ตอนที่ 924: ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 924: ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ

“พวกเราจะทิ้งวิธีการฝึกฝนของจักรพรรดิเลือดปีศาจเอาไว้แบบนี้และปล่อยให้โอกาสที่หายากแบบนี้ผ่านไปงั้นหรือ ? ” คนหนึ่งพูดออกมาอย่างเสียดาย

“ข้าไม่กล้าที่จะแตะต้องวัตถุของจักรพรรดิเลือดปีศาจ ใครก็ตามที่อยากจะได้มันก็เอามันไปเลย” คนพูดคราวนี้เป็นไทนิช เขารู้ถึงนิสัยไม่ดีของจักรพรรดิเลือดปีศาจดี ปราณสังหารของจักรพรรดิเลือดปีศาจยังติดอยู่ที่หนังสือ อย่าว่าแต่เขาเลย แม้แต่เซียนราชาก็ยังไม่กล้าที่จะแตะต้องมันอย่างง่ายง่าย

จักรพรรดิเลือดปีศาจเป็นถึงนักรรบวิญญาณทะเล 18 ดาวตอนที่เขามีชีวิตอยู่ เขาได้ถูกสังหารไปตอนที่เจ้าศาลาทั้งสามร่วมมือกันและเจ้าศาลาทั้งสามก็สูญเสียอย่างหนัก

เจี้ยนเฉินจ้องไปที่หนังสือด้วยสายตาเป็นประกาย ท่าทางของเขาหวั่นไหว ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเดินไปที่หนังสือช้า ๆ หลังจากลังเลสักพัก

“เจี้ยนเฉิน เจ้าทำอะไรน่ะ? เจ้าจะแตะต้องหนังสือไม่ได้นะ” นูบิสหยุดเจี้ยนเฉินเอาไว้และพยายามที่จะโน้มน้าวเขา

“อย่ากังวลไปเลย ข้าไม่เป็นไรหรอก” เจี้ยนเฉินพูดอย่างนุ่มนวล เท้าของเขาไม่ได้หยุดก้าวเลย

นูบิสลังเลเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นว่าเจี้ยนเฉินแน่วแน่เพียงใดและเลิกห้ามเขา เขาตามหลังเจี้ยนเฉินไปอย่างเงียบ ๆ นูบิสจะหยุดเขาทันทีที่เขาเจอกับอันตราย

คนรอบ ๆ จับตามองเจี้ยนเฉินทันที พวกเขาต้องการที่จะดูว่าผู้คุมกฎที่สุดยอดของเผ่าเต่าจะสามารถทนปราณสังหารที่อยู่ในหนังสือและเอาคู่มือการฝึกฝนของจักรพรรดิเลือดปีศาจมาได้ไหม

เจี้ยนเฉินเดินมาถึงที่ด้านหน้าหนังสืออย่างเคร่งเครียด ก่อนที่จะยื่นมือไปที่หนังสือช้า ๆ

ในตอนนี้เอง ทุกคนก็จ้องไปที่มือของเจี้ยนเฉินในขณะที่มือของเขาเข้าไปใกล้หนังสือที่พื้น พวกเขามองดูตาไม่กระพริบ

ในที่สุด มือของเจี้ยนเฉินก็แตะไปที่หนังสือท่ามกลางสายตาของจอมยุทธหลายสิบคนที่กำลังมองอยู่ ร่างของเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง ในขณะที่เขารู้สึกถึงจิตสังหารที่รุนแรงที่เข้าไปที่ร่างกายผ่านทางนิ้วของเขา มันเป็นความเยือกเย็นที่ลึกไปถึงกระดูกส่งผ่านร่างกายของเขาและไหลไปอย่างรวดเร็วใกล้หัวของเขา

จิตสังหารนี้ทรงพลังเกินไป ต่อหน้ามัน เจี้ยนเฉินรู้สึกเหมือนมดที่เผชิญหน้าอยู่กับภูเขาและไม่สามารถแม้แต่จะตอบโต้ใดใดได้ มันเหมือนว่าจิตสังหารนี้จะเพียงพอที่จะกำจัดวิญญาณของเขาไปได้

เจี้ยนเฉินตกใจอย่างมาก จักรพรรดิเลือดปีศาจทรงพลังเกินไป แค่ปราณที่เหลือไว้ในหนังสือช่างเป็นพลังงานที่น่ากลัวจริงจริง เจี้ยนเฉินมั่นใจมากว่าแม้แต่เซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 ก็ยังต้องได้รับบาดเจ็บอย่างหนักต่อหน้าจิตสังหารนี้

บึ้ม !

