ภาคที่ 38 เจ้าดินแดนเสวี่ยอิง ตอนที่ 38 การใหญ่สำเร็จ

Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน

บรรพชนงูเก้าเศียรตะลึงค้างไปแล้วจริงๆ รอบด้านเงียบสงัดขึ้นมา ร่างกายก็สัมผัสได้ถึงความเหน็บหนาว ความคิดก็เชื่องช้าลง แม้เขาจะสกัดกั้นอย่างเต็มแรง แต่เดิมทีความเร็วของเจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันก็รวดเร็วเสียจนน่ากลัวอยู่แล้ว ยามนี้ หลังจากบรรพชนงูเก้าเศียรช้าลงไปแล้ว…บรรพชนงูเก้าเศียรก็รู้ชัดว่า ตนสกัดกั้นเอาไว้ไม่ได้แล้ว

ด้วยพลังของเขา รักษาตนเองได้ไม่มีปัญหา แต่กลับมิอาจปกป้องตงป๋อเสวี่ยอิงได้แล้ว

“ข้าควรจะจัดผู้แกร่งกล้าระดับยอดมาปกป้องจ้าวหิมะเหินให้มากกว่านี้สักสองคน” ขณะนี้ บรรพชนงูเก้าเศียรรู้สึกสำนึกเสียใจขึ้นมา เขามั่นใจในตนเองเกินไปแล้ว! แน่นอนว่าก็เป็นเพราะทางด้านวิถีอากาศของตงป๋อเสวี่ยอิงมีพลังระดับผู้แกร่งกล้าระดับยอดด้วย ถ้าหากตงป๋อเสวี่ยอิง…มีพลังรบเพียงระดับจักรพรรดิเทพขั้นครบสมบูรณ์แล้วล่ะก็ บรรพชนงูเก้าเศียรก็คงไม่กล้าทำเช่นนี้แน่ จะต้องจัดเตรียมผู้แกร่งกล้าระดับยอดมาปกป้องให้มากกว่านี้อีกสักสองสามคนอย่างแน่นอน

“ขึ้นอยู่กับจ้าวหิมะเหินเองแล้ว”

บรรพชนงูเก้าเศียรทำได้เพียงมองดูทุกสิ่งเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา ความรู้สึกที่ได้เห็นจ้าวหิมะเหินต่อสู้สุดชีวิตกับเจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันเช่นนี้ ทำให้บรรพชนงูเก้าเศียรอดหวาดหวั่นใจมิได้

ผิวกายของเจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันมีชั้นหยดน้ำปรากฏขึ้นมาชั้นหนึ่ง แม้แต่เหนือกรงเล็บก็ยังมีชั้นหยดน้ำผุดขึ้นมา บรรพชนงูเก้าเศียรมองออกว่า…ชั้นหยดน้ำอันแปลกประหลาดนั้นคือการใช้งานวิถีอากาศระดับคละถิ่นบางอย่าง ทำให้พลังของเจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันเพิ่มพูนขึ้นหลายส่วน

“ปัง”

ทั้งสองฝ่ายเข้าปะทะกัน

หอกยาวเล่มหนึ่งของจ้าวหิมะเหินถูกซัดจนกระเด็นลอยไปแล้วกระอักเลือดออกมา แต่กลิ่นอายชีวิตกลับไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

“ดีมาก เพียงแค่ทำให้จ้าวหิมะเหินบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น!” บรรพชนงูเก้าเศียรรู้สึกปีติยินดีอยู่ในใจ เพราะถึงอย่างไรผู้บำเพ็ญทั้งหลายรอบด้านร่วมมือกัน กระบวนท่าทางด้านบริเวณบางอย่างก็ได้สำแดงออกมาแล้ว และกดดันเจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันผู้นั้นเอาไว้ สามารถทำให้ผู้แกร่งกล้าระดับยอดได้รับบาดเจ็บในกระบวนท่าเดียวได้…ก็เป็นลูกไม้ที่นักโทษคละถิ่น ‘เจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงัน’ ทุ่มเทออกมาอย่างสุดชีวิตแล้ว

