บทที่ 801 หลอมรวมเข้ากับโลกและสวรรค

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

จักรพรรดินีภูตนางฟ้ามองไปยังเหล่าคนของนาง และพูดว่า “พวกเจ้าจะเลือกคู่ครองจากเผ่าเดียวกันหรือเลือกจากเผ่าอื่น หรือไม่ก็พวกมนุษย์ก็ได้หากพวกเจ้าถูกใจในพวกเขา ในเวลานี้พวกเจ้าไม่จำเป็นจะต้องหวาดกลัวว่าจะถูกจับไปเป็นของเล่นเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว เพราะตอนนี้พวกเรามีผู้หนุนหลัง หากใครมีปัญหาอะไรพวกเจ้าสามารถมาคุยกับข้าได้โดยตรง และจงจำไว้ว่าเพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ เราพวกเราจำเป็นต้องขยายประชากรให้เร็วที่สุด!”

เมื่อพูดจบ จักรพรรดินีภูตนางฟ้าก็รีบแยกตัวไปดูหลิงตู้ฉิงทะลวงระดับการบ่มเพาะ เพราะเมื่อหลังจากหลิงตู้ฉิงทะลวงระดับเสร็จ เขาจะเริ่มดำเนินแผนการล้างบางเหล่าศัตรูของภูตนางฟ้าที่อยู่บริเวณอาณาเขตรอบ ๆ ซึ่งนางอยากจะร่วมปรึกษาแผนการกับเขาในเวลานั้นด้วย

แต่แล้วเมื่อนางไปถึงห้องของนางที่หลิงตู้ฉิงใช้บ่มเพาะอยู่ในตอนนี้ นางก็เห็นว่าคนในครอบครัวของหลิงตู้ฉิงได้ช่วยกันสร้างม่านพลังแยกตัวหลิงตู้ฉิงออกจากคนอื่น ๆ ไม่ยอมให้ใครเข้าไปใกล้

การป้องกันนี้รวมไปถึงพวกภูตดินขอบเขตมหาจักรพรรดิทั้งหลายต่างก็รวมอยู่ด้วย ด้วยความจงรักภักดีต่อผู้ส่งสาสน์ของพวกเขา พวกเขาจึงมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ทั้งหมดเพื่อคอยคุ้มครองหลิงตู้ฉิง

ทางด้านของหลิงตู้ฉิง ซึ่งมีประสบการณ์จากชีวิตที่แล้ว เขาไม่ได้ห่วงเรื่องการทะลวงขอบเขต แต่สิ่งที่เขาเป็นกังวลอยู่หน่อย ๆ ก็คือในชีวิตนี้รากฐานของเขานั้นนับได้ว่าสูงส่งกว่าชีวิตที่แล้วเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าหลังจากที่เขาทะลวงขอบเขตไปมันจะเกิดอะไรขึ้น และอาณาเขตสวรรค์ที่เกิดจากร่างเบญจธาตุที่ได้รับการเกื้อหนุนจากระดับการบ่มเพาะระดับ 15 จากทุกขอบเขตมันจะเป็นอย่างไร

เมื่อเห็นว่าทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว หลิงตู้ฉิงจึงเริ่มการทะลวงขอบเขตของเขาทันที

ธาตุทั้งห้าที่อยู่ในร่างของเขาเริ่มพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วตามกันไป ส่งผลให้บรรดาคนที่ดูอยู่รอบ ๆ สัมผัสได้ว่าพลังในร่างของหลิงตู้ฉิงตอนนี้กำลังผันผวนอย่างรุนแรง ซึ่งต่อมามันดูหมือนว่าพลังทั้งห้ากำลังหลอมรวมเข้าด้วยกันกลายเป็นพลังแบบใหม่

หลังจากเวลาผ่านไปได้สักพัก พลังงานทั้งห้าก็กลายเป็นหลอมรวมกันและสิ่งที่ทุกคนที่อยู่บริเวณรอบ ๆ สัมผัสได้ก็คือมันเหมือนกับว่าพวกเขาตกเข้าไปอยู่ในอาณาเขตที่มีกฎแข็งและอ่อนอยู่ร่วมกัน!