จิตสังหารเคลื่อนไปที่ไปอย่างรวดเร็วมาก และคืบคลานเข้าไปที่สมองและสติสัมปชัญญะของเขาในพริบตา ทันใดนั้นเอง เสียงอื้ออึงรุนแรงคำรามออกมาจากหัวของเจี้ยนเฉิน ในตอนนั้นเอง สติสัมปชัญญะทั้งหมดของเขาได้ปกคลุมไปด้วยชั้นหมอกหนา หมอกนั้นเต็มไปด้วยจิตสังหารที่ยิ่งใหญ่ เหมือนว่ามันกำลังจะสั่นไหวสติสัมปชัญญะของเขาให้กลายเป็นเสี่ยง ๆ

“ช่างเป็นจิตสังหารที่ทรงพลังอะไรแบบนี้ ! ” เสียงของวัตถุจิตวิญญาณดังอยู่ในหัวของเจี้ยนเฉิน หอคอยสีทองที่ลอยอยู่ในสติสัมปชัญญะของเขาสูงขึ้นเป็นหลายพันเมตรทันที และมันเปล่งประกายไปด้วยแสงสีทองจ้าเพื่อปกป้องวิญญาณของเจี้ยนเฉินเอาไว้

ในเวลาเดียวกัน จิตวิญญาณกระบี่ที่กำลังดูดซับหินหลากสีอยู่ก็เคลื่อนไหวเช่นกัน แสงสีม่วงเติมเต็มไปทั่วสติสัมปชัญญะของเขา กระบี่ 2 เล่มโผล่ออกมาอย่างเลือนรางและฟันไปที่หมอกโลหิต

ในขณะที่กระบี่ทั้งสองฟันลงไป กลิ่นอายที่บรรยายไม่ได้ได้ปรากฏขึ้นมา มันเป็นทางที่เหมือนจะทอดไปถึงทุกแห่ง เป็นกฎของธรรมชาติ มิติรอบ ๆ สั่นไหวอย่างรุนแรงและตกอยู่ในความวุ่นวาย ทันใดนั้นเอง ทะเลดาวอันกว้างใหญ่ได้ปรากฏขึ้นมา ท้องฟ้าที่กลาดเกลื่อนไปด้วยดวงดาวเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องเหมือนว่าร่างอมตะกำลังทำสงครามกับมิติที่ไม่รู้จัก ทุก ๆ การโจมตีมีพลังที่จะทำลายล้างโลกได้ และสามารถเปลี่ยนดวงดาวที่นับไม่ถ้วนให้กลายเป็นผุยผงได้

ตามมาด้วย กระบี่ 2 เล่มที่ใหญ่มาก เล่มาหนึ่งเป็นสีม่วงและอีกเล่มหนึ่งเป็นสีฟ้าซึ่งบินออกมาจากช่องว่างมิติ พวกดาบพุ่งไปที่กลุ่มร่างอมตะด้วยกลิ่นอายแห่งการทำลายล้าง ซึ่งทำให้มิติกระจัดกระจายไปด้วยเลือดและเนื้อสด ร่างอมตะที่ทรงพลังนับไม่ถ้วนพลาดท่าให้กับกระบี่และเลือดสีทองของร่างอมตะก็เต็มไปทั่วช่องว่างมิติ เลือดทุกหยดเต็มไปด้วยพลังงานยิ่งใหญ่ที่น่ากลัว และมันเพียงพอที่จะฆ่าเซียนราชาได้ ในขณะที่ศพของร่างอมตะเกลื่อนกลาดไปทั่วทั้งมิติ

วัตถุเซียนสั่นไหวอย่างรุนแรง วัตถุเซียนที่ซ่อนอยู่ด้านนอกเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน และตอนนี้มันก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว หมอกโลหิตในสติสัมปชัญญะของเจี้ยนเฉินก็ดูเหมือนจะเสียขวัญไปเช่นกัน มันหดตัวอย่างรุนแรงก่อนที่จะถอยออกไปด้วยด้วยความเร็วที่ยิ่งกว่าตอนที่มันเข้ามา มันกลับเข้าไปหนังสือแล้วหายไป

“โชคดีที่ปราณสังหารนี้มีความเฉลียวฉลาดอยู่ในระดับหนึ่ง ไม่อย่างนั้นพวกเราก็คงจะทำอะไรไม่ได้ นายท่าน มันจะดีกว่าถ้าท่านจะไม่แตะต้องของแบบนั้นอีกในอนาคต มันอันตรายมาก” เสียงของจิตวิญญาณกระบี่ดังอยู่ในหัวของเจี้ยนเฉิน

