หลังจากถล่มสำนักเขาขจีและสำนักเจ็ดสมบัติจนย่อยยับ กลุ่มของหลิงตู้ฉิงก็มุ่งหน้าตรงไปที่ป่าภูตนางฟ้า

แต่ระหว่างทางหากหลิงตู้ฉิงได้ยินว่ามีสำนักไหนหรืออาณาจักรใดที่อยู่ในเส้นทางผ่านและมีภูตนางฟ้าอยู่ในครอบครอง หลิงตู้ฉิงจะแวะ ณ สถานที่เหล่านั้นและถล่มขุมกำลังเหล่านั้นโดยใช้กฎการฆ่าเดิมก็คือ

ผู้ใดที่ต่อต้าน ตาย!

ผู้ใดที่เคยทำทารุณเหล่าภูตนางฟ้า ตาย!

ผู้ใดผูกใจอาฆาต ตาย!

แต่ก็ยังมีอาณาจักรหนึ่งที่หลิงตู้ฉิงช่วยเหล่าภูตนางฟ้าได้มากที่สุดคือ 70 ตน และอาณาจักรนั้นก็เป็นอาณาจักรเดียวที่หลิงตู้ฉิงเลือกที่จะฆ่าล้างคนทั้งอาณาจักรจนไม่เหลือรอด

เหตุผลเพราะจักรพรรดิของอาณาจักรนั้นไม่ยินยอมและให้ประชาชนรวมถึงทหารของเขาทุกคนสาบานว่าจะสู้ตายกับหลิงตู้ฉิง

เมื่อเห็นเช่นนี้ หลิงตู้ฉิงจึงไม่รีรอใด ๆ และใช้หุ่นอาชูร่าโลหิตบวกกับทะเลเลือดกวาดล้างทั้งอาณาจักรจนกลายเป็นอาณาจักรร้างในทันที

ท้ายที่สุดหลังจากถล่มสำนักและอาณาจักรไปหลายแห่ง หลิงตู้ฉิงก็ได้ช่วยเหล่าภูตนางฟ้ามาได้หลายร้อยตนและที่สำคัญไปกว่านั้น สีของจอกโลหิตศักดิ์สิทธิ์ในตอนนี้ได้กลายเป็นสีแดงดำไปเรียบร้อย และกลิ่นของเลือดที่ตอนแรกจอกยังสามารถกักเก็บเอาไว้ได้เวลานี้มันกลับส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งออกมาอย่างไม่สามารถยับยั้งได้อีกต่อไป

โม่หยูถังเมื่อเห็นการสังหารอย่างบ้าคลั่งแบบนี้ เขาก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมเหล่าผู้คนสมัยก่อนถึงไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยถึงนามของหลิงตู้ฉิง

ส่วนบรรดาคนอื่น ๆ รวมไปถึงเหล่าภูตดินที่เห็นว่าหลิงตู้ฉิงเป็นเหมือนพระเจ้าของพวกเขาก็มองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยแววตาหวาดกลัวเป็นอย่างมากเช่นกัน

ในทางกลับกัน ถึงแม้ว่าคนอื่น ๆ จะหวาดกลัวแต่กับพวกภูตนางฟ้าที่ถูกช่วยเหลือมานั้นแววตาของพวกนางมีแต่ความยินดีและสะใจ พวกนางไม่หวังอะไรอย่างอื่นนอกซะจากอยากให้หลิงตู้ฉิงฆ่าพวกสารเลวเหล่านั้นที่รุมรังแกพวกนางให้ตาย ๆ ไปซะให้หมด รวมไปถึงพวกที่ไม่ต่อต้านและไม่เกี่ยวข้องที่หลิงตู้ฉิงละเว้นชีวิตเอาไว้ พวกนางก็อยากให้คนเหล่านั้นตาย!

