สำหรับเงื่อนไขนี้ ยากมากที่พวกเขาจะทำได้

“ข้าไม่ได้อยากเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนแต่อย่างใด เจ้าคิดว่าข้าไม่เคยลองอย่างนั้นเหรอ?”

ผู้ครอบครองดอกไห่ถังนรกแสดงท่าทีไม่พอใจพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง

มู่เฉียนซีรู้ดีว่าในดินแดนสี่ทิศแห่งนี้มีเรื่องราวประหลาดมากเรื่องหนึ่งอยู่

นั่นก็คือ นอกจากกองกำลังระดับสามทั้งสามแห่งแล้ว ผู้แข็งแกร่งขั้นมหาจักรพรรดิระดับเก้าก็หาได้ยากมาก

กองกำลังทั้งสามมีภูมิหลังของตนเองที่แฝงอยู่ และสามารถฝึกฝนเลี้ยงดูยอดฝีมือระดับสูงออกมาได้ในดินแดนที่ไร้พลังวิญญาณและพลังชีวิต

และหากต้องการฝึกฝนในระดับที่สูงกว่านี้อีก มันจะยากกว่าการขึ้นสวรรค์เลยทีเดียว

“ท่าน ข้ามียาลูกกลอนขั้นสวรรค์…”

“ข้า…”

“……”

พวกเขาแต่ละคนต่างก็หยิบเอายาลูกกลอนขั้นสวรรค์ออกมา ถึงแม้ว่ามันจะล้ำค่ามาก แต่สำหรับเขาแล้วไม่มีแรงดึงดูดใจเลย

“ในเมื่อไม่มีวิธี พวกเจ้าก็ไสหัวไปซะเถอะ!”

“อยากจะได้ดอกไห่ถังนรกของข้า หึ ฝันไปเถอะ!”

“……”

มู่เฉียนซีกล่าว “ท่าน ข้ามีวิธี ท่านยินยอมจะลองดูหรือไม่?”

ทุกคนได้ยินเช่นนี้ต่างก็ตกใจผงะไป พวกเขามองไปที่ชายหนุ่มรูปงามในชุดขาวผู้นั้นด้วยความตกตะลึง

นี่เขาล้อเล่นบ้าอันใด พวกเขาล้วนแต่เป็นยอดปรมาจารย์นักปรุงยา แต่ก็ไร้ซึ่งวิธี แต่เจ้าหนุ่มนี่กลับมีวิธี

“ท่าน เจ้าเด็กผู้นี้คุยโวโม้ไปเรื่อย ท่านอย่าได้ถูกเขาหลอกลวงเชียว”

“ท่าน…”

“……”

คนผู้นี้มองมู่เฉียนซีด้วยสายตาราวกับเหยี่ยวก็มิปาน “เจ้าหนู เจ้าแน่ใจหรือว่าไม่ได้มากล่าววาจาล้อเล่นกับข้า”

เขาฝึกฝนจนแทบจะหมดความอดทนแล้ว แต่กลับไร้ซึ่งความก้าวหน้าแม้แต่ครึ่งก้าว วันนี้จึงตัดสินใจนำสมุนไพรอันล้ำค่าดอกหนึ่งมาที่งานแลกเปลี่ยนสินค้าใต้ดินแห่งนี้

ลำพังเพียงแค่การฝึกฝนไม่อาจทำให้เขาทะลวงพลังวิญญาณได้ แล้วหากเป็นยาลูกกลอนล่ะ!

มู่เฉียนซีกล่าว “ยาลูกกลอนของข้านั้นไม่ธรรมดา รักษาม้าตายประหนึ่งม้าเป็นเชียวนะ!”

“เจ้าหนู เจ้าเดิมพันถูกคนแล้วล่ะ ข้ายอมลอง เอายาของเจ้าออกมาเถอะ ข้าจะลองยาของเจ้าต่อหน้าทุกคน” เขายื่นมือออกไปพลางกล่าว

มู่เฉียนซีกล่าว “ก็บอกแล้วว่ายาลูกกลอนของข้าไม่ธรรมดา มาแลกตรงนี้มันดูไม่เหมาะสม ข้าต้องการห้องสองห้อง”

เฟิงอวิ๋นซิวได้ให้ซวนอีไปจัดการแล้ว และเจ้าของหอการค้าก็ได้เชิญพวกเขาไป

คนผู้นี้ก็ไม่กลัวว่าพวกเขาจะแย่งชิงดอกไห่ถังนรกของเขาเลย เขามีพลังวิญญาณขั้นมหาจักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับเก้า จะต้องกลัวเจ้าเด็กผู้นี้ได้อีกอย่างไรกันเล่า

มู่เฉียนซีกล่าวกับเขาว่า “ท่านรอข้าที่นี่สามชั่วยาม หากข้าปรุงยาเสร็จเรียบร้อย ข้าจะเอามาให้ท่านทันที”