ก่อนหน้านี้ จิตวิญญาณกระบี่ไม่ได้ใช้ความสามารถอย่างสุดกำลังในการที่จะขับไล่ปราณสังหารไป แต่แทนที่กันจิตวิญญาณกระบี่ได้แสดงภาพผ่านทางความสามารถของพวกเขา มันกลายเป็นสิ่งกีดขวางที่ยิ่งใหญ่และขับไล่ปราณไป

สิ่งนี้ไม่สามารถใช้กับมนุษย์ได้ และจะมีผลกระทบต่อร่างวิญญาณเท่านั้น เช่นวัตถุจิตวิญญาณและปราณสังหารที่เฉลียวฉลาด นี่เป็นเพราะกระบี่ม่วงฟ้าเองเป็นจิตวิญญาณระดับสูงมาก แม้ว่าพวกเขาจะอ่อนแออยู่ในตอนนี้ แต่ความสามารถโดยธรรมชาติของพวกเขาก็สามารถข่มการมีอยู่ที่เหมือนกับเขาได้

ปราณสังหารหายกลับเข้าไปในหนังสือ มันกลัวหายไปและในตอนนี้มันก็ซ่อนอยู่ มันเริ่มที่จะกลัวเจี้ยนเฉิน

ครั้งนี้เจี้ยนเฉินไม่เจอกับอุปสรรคใดใดอีก ทำให้เขาตรวจดูหนังสือได้อย่างปกติ ท่าทีของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยและความตกใจผสมกัน

เจี้ยนเฉินเคยได้พบกับผู้พิทักษ์ทั้งสี่ของนิกายดาบโลหิตครั้งหนึ่ง เขาคุ้นเคยกับพลังหยินที่ทรงพลังที่อยู่บนตัวของพวกเขาดี ก่อนหน้านี้ เขารู้สึกได้ว่าปราณสังหารที่ซ่อนอยู่ในหนังสือนั้นเหมือนกับเป็นพลังงานรูปแบบเดียวกัน แต่ปราณนี้ทรงพลังกว่าพลังหยินมากแต่มันก็มีแหล่งกำเนิดมาจากแหล่งเดียวกัน เจี้ยนเฉินตกตะลึง

ทุกคนที่มองดูอยู่พูดไม่ออกเมื่อพวกเขาเห็นว่าเจี้ยนเฉินถือหนังสือได้อย่างธรรมดา พวกเขาทั้งหมดจ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความเหลือเชื่อ ก่อนที่จะมุ่งความสนใจไปที่หนังสือ พวกเขาทั้งหมดเผยสายตาแห่งความโลภออกมา

“ผู้คุมกฎเผ่าเต่า ปราณสังหารที่ซ่อนอยู่ในหนังสือหายไปหมดแล้วหรือ ? ” บางคนถามออกมาอย่างไม่รู้ตัว

“มันน่าจะไม่เหลือปราณสังหารของจักรพรรดิเลือดปีศาจอยู่เยอะแล้วหลังจากที่ทำให้คนสองคนบาดเจ็บไป มันน่าจะหายไปแล้วในตอนนี้ ผู้คุมกฎเผ่าเต่าแค่โชคดีเฉย ๆ ที่ไปเอาหนังสือมาตอนที่ปราณสังหารหมดไปพอดี” ชายชราร่างผอมพูดออกมา

“อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ ผู้คุมกฎเผ่าเต่า ข้าได้หนังสือนั่นมาแล้วและปราณที่อยู่ด้านในก็ได้ทำให้วิญญาณของข้าได้รับบาดเจ็บเป็นการแลกเปลี่ยนแล้ว เจ้าคืนหนังสือให้ข้าได้หรือไม่ ? ” ชายชราอ้อนวอน เขาเป็นคนแรกที่แตะหนังสือ แม้เขาจะรู้ว่าเขาแทบไม่มีหวัง แต่เขาก็อยากจะลองเพราะเขายอมเสียมันไปไม่ได้

เจี้ยนเฉินมองไปที่ชายชราห่อนที่จะโยนหนังสือไปที่พื้นอย่างแรง เขาพูดอย่างปกติ “ถ้าเจ้าต้องการมันก็เอามันไปเลย”

ทุกคนที่ต้องการจะแย่งมันเป็นนิ่งอึ้งทันทีเมื่อพวกเขาเห็นว่าเจี้ยนเฉินโยนคู่มือการฝึกฝนลงบนพื้นไปอย่างง่ายดาย พวกเขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

