xià — ช่วงเริ่มต้นฤดูร้อน วันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 5, 6 หรือ 7 ของเดือน พ.ค.

小满 xiǎo mǎn — ช่วงข้าวเต็มน้อย วันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 20, 21 หรือ 22 ของเดือน พ.ค.

芒种 máng zhòng — ช่วงปลูกข้าว ช่วงที่ชาวไร่ชาวนาต้องกลับไปยุ่งอีกรอบ วันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 5, 6 หรือ 7 ของเดือน มิ.ย.

夏至 xià zhì — ช่วงครีษมายัน ช่วงที่กลางวันยาวกว่ากลางคืน ตรงกับวันที่ 21 หรือ 22 ของเดือน มิ.ย.

小暑 xiǎo shǔ — ช่วงร้อนน้อย วันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 6, 7 หรือ 8 ของเดือน ก.ค.

大暑 dà shǔ — ช่วงอากาศร้อนที่สุด วันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 22, 23 หรือ 24 ของเดือน ก.ค.

立秋 lì qiū — ช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วง วันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 7, 8 หรือ 9 ของเดือน ส.ค.

处暑 chǔ shǔ — ช่วงจบร้อน สิ้นสุดฤดูร้อน วันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 22, 23 หรือ 24 ของเดือน ส.ค.

白露 bái lù — ช่วงน้ำค้างขาว วันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 7, 8 หรือ 9 ของเดือน ก.ย.

秋分 qiū fēn — ช่วงศารทวิษุวัต กลางวันกับกลางคืนในฤดูใบไม้ร่วงยาวเท่ากัน ตรงกับวันที่ 22, 23 หรือ 24 ของเดือน ก.ย.

寒露 hán lù — ช่วงน้ำค้างหนาว วันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 8 หรือ 9 ของเดือน ต.ค.

霜降 shuāng jiàng — ช่วงน้ำค้างแข็งตก วันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 23 หรือ 24 ของเดือน ต.ค.

立冬 lì dōng — ช่วงเริ่มต้นฤดูหนาว วันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 7 หรือ 8 ของเดือน พ.ย.

小雪 xiǎo xuě — ช่วงหิมะตกเล็กน้อย วันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 22 หรือ 23 ของเดือน พ.ย.

大雪 dà xuě — ช่วงหิมะตกหนัก วันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 6, 7 หรือ 8 ของเดือน ธ.ค.

冬至 dōng zhì — ช่วงเหมายัน ช่วงที่กลางคืนยาวกว่ากลางวัน ตรงกับวันที่ 21, 22 หรือ 23 ของเดือน ธ.ค.

小寒 xiǎo hán — ช่วงอากาศหนาวเล็กน้อย วันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 5, 6 หรือ 7 ของเดือน ม.ค.

大寒 dà hán — ช่วงอากาศหนาวมาก วันเริ่มต้นตรงกับวันที่ 20 หรือ 21 ของเดือน ม.ค.