“สามชั่วยาม เจ้ายังไม่มียาอย่างที่เจ้ากล่าว นึกไม่ถึงว่าจะมาหลอมยาเอาตอนนี้อีก หอการค้านี่ดูท่าจะเชื่อถือไม่ได้ ข้าไม่อยากจะเล่นกับเด็กอย่างพวกเจ้าแล้ว”

เขาเตรียมที่จะจากไปแต่กลับถูกเฟิงอวิ๋นซิวขวางเอาไว้

สายตาของเฟิงอวิ๋นซิวทำให้เขาตกใจผงะไป ถึงแม้ว่าเจ้าเด็กผู้นี้จะอ่อนแอกว่าเขามาก แต่กลับทำให้เขาหวาดกลัวได้

“สามชั่วยามก็สามชั่วยาม!”

อันที่จริงด้วยรากฐานของมู่เฉียนซีไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานถึงเพียงนั้น นอนหลับพักผ่อนสักครู่ จากนั้นก็ค่อยปรุงยาเป็นยาแผนปัจจุบันออกมา

การถ่ายทอดของนิรันดร์มียาลูกกลอนที่ทำให้พลังเพิ่มขึ้นถึงขั้นมหาจักรพรรดิระดับสูงสุดได้

เพียงแต่ว่า ยาลูกกลอนขั้นสวรรค์เช่นนั้น นางไม่สามารถหลอมได้

แต่หากเป็นยาแผนปัจจุบันที่มีผลลัพธ์เช่นเดียวกัน นางสามารถปรุงออกมาได้

อีกอย่างรากฐานของคนผู้นั้นก็คงที่แล้ว เพียงแต่ว่าพลังในดินแดนสี่ทิศมีการจำกัดเอาไว้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาจึงไม่สามารถทะลวงพลังได้

จำเป็นต้องใช่ยาลูกกลอนเท่านั้น แหย่รูเล็ก ๆ นั้นเสีย เช่นนี้ก็สามารถฝึกฝนถึงจุดสูงสุดได้

เพียงแต่ว่า รูเล็ก ๆ ที่ว่านั่นยากมากที่จะแหย่ให้ทลายลงได้

หลังจากที่มู่เฉียนซีปรุงยาเสร็จก็ไปที่ห้องข้าง ๆ และเห็นชายวัยกลางคนที่กำลังอยู่ในอาการหงุดหงิดผู้นั้น

เฟิงอวิ๋นซิวกล่าว “เจ้ามาแล้ว!”

“อืม!”

“ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า” เฟิงอวิ๋นซิวเรียกมู่เฉียนซีออกไป

เฟิงอวิ๋นซิวกล่าว “กองกำลังระดับสามทั้งสามแห่งมีวรยุทธ์และยาลูกกลอนที่จะทำให้ทะลวงพลังถึงขั้นสูงสุดได้ แต่เจ้าแน่ใจแล้วเหรอว่าจะให้คนอื่น หากกู้ไป๋อีรู้เข้า เขาจะไม่ขับไล่เจ้าออกจากสำนักเหรอ?”

เฟิงอวิ๋นซิวแสดงสีหน้าท่าทางเคร่งขรึม เขาเป็นนายน้อยแห่งตำหนักตงจี๋ เขาย่อมรู้กฏเกณฑ์ของกองกำลังระดับสามทั้งสามแห่งแน่นอน

มู่เฉียนซีกล่าว “เขาไม่ทำเช่นนั้นแน่!”

เดิมทีแล้วพวกเขาทั้งสองไม่ได้มีความสัมพันธ์เป็นศิษย์เป็นอาจารย์กัน อีกอย่างนางก็ใช้วิธีการของตนเองที่จะทำให้คนผู้นั้นทะลวงพลังวิญญาณ

“อีกอย่าง หากเจ้าไม่พูด คนอื่นจะรู้ได้อย่างไรเล่า! วางใจเถอะ ดอกไห่ถังนรกของข้า กำลังจะมาอยู่ในกำมือข้าแล้ว” มู่เฉียนซีหรี่ตายิ้มพลางกล่าว

“เจ้ารอข้าอยู่ข้างนอก อย่าให้ผู้ใดเข้ามาได้เด็ดขาด”

มู่เฉียนซีเดินเข้าไป และชายวัยกลางคนผู้นั้นก็กล่าวขึ้นว่า “เจ้าหนู เจ้าอย่าได้หลอกข้าเชียว มิเช่นนั้น ต่อให้นายน้อยอวิ๋นซิวจะปกป้องเจ้า ข้าก็ไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่”

มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าให้ของท่านแน่ เพียงแต่ว่าหลังจากที่ท่านทะลวงพลังได้แล้ว ก็อย่าได้ไปบอกใครเชียวล่ะว่าท่านใช้อันใดทะลวงพลัง”

“ขอเพียงแค่เจ้าทำให้ข้าทะลวงพลังได้ คำขอเล็ก ๆ น้อย ๆ เพียงเท่านี้ข้าทำให้ได้อยู่แล้ว”

“ดี เช่นนั้นก็รับไป!” มู่เฉียนซีเอายาขวดหนึ่งออกมาและยื่นให้กับเขา

“ดื่มซะเถอะ!”