“นักโทษคละถิ่น รับความตายเสียเถิด!” ยามนี้บรรพชนงูเก้าเศียรได้สติกลับคืนมาแล้ว จากนั้นเขาก็พลิกมือคราหนึ่ง แขนเก้าข้างงอกออกมาจากเหนือฝ่ามือแล้วคว้าตรงไปทางเจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงัน

“สวบ”

เมื่อเจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันเห็นว่าตงป๋อเสวี่ยอิงเพียงแค่กระเด็นลอยไปแล้วกระอักเลือดออกมาเท่านั้น และหลังจากรู้ว่าชายหนุ่มอาภรณ์ขาวก็เป็นผู้แกร่งกล้าระดับยอดเช่นกัน เขาก็หนีไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย!

“พันธนาการพวกเขาให้ข้า”

“ไม่ต้องเสียดายอะไรทั้งสิ้น พันธนาการพวกเขาเอาไว้”

เจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันออกคำสั่งให้องครักษ์ใต้บังคับบัญชาทั้งปวง

ส่วนตัวเขาเองก็คงสภาพร่างจริงเอาไว้ แล้วหนีไปอย่างบ้าคลั่งด้วยความเร็วสูงสุด…

“สกัดเขาเอาไว้”

“สกัดไว้” แม้พวกบรรพชนงูเก้าเศียรแต่ละคนจะทำสุดกำลัง แต่เมื่อเจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันบ้าคลั่งขึ้นมาก็สู้สุดชีวิตจนได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังคงทะลุการสกัดกั้นไปได้อย่างรวดเร็ว

“รีบไล่ตามไปเร็ว”

ทางฝ่ายผู้บำเพ็ญแต่ละคนต่างก็ร้อนใจขึ้นมา

แต่สิงห์ผลาญสงัดที่อยู่รอบด้านมืดฟ้ามัวดินไปหมด พวกมันเข้ามาพัวพันไม่หยุดหย่อนอย่างบ้าคลั่ง โดยไม่กลัวตาย ร่างกายก็แข็งแกร่งอย่างยิ่งจนยากจะสังหารได้

“เร็ว”

“เร็ว”

ทางฝ่ายผู้บำเพ็ญร่วมแรงกัน โดยมีรองเจ้าเมืองอูเสี่ยวเป็น ‘หัวธนู’ พุ่งตรงไปด้านหน้าสุด คนอื่นๆ ร่วมแรงกัน ก็สามารถร่วมมือกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เร่งเดินทางมุ่งหน้าไปอย่างบ้าคลั่ง! แม้จะประสบกับการขัดขวางของสิงห์ผลาญสงัดเหล่านี้ แต่ก็ยังคงรวดเร็วมากอยู่ดี

ครึ่งชั่วยามให้หลัง

ในที่สุดพวกเขาก็สลัดสิงห์ผลาญสงัดหกพันกว่าตัวทิ้งไปได้!

“ในที่สุดก็สลัดหลุดแล้ว”

“ไม่ง่ายเลยจริงๆ”

ตงป๋อเสวี่ยอิงก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ช่วยไม่ได้ บรรดาสิงห์ผลาญสงัดรับมือได้ยากเกินไปแล้ว ชุดแล้วชุดเล่าวนเวียนกันเข้ามาอย่างต่อเนื่อง! รอบนอกยังมีสิงห์ผลาญสงัดจำนวนมากที่เร่งตรงมาด้านหน้าเพื่อขัดขวาง เพียงครึ่งชั่วยาม สลัดทิ้งได้หมดก็ถือว่าเก่งกาจมากแล้ว

“ไล่ตามไป!”

“ตามเขาไป!”

