บทที่ 1931 ทำไมถึงจำผู้ชายของตัวเองไม่ได้
ซือเยี่ยหานไม่สามารถอธิบายความรู้สึกภายในใจตอนนี้ได้ เหมือนกับประสบกับหายนะแล้วได้เกิดใหม่
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร ในที่สุดชายหนุ่มก็กลับมาพูดได้อีกครั้ง เขากุมมือที่เธอกำลังนวดเขาเอาไว้ แล้วเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า “เธอ…เธอรู้ได้ยังไง?”
เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองมือที่กุมทับหลังมือตัวเองไว้และเลิกคิ้วเล็กน้อย “ไอ้หยา เมื่อก่อนไม่ยอมให้ฉันแตะแม้แต่ปลายเล็บ ทำไมตอนนี้ถึงมาแตะมือฉันก่อนแล้วล่ะ?”
เมื่อชายหนุ่มได้ยินดังนั้นก็ชะงักมือ แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ชักมือกลับ แต่กลับค่อยๆ กุมมือของหญิงสาวเอาไว้แทน “อย่าเปลี่ยนเรื่องสิ”
“เฮ้อ…” เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจ
เอาละ แค่ความฉลาดของใครบางคนถูกตัดการเชื่อมต่อชั่วคราวเท่านั้น
รู้ได้ยังไงเหรอ เธอจะตอบว่ายังไงดี?
เธอรู้ว่าเขาพูดโกหก เพราะเธอรู้ว่าอีกตัวตนของตัวเองคือเนี่ยอู๋โยว และคำพูดของซือเยี่ยหานก็ไม่ตรงกับสิ่งนี้อย่างเห็นได้ชัด
อะไรคือการที่เธอไม่ได้เป็นคนรัฐอิสระ ทำให้ทั้งสองคนไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ มิฉะนั้นจะถูกตระกูลซือโบราณลอบทำร้าย เป็นไปไม่ได้แต่แรกแล้ว
ไม่ว่าตัวตนของเธอจะเป็นใคร ก็เปลี่ยนความจริงที่ว่าเธอมาจากรัฐอิสระไม่ได้
มีเพียงเหตุผลเดียวที่ทำให้ซือเยี่ยหานพูดเช่นนั้น ก็คือต้องการให้เธอออกไปจากรัฐอิสระ
ด้วยเหตุนี้ภายหลังเขาจึงโกรธมากถึงขนาดนั้น เมื่อรู้ว่าเธอกลับมายังรัฐอิสระแล้ว
เมื่อเห็นหญิงสาวพูดไม่พูดไม่จาเอาแต่ขบริมฝีปากอยู่นาน ซือเยี่ยหานก็นวดนิ้วของเธออย่างแผ่วเบา “คิดคำแก้ตัวได้หรือยัง?”
“ยังเลย… เอ้อ เฮ้ย! ฉันหมายถึงฉันยังคิดไม่ออกว่าจะบอกคุณยังไงดีต่างหากละ!”
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถบอกซือเยี่ยหานได้ว่าเธอคือเนี่ยอู๋โยว ไม่งั้นก็จบเกมส์!
ในรัฐอิสระมีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าเนี่ยอู๋โยวกับจี้ซิวหร่านเป็นคู่หมั้นกัน และใครบ้างที่ไม่รู้ว่าเนี่ยอู๋โยวมีลูกนอกสมรสหนึ่งคน?
แค่เธอประมูลแหวนของจี้ซิวหร่าน เขายังหึงโหดขนาดนี้ ถ้าเกิดเขารู้ว่าเธอมีลูกชายแล้ว จะเกิดอะไรขึ้น?
แต่พอพูดถึงลูกชายสุดที่รัก เธอยิ่งนับวันยิ่งแน่ใจแล้วว่าพ่อแท้ๆ ของถังถัง เป็นใคร แค่ขาดหลักฐานสุดท้ายเท่านั้น…
เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วแน่นแล้วกล่าวว่า “คุณยังมีหน้ามาถามอีกเหรอ คุณคิดว่าฝีมือการแสดงละครของคุณมันเยี่ยมมากสินะ? ลืมไปแล้วหรือไงว่าฉันทำอาชีพอะไรที่ประเทศจีน มาแสดงละครต่อหน้าฉัน ก็เหมือนกับ…สอนหนังสือสังฆราช สอนจระเข้ว่ายน้ำอย่างงั้นแหละ!
ตั้งแต่ครั้งแรกที่คุณปรากฏตัวต่อหน้าฉันในฐานะนายแห่งอาชูร่า ฉันก็รู้แล้วว่าคุณเป็นใคร ฉันแค่อยากบีบให้คุณยอมรับด้วยตัวเองเท่านั้น!”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ผิดสักคำ แต่ซือเยี่ยหานก็รู้ว่าเธอมีอะไรที่ปิดบังเขาอยู่ แค่หญิงสาวไม่พูดออกมาเท่านั้น
“โอ๊ย ไม่ต้องพูดแล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ฉันรู้สึกเหมือนมีแฟนสองคนเลย!”
เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่นไม่ยอมพูด ซือเยี่ยหานก็ไม่ได้ซักไซ้ เขาเพียงชำเลืองมองเธออยู่เงียบๆ “อยากมีแฟนสองคนมากเหรอ?”
เยี่ยหวันหวั่นตระหนักถึงอันตรายข้อนี้ดี จึงรีบเอาตัวรอดเข้าสู่โหมดออนไลน์ “จะเป็นไปได้ยังไง คุณก็อย่าแอบเปลี่ยนความทรงจำของฉันสิ! ฉันหมายความว่า ทำไมแม้แต่แฟนของตัวเองฉันยังจำไม่ได้? ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนไปเป็นอะไรฉันก็ยังจำคุณได้เสมอ !”
ยังคิดจะมีแฟนสองคนเหรอ? แค่กล่อมเขาคนเดียว เธอก็ต้องใช้ความสามารถที่มีหมดไปทั้งชีวิตแล้ว…
เยี่ยหวันหวั่นคอยตะล่อมเขาไปพลาง แอบมองเขาไปพลาง ในที่สุดใบหน้าของเขาก็ไม่ค่อยดูดุสักเท่าไรแล้ว
เธอใช้ความพยายามสุดชีวิตและจิตใจ ไม่ง่ายเลยกว่าจะทำให้เขาแข็งแรง แล้วเขากลับทำตัวเองให้กลายเป็นแบบนี้?
เยี่ยหวันหวั่นโกรธจนควันออกหู แต่พอคิดดูแล้ว เหมือนว่าจะเป็นตัวเธอเองที่ทำให้เขาโกรธจนกลายเป็นแบบนี้?
แต่จะโกรธเธอก็ไม่ได้นะ!
ความจริงเรื่องราวแทบจะไม่มีอะไรเลย แต่เขาแค่หึงโหดจนเรื่องราวบานปลาย เธอละทึ่งจริงๆ
——————————————————-
บทที่ 1932 เธอกับจี้ซิวหร่านเป็นอะไรกัน
เมื่อเห็นซือเยี่ยหานไม่ได้ซักไซ้ต่อ เยี่ยหวันหวั่นก็คิดว่าเธอคงทำเนียนหลบเลี่ยงข้อซักถามนี้ไปได้แล้ว
กลายเป็นว่าเธอกำลังถอนหายใจได้ไม่ทันไร ก็ได้ยินซือเยี่ยหานถามขึ้นมาอีก “เธอกับจี้ซิวหร่าน…เป็นอะไรกัน”
เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที เข้าสู่สถานะการป้องกันตัวระดับที่หนึ่ง
หรือว่าเขาจะรู้อะไรเข้าแล้ว?
ไม่สิ บ้าบอ! เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า!
ความจริงควรจะเป็นเธอที่เป็นคนถามหาความผิดชัดๆ?
ทำไมเหตุการณ์กลับตาลปัตร กลายเป็นเธอที่ถูกซักฟอกแทน?
เวรกรรมแท้ๆ แต่เธอก็รู้สึกผิดจริงๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้…
ประกายแวววับแปลกๆ ในดวงตาของหญิงสาวไม่สามารถรอดพ้นจากสายตาของซือเยี่ยหานไปได้ เขาจึงกำนิ้วมือของเธอแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ความจริงนั้นเขารับรู้มาโดยตลอด…ว่าเธอมีคนที่ชอบอยู่แล้ว…
คนๆ นั้นที่อยู่ในใจของเธอตลอดมา ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถแทนที่ได้
ส่วนเขา คงจะเป็นได้แค่คนรักคั่นเวลาของเธอเท่านั้น
ถึงจะรู้เรื่องนี้ดี แต่ตัวเขาที่อยู่ในความมืดมนมาตลอดชีวิต พอมาเจอกับแสงสว่างก็ไม่อยากปล่อยให้หลุดลอยไป
เขารู้มาโดยตลอดว่าในใจของหญิงสาวมีใครคนนั้นอยู่ แต่เขาไม่รู้ว่าเป็นใคร และไม่อยากรับรู้ด้วย…
จนกระทั่งจู่ๆ จี้ซิวหร่านก็ปรากฏตัวอยู่ข้างกายเธอ มากระตุ้นความรู้สึกความไม่สบายใจที่เขามีมาโดยตลอด อย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเขาควบคุมตัวเองไม่ได้
มือของเยี่ยหวันหวั่นถูกบีบจนปวดเล็กน้อย เธอรู้สึกว่าอารมณ์ของซือเยี่ยหานค่อนข้างแปรปรวน เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วเล็กน้อย เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง ในช่วงเวลานั้นเองก็มีเสียงไซเรนดังขึ้นที่นอกหน้าต่าง
เสียไซเรนแบบนี้ จะดังขึ้นก็ต่อเมื่ออาชูร่าถูกโจมตีอย่างรุนแรงเท่านั้น
“นี่เสียงอะไรเหรอ?” เสียงนี้ทำให้เยี่ยหวันหวั่นตกใจมาก
ใบหน้าของซือเยี่ยหานเปล่งประกายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และกลับสู่โหมดปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นก็กล่าวว่า “อาชูร่ากำลังมีภัยจากการถูกรุกรานจากภายนอก”
เยี่ยหวันหวั่นเผยใบหน้าประหลาดใจเมื่อได้ยินเช่นนี้ “หา? ใครมันกล้าดีมาบุกรุกสำนักงานใหญ่อาชูร่า?”