แต่ถึงแม้พวกนางจะคิดเช่นนั้น พวกนางก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยขอร้องให้หลิงตู้ฉิงทำตามใจพวกนาง

ทางด้านความรู้สึกของอี้ลั่วเอ๋อก็ไม่ต่างอะไรกับเหล่าภูตนางฟ้าที่เพิ่งถูกช่วยเหลือมา นางเองก็อยากจะให้หลิงตู้ฉิงฆ่าล้างคนเหล่านั้นไปซะให้หมดไม่ต้องเว้นชีวิตใครเอาไว้ทั้งนั้น

ส่วนหลิงตู้ฉิงในเวลานี้อารมณ์ของเขาเองก็ปั่นป่วนเป็นอย่างมาก เนื่องจากยิ่งเขาฆ่าเยอะมากเท่าไหร่ จิตสังหารที่เขาพยายามข่มไว้มันก็เพิ่มพูนมากขึ้นเท่านั้น แต่โชคยังดีที่เขามีสัญลักษณ์หยินหยางอยู่ในร่าง มันจึงช่วยทำให้เขาไม่สติหลุดเหมือนตอนเหตุการณ์ที่สันเขาทรราช

แต่ถึงแม้ว่าอารมณ์ของเขาจะปั่นป่วนจากการที่เขาฆ่าคนเยอะขนาดนี้ มันก็มีข้อดีเพราะมันทำให้เต๋าอารมณ์ของเขาทำงานอย่างหนัก ซึ่งส่งผลดีต่อระดับการบ่มเพาะของเขาที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนในตอนนี้เขาได้ก้าวมาอยู่ที่ขอบเขตนภาระดับ 12 เรียบร้อยแล้ว

“นายท่าน เผ่าของข้ายังคงไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” อี้ลั่วเอ๋อหันไปถามหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าเป็นกังวล เพราะในตอนนี้พวกเขาได้เดินถึงชายแดนป่าภูตนางฟ้าเรียบร้อยแล้ว “ไม่ใช่ว่าตลอดทางมีแต่คนบอกว่าป่าภูตนางฟ้ากำลังถูกล้อมอยู่งั้นเหรอ? ทำไมตอนนี้ข้าถึงไม่รู้สึกถึงความผันผวนของพลังวิญญาณที่มันจะต้องเกิดจากการต่อสู้เลย? มันคงไม่ใช่ว่าป่าภูตนางฟ้าของข้าถูกกวาดล้างไปหมดแล้วใช่ไหม?”

หลิงตู้ฉิงตอบกลับด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ “เจ้าเป็นกังวลตอนนี้ไปมันก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้นมา เอาไว้เราไปถึงเมืองของเจ้า เจ้าก็จะเห็นเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างนั่นแหละ”

“ถ้างั้นพวกเรารีบมากกว่านี้ได้ไหมนายท่าน!” อี้ลั่วเอ๋ออดไม่ได้ที่จะเร่งเร้าหลิงตู้ฉิง

“ก็ได้ ๆ” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า

แต่ก่อนที่หลิงตู้ฉิงจะได้ทันได้สั่งให้หลงเฉินเร่งความเร็วให้ไวกว่าเดิม หลิงตู้ฉิงและคนอื่น ๆ ต่างก็สัมผัสได้ถึงคลื่นความผันผวนของพลังวิญญาณที่จู่ ๆ ก็ปะทุขึ้นจากใจกลางป่าภูตนางฟ้า

อี้ลั่วเอ๋อรีบตะโกนขึ้นทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังวิญญาณที่ผันผวน “นายท่าน เผ่าของข้ายังไม่ถูกทำลายพวกเขากำลังสู้อยู่! ข้าขอร้องนายท่านโปรดรีบไปช่วยเผ่าของข้าที!”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องห่วง พวกเราไปทันอยู่แล้ว”

หลิงตู้ฉิงยังคงใจเย็นอยู่เพราะเขารู้ว่าเผ่าภูตนางฟ้ายังมีปีกเทพสังหารคอยปกป้อง เขาจึงมั่นใจว่าเขาจะไปทันก่อนที่เผ่าภูตนางฟ้าจะถูกทำลายแน่นอน

แต่แล้วในขณะที่เขายังคงวางใจ ผ่านไปอีกเพียงชั่วครู่หลิงตู้ฉิงก็ขมวดคิ้วทันทีเพราะเขาเห็นรัศมีสีทองเปล่งประกายขึ้นไปบนท้องฟ้า ซึ่งเขารู้เป็นอย่างดีว่ารัศมีสีทองนี้มันปรากฏขึ้นจากสะพานทองคำเชื่อมทศทิศ!