……

กองกำลังผู้บำเพ็ญถูกนกใหญ่สีทองขนาดมหึมาโอบล้อมเอาไว้ นกใหญ่สีทองสยายปีกออกแล้วขยับปีกคราหนึ่ง ก็ถลาข้ามท้องฟ้าด้วยความเร็วสูงยิ่งนัก

แม้จะมิอาจมองเห็นตำแหน่งของ ‘เจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงัน’ ด้วยตาเปล่าแล้ว แต่ทางฝ่ายผู้บำเพ็ญก็ได้ส่ง ‘สายลับ’ จำนวนนับไม่ถ้วนออกไปก่อนแล้ว ร่องรอยของเจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันอยู่ในการสำรวจตรวจตรามาตลอด แม้ในฐานะที่เป็นนักโทษคละถิ่นจะสามารถเก็บงำกลิ่นอายได้อย่างสมบูรณ์ก็ตามที แต่โซ่ตรวนกลับมิอาจซ่อนเร้นได้

“ฟิ้ว”

เจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันกำลังหนีโซซัดโซเซไป แล้วเร่งตรงไปทางรังเดิมด้วยความเร็วสูงสุด

แต่กระนั้นเขาก็อยู่ห่างจากรังเดิมมากเกินไปหน่อย!

นี่ก็ช่วยไม่ได้ เนื่องจากการ ‘ออกตระเวน’ แต่ละครั้งก็ต้องห่างกันมากหน่อย เพราะหากห่างกันไม่มากพอ ก็ยากนักที่จะทนต่อความทรมานได้

“ท่านอ๋อง พวกเรามิอาจสกัดไว้ได้ขอรับ”

“สกัดพวกเขาเอาไว้ไม่ได้แล้ว”

ผู้ใต้บังคับบัญชาแต่ละคนถ่ายเสียงพูด

เจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันเศร้าโศก “เป็นสวะกองหนึ่งแท้ๆ หกพันกว่าคนไปขัดขวาง รวดเร็วถึงเพียงนี้ก็ถูกสลัดหลุดเสียแล้ว”

เขากำลังหนีอย่างสุดกำลัง

คงร่างจริงเอาไว้ อาการบาดเจ็บของเขาทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ รัศมีของอักขระลับสีทองเหนือผิวกายของเขาสาดส่องอย่างต่อเนื่อง และสะดุดตาขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากขณะนี้คือเวลาที่การลงโทษปะทุขึ้นมา! เมื่อปะทุขึ้นมาแล้ว ก็ควรที่จะออกจากรังไปเพื่อให้ความเจ็บปวดทรมานทุเลาลง แต่ตอนนี้ เขากำลังเร่งตรงไปทางรัง ความเจ็บปวดจึงเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ

“มาแล้ว”

เจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันมองเห็นแล้ว

เขาหนีไปได้เพียงชั่วยามกว่าๆ ในที่สุดก็เห็นนกใหญ่สีทองตัวหนึ่งถลาข้ามท้องฟ้าไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว ความเร็วนั้นสูงกว่าเขามากทีเดียว

ภายในนกใหญ่สีทองตัวนั้นก็คือผู้บำเพ็ญกลุ่มนั้น มีบรรพชนงูเก้าเศียรที่เขาหงุดหงิดอยู่ในใจ และมีชายหนุ่มอาภรณ์ขาวที่เชี่ยวชาญทางด้านกระบวนท่าทางด้านวิญญาณผู้นั้น

“นักโทษคละถิ่น เจ้าหนีไม่พ้นแล้วล่ะ!” เสียงของบรรพชนงูเก้าเศียรดังก้องไปทั่วฟ้าดิน

ตู้ม…

บริเวณเก้าสีแผ่คลุมเข้ามาและกดดันเจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันที่กำลังหลบหนีเอาไว้ ทำให้เจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันความเร็วลดลงไม่น้อยในทันใด