ชายหนุ่มเหลือบมองเยี่ยหวันหวั่น “แล้วเธอคิดว่าไงล่ะ?”
เยี่ยหันหวั่นกะพริบตารัวๆ “เอ๊ะ คงจะไม่ใช่…พันธมิตรอู๋เว่ยของเราหรอกนะ?”
เป็นอย่างที่คิดไว้ เมื่อเยี่ยหวันหวั่นพูดจบ ก็มีเสียงคุ้นเคยตะโกนดังมาจากด้านนอก
“แม่งเอ้ย พวกเอ็งข้างในฟังข้านะ พวกเอ็งถูกพวกข้าล้อมไว้หมดแล้ว! ออกมามอบตัวซะดีๆ ไม่งั้นอย่าหาว่าพันธมิตรอู๋เว่ยรังแกอาชูร่า”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
เกิดอะไรขึ้น?
เยี่ยหวันหวั่นรีบพุ่งไปที่หน้าต่างเพื่อเช็คสถานการณ์ข้างนอก
เมื่อเห็นเหตุการณ์ด้านนอก ก็พบว่ามันร้ายแรงกว่าที่เธอคิด คนของพันธมิตรอู๋เว่ยทั้งหมดรวมถึงเหล่ายอดฝีมือต่างก็มากันอย่างมืดฟ้ามัวดิน อาชูร่าเองก็ติดอาวุธครบมือเช่นกัน
ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน บรรยากาศกำลังมาคุอย่างหนัก
เยี่ยหวันหวั่นปวดหัวแทบจะระเบิดเมื่อเห็นสิ่งนี้
เวรกรรม เนื่องจากครั้งนี้องครักษ์ของอาชูร่าแน่นหนากว่าทุกครั้ง ทำให้เธอใช้เวลานานตอนแอบเข้ามา จนตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยจนค่ำมืดแล้ว
คาดว่าเป็นเพราะเธอกลับไปช้า ทำให้เป่ยโต่วกับชีซิงคิดว่าตัวเองตกอยู่ในกำมือของอาชูร่า จึงรีบนำกองกำลังมาประกาศศึกกับอาชูร่าทันที…
แต่สิ่งที่เยี่ยหวันหวั่นไม่รู้ก็คือ เรื่องมันใหญ่กว่าที่เธอจินตนาการไว้มาก
เสียงไซเรนของอาชูร่าทำให้ทั่วทั้งรัฐอิสระตื่นตระหนก กองกำลังขนาดใหญ่กับบรรดาเจ้าพ่อต่างก็ส่งคนไปสอบสวนเหตุการณ์ในครั้งนี้
ข้อสรุปที่ได้ยินมาก็น่าตกใจมาก พันธมิตรอู๋เว่ยกับกองกำลังอาชูร่าจะรบกันแล้ว!
ผู้มีอำนาจหลายคนต่างตื่นตระหนกและมารวมตัวกันเพื่อหารือ
“จริงไหมเนี่ย? พันธมิตรอู๋เว่ยกับอาชูร่าจะสู้กันแล้วเหรอ?”
“จริงแท้ล้านเปอร์เซ็นต์! พันธมิตรอู๋เว่ยระดมพลและเข้าโจมตีสำนักงานใหญ่อาชูร่าโดยตรง! เกรงว่าครั้งนี้คงจะตายกันไปข้าง!”
“จุ๊ๆ พันธมิตรอู๋เว่ยนี่…มันกล้าบ้าบิ่นจริงๆ ว่ะ…”
“ก็ใช่ไง ตอนแรกที่เราโจมตีอาชูร่า พันธมิตรอู๋เว่ยก็นำทัพหน้าสุด! ทั้งสองฝ่ายเขม่นกันมานานแล้ว!”