เขามองขวดยานี้แล้วก็ตกใจผงะไป “นี่มันอะไรกัน โอสถ (ยาน้ำ) เจ้าแน่ใจเหรอว่ามันใช้ได้ ?”

มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่มีพิษหรอกน่า อีกอย่างรสชาติมันก็ไม่ได้แย่ หากท่านไม่ลองดูแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจะใช้ได้หรือไม่ ?”

“เพื่อดอกไห่ถังนรกแล้ว ข้าไม่มีทางจะมาล้อเล่นกับท่านหรอก”

“ถึงอย่างไรข้าก็เชื่อเจ้ามาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ก็เชื่อเจ้าอีกสักครั้งก็แล้วกัน!” ชายวัยกลางคนผู้นั้นกล่าว

เขารับขวดยานั้นมาและเปิดฝาออก ยกขวดยาซดหมดขวดภายในอึกเดียว

หลังจากที่กลืนไปได้ไม่นาน เขาก็รู้สึกได้ถึงกำแพงที่เขาไม่อาจพังทลายมาได้ตลอดนั้นได้ถูกเจาะรูทะลุขึ้นมาแล้วรูหนึ่ง

สีหน้าของเขาเผยความดีอกดีใจออกมา เขารีบโคจรพลังวิญญาณขึ้นอย่างรวดเร็ว ผลลัพธ์ที่ได้คือรูนั้นยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ

พลังวิญญาณในร่างกายยิ่งน่าเกรงขามมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาเข้าฌานรวบรวมพลังจิตและพลังวิญญาณทั้งหมดในร่างกายเพื่อที่จะพุ่งทะลวงพลังวิญญาณ

ต้องใช้เวลาอีกสักครู่กว่าที่เขาจะทะลวงพลังวิญญาณได้อย่างสมบูรณ์ มุมปากของมู่เฉียนซียกยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะเดินออกไป

และในตอนนี้เอง พลังที่เกินระดับเก้าพลังหนึ่งก็ได้แผ่ซ่านออกมา ทำให้คนที่อยู่รอบ ๆ เหล่านั้นต่างก็ตกตะลึงพรึงเพริด

นักปรุงยาที่อยู่ในชั้นสามเหล่านั้นต่างก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น “เป็นไปไม่ได้! มียาลูกกลอนเช่นนั้นอยู่จริง ๆ เหรอ!”

“แต่นอกจากท่านผู้นั้นแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดที่เป็นยอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับสูงสุดเลยนะ”

“เจ้าเด็กนั่นมียาวิเศษที่สามารถทำให้ทะลวงพลังถึงขั้นมหาจักรพรรดิดับสูงสุดได้จริง ๆ ข้าจะไปดูสักหน่อย”

“……”

พวกเขาตื่นเต้นจนแทบบ้าคลั่งแล้ว แต่เมื่อจะขึ้นไปชั้นสี่กลับถูกขวางเอาไว้

“ตรงนี้ห้ามผ่าน!”

พวกเขาทำได้เพียงแค่เดินกลับลงมาด้วยความผิดหวัง

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ในที่สุดข้าก็ทะลวงพลังได้แล้ว ข้าทะลวงพลังได้แล้ว”

พลังขั้นมหาจักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับเก้าทำให้เขารู้สึกสดชื่นราวกับลดอายุลงมาสิบกว่าปีก็มิปาน

เขาเดินออกมาพลางกล่าวว่า “เจ้าหนู ดอกไห่ถังนรกดอกนี้เป็นของเจ้าแล้ว”

กล่องหยกกล่องหนึ่งถูกเขาโยนออกไป มู่เฉียนซีเปิดกล่องหยกนั้นดู และดอกไห่ถังนรกสีน้ำเงินดอกนั้นก็วางอยู่ในกล่องหยกนี้จริง ๆ

มู่เฉียนซีกล่าว “รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับข้าด้วยล่ะ!”

“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว!”

เจ้าหมอนี่ดีใจจนวิ่งแจ้นไปแล้ว เจ้าของหอกล่าวว่า “นายท่านขอรับ ด้านล่างมีคนจำนวนมากกำลังรอท่านอยู่ ตามข้าออกไปทางประตูหลังเถอะ!”

เฟิงอวิ๋นซิวกล่าว “เรื่องในวันนี้ ห้ามแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด”

เจ้าของหอกล่าว “นายน้อยอวิ๋นซิววางใจได้ขอรับ!”

ได้สมุนไพรวิญญาณมามากมาย อีกทั้งยังได้ดอกไห่ถังนรกมาอีก ในตอนนี้มู่เฉียนซีอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก จากนั้นก็ถึงเวลาเริ่มทำการฟื้นคืนผลซิวหลัวแล้ว