“ตู้มๆๆ…” ผู้บำเพ็ญกลุ่มหนึ่งเริ่มเข้าล้อมโจมตีอย่างบ้าคลั่งในทันที ครั้งนี้สุขสำราญกว่าครั้งก่อนหน้านี้มากนัก เพราะไม่มีองครักษ์หน้าไหนมาขัดแข้งขัดขา พวกเขาจึงสามารถล้อมโจมตีได้อย่างสุดกำลัง! บ้างก็ร่วมโจมตี บ้างก็ร่วมมือกันเอง พวกเขาล้วนกำลังล้อมโจมตีเจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันเพียงคนเดียว

แม้เจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันจะเข้าใกล้รังเดิมมากขึ้นจนพลังยกระดับขึ้นมาสามส่วนแล้ว

แต่สถานการณ์กลับยิ่งเลวร้ายลง

เนื่องจากเมื่อไม่มีอุปสรรคใดขัดขวาง อานุภาพการล้อมโจมตีของทางฝ่ายผู้บำเพ็ญกลับแข็งแกร่งขึ้นกว่าหนึ่งเท่า

“ไม่”

เจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันโจมตีกลับอย่างบ้าคลั่ง

แต่กระนั้นก็มีอุปสรรคชั้นแล้วชั้นเล่า รองเจ้าเมืองอูเสี่ยวและบรรพชนงูเก้าเศียรอยู่ด้านหน้าสุด จักรพรรดิชิงสวรรค์และผู้แกร่งกล้าระดับยอดคนอื่นๆ ลดหลั่นกันไปอยู่รอบด้าน ก่อเกิดเป็นวิธีการโจมตีชั้นแล้วชั้นเล่า ผู้ที่มีพลังรบระดับจักรพรรดิเทพขั้นครบสมบูรณ์อยู่ชั้นนอกสุด ก่อให้เกิดการร่วมโจมตีมากมายขึ้นมา

นักโทษคละถิ่นผู้นี้อับจนหนทางแล้ว ตอนนี้เขาอยากจะทุ่มเทสุดแรงเพื่อปลิดชีพผู้บำเพ็ญสักคนก็ทำไม่ได้แล้ว

“เขาตายแน่” ตงป๋อเสวี่ยอิงลอบรำพึงในใจ

เพียงคนเดียวต้องรับมือผู้บำเพ็ญทั้งกลุ่ม

เมื่อกระบวนท่าถูกเหล่าผู้บำเพ็ญล่วงรู้เข้า ด้วยลูกไม้ของเหล่าผู้บำเพ็ญ ไหนเลยจะยอมเปิดโอกาสให้นักโทษคละถิ่นแม้แต่นิดเดียวเล่า

“อย่าร้อนรนไป พวกเราระวังหน่อยนะ อดทนหน่อย” บรรพชนงูเก้าเศียรยังถ่ายเสียงให้แก่ทุกคน “ตอนนี้ข้าคงร่างจริงเอาไว้ อาการบาดเจ็บรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขอเพียงพวกเราถ่วงเวลาออกไป เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน! พวกเราไม่จำเป็นต้องเสี่ยงอันตรายเลย”

“เข้าใจแล้ว”

“ฮ่าฮ่า นักโทษคละถิ่นผู้นี้คลุ้มคลั่งไปแล้ว” เหล่าผู้บำเพ็ญร่วมมือกันอย่างสมบูรณ์แบบพลางมองดูนักโทษคละถิ่นผู้นั้นดิ้นรน

สิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับสูงผู้องอาจตนหนึ่ง!

ภายใต้การพันธนาการและลงโทษ

ทั้งยังถูกบรรดาผู้แกร่งกล้าร่างครึ่งสิ่งมีชีวิตคละถิ่นล้อมโจมตี เขาก็กำลังเดินทางไปสู่วาระสุดท้ายของชีวิตแล้ว