บรรดาผู้คนต่างรู้สึกงุนงง และไม่เข้าใจว่าอาณาเขตสวรรค์ที่หลิงตู้ฉิงสร้างขึ้นตอนนี้มันคืออะไร?

จะมีก็แค่เพียงมี่ไลเท่านั้นที่เผยสีหน้าชื่นชมในความสำเร็จของหลิงตู้ฉิง

แต่แล้วจู่ ๆ อาณาเขตสวรรค์ที่ก่อนหน้านี้ทุกคนสัมผัสถึงมันได้กลับค่อย ๆ หายไปจนพวกเขาไม่อาจสัมผัสถึงมันได้เลยแม้แต่น้อย และจากนั้นหลิงตู้ฉิงก็ลืมตาขึ้น ซึ่งมันทำให้พวกเขารู้สึกงุนงงกันมากกว่าเดิม

ในระหว่างที่คนอื่น ๆ กำลังงุนงงกันอยู่ หลิงฟ่างหัวก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “ท่านพ่อ นี่ท่านทะลวงขอบเขตล้มเหลวงั้นเหรอ?”

พวกเขาต่างไม่เข้าใจเพราะโดยปกติแล้วหลังจากที่ผู้บ่มเพาะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตสวรรค์ได้สำเร็จ อาณาเขตสวรรค์ของพวเขาจะต้องปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนแต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นว่าอาณาเขตสวรรค์ของหลิงตู้ฉิงนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย!..

หลิงตู้ฉิงหัวเราะและตอบกลับ “มันสำเร็จแล้วต่างหาก!”

“ถ้างั้นอาณาเขตสวรรค์ของท่านหายไปไหนกัน?” หลิงฟ่างหัวถามขึ้น

ก่อนที่หลิงตู้ฉิงจะทันได้ตอบ มี่ไลก็เดินเข้ามาตบไหล่หลิงฟ่างหัว และพูดว่า “ไม่ใช่ว่าตอนนี้เจ้ากำลังเหยียบอยู่บนมันเหรอไง?”

“เป็นไปไม่ได้!” หลิงฟ่างหัวร้องเสียงหลง “ทำไมข้าถึงสัมผัสมันไม่ได้เลย?”

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ จากนั้นเขาก็ตะโกนขึ้น “อาณาเขตสวรรค์!”

เมื่อสิ้นเสียงของหลิงตู้ฉิง ขาของหลิงฟ่างหัวก็อ่อนยวบและร่างของนางก็ลงไปคุกเข่าทันที นางรู้สึกราวกับว่าจู่ ๆ ก็มีแรงอันมหาศาลมากดทับร่างของนางจนนางต้องลงไปคุกเข่า

จากนั้นนางรีบใช้อาณาเขตสวรรค์ของนางในการต้านทาน ซึ่งมันก็พอทำให้นางสามารถกลับขึ้นมาลุกยืนได้เหมือนเดิม

ในเวลานี้นางได้รู้แล้วว่าเหตุผลที่นางไม่อาจสัมผัสได้ถึงอาณาเขตสวรรค์ของหลิงตู้ฉิงนั้นเป็นเพราะ อาณาเขตสวรรค์ของเขาได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับกฎของสวรรค์และโลกไปแล้ว

“ท่านพ่อ นี่ท่าน…” นางไม่รู้ว่าจะพูดต่อว่ายังไงต่อ

โดยปกติแล้วอาณาเขตสวรรค์ของผู้คนทั่วไปนั้นจะมีพลังแค่กฎเพียงไม่กี่อย่างที่ผู้บ่มเพาะเข้าใจและพวกเขาจำเป็นต้องเปิดใช้งานมันก่อนที่จะสำแดงอำนาจของมันได้ แต่กับอาณาเขตสวรรค์ของหลิงตู้ฉิง ทุกคนเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาไม่จำเป็นเลยที่จะต้องเปิดใช้งานมัน เพราะมันถูกหลอมรวมเข้ากับกฎของสวรรค์และโลกไปแล้วจนเหมือนกลายเป็นธรรมชาติที่รายล้อมอยู่รอบกายของพวกเขาโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว ซึ่งอีกความหมายหนึ่งก็คืออาณาเขตสวรรค์ของหลิงตู้ฉิงนั้นสามารถเอาพลังของกฎสวรรค์และโลกกฎไหนมาใช้ก็ได้อย่างอิสระ!