“คนของหอการค้าเชื่อมสวรรค์ก็เข้าร่วมด้วยงั้นเหรอ?” หลิงตู้ฉิงพึมพำกับตัวเอง จากนั้นเขาหันไปพูดกับคนอื่น ๆ ว่า “พวกเจ้าทุกคนค่อย ๆ ตามเข้าไป ส่วนเจ้า ลั่วเอ๋อ เจ้ากับข้าพวกเราล่วงหน้าไปที่ช่วยเผ่าของเจ้ากันก่อน ซวนหยวน เจ้าปกป้องคนของข้าให้ดีด้วยความแข็งแกร่งขอบเขตมหาจักรพรรดิของเจ้า หากเจ้าปกป้องคนของข้าไม่ได้ ข้างกายของข้าก็ไม่จำเป็นต้องมีเจ้าอีกต่อไป!”

เมื่อสะพานทองคำเชื่อมทศทิศปรากฏ หลิงตู้ฉิงรู้ได้ทันทีว่าคนของหอการค้าเชื่อสวรรค์เข้าร่วมการรบกับป่าภูตนางฟ้าด้วย..

แต่สะพานทองคำเชื่อมทศทิศที่ปรากฏขึ้นในตอนนี้นั้นสร้างขึ้นจากแบบสร้างที่ไม่สมบูรณ์ที่หลิงตู้ฉิงส่งให้กับลั่วหยุน เพื่อให้เอาไปมอบให้หอการค้าเชื่อมสวรรค์

ดังนั้นถึงแม้ว่าจากภายนอกมันจะดูทรงพลัง แต่ในความเป็นจริงแล้วอำนาจของสะพานทองคำเชื่อมทศทิศของปลอมอันนี้นั้นเทียบไม่ได้เลยกับสะพานทองคำเชื่อมทศทิศที่เป็นของแท้

เมื่อจู่ ๆ คนของหอการค้าเชื่อมสวรรค์ก็ปรากฏตัวขึ้นเช่นนี้ หลิงตู้ฉิงจึงอยากรีบไปดูว่าเป็นสมาชิกคนไหนของหอการค้าเชื่อมสวรรค์กันแน่ที่มาวันนี้

เมื่อสั่งทุกอย่างเสร็จ หลิงตู้ฉิงจึงโอบร่างอี้ลั่วเอ๋อเอาไว้ในอ้อมแขน จากนั้นเขาใช้เวลาเพียงสองอึดใจร่างของเขาก็ปรากฏขึ้นที่ริมสนามรบ

เมื่อใช้พเนจรไร้จำกัดมาถึงริมสนามรบ หลิงตู้ฉิงกวาดสายตามองไปรอบด้วยสีหน้าเย้ยหยันและพูดว่า “ดีมาก! ทั้งพวกอสูรทั้งกลุ่มมือสังหารต่างอยู่ที่นี่ยั่วเยี้ยเต็มไปหมด!”

นอกเหนือจากชายชราขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดและคนของหอการค้าเชื่อมสวรรค์ที่ครอบครองสะพานทองคำเชื่อมทศทิศ หลิงตู้ฉิงยังสัมผัสได้อีกว่าในค่ายของสำนักไร้ขอบเขตนั้นมีอสูรระดับสูงซ่อนตัวอยู่ และในหมู่บ้านกระบี่โลหิตก็มีกลิ่นอายของจิตสังหารที่มาจากเหล่ามือสังหารรวมตัวกันอยู่อย่างหนาแน่น

แต่ถึงแม้ว่าหลิงตู้ฉิงอยากจะฆ่าพวกศัตรูเหล่านี้ให้ตายไว ๆ แต่เขาก็ยังอดใจไม่ใช้ง้าวเทวะพินาศและเลือกที่จะเทเลือดกับหุ่นอาชูร่าโลหิตออกจากจอกโลหิตศักดิ์สิทธิ์ลงไปบนพื้นแทน

หมิงยู่ถอนหายใจและบ่นขึ้น “เฮ้อ หากนายท่านมีหุ่นอาชูร่าโลหิตมากกว่านี้ก็คงดี”

หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “แค่แกะสลักหุ่นทั้งสี่ตัวนี้ขึ้นมา พลังวิญญาณของข้าก็พร่องลงไปมากแล้ว และที่สำคัญด้วยอำนาจของหุ่นอาชูร่าสี่ตัว แค่นี้มันก็เพียงพอที่จะจัดการกับมดปลวกเหล่านี้ได้อย่างสบาย ๆ ลั่วเอ๋อ เจ้าห้ามอยู่ห่างกายข้าเป็นอันขาดในระหว่างที่ข้ากำลังลงมือ!”