“ข้าจะต้องตายด้วยน้ำมือของเจ้าพวกที่มิใช่แม้แต่สิ่งมีชีวิตคละถิ่นด้วยซ้ำหรือนี่” นักโทษคละถิ่นเจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันรู้สึกว่าอาการบาดเจ็บสาหัสมากขึ้นเรื่อยๆ เข้าใกล้วาระสุดท้ายไปทุกขณะ เขาอดรู้สึกเศร้าโศกเป็นอย่างมากมิได้ โซ่ตรวนชั้นแล้วชั้นเล่านั้นมัดลึกเข้าไปในทุกอณูของร่างกาย หากสามารถปะทุพลังออกมาได้เต็มที่ทั้งหมด กระบวนท่าหนึ่งของเขาก็สามารถทำลายมดปลวกเหล่านี้ไปได้แล้ว

แต่ไม่มีประโยชน์

“ต้องมีสักวัน ต้องมีสักวัน เผ่าสิ่งมีชีวิตคละถิ่นโดยกำเนิดอย่างข้า ก็จะมีผู้แกร่งกล้าร่อนลงมายังโลกใบนี้และช่วยกอบกู้บรรดาสหายคละถิ่นและฆ่าผู้บำเพ็ญพวกนี้จนเกลี้ยง เจ้าดินแดนที่แข็งแกร่งที่สุดพวกนั้นซึ่งคุ้มกันมิติจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่…ก็ต้องมีวันที่ถึงฆาต มิติคละถิ่นอันไร้ที่สิ้นสุดนี้ ถึงอย่างไรก็เป็นของพวกเรา!” เจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันคำรามอยู่ในใจ

……

ในที่สุด

ภายใต้การล้อมโจมตีของผู้บำเพ็ญกลุ่มหนึ่ง ในที่สุดกลิ่นอายชีวิตของเจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันผู้นั้นก็มลายหายไปอย่างสิ้นเชิง เขาล้มลงบนพื้นน้ำแข็งแล้วอยู่ตรงนั้นนิ่งไม่ไหวติง บาดแผลมากมายเหนือผิวกาย กล้ามเนื้อและกระดูกของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลงไป

“เขาตายแล้ว”

เหล่าผู้บำเพ็ญเงียบงันไปคู่หนึ่งก่อน พลางมองดูซากสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับสูงเบื้องหน้าตนนี้

พวกเขาต่างก็เข้าใจว่า หากมิได้ถูกลงทัณฑ์และกดดันเอาไว้ ต่อให้ล้อมโจมตี พวกเขาจะสามารถสังหารสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับสูงตนหนึ่งจนสิ้นใจได้อย่างไรกัน

จากนั้น…

เต็มไปด้วยความอึกทึก แต่ละคนพากันวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา

“ในที่สุดก็สำเร็จแล้ว”

“ฮ่าฮ่า เจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงัน ในที่สุดพวกเราก็กำจัดเขาได้เสียที”

“สำเร็จแล้ว!”

“พวกเราไม่มีใครสิ้นใจสักคน”

เหล่าผู้บำเพ็ญอารมณ์ดียิ่งนัก

“พี่เก้าเศียร ยินดีด้วย”

“เจ้าเมืองเก้าเศียร ยินดีด้วยที่ท่านสมปรารถนา” ผู้บำเพ็ญทั้งหลายเข้ามาแสดงความยินดีกับบรรพชนงูเก้าเศียร แต่บรรพชนงูเก้าเศียรก็เดินไปถึงหน้าซากของเจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันผู้นั้นด้วยความตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เมื่อมองดูโดยละเอียด จากนั้นก็โบกมือเพื่อเก็บมันขึ้นมา เพิ่งจะเก็บขึ้นมาก็เกิดเสียงดังปัง สมบัติล้ำค่าคูหาสวรรค์ที่เก็บวัตถุของเขาพลันแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ทำเอาวัตถุทั้งหลายกระจัดกระจายออกมาทั่วทุกทิศทุกทาง ซากของเจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันร่างนั้นปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

ทุกคนในที่นั้นพากันหัวเราะออกมา

“ฮ่าฮ่า นี่เป็นถึงซากสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับสูง ที่เก็บสมบัติล้ำค่าธรรมดาทั่วไปรับไม่ไหวหรอก”