อย่างไรก็ตาม ชายชราไม่สามารถที่จะสงบอยู่ได้ เขาเข้าไปแย่งชิงด้วยความยินดีทันทีเมื่อเขาเห็นว่าเจี้ยนเฉินคืนคู่มือการฝึกฝนให้แก่เขาอย่างง่ายดาย เขาก้มตัวลงแล้วเก็บมัน

“อ้าก ! ” อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาแตะหนังสือ เขาก็ร้องโหยหวนออกมาอย่างทรมาน วิญญาณของเขาได้รับบาดเจ็บอีกครั้งจากปราณสังหาร และทำให้บาดแผลของเขาแย่ลง

ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ สูดหายใจลึกเมื่อได้เห็นแบบนี้ พวกเขาลอบยินดีที่พวกเขาไปได้ไปแย่งชิงมันตามที่คิดเอาไว้ เพราะคนที่นอนร้องโหยหวนอยู่ตอนนี้อาจจะเป็นพวกเขาก็ได้

เจี้ยนเฉินมองไปรอบ ๆ อย่างเย็นชา “เอาไปตามสบายเลย ถ้าใครต้องการคู่มือการฝึกฝนของจักรพรรดิเลือดปีศาจ ข้าจะไม่ขวางทางพวกเจ้า” เจี้ยนเฉินไม่มีอะไรที่จะต้องกลัว เขาได้เห็นแล้วว่าปราณสังหารนั้นทรงพลังเพียงใด และเขาก็รู้ดีว่าอาจไม่มีใครเลยที่อยู่ในที่นี้ซึ่งสามารถเอาชนะปราณสังหารนี้ได้

แม้แต่วัตถุเซียนยังทำได้แค่ป้องกันปราณสังหารและไม่สามารถไล่มันออกไปได้ ถ้าคนที่อยู่ที่นี่ไม่มีสมบัติป้องกันตัวล่ะก็ พวกเขาก็คงไม่สามารถที่จะป้องกันตัวเองได้

“ดูเหมือนวิธีการฝึกฝนของจักรพรรดิเลือดปีศาจจะเป็นของผู้คุมกฎของเผ่าเต่านะ” โมจิที่ยืนอยู่ข้างเจี้ยนเฉินยิ้ม ความอิจฉาอย่างมากปรากฏขึ้นที่ลึก ๆ ในตาของเขา

“ในเมื่อไม่มีใครสนใจในวิธีการฝึกฝนแล้ว ข้าจะเอามันไป” เจี้ยนเฉินหยิบหนังสือขึ้นมาอีกครั้ง เขาเก็บมันเข้าไปในแหวนมิติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและไม่ได้รับผลกระทบจากปราณสังหารเลย

ปราณสังหารกลัวจิตวิญญาณกระบี่ที่อยู่ในสติสัมปชัญญะของเจี้ยนเฉิน มันจึงไม่กล้าที่จะโจมตีเจี้ยนเฉินอีกครั้ง

ทุกคนเอาของในคลังสมบัติไปทั้งหมด ก่อนที่จะไปยังชั้นต่อไปของโถง ทันทีที่พวกเขาก้าวขึ้นมาในชั้นที่สาม พวกเขาก็เผชิญหน้าเข้ากับปราณกระบี่ที่สูงตระหง่าน ซึ่งทำให้ทุกคนเจ็บปวดเหมือนโดยเข็มทิ่ม แม้แต่อากาศก็ยังปะปนไปด้วยปราณกระบี่และแหลมคม

ในจุดกึ่งกลางของโถง มีกระบี่ยาว 30 เมตรอยู่ มันปักอยู่ที่บ่อน้ำแห้งแห้งในขณะที่มันเปล่งประกายออกมาด้วยพลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาล มันยังมีกลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่อยู่รางรางเหมือนว่ากระบี่เป็นผู้คุมกฎสุดยอดของโลกอีกด้วย

กระบี่นั้นเป็นกระบี่ตรงที่ถูกขยายตัวออกหลายสิบเท่า แม้ว่าตอนนี้กระบี่จะกว้าง 60 เซนติเมตร แต่มันคงกว้างแค่ 2 นิ้วเท่านั้นถ้าเป็นปกติ

“นี่มันยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ” ตาของเจี้ยนเฉินลุกโชนไปด้วยความรุ่งโรจน์ หัวใจของเขาเต้นอย่างควบคุมไม่ได้ เขาไม่เคยเห็นยุทธภัณฑ์จักรพรรดิมาก่อน แต่เขาก็รู้อย่างแน่นอนในตอนที่สายตาของเขามองไปที่กระบี่ใหญ่