เมื่อได้ยินคำสั่ง อี้ลั่วเอ๋อพยักหน้ารับทราบทันทีและเลือกที่จะไปยืนอยู่ชิดหลังหลิงตู้ฉิงเพื่อที่จะไม่เกะกะเจ้านายของนาง

จากนั้นในทันทีที่ทะเลเลือดปรากฏขึ้น บรรดาผู้คนที่อยู่ในสนามรบก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งทันที ซึ่งหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิของอาณาจักรอ้าวเฟิงเมื่อเห็นเช่นนี้เขาหันไปจ้องเขม็งที่หลิงตู้ฉิง และตะโกนถามว่า “เจ้าเป็นใครกัน?”

เมื่อถามจบ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิก็ไม่ได้รีรอคำตอบและใช้ดาบของตัวเองโจมตีใส่ทะเลเลือดที่กำลังไหลบ่ามาทางกองทัพของเขา ซึ่งน่าเสียดายที่การโจมตีของเขาไม่เป็นผลกับทะเลเลือดที่กำลังไหล่บ่าเข้ามาอย่างรวดเร็วเลยแม้แต่น้อย

ต้องรู้ไว้ว่าทะเลเลือดตอนนี้ถูกเกื้อหนุนด้วยหุ่นอาชูร่าโลหิตทั้งสี่ที่เพิ่งดูดซับเลือดและดวงวิญญาณของคนจากสำนักและอาณาจักรต่าง ๆ มาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน ดังนั้นการโจมตีของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิธรรมดา ๆ จะต่อต้านพวกมันได้ยังไง?

เมื่อเห็นว่าการโจมตีของตัวเองไม่เป็นผลต่อทะเลเลือด ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิจึงพุ่งตัวไปหาหลิงตู้ฉิงแทน เพราะเขารู้ดีว่าหลิงตู้ฉิงคือผู้ควบคุมทะเลเลือดเหล่านี้

หากไม่มีหลิงตู้ฉิง เลือดเหล่านี้ก็ไร้อำนาจ!

แต่แล้วยังไม่ทันที่เขาจะได้เข้าใกล้ร่างของหลิงตู้ฉิงด้วยซ้ำ เขากลับรู้สึกว่าทะเลเลือดที่อยู่ใต้เท้าของเขามันพยายามรั้งขาของเขาเอาไว้ แถมจิตสำนึกของเขาก็เริ่มเลือนรางเนื่องจากถูกแทรกแซงโดยอำนาจของทะเลเลือด

เมื่อรู้สึกได้เช่นนี้ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิจึงรีบถอยตัวกลับทันทีด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

แต่ทางด้านของแม่ทัพอาณาจักรอ้าวเฟิงนั้นไม่ได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิฝั่งตัวเองเลยแม้แต่น้อย เขากลับออกคำสั่งให้เหล่าทหารของเขาโจมตีไปที่ทะเลเลือดที่กำลังไหลบ่าเข้ามาในทันที “นี่มันก็แค่เลือดเล็กน้อยเท่านั้นพวกเจ้าจะกลัวอะไรกัน? ในตอนที่พวกเจ้าฆ่าคนพวกเจ้าไม่เห็นเลือดของศัตรูเหรอไง? ไป! บุกฝ่าทะเลเลือดเข้าไปฆ่าไอ้คนผู้นั้นให้ข้าซะ!”

แต่แล้วหลังจากที่บรรดาทหารพุ่งตัวเข้าไปในทะเลเลือด ร่างของพวกเขาก็ถูกทะเลเลือดกลืนกินไปในทันที

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ถึงแม้ลูกชายของข้าจะเป็นจักรพรรดิแห่งมวลมนุษย์ แต่ข้าก็ไม่ละเว้นมนุษย์ที่กล้าเป็นศัตรูกับข้าหรอกนะ ฮ่าฮ่าฮ่า!”