“เก้าเศียร แม้แต่ที่เก็บสมบัติล้ำค่าเจ้าก็มิได้เตรียมไว้ให้พร้อมหรือนี่”

พวกเขาพากันสัพยอก

บรรพชนงูเก้าเศียรก็เผยสีหน้าจนใจออกมา สิ่งมีชีวิตอันแข็งแกร่งกดดันมิติหนึ่งๆ เป็นอันมาก! อย่างจักรวาลบ้านเกิดของตงป๋อเสวี่ยอิง ขั้นอลวนคนหนึ่งก็สามารถก่อให้เกิดจักรวาลอันแข็งแกร่งได้แล้ว อย่างที่เก็บสมบัติล้ำค่า…ยิ่งที่เก็บสมบัติล้ำค่ายอดเยี่ยมเท่าไหร่ ก็จะสามารถรับพลังของผู้แกร่งกล้าได้สูงขึ้นเท่านั้น ทว่าแม้เจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันผู้นี้สิ้นใจไปแล้ว แต่แรงกดดันที่มาจากซากสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับสูงนั้น…ก็ยังคงแข็งแกร่งกว่าแรงกดดันที่มาจากผู้แกร่งกล้าระดับจักรพรรดิเทพขั้นครบสมบูรณ์มากนัก

“สวบ” บรรพชนงูเก้าเศียรยังคงหยิบถุงผ้าขนาดมหึมาอันแปลกประหลาดออกมา แล้วนำซากอันสมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับสูงบรรจุลงไป

“ทุกท่าน” บรรพชนงูเก้าเศียรมองไปทางฝูงชน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ครั้งนี้ติดค้างทุกท่านจึงสามารถสังหารนักโทษคละถิ่นผู้นี้ได้สำเร็จ! ซากของเจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันผู้นี้ ข้าจะทำตามที่สัญญาเอาไว้ หลังจากกลับไป ข้าจะนำหัวใจและเลือดไป ส่วนที่เหลือข้าจะมอบให้พี่หิมะเหิน ที่ครั้งนี้ทำสำเร็จ พี่หิมะเหินมีคุณูปการใหญ่หลวง”

เหล่าผู้บำเพ็ญในที่นั้นต่างก็มองไปทางตงป๋อเสวี่ยอิง

ใช่แล้ว

ติดค้างจ้าวหิมะเหินมากมายนัก หากไม่มีจ้าวหิมะเหิน พวกเขาก็คงทำอะไรเจ้าภูเขาน้ำแข็งเงียบงันซึ่งอยู่ภายใต้การคุ้มกันของสิงห์ผลาญสงัดหกพันกว่าตนมิได้เลย

ตงป๋อเสวี่ยอิงกล่าวว่า “เป็นเพราะทุกท่านร่วมแรงร่วมใจกันจึงสามารถสังหารนักโทษคละถิ่นได้”

“ถูกต้อง เป็นเพราะทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน” บรรพชนงูเก้าเศียรกล่าว “สิ่งที่รับปากกับทุกท่านไว้ ข้าจะทำให้ได้ ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกเราควรจะกลับกันได้แล้ว!”

“ไปๆ”

“กลับไปแล้ว”

“สุขสราญนักๆ พวกเราผู้บำเพ็ญเหล่านี้ก็สามารถล้อมสังหารสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับสูงตนหนึ่งได้ ช่างสุขราญนัก”

“ทำเป็นได้ใจอะไรกัน นี่คือสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับสูงที่ถูกกดดันจนอ่อนกำลังลงเป็นอย่างมากนะ”

“แต่นั่นก็เป็นสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับสูงนะ!”

บรรดาผู้บำเพ็ญอารมณ์ดียิ่งนัก พวกเขาสนทนากัน กองกำลังถูกแสงรำไรปกคลุมเอาไว้ทันที ไม่นานนักก็เร้นกายหายไป แล้วเริ่มเดินทางกลับ

…………………