มี่ไลมองไปที่สีหน้าของคนอื่น ๆ ที่กำลังตกตะลึง จากนั้นนางก็หัวเราะและพูดว่า “พวกเจ้าอย่าเอาเขาไปเทียบกับคนธรรมดาคนอื่น ๆ สิ ความสำเร็จก่อนหน้านี้ที่เขาเคยมีมานั้นมันมากมาย ดังนั้นการที่เขาจะทำอะไรแบบนี้ได้มันจึงเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว”

หลิงฟ่างหัวและคนอื่น ๆ เมื่อได้ยินเช่นนี้พวกเขาต่างก็พากันส่ายหัวด้วยความไม่เข้าใจ

“ในเมื่อท่านพ่อทะลวงระดับสำเร็จแล้ว ถ้างั้นเมื่อไหร่ท่านจะลงมือออกไปจัดการกับพวกอาณาเขตรอบ ๆ?” หลิงฟ่างหัวถามขึ้น

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและตอบกลับ “บอกให้คนอื่น ๆ เตรียมตัวกันได้เลย เมื่อพวกเขาพร้อมเมื่อไหร่ พวกเราจะออกเดินทางทันที”

เมื่อได้ยินคำสั่ง ทุกคนก็แยกย้ายกันไปแจ้งให้คนที่เกี่ยวข้องเตรียมตัวออกเดินทาง

หลิงตู้ฉิงรอจนทุกคนออกไปจนหมด จากนั้นเขาจึงนำศพของบรรพบุรุษภูตดินขึ้นมาส่งให้กับมี่ไล และพูดว่า “ในร่างของศพนี้มีร่องรอยของเต๋าแห่งกาลเวลาคนละสายกับของเจ้า เจ้าจงเอามันไปทำความเข้าใจ ในตอนที่เจ้าของร่างนี้มีชีวิตอยู่เขาได้เดินทางผ่านกาลเวลาไปดูเหตุการณ์ต่าง ๆ ในอานาคตมากมาย หากเจ้าเข้าใจในเต๋าของเขาทั้งหมดเมื่อไหร่ ข้าคิดว่าเต๋ากาลเวลาของเจ้าน่าจะกลายเป็นเกือบสมบูรณ์เต็มตัว”

ในทันทีที่มี่ไลรับศพมา นางก็ลองตรวจสอบมัน ซึ่งนางรู้สึกว่ามันดึงดูดนางเป็นอย่างมาก

หลังจากหมกหมุ่นอยู่กับมันสักพัก จนในที่สุดนางก็ได้สติ และหันมายิ้มให้กับหลิงตู้ฉิง “ขอบคุณสามี!”

ด้วยศพนี้นางเริ่มพอจะเห็นหนทางในการทำให้เต๋ากาลเวลาของนางสมบูรณ์แล้ว ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นนางจะสามารถเดินทางข้ามกาลเวลาไปดูอนาคตว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาได้ และถ้าหากมีเรื่องร้ายนางก็สามารถที่จะเอามาบอกกับหลิงตู้ฉิงเพื่อแก้ไขทุกอย่างให้ทันเวลาได้ หรือไม่นางก็อาจจะลองย้อนไปในอดีตเพื่อเอาตัวตนและความแข็งแกร่งที่นางเคยมีในอดีตกลับคืนมา

แน่นอนว่าอย่างหลังนั้นนางไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือไม่ แต่นางก็อยากจะลองดูเพราะมันไม่เคยมีใครทำได้แบบนั้นมาก่อนเลยในการย้อนอดีตเอาตัวตนเดิมของตัวเองกลับมา